เขาได้แต่นั่งกุมขมับตัวเอง รู้สึกสมองตื้อจวนเจียนระเบิด หากผู้หญิงที่เขาคิดจริงจังรู้เรื่องนี้ เขาจะแก้ตัวอย่างไรดี?...
หางตาที่ตวัดมองเห็นภาพ ดาริกายิ้มออกมาอย่างพอใจ ครั้นนึกถึงบทรักของชายหนุ่มหลังจากที่โรมรันกันมาเกือบทั้งคืน เธอก็ได้แต่บอกตัวเองว่า จะไม่มีวันยอมปล่อยคนอย่างณภกรณ์ไปเด็ดขาด...
แววตาที่ฉายแววร้ายกาจของดาริกาที่ซ่อนอยู่ภายใน มันแผ่ออกมาโดยที่ชายหนุ่มอย่างณภกรณ์ไม่มีวันได้เห็นและไม่มีทางได้รู้เลยว่า หล่อนได้ทำอะไรไว้กับผู้หญิงที่เขาทุ่มตัวและหัวใจให้มาก่อนหน้านี้
ร่างเปล่าเปลือยขยับโอบกระชับร่างแกร่งที่ยังนั่งอยู่ในท่าเดิมพร้อมกับกระซิบบอกเบาๆ ข้างหู “ที่รัก...อย่าคิดมากเลยนะคะ” อกอวบเบียดเสียดสีแขนแกร่ง เธอจงใจให้ณภกรณ์หันมาสนใจหากแต่ผิดถนัดเมื่อใบหน้าหล่อเหลานั้นกลับหันมาส่งสายตาดุใส่และส่งคำพูดเสียดแทงใจ...
“อย่าเรียกผมแบบนี้อีกแล้วก็รีบไปแต่งตัวและออกไปจากบ้านผมได้แล้ว เพราะผมมีงานที่จะต้องทำอีกเยอะ” เขาเอ่ยอย่างไม่ใยดีกับอาการยั่วยวนของสาวสวยข้างกายพร้อมกันนั้นสลัดผ้าห่มแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปทันทีโดยไม่หันมามองหญิงสาวที่กำลังมีสีหน้าขัดใจอีกเลย
“หึ อย่าหวังว่าฉันจะปล่อยคุณไปง่ายๆ” ร่างขาวอวบสะบัดผ้าห่มกระเด็นตามแรงโทสะ ลุกขึ้นจากเตียงนอนที่ยับยู่ยี่ ก้มลงเก็บเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วห้องมาสวมใส่จนเรียบร้อยดีแล้วกระแทกก้นงอนงามลงบนเตียงโดยไม่คิดใส่ใจคำไล่ก่อนหน้าเจ้าของบ้าน
ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงที่ณภกรณ์ใช้เวลาในห้องน้ำคิดแต่เรื่องของตัวเองที่ทำผิดคำสัญญาไว้กับเพื่อนน้องสาว แม้จะผ่านผู้หญิงมามากหน้าหลายตา แต่เขาคิดว่าภูษิตาจะเป็นผู้หญิงคนสุดท้ายที่เขาเลือกคบและจริงจังด้วยแต่ทุกอย่างจะพังหรือไม่นั้นเข้าต้องรอดูว่าเรื่องจะเดินไปหนทางใด แต่ครั้นก้าวออกจากห้องน้ำยิ่งเห็นใครบางคนยังนั่งอยู่ที่เดิมอารมณ์ที่เคยขุ่นมั่วก็ทวีเพิ่มขึ้น “ทำไมยังไม่ไปอีก?”
“เป็นอะไร ทำไมกรใจร้ายแบบนี้ จะให้ดากลับยังไง ดาไม่ได้เอารถมา กรก็รู้นี่คะ” เมื่อเจอคำถามไร้เยื่อใยดาริกาจึงกล่าวตัดพ้อพร้อมส่งสายตาเว้าวอนแม้ภายในใจจะโมโหลุกเป็นไฟตามนิสัยเอาแต่ใจมากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่อยากแสดงออกให้ชายหนุ่มได้เห็นว่านิสัยแท้จริงของเธอยามโกรธเคืองเป็นเช่นไร
“ก็ได้...ผมจะให้เด็กรับใช้เรียกแท็กซี่ให้” เขาบอกอย่างมีน้ำใจช่วย ก่อนจะจัดการเปิดตู้เสื้อผ้าแต่งตัวตามปกติโดยไม่สนใจว่าสาวสวยที่ยืนแข็งทื่อกับคำตอบอยู่นั้นจะรู้สึกอย่างไร
“กร ทำไมทำแบบนี้?” สาวสวยตัดพ้อออกมาอย่างเหลืออด ไม่คิดว่าชายหนุ่มที่หล่อนหวังต่อสัมพันธ์ใหม่อีกครั้งจะตัดเยื่อใยจนไม่เหลือชิ้นดี
“ก็ผมบอกแล้วว่าผมไม่ว่าง” ณภกรณ์เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาบ้าง
“ไปส่งเมียที่คอนโดหน่อยไม่ได้หรือคะ?” ดาริกายังตื้อ ด้วยน้ำเสียงขรึม หล่อนไม่อยากใช้คำว่าเมียออกมานัก แต่รู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของชายหนุ่ม ที่เวลาต้องการก็ออดอ้อนเสียงหวาน แต่พอได้ปลดปล่อยแล้ว ทำรังเกียจเหมือนเธอเป็นสิ่งโสโครก
ณภกรณ์ละมือจากการติดกระดุมเสื้อ จ้องมองสาวสวยอย่างไม่พอใจ กับคำ ‘เมีย’ ที่หล่อนกล้าหยิบยกออกมา “คุณว่าไงนะ เราเคยตกลงกันว่าไง คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้คำว่าเมียกับผม และคำคำนี้ผู้หญิงที่ผมเลือกเป็นแม่ของลูกผมต่างหากที่จะใช้ได้ และคนคนนั้นก็คือ...ภูษิตาเท่านั้น”
สีหน้าจริงจังของเขา เป็นเหมือนคำประกาศชัดเจน โดยหล่อนที่ยืนอยู่ในห้องนี้ไม่มีความหมายอะไร ก็แค่ความพอใจที่ต่างฝ่ายต่างได้ปลดปล่อย ในสิ่งที่ธรรมชาติสร้างมา ก็เท่านั้น
ดาริกากำมือแน่นความโกรธแล่นเข้าสู่กลางอกเป็นริ้วๆ ภูษิตา...ก็แค่ผู้หญิงจืดชืดคนหนึ่ง มันจะมีดีอะไรนักหนา?... “หึ!แล้วคุณคิดว่าผู้หญิงที่คุณเอ่ยถึงอยู่ เขาจะกลับมาหาคุณไหมละ?” แววตาที่แฝงไปด้วยเลศนัยถือดีกล้าท้าทายในความคิดของตัวเอง และคำพูดนั้นก็เรียกความสงสัยจากชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี
“หมายความว่าไง ที่คุณคิดว่าภูษิตาจะไม่กลับมาหาผม?” คิ้วเรียวหนาผูกปมกับประโยคที่สาวตรงหน้าเอ่ยถึง หลายวันแล้วที่เขาพยายามโทรหาหญิงสาว แต่กลับไม่รับสาย จะว่าโทรศัพท์ไม่ได้อยู่ใกล้ตัว แต่มันไม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่เขาโทรหาภูษิตา... มันเป็นร้อยสายที่เขาพยายามกดหา มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
และที่น่าแปลก เขาไม่เคยเจอดาริกาตั้งแต่ที่เขาบอกตัดสัมพันธ์แล้วหล่อนก็โผล่มาในช่วงที่เขารู้สึกว่าภูษิตากำลังเปลี่ยนไป
“คุณอย่ามาหาเรื่องปวดหัวให้ผม ไม่อย่างนั้นผมไม่เอาคุณไว้แน่”
ณภกรณ์เริ่มระแวงในตัวดาริกา หล่อนโผล่มาเหมือนจะรู้ว่าเขากำลังมีปัญหา แม้เขาจะไม่ค่อยมั่นใจแต่ก็อยากกันไว้ก่อน
“ดากลับก่อนดีกว่า...คุณมีนัดกับน้องสาวไม่ใช่หรือ?” ใบหน้าคมของดาริกาซีดลงถนัดตา กล้ำกลืนความกลัวเอาไว้ เมื่อคำพูดและสีหน้าจริงจังมันฟ้องว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้คบกับภูษิตาเล่นๆ ที่สำคัญแววตาของชายหนุ่มบ่งบอกว่าคนอย่างเขาทำได้อย่างที่พูดจริงๆ
ดาริกาเริ่มวางตัวไม่ถูกและเริ่มไม่มั่นใจกับสิ่งที่ตัวเองเพิ่งเอ่ยไป อีกทั้งยังกลัวจะมีเรื่องร้ายตามมา เพียงแค่ครู่เดียวเธอก็คิดได้ว่าควรออกห่างจากเขามาเสียดีกว่า เธอตัดใจหันหลังเดินออกจากห้องไปโดยไม่รอให้เขาต้องออกปากไล่เป็นครั้งที่สอง