Ep4 (1) : คุณมันตัวร้าย by...kanokrot

1746 Words
  นิดาเดินผ่านเข้ามายังตัวตึกสูงระฟ้า ตามรายละเอียดในแผ่นกระดาษที่เธอลอกจดมาจากหนังสือรับสมัครงาน โรงแรมระดับห้าดาวแห่งนี้ เปิดรับสมัครแม่บ้าน ด้วยวุฒิการศึกษาของเธอเพียงน้อยนิด แค่ระดับมัธยมปลายเท่านั้น  คงต้องเริ่มต้นจากงานถนัดของตัวเองเสียก่อน แล้วค่อยมองหางานอย่างอื่นทำถ้าหากว่ามีโอกาสเข้ามานะ... หญิงสาวคิดในแง่บวก และคอยให้กำลังใจกับตัวเองตลอดเรื่อยมา อย่าไปยอมแพ้กับอุปสรรคง่ายๆหากตอนนี้เธอยังมีลมหายใจอยู่  ก็ต้องลุกขึ้นสู้ยอมแพ้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด...  “เอ่อ...ขอโทษนะคะ  คือว่า ดิฉันต้องการมาสมัครงานน่ะค่ะ ไม่ทราบต้องไปกรอกใบสมัครตรงจุดไหนก่อนคะ” นิดาเดินเขาไปถามยังจุดประชาสัมพันธ์ของโรงแรมเมื่อเธอเดินเข้ามาถึงด้านในตัวโรงแรม ความใหญ่โตของที่นี่ มันทำให้เธอรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที “เดี๋ยวคุณกดลิฟต์ขึ้นไปชั้น5แล้วก็เลี้ยวซ้ายนะคะ ตรงจุดนั้นจะเป็นแผนกบุคคลของทางโรงแรมเรา ถ้าไม่ทราบยังไง จะมีเจ้าหน้าที่ตรงลิฟต์ให้บริการ สอบถามจากตรงจุดนั้นอีกทีก็ได้นะคะ” เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ชี้นิ้วไปยังตัวลิฟต์ซึ่งเยื้องไปทางด้านซ้ายมือ ใบหน้าสวยของเจ้าหน้าที่คนงามประดับไปด้วยรอยยิ้มละไม นิดาเลยลดความประหม่าลงไปได้บ้าง เธอยกมือไหว้ขอบคุณเจ้าหน้าที่แสนสวย ก่อนจะเดินตรงไปยังจุดที่เจ้าหน้าที่ชี้บอก  เมื่อหญิงสาวกรอกรายละเอียดสมัครงานเสร็จ ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลก็ให้เธอนั่งรอ เพียงไม่ถึงสิบนาที เจ้าหน้าที่คนเก่า ก็ออกมาบอกข่าวดีกับหญิงสาว พรุ่งนี้ให้มาเริ่มทำงานได้เลย นิดายิ้มรับกับข่าวดีอีกครั้ง การเริ่มต้นชีวิตใหม่กับโลกใบใหม่ก็ไม่ได้โหดร้ายเกินไปสำหรับเธอนัก อย่างน้อยๆ ณ ตอนนี้เธอก็มีที่ซุกหัวนอน กับมีงานทำตามแผนการชีวิตที่ได้วางเอาไว้ก่อนหน้านี้ทุกอย่างแล้ว “งั้นดิฉันขอตัวกลับเลยนะคะ...ขอบคุณค่ะ”  หญิงสาวกล่าวลากับเจ้าหน้าที่เสร็จก็ยกมือไหว้ลากลับห้องพัก เพื่อกลับไปเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับงานใหม่ในวันพรุ่งนี้                                                                                 ************************               โดยหารู้ไม่ว่าทษฏีโลกกลมมันมีอยู่จริง  เมื่อเพื่อนรักของชายหนุ่มผู้ซึ่งปล้นพรหมจรรย์ของเธอไป บังเอิญต้องมาตรวจงานในสาขาโรงแรมแห่งนี้เข้าพอดี...  “ไอย่ะ!...อยู่นี่เองแม่เมียขัดดอกของไอ้พยัคฆ์ คราวนี้ก็รอดตีนมันแล้วสิโว้ยเรา...” วรสิทธิ์ร้องไชโยอยู่ภายในใจ  รีบกดโทรออก สายตรงถึงภรรยาสุดที่รักของตัวเองเพื่อจะบอกข่าวดีให้เธอได้รับรู้ เขาเจอตัวน้องสาวคนงามของเธอแล้ว เขาก็ไม่รู้ว่าเมียเขากับเมียไอ้พยัคฆ์ไปตกลงเป็นพี่น้องกันอีตอนไหนเมื่อไหร่ แต่พอนิดาหายตัวไปเท่านั้น น้ำฟ้าก็โวยวายใส่เขาเสียยกใหญ่ แถมยังไล่ให้เขาไปนอนนอกห้องอีกด้วย เหตุไฉนกรรมเวรถึงได้ตกมาอยู่กับเขาด้วยก็ไม่รู้ ลำพังเพียงฟังเสียงด่าจากไอ้พยัคฆ์ก็เล่นเอาเขาหูเกือบชา  นี่แม่เมียตัวดียังเล่นมาขับไล่ไสส่ง ปล่อยให้เขาต้องทนนอนหง่าวเดียวดายอยู่ด้านนอกห้องเพียงลำพัง  เขาเลยอดต่อแขนต่อขาให้ลูกน้อยไปตั้งหลายวัน วันนี่ล่ะพ่อจะทบทั้งต้นทั้งดอกให้หน่ำใจเลยคอยดู... คนพ้นโทษกระดี๊กระด๊า รีบโทรหาเมียสุดที่รักเพื่อจะบอกข่าวดี... ก็เมื่อวันนั้นทั้งเขากับน้ำฟ้าเผลอออกไปสั่งงานลูกน้องเพียงเดี๋ยวเดียว  หลังจากส่งภรรยาสุดที่รักของเขาเข้าไปปลุกปลอบใจจนนิดาสงบลงได้  พอกลับเข้ามาอีกที เมียคนงามของไอ้เพื่อนรักก็อันตรธานหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้... จำได้วันนั้นเขาโดนไอ้เพื่อนรักมันด่ามาตามสายเสียจนหูแทบแตก  กว่ามันจะตัดสายวางได้ก็เล่นเอาเขา ต้องหาสำลีมาอุดหูเอาไว้ทั้งสองข้าง ปล่อยให้มันด่าไปเรื่อยๆ หากมันเหนื่อยเดี๋ยวมันก็วางสายไปเองนั่นแหละ ก็ใครใช่ให้มันไปข่มแหงน้ำใจเขาเอาแบบนั้นกันเล่า ถึงอนาคตจะต้องแต่งงานกันก็ตาม แต่นี่มันเล่นไปรังแกเขาทั้งๆที่เขาไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำ ไม่รู้จะสมน้ำหน้าหรือเห็นใจมันดีที่เมียมันหนีไปแบบนั้น...  และดูเหมือนมันร่ำๆแทบจะกระโจนลงมากรุงเทพฯอีกครั้ง  หลังจากเขาเล่าให้มันฟัง เรื่องเกี่ยวกับเมียมันคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย แต่ติดที่อาการของพ่อสิงห์กลับทรุดลงไปอีก น่านพยัคฆ์จึงยังไม่อาจลงมาหาเมียได้ตามใจปรารถนา...  “เดี๋ยวเอาใบสมัครของคุณนิดา เข้าไปให้ผมในห้องทำงานด้วยนะ” วรสิทธิ์สั่งงานกับพนักงานก่อนจะก้าวเข้าห้อง  เขาคงต้องยื้อเวลาให้หญิงสาวได้เข้าทำงานในโรงแรมนี้ไปก่อน รอจนกว่าไอ้เพื่อนเวรมันจะลงมาจัดการเรื่องราวต่างๆด้วยตัวของมันเอง...                                                                          *****************************     โครม!!!! เสียงของหนักตกลงบนโต๊ะทำงาน เอกสารซองสีน้ำตาลถูกปาลงพื้นอย่างไม่ใยดีด้วยน้ำมือของคนขี้โมโหร้ายตัวพ่อ รูปถ่ายหลายใบตกกระจายเกลื่อนเต็มพื้นห้อง บางรูปก็ถูกฉีกขาด บางรูปก็มีสภาพไม่ต่างจากเศษขยะ... นิดา...เธอกล้าดียังไงถึงได้ไปอี๋อ๋อกับไอ้หน้าตี๋นั่นอีก เธอไม่มีสิทธ์...และขอย้ำว่าต่อไปเธอจะไม่มีสิทธ์เอาร่างกายของเธอไปเสนอให้ใครได้เชยชมอีกเป็นอันขาด  เพราะเธอเป็นของฉันและจะต้องเป็นของฉันเพียงคนเดียวเท่านั้นแม่เมียขัดดอกเนื้อหอม  ริมฝีปากได้รูปเม้มเข้าหากันสนิท หวนคิดถึงความหอมหวานไปทั้งเนื้อทั้งตัวของหญิงสาว รสชาติหวานล้ำนั้นยังคงติดปลายลิ้นเขาไม่เสื่อมคลาย ยิ่งคิดก็พาลจะทำให้ไอ้ลูกชายตัวโตมันขยายออกทุกทีสิน่า...  คอยดูเถอะแม่ตัวดี ถ้าฉันเจอตัวเธอเมื่อไหร่ เป็นได้เห็นดีกันแน่...ฉันจะเพิ่มทั้งต้นทั้งดอกให้เธอต้องชดใช้ทั้งชาตินี้ก็ไม่หมด อยากมาทำตัวร่าน ไม่สำเนียกตัวเองว่ามีผัวแล้ว มันต้องโดนหนักๆเอาแบบไม่ต้องเห็นเดือนเห็นตะวันกันเลยคอยดู...  ดวงตาสีสนิมเหล็กวาววาบขึ้นตามแรงอารมณ์โมโหหึง...หลังจากกลับมาจากกรุงเทพฯในวันนั้น และไอ้เพื่อนตัวดีโทรมาบอกเขาเกี่ยวกับหญิงสาว น่านพยัคฆ์ก็ให้คนของตัวเองเฝ้าติดตามดูแลหญิงสาวทุกย่างก้าวไม่ให้ห่างสายตาเขาไปไหนได้อีก ส่วนตอนนี้อาการของตาเฒ่าสิงห์ ก็พ้นขีดอันตรายไม่น่าจะมีเรื่องอะไรให้เป็นกังวล ติดตรงที่ท่านโดนแรงกระแทกอย่างหนักหน่วง จึงทำให้ขาด้านขวาหัก กับกระดูกบางซี่แตก จึงขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้ น่านพยัคฆ์จำต้องจ้างนางพยาบาลพิเศษมาคอยดูแลท่าน แต่เมื่อเขาได้เห็นรูปถ่ายที่ลูกน้องส่งมาให้เขาเมื่อสักครู่นี้ดู  ความคิดหนึ่งก็วูบเข้ามาในสมองอย่างด่วนจี๋ ทำไมเขาต้องเสียเงินจ้างพยาบาลให้เปลืองด้วยเล่า ในเมื่อเขาเอง ก็มีลูกหนี้อยู่ในกำมือตั้งหนึ่งคน แถมยังเป็นลูกหนี้ขัดดอกเสียด้วยสิ ความคิดร้ายกาจผุดขึ้นมาในสมอง ก่อนจะตะโกนเสียงดังเรียกหาลูกน้องคนรู้ใจ... “ไ****ดโว้ย!...ไอ้มืด....” เสียงกัมปนาทดังขึ้นภายในห้องทำงานใหญ่ ทำให้เจ้าของโต๊ะทำงานด้านนอกถึงกับสะดุ้งไปทั้งร่าง เลยรีบขับเสียงรับขึ้นด่วนจี๋... “คร้าบนาย...” มืดต้องรีบขานรับไปก่อนที่ตัวเองจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ ฟังจากเสียงดังโครมครามภายในห้อง ถ้าขืนมันยังชักช้าไม่รีบขานรับ มีหวังความพินาศจะลุกลามมายังด้านนอกก็อาจเป็นได้... “ไปเตรียมรถ...กูจะลงไปกรุงเทพฯเดี๋ยวนี้...” เสียงของล้มดังสนั่นหวั่นไหวตามหลังมากับเสียงคำสั่งกราดเกรี้ยว มืดกำลังจะเปิด “ครับนาย...” เพราะเสียงของล้มระเนระนาดด้านใน มืดจึงชะงักมือไม่กล้าเปิดประตูเข้าไปภายในห้อง จึงได้แต่ส่งเสียงร้องตะโกนรับทราบอยู่ภายนอก เรื่องอะไรจะหาเรื่องให้ตัวเจ็บตัวด้วยเล่า นี่ใครคงจะไปขัดใจอะไรเข้าอีก ถึงได้พังทำลายข้าวของอีกแล้ว... “แต่ว่าเอ่อ...แล้วนายจะไปกรุงเทพฯทำไมครับ หรือว่า...” มืดถึงกับยิ้มกว้างเมื่อนึกถึงนางฟ้าของตัวเอง  “กูจะลงไปรับคนมาดูแลตาเฒ่าสิงห์นะสิ...” น่านพยัคฆ์เปิดประตูออกมาด้วยใบหน้าบึ้งตึง มืดต้องถอยหลังไปอีกหลายก้าวด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเจ้านายจะเปิดประตูออกมากระทันหัน... โอ้ย!!! ใจมืดตกไปไหนๆแล้วก็ไม่รู้ นายนะนาย.. “มันคงถึงเวลาเรียกร้องการชดใช้หนี้สินมหาศาลนั่นเสียที กูปล่อยให้อยู่กันอย่างสบายมานานมากแล้ว คราวนี้กูจะเรียกคืนมาให้ครบทุกบาททุกสตางค์...” น่านพยัคฆ์กัดฟันกรอดอย่างระงับอารมณ์ เมื่อภาพหนึ่งที่เขาเห็น เป็นภาพที่นิดากับไอ้หน้าตี๋นั่นกำลังยืนกอดกันกลม  เขาหึง เขาหวง เขาอยากจะจับแม่ตัวดีมาลงโทษให้สาสมใจนัก...หึ...คอยดูนะนิดา เราจะได้เห็นดีกันแน่.....น่านพยัคฆ์กำมือแน่น คาดโทษหญิงสาวไปเรียบร้อย และการลงโทษคราวนี้ คงจะทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมากๆเชียวล่ะ เมื่อคิดไปถึงเนื้อแสนหวานกับความอวบอิ่มอันน่าหลงใหล หัวใจเขาก็เต้นถี่รัวขึ้นมาอีกจนได้... มืดยืนตัวสั่นงันงกอยู่ตรงมุมตู้เอกสาร แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่านายใช้ให้ไปเอารถมา มืดจึงรีบวิ่งลนลานไปยังโรงเก็บรถด้วยความรวดเร็ว ไม่รอให้เจ้านายผู้อารมณ์ยิ่งกว่าพายุโทนาโดต้องหันกลับมาสั่งซ้ำเป็นหนที่สองอีก...                                                                                      *************************    
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD