ตอนที่ 6 กุญแจมือ

2037 Words
“สวย!สวยมาก!!” ผมตะโกนออกมาด้วยความดีใจเมื่อผมกดซื้อในตลาดตามกราฟเก่าในโทรศัพท์เครื่องใหม่ ยิ่งทำให้ผมทำกำไรไปได้ถึง 7,000$ จากทุนเริ่มต้นวันนี้ที่ 5,400$ รวมคือผมมี 12400$ หรือเป็นจำนวนเงิน สี่แสนกว่าบาท “รอข่าวสามทุ่มสินะ…กราฟจะวูบลงมาสองแท่ง แท่งละ 30 นาที" ผมกล่าวก่อนจะใช้เงินจำนวน 10,000$ ตั้งออเดอร์ Sell ขายไปด้วย เลเวอเรจ 5.0 ประมาณ 5 ไม้ ถ้าหากมันลงไปถึงจุดนั้นจริงๆ กำไรครั้งนี้ผมจะได้มากกว่า 3,000,000 บาท SELL 5 SELL 5 SELL 5 SELL 5 SELL 5 เมื่อผมกด Buy สำเร็จในจุดที่กราฟทำยอดขายได้มากที่สุด จนยอดขายนี้ในพรุ่งนี้ก็ยังไม่สามารถทำได้มากกว่าเดิม ผมก็เลยทิ้งไม้หลักไว้อีกหนึ่งไม้ SELL 10 SELL 10 “อีกหนึ่งชั่วโมงครึ่งสินะ” ผมกล่าวก่อนที่เบอร์ของไอโดมจะเด้งขึ้นมาบนโทรศัพท์เครื่องเก่าของผม “เออว่าไง?” ผมกล่าวถาม ผมมั่นใจว่าไอโดมได้ยินผมแล้ว แต่มันไม่ได้พูดอะไรออกมา “กูจะมาหามึง…แต่กูเจอพวกรุ่นพี่มารุมล้อมกูอยู่ที่ร้านมุมหมาล่า” ไอโดมกล่าวด้วยเสียงเบาๆ “อ่า…แล้วพี่เอมอยู่ที่ไหน?” ผมกล่าวถาม ซึ่งโดมมันก็เงียบหายไปสักพัก “พี่เอมกำลังคุยกับกลุ่มคนพวกนั้นอยู่” เมื่อไอโดมกล่าวจบ “เดี๋ยวกูลงไปหา…มึงไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น” ผมกล่าวก่อนจะกดวางสายไป ณ ร้านมุมหมาล่า “ไปเรียกมันมา!!” ชายคนที่ผมเสยคางไปเมื่อคืนตวาดเสียงดังลั่น โดยที่เขามีพรรคพวกมาด้วยกว่าสิบคน แต่ละคนดูแล้วน่าจะมีของอยู่ในกระเป๋าสะพายแน่ๆๆ “มันมาแล้ว!” ชายคนที่ผมผลักจนกลิ้งลงไปบนพื้นเมื่อวานตะโกนดังลั่น ทำให้ลูกค้าและพวกมันหันมามองผมเป็นตาเดียว “มันไม่ใช่ตำรวจเว้ยมึงเชื่อกู!” พวกมันกล่าวก่อนจะเดินมาหาผม ฟึบ ผลั๊วะ ตุบ ผลั๊วะ อั่ก คนแรกพุ่งเข้ามาหาผม ผมเอื้ยวตัวหลบแล้วใช้กำปั้นทุบเข้าที่หลังคอของมันแรงๆจนร่างของมันร่วงกลางอากาศ ส่วนอีกคนผมตั้งหลักและจับหัวของมันดึงลงมาข้างล่างที่มีเข่าของผมรอรับอยู่ ไม่เพียงแค่นั้น ผมยังเสยเข่าขึ้นไปอีกครั้งด้วย คนสองคนก็ได้สลบไปในทันทีเพียงแค่ไม่กี่พริบตา ฟึบ ฟึบ ผลั๊วะ ฟุบ และอีกคนที่เหวี่ยงหมัดเข้าหาผม ผมเบี่ยงตัวเล็กน้อยและจับหมัดนั้นหมุนร่างของมันไปข้างขวาและผมก็เหวี่ยงตัวเข้าไปใช้หมัดเสยคางของมัน จนร่างของมันก็ร่วงลงไปนอนบนพื้นอีกราย “ฮึก…” การต่อสู้ของผมทำให้พวกมันและทุกๆคนตกใจเป็นอย่างมาก "ดะ…เดี๋ยว" ผมเดินเข้าไปหาพวกมันเรื่อยๆ จนมันคนหนึ่งได้คุกเข่าลงกับพื้นด้วยความกลัว แต่ผมก็ไมไ่ด้สนใจ ผมจับหัวของมันและผลั่กเข้ามาชนกับเข่าของผมอย่างรุนแรง และโน้มตัวลงไปเล็กน้อยดึงคอเสื้อของมันขึ้นมาและใช้หมัดขวาชกหน้าของมันไปอย่างรุนแรงหลายต่อหลายที ฟึบๆ หมับ ตุบ ตุบ ตุบ และเมื่อมีชายอีกคนวิ่งเข้าหาผม ผมเลยเดินเข้าไปหามันเช่นกันและผลักร่างของมันไปชนกับเสาหินปูน พร้อมกับจับที่หลังหัวของมันและออกแรงใช้มือโขกหัวมันเข้ากับกำแพงไปถึงสามครั้ง ผมไม่ต้องดูก็รู้ว่าดั้งของมันหัก และหน้าผากบวมแน่ “ไอสัสมึงหยุดเดี๋ยวนี้!” ชายคนที่ผมเสยคางไปเมื่อวานหยิบมีดออกมา มันเป็นมีดสั้นคล้ายกับมีด M7 “มึง…หยุด!” แต่ผมก็ไม่ได้กลัวมันเลยแม้แต่น้อยดูจากมือที่สั่นของมัน ผมเลยเดินเข้าไปหามันเรื่อยๆ แต่คนรอบข้างต่างบอกให้ถอยกลับมาทั้งนั้น “มึงกล้าก็แทงกูดิ” ผมกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่ท่าทางของผมดูจริงจังเป็นอย่างมาก ผมจ้องมองเข้าไปในตาของมัน ผมมั่นใจว่ามันไม่กล้าแทงผมแน่ๆ ด้วยความกลัวของมันที่มีต่อผม ทั้งผมยังมายืนเผชิญหน้ากับมันอย่างไม่กลัวเกรง แสดงว่าผมต้องมั่นใจมากๆที่จะจัดการมันได้ และยังเป็นเรื่องที่เสี่ยงติดคุกอีก “ที่แท้ก็แค่ลูกไก่” ผมกล่าวก่อนจะใช้ความไวตบมีดของมันออกมาและหยิบมีดนั้นมาไว้ในมือของตัวเอง “มีดก็คมอยู่นะ…” ผมกล่าวก่อนจะหันไปมองมัน “แต่มันไม่สมควรอยู่กับคนแบบมึง” ผมกล่าวจบก็เหวี่ยงหมัดเข้าไปที่หน้าของมันอย่างจัง จนทำให้ร่างของมันถึงกับเสียหลักเซไปข้างหลัง และผมก็ยังคงเดินไปข้างหน้าต่อ วีววววววว วี้ววววว ผลั๊วะๆๆๆๆๆๆๆๆ “หยุด! ยกมือขึ้น!” ตำรวจห้าคนกล่าวพร้อมกับเดินมาหาผม ในขณะที่ผมกำลังต่อยหน้าชายคนนั้นไม่ยั้ง ส่วนเพื่อนๆของมันก็พยายามลุกขึ้นหนี ต่างจากคนที่ไม่ได้โดนผมต่อย พวกเขาวิ่งหนีกันไปก่อนหน้านี้แล้ว ฉึบ ฉึก “ผมไม่ชอบใส่กุญแจมือครับ” ผมกล่าวออกไปเมื่อตำรวจจะล้อคมือของผม แต่ผมก็ได้หันกลับไปและใช้ทักษะความว่องไวล็อคมือตำรวจคนนั้นซะแทน “ผมไม่หนีครับ…เดี๋ยวผมจะเข้าไปรอที่รถ” ผมกล่าวจบก็เดินไปที่รถตำรวจและเข้าไปนั่งข้างหลังอย่างสบายใจ ซึ่งทุกคนก็สับสนมึนงงกันไปหมดว่าผมเป็นใครกันแน่ และสิ่งเดียวที่ตำรวจคิดก็คือผมอาจจะเป็นนักสืบ FBI หรือหน่วยลับ ฝีมือขนาดนี้ไม่น่าใช่คนธรรมดาแน่ๆ “สวัสดีครับลุงรัน” ผมรีบโทรหาลุงรันในทันทีก่อนที่อะไรจะสายไป เพราะผมก็ทำร้ายพวกมันไปสมควรด้วย “ว่ายังไงครับที?” ลุงรันกล่าวถามกลับมา “ลุงรัน?” พวกตำรวจที่เข้ามานั่งในรถเมื่อได้ยินว่าผมคุยกับใคร พวกเขาหน้าซีดในทันที “พอดีเกิดเรื่องนิดหน่อยครับ” “และตำรวจกำลังจะพาผมไปที่โรงพัก” เมื่อผมกล่าวออกไป ตำรวจสองคนถึงกับกลืนน้ำลายดังอึก “มาเลยครับ…ลุงยังไม่ได้กลับบ้าน” เมื่อลุงรันกล่าวจบผมจึงกล่าวขอบคุณและสวัสดีแกไป “ไปครับ” ผมเงยหน้าขึ้นมากล่าวกับตำรวจทั้งสองคนที่นั่งอยู่ด้านหน้า ณ สถานีตำรวจ “รายงาน” ลุงรันกล่าวเมื่อรถตำรวจได้มาจอดสองคัน ทำให้พวกตำรวจรีบลงไปจากรถและยืนตรงต่อหน้าผู้บังคับการทันที “ทีอยู่ไหนลูก?” ลุงรันกล่าวทำให้ผมลงจากรถมาและเดินไปหาลุงรันราวกับเป็นลูกรัก ส่วนพวกที่มีเรื่องกับผมพวกเขาต่างมีตำรวจคอยคุมอยู่ข้างหลัง และพวกเขาถูกจับได้เพียงแค่สามคนเท่านั้น “พวกเขามาคุกคามคนรอบตัวผมครับ” “และจงใจเข้ามาทำร้ายผมรวมถึงพวกเขามีอาวุธด้วยครับ” ผมยื่นมีดคล้าย M7 ให้กับลุงรัน ซึ่งลุงก็พยักหน้าตอบรับ “เข้าไปนั่งดื่มอะไรกันก่อนไหม" ลุงรันกล่าวถามเมื่อเห็นสีหน้าเบื่อหน่ายของผม “ครับผม” ผมตอบรับแตะเดินตามหลังลุงรันไปติดๆ จนผมได้เห็นพวกมันทั้งสามคนกำลังพูดคุยกับตำรวจเกี่ยวกับเรื่องที่ไปรุมทำร้ายผมและก่อความวุ่นวายที่ร้านอาหาร “ว่าแต่ตำรวจไปตั้งด่านกันเหรอครับคุณลุง?" ผมกล่าวถามเมื่อเห็นว่าตำรวจในสถานีอยู่กันไม่ถึงหกคน “พวกทหารน่ะสิ…หน่วยรบพิเศษขอความช่วยเหลือให้ล้อมรอบห้างตรงสี่แยกข้างหน้า" ลุงรันกล่าวทำให้ผมเริ่มนึกอะไรขึ้นได้ ว่ามีพ่อค้ายารายใหญ่มาตั้งหลักปักฐานที่นี่แหละใช้ห้างโลตัสเป็นสถานที่ส่งและรับของ ก็นั่นแหละนะ ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด และมันคงจะเกี่ยวข้องกับการที่ลุงรันเกือบโดนรถชน และมีคนสะกดรอยตามลุงแก “ครับ…ผมขอกลับไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ" ผมกล่าว แต่แท้จริงแล้วผมจะไปช่วยพวกเขา เพราะถ้าผมไม่ช่วยมันจะมีคนตายนี่สิ ฟึบ อึก “ทหาร?” และในพริบตาผมสัมผัสได้ว่ามีร่างชายคนหนึ่งลุกขึ้นมาจากพุ่มไม้ ผมจึงก้มตัวลงไปล็อคเขาและกดลงกับพื้น เมื่อเป็นทหารผมจึงปล่อยมือ “ผมเป็นคนของลุงรันครับ” “ดูสถานการณ์ตรงหน้าก่อน” ผมกล่าวโกหกและจ้องมองไปเบื้องหน้า ซึ่งทำให้ชายคนนั้นยอมทำตามผมเพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องจริง เนื่องจากชายคนนี้สามารถผ่านพวกตำรวจเบื้องหน้ามาได้ “ไปๆๆๆๆ” จนผ่านไปสักพักเราก็ได้เห็นกลุ่มคนมากมายพุ่งออกมาจากด้านหลังห้าง ปังๆๆๆๆ จนเราได้เห็นพวกทหารพุ่งออกมาจากทางนั้นเช่นกัน และพยายามไล่ยิงพวกค้ายา ส่วนชายที่หมอบอยู่ข้างผมเขาก็ลุกขึ้กช้าๆและเคลื่อนที่ไปเงียบๆ ฟึบ เคร้งๆๆๆ ผลั๊ว ฟิ้วว “หมอบ!” ผมกล่าวเมื่อศัตรูที่อยู่ข้างหลังและรอการปรากฏตัวของทหารคนนี้ได้เข้ามาทำร้ายเขาด้วยอาวุธมีด เขาจึงต้องยอมสู้ด้วยมีดเช่นกันเพราะมันประชิดตัวเกินไป ทำให้เป็นการเปิดจุดที่ซ่อนตัวให้กับพวกค้ายา พวกมันจึงหันมารัวกระสุนใส่ทหารคนนี้จนผมได้เห็นสัญลักษณ์ตรงหมวกว่าเขาคือหัวหน้าหน่วยรบพิเศษ ผมก็ได้ถีบคนที่เล่นมีดออกไปและดึงร่างของเขาให้หมอบ แต่มันไม่ทัน กระสุนเจาะเข้าไปบริเวณขาของชายคนนั้น “เดี๋ยวผมจัดการทุกอย่างเอง” ผมกล่าวก่อนจะดึงปืนกลออกมาจากมือของเขาและขอเสื้อเกราะทหารของเขามาสวมเช่นกัน ตุบ ตี๊ด ฟึบๆๆๆ และผมก็ได้ใช้ด้ามปืนทุบเข้ากลางหน้าผากของคนที่มาโจมตีจนมันสลบลงไป พร้อมกับกดสัญญาณฉุกเฉินบริเวณเข็มขัดของหัวหน้าหน่วยรบพิเศษคนนี้และวิ่งตามพวกค้ายาไป แต่ผมไม่ได้ตามกลุ่มหทาร ผมอ้อมไปอีกฝั่ง ปังๆๆๆๆ ผมยิงปืนเพื่อชะลอการเคลื่อนไหวของพวกมัน ซึ่งมันก็สำเร็จพวกมันพากันก้มพากันหมอบลงพื้น พวกทหารจึงได้โอกาสเคลื่อนที่เข้าไปหาพวกมันให้ใกล้ที่สุด “หยุด!!ไม่งั้นอีนี่ตาย!” พวกมันคนหนึ่งกล่าวและดึงร่างผู้หญิงขึ้นมาพร้อมกับใช้ปืนจ่อไว้ที่ขมับของหญิงสาวคนนั้น ผู้หญิงร้องไห้ออกมาไม่หยุดด้วยความกลัว “มีตัวประกันสองคน” ทหารรายงานผมผ่านวอร์ เขาไม่รู้ว่าผมเป็นใคร แต่ในเมื่อผมสามารถช่วยเหลือได้พวกเขาก็พร้อมแบ่งปันข้อมูล “…..” ผมไม่ได้กล่าวอะไร แต่มองหน้าพวกเขาทีละคนและใช้สัญญาณมือสั่งการ พวกเขาตกใจพอสมควรแต่ก็ยอมทำตามในตอนนี้ จนพวกเราได้เปิดเผยตัวตนสองคน ส่วนอีกสามคนได้คลานไปล้อมพวกมันช้าๆ บรื้นนนน จู่ๆก็มีเสียงรถกำลังขับเข้ามาใกล้ๆ ทำให้พวกมันพากันวิ่งหนีตายไปทางเสียงรถคันนั้น ผมเองก็ไม่ยอมเช่นกัน ผมวิ่งตามพวกมันไปเงียบๆ แต่ตัวประกันสองคนยังคงถูกจับล้อคไว้อยู่…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD