“คุณเพลิง”
“อะไร”
“เป็นหุ้นส่วนของบริษัทนี้ด้วยเหรอคะ?” เราออกมากันแล้วค่ะมาถึงรถกำลังจะขับออกจากที่นี่แล้วด้วย
“แล้วก็ตามหาคนที่สั่งงานคนของผมให้เจอ คนที่สั่งงานบ้า ๆ ให้คนของผมทำจนต้องโดนด่าโดนประจานทั้งที่คนของผมก็ทำหน้าที่ของตัวเองเต็มที่แล้ว ผมมีเรื่องอยากจะคุยด้วย”
“คือ... / หาให้เจอครับคุณพิชชี่ ผมให้เวลาคุณถึงเที่ยงพรุ่งนี้ ถ้าลากคอมาให้ผมไม่ได้...ผมถอนหุ้นทั้งหมด”
“คุณเพลิงขา~ / กลับกันเถอะ” เขาหันมาหาฉัน ไม่หันและบอกเฉย ๆ แต่คุณเพลิงนรกของพรีรตาจับมือแล้วจูงหมาน้อยของคุณหญิงป้าออกมาทันทีเลยด้วย
“อืม”
“โห~ มีได้ไงอ่ะ”
“รวย”
“ชิส์!” ไม่น่าถาม แล้วดูตอบ ตอบสั้น ๆ ไม่สนใจฉันสักนิด หมั่นไส้คนรวย
“ว่าแต่จะไล่พี่เขาออกจริง ๆ เหรอคะ ไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอคุณเพลิง”
“ก็พูดไปแล้วว่าไล่ออก สงสัยอะไรนักหนา”
“สงสารพี่เขา” ฉันพึมพำเบา ๆ คุณเพลิงก็หันมามองหน้า ตาขวางเชียว
“ตอนเขาด่าเธอเขาสงสารเธอไหมยัยซื่อบื้อ”
“ก็ไม่หรอกค่ะ แต่ทำให้เขาตกงานเลยพรีมว่ามัน... / เมื่อวานด่าเธอวันหลังก็ต้องด่าคนอื่น ถ้ามีเหตุผลแล้วด่าฉันจะไม่ว่า แต่ทำแบบนี้ฉันไม่ยอม มันทำให้เพื่อนร่วมงานอึดอัดใจ ไปใหญ่ที่อื่นไม่ใช่บริษัทที่ฉันเป็นนายทุน”
“แต่คุณเพลิงยังไม่ถามพี่เขาเลยนะ ฟังความจากพรีมแค่ฝั่งเดียวเผื่อพรีมโกหกว่าพี่เขาไม่ถามอะไรเอาแต่ด่าล่ะ”
“เธอไม่เคยโกหกฉัน”
“...”
“ยกเว้นเรื่องหนีเที่ยวผับ”
“...แหะ ๆๆ” ช็อตฟิลกันไปเลยอุตส่าห์กำลังจะซึ้ง
“เลิกชวนคุยได้ยังจะได้กลับสักที”
“อ้อ โอเคค่า~”
“อย่ามาทำเสียงสดใส น่ารำคาญฉิบหาย”
-*-
คุยกันดี ๆ ไม่ค่อยได้เลย!
ฉันย่นจมูกทำหน้ามู่ทู่แล้วก็หันมองไปด้านนอก ไม่คุยด้วยก็ได้ไม่อยากคุยกับเขาให้เขาแอบด่าอยู่แล้ว
“...เอ๊ะ!” รถคุณเพลิงกำลังเคลื่อนตัวช้า ๆ สายตาฉันก็เหลือบไปเห็นคนคนหนึ่ง จ้องแล้วจ้องอีกจนแน่ใจถึงได้สะกิดคุณเพลิงด้วยการเอามือไปตีแขนเขายิก ๆ ส่วนสายตาก็โฟกัสที่เดิม
แปะ ๆๆๆ
“คุณเพลิง ๆๆๆ”
“อะไร ตีทำไมวะ”
“คนนั้นใครคุณเพลิงรู้จักไหม” ฉันชี้ให้ดูคุณเพลิงก็มองตาม
“เอมมี่ไง เป็นดารา เธอบอกว่าเธอเป็นแฟนคลับไม่ใช่เหรอ ทำไมจำไม่ได้วะ”
“ไม่ ๆๆ พรีมไม่ได้หมายถึงคู่นอนคุณเพลิง”
“พรีรตา อย่ากวน”
“เอ้า! กวนตรงไหนคะ ก็คู่นอนจริง ๆ ไม่ใช่เหรอ คุณเพลิงบอกเองว่าไม่ใช่ตัวจริง”
“...คนไหน” สายตาพร้อมด่ามากแต่ก็ยังดีที่เขาไม่ด่า ^^
“คนที่เดินข้าง ๆ เอมมี่ค่ะ”
“ถามทำไม”
“ถามเฉย ๆ ค่ะ” ขอถามก่อนยังไม่อยากบอกว่าถามเพื่ออะไร
“ผู้จัดการเอมมี่”
“ฮะ?”
“ผู้จัดการไง ทำไม รู้จักเหรอ”
“...”
“ว่าไง”
“...แต่เมื่อวานคนนี้แขวนป้ายสตาฟนะคุณเพลิง”
“อะไรนะ? อย่าบอกนะว่า... / ค่ะคนนี้แหละที่สั่งงานพรีม” ฉันพยักหน้ารับ จำไม่ผิดหรอก ตอนแรกคิดว่าถ้าเป็นทีมงานจะไม่บอกคุณเพลิงหรอกกลัวเดือดร้อนแต่พอรู้ว่าเป็นผู้จัดการดาราฉันก็เลยบอก
...มันมีอะไรทะแม่ง ๆ ไม่น่าล่ะเมื่อวานใส่เสื้อไม่เหมือนทีมงานคนอื่น
“แน่ใจนะว่าจำคนไม่ผิด”
“พรีมจำได้ค่ะ” ฉันบอกแล้วรีบหยิบโทรศัพท์มากดดูอะไรบางอย่างในโซเชียล พอเจออะไรอย่างที่คิดก็รีบให้คุณเพลิงดูทันที
“นี่ไงคะ เมื่อวานเอมมี่อยู่งานเดียวกันกับที่พรีมไปทำงาน”
คุณเพลิงไม่พูดอะไรต่อ เขาเลี้ยวรถเข้าจอดที่จอดรถอีกครั้งรวดเร็วตามสไตล์คุณเพลิงบรรลัยกัลป์
“จะลงไปเลยเหรอคะ”
“จะรออะไรล่ะ เสียเวลา” เขาพูดจบก็ลงจากรถ เดินดุ่ม ๆ กลับเข้าไปทางเดิมโดยที่มีฉันเดินตามต้อย ๆ แต่เดินห่าง ๆ นะคะ ตอนนี้คนข้างในคงงงเป็นไก่ตาแตกว่าเด็กที่มารับจ๊อบเป็นสตาฟได้ค่าจ้างวันละ 450 บาทแถมยังโดนใช้แรงงานซะส่วนใหญ่เป็นอะไรกับคุณเพลิงนรกผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ ฉันว่าคนต้องคิดว่ามีซัมธิงแน่ ๆ แต่ความจริงเป็นขี้ข้านะคะ ^^!
เรากลับเข้ามาข้างในอีกครั้งจากเสียงที่เขากำลังเตรียมงานจนเสียงดังจอแจก็เงียบกริบ เงียบและเต็มไปด้วยความรู้สึกอึมครึมอย่างเห็นได้ชัด บรรยากาศมันเปลี่ยนไปจนคนที่เพิ่งมาถึงบริเวณจัดงานอย่างดาราคนดังที่มาร่วมงานอีเว้นท์และทีมงานต้องหันมองไปรอบ ๆ จนมองมาเห็นเขา ดาราคนดังเพื่อนของคุณเพลิงก็ยิ้มออกมาแต่ก็แค่นิดหน่อยแล้วเก็บอาการไว้
“...คุณเพลิงมีอะไรให้พิชชี่รับใช้อีกเหรอคะ” พี่พิชชี่คนเดิมรีบเดินมาหาอีกครั้ง หน้าตาก็หวาดหวั่นมาก เห็นใจพี่เขามากเลยค่ะที่พี่เขาไม่ได้รู้เรื่องด้วยแต่ต้องมารับหน้าแทนลูกน้อง
“ผมจะมาย้ำให้คุณพิชชี่หาตัวคนนั้นให้เจอครับ หาเจอแล้วประจานให้ทีมงานทุกคนรู้ด้วยว่าเป็นฝีมือใคร ไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องประจาน”
“ค่ะ ๆๆ ได้ค่ะคุณเพลิง”
“ครับ” เขาพยักหน้าแล้วเดินต่อ เดินไปทางอดีตดาราคนโปรดของฉันฉันก็เลยไม่เดินตามไป คุณเพลิงเดินไปจนเกือบถึงเอมมี่เธอก็ยิ้มทักทายแต่เหมือนคุณเพลิงนรกจะรู้ว่าไม่มีลูกหมาเดินตามตูดถึงได้หยุดแล้วหันกลับมามองฉันก่อนจะมองนิ่ง ๆ แล้วยกคิ้วขึ้น ข้างหนึ่ง
ต้องไปด้วยเหรอ?
โอเคค่ะ ต้องเดินตามตูดไปด้วยสินะ ฉันค่อย ๆ เดินไปหาอดีตดาราคนโปรดพอเอมมี่เห็นหน้าน้องพรีมปุ๊บหน้าตาก็แสดงความไม่พอใจออกมาแว๊บหนึ่ง
“มางานเหรอเอมมี่”
“ค่ะ เพลิงล่ะคะ มาทำอะไร อย่าบอกนะว่ามาให้กำลังใจทีมงาน”
“หึ ๆๆ เปล่าหรอก มาจัดการธุระ...เดี๋ยวเจอกันนะเอมมี่”
“คะ? เพลิงจะนัดเจอเหรอ” เธอยิ้มออกมา ไม่ได้ดีใจแบบเอิกเริกแต่เป็นยิ้มโปรยเสน่ห์ที่สวยมาก ๆ
ฮือ~ เห็นสองคนนี้อยู่ด้วยกันเสียงระดับ Full HD ก็ดังขึ้นมาในสมองของน้องพรีมเลย T^T
กด Pause ตรงไหนใครรู้ช่วยบอกบุญพรีมที _//_
“เปล่า ผมหมายถึงเรื่องอื่น เมื่อวานทำอะไรไว้...เดี๋ยวเราเจอกัน” ท้ายประโยคมันคือการข่มขู่ชัด ๆ พูดจบก็มองหน้าเอมมี่แล้วก็หันไปมองที่ผู้จัดการของเธอ
“เพลิงหมายความว่าไงคะ” ^^ เธอตีหน้าซื่อยิ้มหวานแต่ผู้จัดการที่แขวนป้ายสตาฟเมื่อวานหน้าเริ่มซีด
“ฉันไม่เอาเธอไว้แน่!”
คำขู่ตอนนั้นผุดขึ้นมาในความทรงจำ หรือว่าจะจำฉันได้แล้วแกล้งเพราะไม่พอใจเหตุการณ์วันนั้น ไม่อยากใส่ร้ายเลยแต่คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้แล้วล่ะ ไอ้เราก็ไม่ใช่คนที่คิดอะไรดี ๆ เป็นเรื่องปกติซะด้วยสิ ^^!
“หึ ๆๆ คุณรู้ดี...เดี๋ยวเราเจอกัน”
“เพลิงคะ... / ผมไม่เคยยอมให้ใครแตะต้องคนของผม ใครที่มันกล้าทำก็ต้องรับผลกรรมของตัวเอง”
“เพลิง”
หมับ~
เขาหันกลับมาแล้วจับข้อมือฉันเดินออกมาอีกครั้ง เป็นเหตุการณ์ที่ใจเต้นแรงไม่ต่างจากเหตุการณ์แรกเลยค่ะ เหมือนในละครที่พระเอกปกป้องนางเอกไม่มีผิด แต่จะผิดนิดหน่อยที่คุณเพลิงไม่ใช่พระเอกที่ปกป้องนางเอก เขาเป็นตัวละครหลักที่ปกป้องคนใช้ต่างหาก แหะ ๆๆ
“เขาโกรธแย่เลยคุณเพลิง”
“แล้ว?” ก็ไม่แล้วยังไงแค่บอก ระดับนางเอกอันดับหนึ่งของยุคไปทำแบบนั้นกับเธอได้ยังไง ถึงจะได้กันแล้วก็เถอะ
“...ขอบคุณนะคะที่ปกป้องพรีม” ฉันขอบคุณเขาจากหัวใจจริง ๆ นะ เขาจะไม่สนใจก็ได้แต่คุณเพลิงก็เลือกที่จะช่วยปกป้องศักดิ์ศรีของฉัน
“ฉันอนุญาตให้เธอโดนฉันด่าแล้วก็แกล้งได้แค่คนเดียว ถ้ามีคราวหน้าเธอยืนซื่อบื้อให้คนรังแกไม่ตอบโต้อะไรแล้วกลับมาร้องไห้ขี้มูกโป่งอีกฉันจะตบหัวเธอให้สมองกลับ”
“ค่า~ รับทราบค่ะ” ^^
วันนี้จะไม่กวนประสาทคุณเพลิงนรกก็ได้ ตอบแทนที่ช่วยพรีรตา
“กลับเลยไหมคะ หรือคุณเพลิงมีธุระที่ไหนรึเปล่าพรีมนั่งรถเมล์กลับก็ได้ค่ะ”
“ไม่มี ไปหาข้าวกินก่อนแล้วกันค่อยกลับห้อง”
“ได้ค่ะ” ลาภปากแล้ว~ คุณเพลิงจะพาไปกินข้าว ต้องได้กินร้านหรู ๆ แน่นอน ^0^
-สิบนาทีต่อมา-
“ร้านอะไรของเธอวะ?”
“ร้านอาหารไงคะ”
“มันไม่ใช่ร้านอาหาร มันคือร้านขนมจีน”
“เอ้า! ขนมจีนไม่ใช่อาหารเหรอคุณเพลิง”
“อย่ากวนประสาท”
“ฮ่า ๆๆ ไปเถอะค่ะ ร้านนี้อร่อย พรีมเคยมากินกับเพื่อน รับรองคุณเพลิงจะติดใจ” ฉันยิ้มให้จนตาหยีแล้วลงรถจากนั้นก็เดินเข้าร้านทันทีโดยที่ไม่คิดจะรอเขา
อ้อ! ไม่ต้องสงสัยนะคะว่าจากที่คิดว่าตัวเองจะได้ลาภปากกินร้านอาหารหรู ๆ แต่ทำไมสุดท้ายมาจบที่ฉันพาคุณเพลิงมาที่ร้านขนมจีน พอดีโดนคุณเพลิงนรกกลั่นแกล้งนิดหน่อยด้วยการทำลายความฝันลม ๆ แล้ง ๆ ของน้องพรีมด้วยการบอกว่าเขาแก้แค้นให้แล้วฉํนก็ต้องตอบแทนด้วยการเลี้ยงข้าวฉันก็เลยพามาร้านนี้แหละเพราะอยู่ใกล้กันพอดี
ร้านขนมจีนแบบโอเพ่นแอร์ ไม่ได้สภาพแย่ร้านสะอาดมากด้วยซ้ำแต่แค่มันไม่หรูหราหมาเห่าสมกับคนรวยเวอร์รวยอลังกาลอย่างคุณอัคนี ดูจากหน้าตอนจอดรถหน้าร้านก็รู้แล้วว่าคุณเพลิงไม่โปรด แต่ช่างเถอะเพลิงไม่โปรดแต่พรีมโปรด~ ^o^
#PREME END
#PLERNG TALK
“สั่งให้ด้วย” ผมบอกหลังจากยัยบ้านนอกกลับมานั่งที่โต๊ะพร้อมแก้วน้ำสแตนเลส 2 ใบที่มีน้ำแข็งกับน้ำบริการฟรี
อ่าส์~ ผมต้องกินอะไรแบบนี้จริง ๆ เหรอวะ ไม่น่าเลยว่ะ ดูโต๊ะข้าง ๆ สิ เห็นแล้วแทบอ้วก ผักสดเยอะฉิบหาย กินกันเข้าไปได้ยังไง
“คุณเพลิงอยากกินน้ำยาอะไรคะเดี๋ยวพรีมสั่งพี่เขาให้”
“อะไรก็ได้” ผมไม่ชอบกินขนมจีน จะบอกว่าปีนึงแทบจะไม่ได้กินเลยด้วยซ้ำเพราะฉะนั้นมีอะไรก็เอาเลย ไม่อยากเลือก เลือกไม่เป็น
“อะไรก็ได้มันยากนะคะ”
“ก็สั่ง ๆ มาเถอะน่า ทำไมชอบทำให้มันยุ่งยากวะ”
“โอเคค่ะ ไม่โง่แล้วก็ได้ค่ะถ้างั้นถามนิดเดียวอยากกินเผ็ดหรือไม่เผ็ดคะพอดีน้ำยาร้านนี้เน้นเผ็ดมาก~ ถ้าคุณเพลิงไม่อยากกินเผ็ดพรีมจะสั่งเป็นเขียวหวานไม่ก็ขนมจีนน้ำพริกให้”
“...” ขนมจีนน้ำพริกมันคืออะไรวะ? แล้วถ้าไม่อยากกินเผ็ดแต่สั่งขนมจีนน้ำพริกมันจะไม่เผ็ดฉิบหายตายห่าเลยเหรอ? ยัยบ้านนอกแม่งกวนประสาทผู้มีพระคุณฉิบหาย
“ว่าไงคะ จะกินเผ็ดไหม กินไม่กินบอกมาพรีมจะได้สั่งง่ายขึ้น”
“หึ ๆๆ ของพวกนั้นเอาไปไกล ๆ สั่งที่มันเผ็ดที่สุดมาเลย ยังไงซะฉันก็เผ็ดกว่าน้ำยาของเธออยู่ดี”
“หืม~” ยัยบ้านนอกทำเสียงล้อเลียนก่อนจะหันไปสั่งขนมจีนน้ำยากะทิไก่ น้ำพริก แล้วก็ไตปลาแบบนรกแตกอะไรก็ไม่รู้จากนั้นก็เดินไปตักผักที่วางเรียงรายให้ลูกค้าตักบริการตัวเองฟรี ๆ ด้วยหน้าตาที่โคตรมีความสุขอย่างกับกำลังเดินในทุ่งลาเวนเดอร์
ผมมองยัยนั่นแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า แค่ไปตักผักสดแค่นี้ก็มีความสุขจริง ๆ ทั้งที่เมื่อวานยังร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่เลย ก็เป็นแบบนี้ไงแล้วจะไม่ให้ผมเวทนามาเอาคืนคนที่ด่าประจานยัยนี่ได้ยังไง อีกอย่างขืนแม่รู้ว่ายัยบ้านนอกของแม่โดนพนักงานในบริษัทที่ผมมีหุ้นส่วนแถมยังเป็นนายทุนให้ด่าประจานต่อหน้าทีมงานคนอื่นโดยที่ผมไม่ทำอะไรคุณหญิงป้าของยัยบ้านนอกได้อาละวาดใส่ผมจนบ้านแตกแน่ แม่ผมรัก ห่วง หวง ทะนุถนอมอย่างกับหมาในซอกหินที่อยู่บนขอบเหวลึกซะขนาดนี้ ก็อย่างว่าล่ะยัยบ้านนอกเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ของแม่ ไม่รักไม่หวงมากก็แปลกแล้ว