ปังๆๆๆ
และเมื่อพวกมันเห็นผม เพราะผมใส่เสื้อสีขาวมันจึงผิดสังเกตุเป็นปกติ พวกมันใช้ปืนยิงผมทันที แต่ผมก็หลบหลังต้นไม้ทัน และหันกลับไปสั่งพวกเขาด้วยภาษามือ ซึ่งพวกเขาก็เข้าใจและก็สำเร็จ ทหารสองคนได้เข้าไปช่วยเหลือตัวประกันได้สำเร็จและใช้ปืนยิงบริเวณไหล่ของพวกมัน และขาจนพวกมันต้องลงไปดิ้นบนพื้น ทหารจึงถีบและเตะคางพวกมันให้สลบก่อนจะวิ่งกรูกันไปตามเสียงรถ
ปังๆๆๆ
ปัง!
ฉุบ
ผมยิงสวนพวกมันไปหนึ่งนัด แต่หนึ่งนัดของผมดันยิงเข้าที่พวกมันคนหนึ่งจนร่างนั้นหงายหลังลงไปบนพื้น ผมจึงไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าประชิดตัวพวกมันในทันที
ฟึบๆๆ
ผมส่งสัญญาณมือรัวๆทำให้พวกทหารพากันไล่ตามพวกค้ายาอย่างสุดชีวิต ซึ่งพวกมันเองก็น่าจะถึงจุดรับส่งแล้วเลยตั้งใจหมอบและหลบหลังกำแพงเอาไว้ ส่วนผมก็พยายามอ้อมไปที่ฝั่งซ้ายของพวกมัน ซึ่งเป็นฝั่งที่รถกำลังขับเคลื่อนมา
ฟึบๆ
ผมส่งสัญญาณอีกครั้ง และในครั้งนี้ผมต้องการให้พวกทหารรุมยิงล้อรถข้างเดียว พวกเขาก็เข้าใจและเปลี่ยนกระสุนรอ เมื่อรถมาถึงพวกทหารก็พากันระดมยิงล้อรถฝั่งคนขับ
ฟูบบ
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ
ฟูบบ
และเมื่อล้อรถฝ่ายคนขับแตก พวกเขาจึงเล็งไปที่ล้อรถฝั่งข้างคนขับ และยิงมันไปจนแตกเช่นกัน ทำให้การที่พวกมันจะขับรถไปเบื้องหน้าคงจะยากลำบากมากแน่ๆ และก็เป็นไปตามที่ผมคิด พวกมันพยายามถอยหลังซะแทน
ปังๆ
ครืด
เมื่อผมยิงไปสองนัดทำให้รถหยุดลงทันที เพราะสองนัดที่ผมยิงไปมันโดนแขนทั้งสองข้างของคนขับ มันจึงหยุดชะงักแต่เท้าของมันยังคงเหยียบคันเร่งได้ต่อ มันจึงไม่ยอมแพ้ และวินาทีนั้นเอง
“เหี้ย!” ชายที่อยู่บนระกระบะตกใจมากที่อยู่ๆมีคนกระโดดขึ้นมาบนรถ
ปัง ปัง ปัง ฟึบ
ผมได้ใช้ปืนยิงที่บริเวณเท้าของพวกมันทั้งสามคนและใช้ปืนเขวี้ยงไปที่หัวของชายคนที่สี่ทำให้มันหงายหลังตกรถไปในที่สุด ผมได้เผชิญหน้ากับคนค้ายาสามคน พวกเขามีทั้งมีดและปืน ผมจึงต้องรีบประชิดตัวพวกเขาและใช้เพื่อนของมันเองเป็นโล่กำบัง
ปังๆๆๆ
“อึกอื้ม!” แต่มันก็ยังคงยิงออกมาจนทะลุร่างของโล่กำบังผมและกระสุนก็ได้กระทบกับเสื้อเกราะกันกระสุนที่ผมสวมอยู่ ยังดีที่มันไม่ได้เจาะเข้าไปในร่างของผม แต่มันก็ทำให้บริเวณนั้นฟกช้ำและกระดูกอาจจะหักเลยทีเดียว ผมก็กัดฟันและถีบร่างที่เป็นโล่ให้กับผมไปหาพวกมันก่อนจะพุ่งเข้าไปหาพวกมันทั้งสองและจับข้อมือของพวกมันพร้อมกับหักไปด้านหลัง เสียงดัง
กร็อบ!!
และเขวี้ยงปืนกลออกไปจากรถ ส่วนอีกคนมันกำลังจะยิงผม แต่ผมก็สามารถเหวี่ยงเท้าเตะปืนนั้นปลิวกระเด็นไปได้ก่อน ผมจึงพุ่งเข้าไปศอกเข้าปลายคางของมันและหมอบลงกับพื้นเมื่อหางตาของผมเห็นว่าคนที่นั่งเบาะหลังกำลังจ่อปืนมาที่ผม
ปังๆๆๆๆๆๆ
ผลั๊วะ
และเมื่อชายคนที่ผมศอกคางไปมันไม่หลับ ผมจึงกำหมัดและหวดเข้าไปที่ปลายคางอีกครั้งจนครั้งนี้มันได้ไปเข้าเฝ้าพระอิทร์เป็นที่เรียบร้อย
ฟึบ หมับ ปังๆๆๆ
ตุบ
“เข้ามาเคลียร์!” ผมกล่าวผ่านวอร์และทำให้พวกทหารที่กำลังวิ่งมาพากันยิงล้อหลังจนมันแตก รถได้หยุดขยับ พวกเขาได้เปิดประตูรถออกและจัดการลากคนขับออกมา ส่วนผมก็ได้ปัดปืนที่กำลังยิงผมอยู่เบาะหลังขึ้นฟ้าและใช้เท้าเตะเข้าไปที่หน้าของมันอย่างจัง แต่มันก็ไม่ได้สลบ มันออกมาจากรถและพยายามวิ่งไปด้วยท่าทางมึนงง
“มากับผม!” ผมหันไปชี้ทหารคนหนึ่งและวิ่งตามชายคนนั้นไป ปล่อยให้ทหารที่เหลือช่วยจัดการคุมตัวพวกมันที่ยังสลบอยู่ และเริ่มเรียกตำรวจเข้ามาที่นี่
“แม่งเอ้ย!” ชายคนข้างหน้าสบถออกมาก่อนที่จะหันมาหาผมและยกมีดขึ้นมาทั้งสองมือ
“อย่ายิง” ผมกล่าวก่อนจะให้ทหารคนข้างๆลดปืนลง ผมจำหน้าชายคนนี้ได้ มันคือคนที่ปิดหมวกในเหตุการณ์รถชนวันนั้น
“ขอมีดหน่อย” ผมกล่าวก่อนจะยื่นมือไปหาทหารข้างๆผม ซึ่งเขาก็ยอมยื่นมีดให้กับผมแต่โดยดี
ฟึบๆ
เคร้งๆๆ หมับ ผลั๊วะ
เพียงพริบตาที่เราสู้กันไปราวๆสองกระบวนท่า ผมจับโอกาสได้จึงไม่รอช้าใช้มือข้างซ้ายที่ผมไม่ได้ถือมีดเพราะมีมีดเพียงเล่มเดียว ตะปบมือข้างขวาของมัน แต่มีดก็ไม่ได้หลุดไปจากมือ ผมจึงก้มตัวลงไปบนพื้นและเหวี่ยงขาเตะมือข้างนั้นของมันซ้ำอีกครั้ง ทำให้มีดได้หลุดมือจากมันไปด้ามหนึ่งเหลือเพียงมีดที่มือซ้าย
‘เขาใช้มีดเป็น’ ผมคิดในใจ อีกฝ่ายนั้นมีความสามารถพอตัวเลยทีเดียว แต่ติดที่ต้องมาเจอกับผม
‘เขาคือใครกันแน่ว่ะเนี่ย!?' ต่างจากนายทหารที่ยืนอยู่เบื้องหลังของผมที่ตกใจมาก ดูจากการแต่งตัวของผมน่าจะเป็นเด็กมหาลัยแท้ๆ แต่ทำไมถึงมีทักษะการต่อสู้ที่ดุเดือดถึงเพียงนี้? และยังการใช้สัณญาณมือสั่งหารนั่นอีก ความบ้าเลือด ความไม่กลัวตาย มันยังใช่คนอยู่หรือเปล่า?
เคร้งๆ หมับ ฟุ้บ
ผลั๊่วะๆๆๆๆๆ ฟึบ
และในการแลกมีดครั้งนี้ ผมสามารถเหวี่ยงร่างของเขาลงพื้นได้ และผมก็ไม่รอช้าเหยียบแขนข้างที่เขาถือมีดไว้แน่นๆก่อนจะบรรจงต่อยหน้ามันไม่หยุดจนมันเริ่มแสดงสีหน้ามึนงงและผมก็ปิดท้ายด้วยเสยปลายคางมันไปจนทำให้มันได้แน่นิ่งลง
ฟึบ ฉึก
ตุบๆๆๆๆ
และในขณะที่ผมกำลังจะลุกขึ้นยืน มือข้างที่มันถือมีดไม่ยอมปล่อยก็ได้พุ่งมาแทงบริเวณเอวของผม ผมจึงไม่รอช้าเตะมือข้างนั้นทำให้มีดปลิวกระเด็นไปพร้อมกับผมใช้หมัดเต็มๆมือข้างขวาต่อยบริเวณคางของมันไม่หยุดแม้มันจะนิ่งไปแล้วก็ตาม ผมคิดน้อยมากไปว่ามันสลบไปแล้ว ที่ไหนได้มันแค่แกล้งสลบ ดีที่แรงมันมีไม่มากมีดจึงสร้างเพียงแค่รอยบาดไม่ได้เสียบเข้าไปในร่าง
“เหนื่อยฉิบ” ผมลุกขึ้นยืนแล้วกล่าว ส่วนทหารคนข้างหลังเขาเอาแต่ยืนงงจนนิ่งค้างไปหมด
‘หลังจากนี้คงจะมีเรื่องวุ่นวายเข้ามาไม่หยุดเลยสินะ…’ ผมคิดในใจก่อนจะรีบเดินออกจากที่เกิดเหตุ มาทางไหนก็กลับไปทางเดิม
“ขอบคุณมาก” และเมื่อผมเดินผ่านมาเจอหัวหน้าหน่วยรบนี้ ที่อยู่บนเตียงเข็น เขากล่าวขอบคุณผม ผมจึงหันกลับไปมองและเดินไปหาเขา
“ฝากคืนมีดนี้ด้วย…ผมต้องไปก่อนครับ” ผมกล่าวจบก็รีบเดินออกไปจากบริเวณข้างๆห้างทันที
“คุณต้องรักษาก่อนค่ะ” พยาบาลคนหนึ่งเดินมากล่าวกับผม และทุกสายตาก็หันมามองผมเป็นตาเดียว และเป็นเวลาเดียวกับที่พวกทหารกลับมาพอดี พวกเขารีบพุ่งมาหาผมกันพร้อมหน้า
“ขอบคุณครับ”
“ขอบคุณมาก!" พวกเขาต่างยกมือขึ้นมาไหว้ผม เพราะได้ยินว่าหัวหน้าของตนเองเกือบจะโดนยิงจนพรุน แต่ได้ผมช่วยเอาไว้
“คุณบาดเจ็บ!…ปฐมพยายาลเบื้องต้นก่อนนะครับ!" พวกเขากล่าว ทำให้ผมไม่สามารถปฏิเสธได้อีก ผมว่าจะกลับไปทำที่ห้องแท้ๆเชียว
“เดี๋ยวๆๆๆ…ทำไมคนมาเยอะขนาดนั้น” เมื่อพยาบาลใช้ผ้าปิดแผลให้ผมจนเสร็จ ผมเดินออกมาจากบริเวณกอบกู้เพื่อออกไปจากห้าง แต่ผมก็ได้เห็นผู้คนจำนวนมากกำลังสัมภาษณ์ชายในชุดทหารอยู่ รวมถึงลุงรันเองก็อยู่ด้วย นักข่าวก็มีกันถึงสามช่อง
“ทีมานี่เร็ว” ลุงรันหันกลับมามองผมและเรียกให้ผมไปหา ซึ่งทำให้ผมแสดงสีหน้าเหนื่อยๆออกมา
“นี่ครับ…คนที่ช่วยทหารจากหน่วยรบพิเศษเอาไว้”
“และเป็นคนที่สั่งการแผนในครั้งนี้รวมถึงบุกไปจัดการพวกค้ายาด้วยตัวคนเดียว” ลุงรันกล่าวซึ่งชายวัยเดียวกับลุงรันก็ยิ้มออกมา
“ครับ…สวัสดีครับ” ผมกล่าวก่อนจะยกมือขึ้นมาไหว้สื่อทุกคน และหันไปไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนข้างๆผมเช่นกัน
“ขอสัมภาษณ์หน่อยได้ไหมคะ?” นักข่าวกล่าวถาม แต่ผมก็ไม่ตอบรับ ผมรีบเดินหนีทันที ทำให้พวกเขาคิดว่าผมคงจะทำงานอะไรลับๆ จึงคิดกันว่าไม่ควรถ่ายผม หรือต่อให้มีผมอยู่ในคลิปพวกเขาก็จะเซ็นเซอร์หน้าให้ผม
ณ สถานีตำรวจ
“อ่าว…พี่เอมพี่โอ?” ผมกล่าวเรียกชื่อทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างหน้าสถานีตำรวจ
“ไปไหนมาล่ะเนี่ย?” พี่โอกล่าวถามเมื่อผมมีรอยบาดแผลและเลือดบนเสื้อ รวมถึงสภาพของผมมันราวกับไปเดินป่ามา
“เดี๋ยวค่อยฟังข่าวนะครับ…ทีเหนื่อยมากอยากพักครับ” ผมกล่าวก่อนจะเดินเข้าไปในสถานีตำรวจ
“คุณ…ที?”
“เราจัดการคดีให้เรียบร้อยแล้วครับ”
“เชิญกลับได้เลยครับ” ตำรวจนายหนึ่งเดินออกมากล่าวกับผม
“หลักฐานชัดเจนเลยล่ะ…เราให้คลิปจากกล้องวงจรปิดพวกเขาไป” พี่โอกล่าวทำให้ผมหันไปไหว้ขอบคุณ
“ไม่เป็นไรๆ…เดี่ยวเอมไปส่งน้องทีหน่อยนะ” พี่โอกล่าว ซึ่งดูเหมือนทั้งสองจะไม่ได้มารถคันเดียวกัน และทำให้พี่เอมเดินมาโอบเอวผม
“โอ๊ย” ผมส่งเสียงออกมาเพราะผมโดนมีดบาดบริเวณที่เธอจับ ทำให้พี่เอมต้องรีบดึงมือออกทันที
“พี่เอม ทีเดินไหวครับ” ผมหันไปกล่าวกับพี่เอมก่อนจะยกมือขึ้นมากอดคอพี่เอม ถึงแม้พี่โอจะมีสีหน้าแปลกๆแต่แกก็ไม่ได้ว่าอะไร พร้อมกับที่พี่เอมเดินพาผมขึ้นไปนั่งบนรถ และเธอก็ขับรถออกไปจากที่สถานีตำรวจทันที ซึ่งดูเหมือนเธอจะขับไปที่หอพักของผม
“พี่เอม…ทีจะกลับไปหาครอบครัวสักสองวันนะครับ” ผมกล่าว ซึ่งในตอนนี้เราทั้งคู่ได้อาบน้ำแปรงฟันเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนเรียบร้อย โดยที่พี่เอมแกก็พากระเป๋าใบเล็กมาด้วย ราวกับเธอจะย้ายมาอยู่กับผมยังไงยังงั้น
“อื้ม…” พี่เอมกล่าว ดูเหมือนพี่เอมจะเริ่มตึงๆขึ้นเมื่อเจอผมในครั้งนี้ เนื่องจากผมถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง ทั้งยังมีความสามารถเรื่องการต่อสู้ และยังเข้าไปช่วยหน่อยรบพิเศษมาด้วย ทั้งการวางตัว และท่าทางของผมมันไม่เหมือนเด็กปีหนึ่งเลยจริงๆ
“พี่น่ากอดจังเลยขอกอดหน่อย” ผมกล่าวให้เราทั้งคู่ผ่อนคลายก่อนที่ผมจะคว้าร่างบางเข้ามากอดในผ้าห่ม และก้มลงไปหอมหัวของเธอรัวๆ
“อื้มม…อืมม…” จนพี่เอมได้หันกลับมาและยื่นหน้ามาจูบ ผมจึงจูบกลับไปจนทำให้หัวของพี่เอมเริ่มทรุดลงไปบนหมอนนิ่ม ครั้งนี้ผมรู้สึกกระหายเธอมากๆ ความขาวนั้นมันทำให้ผมอดใจแทบไม่ไหว ทั้งยังกลิ่นหอมที่น่าคลุกเคล้า
“อือห์” และเมื่อผมก้มลงไปทั้งจุ้ปทั้งหอมคอของเธอ มันทำให้พี่เอมส่งเสียงแปลกๆออกมา
ฟอดด
“พี่เอมช่วยทีหน่อยได้ไหมครับ?” ผมหอมแก้มเธอแล้วกล่าวด้วยสายตาน่าสงสาร ทำให้พี่เอมถึงกับหันหน้าหนีเลยทีเดียว
“นะครับ…นะ” ผมกล่าวพร้อมกับใช้จมูกถูแก้มพี่เอมเบาๆและก้มลงไปไซร้คอพี่เอมอีกครั้ง
“อืม…..”
“ช่วยอะไรล่ะ?” พี่เอมกล่าวถามทำให้ผมจับมือพี่เอมและเลื่อนมาจับตรงเป้าของผม
“ได้มุ้ย” ผมกล่าวและยังคงซุกคอพี่เอมต่อ
“พี่ทำไม่เป็นน” พี่เอมลากเสียงยาวด้วยความเขินและพยายามดึงมือกลับ แต่ผมก็ยังคงล็อคมือเธอไว้ที่เดิม
“ทำแบบนี้ครับ” ผมกล่าวก่อนจะถอดกางเกงของตัวเองออกรวมถึงกางเกงในและใช้สวมมือพี่เอมมาจับไอนั่นของผม พร้อมกับใช้มือเธอจับของผมและขึ้นลงขึ้นลงช้าๆ
“อืมม…” เมื่อผมส่งเสียงออกมาทำให้พี่เอมหันกลับมามองหน้าผมด้วยท่าทีสนใจ
“ยะ…ยังไงต่อ…” พี่เอมยังคงมองหน้าผมอยู่
“ลองทำให้มันเร็วขึ้นครับ” ผมกล่าวซึ่งพี่เอมก็เริ่มเร่งมือขึ้นทันที จนผมส่งเสียงความฟินออกมาไม่หยุด
อืม อื้มม
อ่า… ซี๊ดด
ฟอดด
ผมรู้สึกดีขึ้นมาเรื่อยๆจนยืรนหน้าเข้าไปหอมแก้มพี่เอมไม่หยุด ส่วนพี่เอมเมื่อเห็นว่าผมรู้สึกดี พี่เอมก็พยายามทำให้เร็วขึ้น ถี่ขึ้น และรัวขึ้น
จนเวลาได้ผ่านพอสมควร
ฟืบ ฟืบบ
ฟืบ
“เลอะไปหมดเลยย” พี่เอมลากเสียงยาวด้วยความเขินก่อนที่ผมจะหยิบกระดาษเช็ดหน้าข้างเตียงมาให้เธอ ซึ่งนอกจากเธอจะเช็ดมือของตัวเองแล้ว เธอก็ใช้มันเช็ดของผมด้วย
‘นี่เหรอของผู้ชาย…มันใหญ่มากเลยนะเนี่ย’ เมื่อพี่เอมได้ลองสำรวจน้องชายของผมดู ทำให้เธอเม้มปากเล็กน้อย