บทนำ

1297 Words
บทนำ   โลกปัจจุบัน “นั่งอ่านอะไรอยู่เหรอลูก” เสียงชายวัยกลางคนเอ่ยทักบุตรสาวที่นั่งอ่านหนังสือเล่มหนาอยู่ในห้องนั่งเล่นอย่างจริงจัง เมื่อเห็นเช่นนั้น เขาจึงอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปหา “อ่านนิยายจีนโบราณค่ะ” หญิงสาวยิ้มให้กับผู้เป็นพ่อก่อนจะปิดหนังสือเล่มหนาลงแล้วหันมากอดเอวท่านไว้หลวม ๆ พร้อมกับเอาหน้าซุกกับพุงนุ่ม ๆ จนผู้เป็นพ่ออดที่จะเอามือมาลูบหัวบุตรสาวไม่ได้ “อ๋อ แล้วมันสนุกถึงขนาดที่ลูกไม่ยอมไปไหนเลยงั้นเหรอ” “ค่ะ” เธอตอบรับอย่างอาย ๆ “ไหนลองเล่าให้พ่อฟังซิว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง” ผู้เป็นพ่อถามเพราะอยากรู้เนื้อเรื่องของนิยายที่ทำให้บุตรสาวของเขาติดหนักถึงขนาดต้องลาพักร้อนเพื่อมาอ่านแบบนี้ เธอพยักหน้ารับ พร้อมกับเริ่มบรรยายเนื้อเรื่องให้ฟังแบบง่าย ๆ “ก็พระเอกขอถอนหมั้นกับนางร้าย สาเหตุเพราะไม่ได้รักนาง แต่กลับรักหญิงสาวอีกคนซึ่งเป็นน้องสาว และยังเป็นนางเอกของเรื่อง เมื่อไม่สมหวังในความรัก นางจึงต้องรับบทเป็นตัวร้าย ตอนหลังนางเลยวางยาพิษเพื่อฆ่านางเอก แต่ก็ถูกจับได้เสียก่อน พระเอกก็เลยสั่งประหารชีวิต ลูกคิดว่านางน่าสงสารนะคะคุณพ่อ ร้ายเพราะรัก นางรักของนางมาก่อน และมันก็เป็นรักที่บริสุทธิ์ นางอดทนรอเพื่อที่จะได้เป็นชายาเอก แต่ตอนจบนางก็ต้องมาตายด้วยน้ำมือของคนที่ตนรัก ลูกสงสารนางค่ะ” เธอเอ่ยออกมา เมื่อเล่าเนื้อเรื่องจบ “เป็นธรรมดาลูก พระเอกจะต้องคู่กับนางเอก เราเปลี่ยนชะตาของพวกเขาไม่ได้หรอก” ผู้เป็นพ่อพูดขึ้นอย่างอ่อนโยน ซึ่งเธอก็พยักหน้าเห็นด้วย แต่ถ้าหากเป็นเธอ เธอจะยอมถอนหมั้นและเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ทั้งหมด จะไม่ยอมเอาชีวิตของตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับความรักโง่งมเช่นนั้นอย่างแน่นอน หลังพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกับผู้เป็นพ่ออยู่พักใหญ่ ๆ เหมยเซียนก็ได้รับโทรศัพท์จากลูกน้องว่าเกิดเหตุวางระเบิดในย่านชื่อดังแห่งหนึ่ง เธอจึงรีบเก็บหนังสือนิยายไว้ที่เดิม ก่อนจะขึ้นไปอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวออกปฏิบัติหน้าที่ ร้อยตำรวจเอก เหมยเซียน คือชื่อของเธอ เธอได้สอบบรรจุเข้ารับราชการตำรวจหลังเรียนจบ ก่อนจะใช้ความสามารถทั้งหมดทุ่มเทให้กับการทำงานจนได้รับเลื่อนขั้นในวัยเพียงแค่ยี่สิบเจ็ดปี เธอมีความสามารถรอบด้าน ทั้งยิงปืนแม่นทั้งระยะใกล้หรือไกล ทั้งคาราเต้สายดำ หรือแม้แต่วิชาแม่ไม้มวยไทยเธอก็สามารถทำได้ดี สาเหตุที่เธอสอบเข้ารับราชการตำรวจก็เพราะอยากจะเป็นเหมือนพ่อของเธอ หญิงสาวเป็นลูกสาวคนโตของบ้าน มีน้องชายที่กำลังศึกษาต่ออยู่เมืองนอก นาน ๆ ถึงจะกลับมาบ้านสักที ส่วนแม่นั้นเสียไปตั้งแต่เธออายุได้เพียงสิบห้าปีเท่านั้น "ผู้กองครับ หน่วยเก็บกู้ระเบิดอีกชุดหนึ่งกำลังมาแล้วครับ" ตำรวจนายหนึ่งเข้ามารายงานเธออย่างเร่งรีบ ซึ่งเธอก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ เธอสังเกตจากสถานการณ์แล้ว คนร้ายจงใจที่จะระเบิดที่นี่ 'คิดจะสังหารหมู่สินะ แต่ถ้านี้เป็นกับดักละ' เธอครุ่นคิดอยู่คนเดียว แต่แล้วเธอกลับเดาความคิดของคนร้ายออก 'แย่แล้ว จะทำให้คนอื่นแตกตื่นไม่ได้' "สั่งทุกหน่วยให้ออกห่างจากตรงนั้น ฉันจะเข้าไปสำรวจข้างใน ว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่" เธอพูดขึ้น แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะหันไปสั่งลูกน้องของตนให้ทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด "บอกทุกคน ห้ามทำอะไรโดยพลการจนกว่าหน่วยเก็บกู้ระเบิดจะมา เข้าใจที่สั่งไหม!!" "ครับผู้กอง" หลังจากสั่งการเรียบร้อย เธอก็เดินเข้าไปในตัวอาคาร ในความคิดของเธอ มันเป็นไปไม่ได้ที่จู่ ๆ พวกมันจะวางระเบิดไว้โจ่งแจ้งขนาดนั้น ถ้ามันคิดจะทำจริง ๆ ก็แสดงว่าด้านนอกเป็นแค่กับดัก คนที่มันต้องการสังหารก็คือเธอ "แย่แล้ว" บึ้ม ม ม!! ร่างของหญิงสาวถูกแรงระเบิดปะทะเข้าอย่างจัง โชคดีที่สามารถหนีรอดอกมาได้ แต่เธอก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ปัง! ปัง! ปัง! เสียงสาดกระสุนใส่สามนัดซ้อนจากทางด้านหลังทำให้เธอที่ไม่ทันระวังตัวเพราะไม่คิดว่าจะโดนลอบกัด อึก! เธอกัดฟันกรอดอย่างแค้นใจ เธอประมาทเอง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครกันที่กล้าลงมือสังหารเธอระยะเผาขนเช่นนี้ได้ ร่างของเธอล้มลงอย่างช้า ๆ ความรู้สึกช้าเข้ามาแทนที่ความรู้สึกเจ็บ อ่า... นี้เธอกำลังจะตายแล้วสินะ ฮึ! อย่างน้อยก็ยังภูมิใจที่ได้เกิดมารับใช้ชาติ เธอคิดในใจ "มันตายแล้วครับหัวหน้า" "ดี กำจัดเสี้ยมนามได้หนึ่งคน ต่อไปก็จะไม่มีใครมาขัดขวางงานของฉันได้อีก" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างโหดเหี้ยม พร้อมกับเดินมาดูผลงานของตัวเองที่ลงมือยิงผู้หญิงอย่างเลือดเย็น "ขอโทษด้วยนะผู้กองสาว ถ้ามึงไม่มาขัดขวางกู มึงก็คงไม่ตายอนาถแบบนี้หรอก" เอ่ยเสียงยิ้มเยาะเมื่อเห็นร่างของเธอนอนจมอยู่กับกองเลือด ก่อนจะเดินออกไปโดยไม่สนใจเธออีก แต่ใครจะไปรู้ว่า ความประมาทของมันจะฆ่าตัวมันเองเช่นกัน ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ... เสียงกระสุนสี่นัดซ้อนทะลุกะโหลกศีรษะของชายฉกรรจ์ทั้งสี่คนอย่างแม่นยำโดยที่มันไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ "ฮึ... ถ้าฉันจะตายก็ขอลากพวกแกไปลงนรกด้วยเลยละกัน อึก!!" เธอใช้แรงเฮือกสุดท้ายฝืนร่างกาย ยกปืนคู่ใจเล็งไปที่พวกมันอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เธอจะทรุดลงอีกครั้งพร้อม ๆ กับสติที่เลือนรางเต็มที "ธานิน ฝากดูแลคุณพ่อด้วยนะ" น้ำเสียงแผ่วเบาเอ่ยขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดลง หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอไม่รู้ว่าวิญญาณของเธออยู่ที่ไหน เพราะมันมืดและเงียบเหงามาก ตัวของเธอล่องลอยไปทั่ว จนกระทั่งพบแสงสว่างที่สอดส่องเข้ามา เธอหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนที่จะถูกดูดเข้าไปในแสงนั้นภายในชั่วพริบตา “เจ้าหมดอายุขัยที่โลกนั้นแล้ว ข้าจะส่งเจ้าไปอยู่อีกภพหนึ่ง เพื่อกลับไปแก้ไขสิ่งที่เคยทำผิดพลาดที่เจ้าทำไว้เมื่อภพชาติที่แล้ว” เสียงแก่ ๆ ของใครบางคนดังขึ้น เธอหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาต้นเสียงที่ดังขึ้น "ท่านเป็นใคร? หรือจะเป็นท่านพญายมมารับตัวข้าไปชดใช้กรรม" เหมยเซียนตะโกนถามเสียงดัง "ข้ามิใช่พญายม แต่ข้าคือผู้กุมชะตาของเจ้าเมื่อชาติภพที่แล้ว" "หมายความว่ายังไงข้าไม่เข้าใจ" หญิงสาวยังคงถามกลับ เพราะเธอยังคงไม่เข้าใจกับสิ่งที่เสียงปริศนานั้นพยายามจะบอกอะไรกับเธอ “ข้าจะส่งเจ้ากลับไปยังอดีตที่เจ้าเคยจากมา เพื่อให้เจ้าได้กลับไปแก้ไขอดีตที่เคยผิดพลาดของตัวเจ้าเอง นับจากนี้ไป ชะตาชีวิตเป็นของเจ้าแล้ว” เมื่อสิ้นสุดเสียงคำพูดก็เกิดแสงสว่างขึ้นวูบหนึ่ง พร้อม ๆ กับสติของเธอที่ค่อย ๆ ดับลงเช่นกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD