เทียนไขถูกม่านเมฆลากเดินมาตามทางจนถึงข้างในห้อง แล้วเขาก็โยนเธอลงบนเตียงนอนเต็มแรง โดยที่ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเธอจะเจ็บหรือเปล่า
“คุณเมฆ จะทำอะไรคะ” เทียนไขเอ่ยถามเสียงสั่นเครือ พร้อมกับถอยร่นไปจนสุดหัวเตียง วันนี้ม่านหมอกไม่อยู่ ทำให้เธอรู้สึกได้ว่าตัวเองไม่ปลอดภัย
“เธอคิดว่าคนเป็นผัวเป็นเมียกัน อยู่ด้วยกันในห้องสองต่อสอง จะต้องทำอะไรดีล่ะ”
“แต่เทียนไม่ได้เป็นเมียคุณเมฆนะคะ” เสียงหวานเถียงกลับอย่างไม่ยอม สถานะเขากับเธอนี่เหรอที่จะเรียกว่าผัวเมีย มันไม่ได้ใกล้เคียงสักนิด
“ฉันเอาเธอแล้ว และเธอก็เป็นของฉัน ฉันจะเรียกเธอว่าอะไรก็ได้” ร่างสูงเดินตรงเข้ามาหา มือสองข้างก็ปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ดจนหมด
“คุณเมฆ เทียนไหว้ล่ะ ไม่ทำนะคะ เทียนไม่อยากทำ เทียนเจ็บ”
“เจ็บ? แต่คราวนั้นฉันได้ยินแต่เสียงเธอครางนะ” น้ำเสียงของเขาฟังดูเย้ยหยัน ครั้งแรกของเธอนั้นมันเจ็บ แต่ร่างกายไม่รักดีกลับปฏิเสธไม่ได้ว่าเคลิบเคลิ้มไปกับเขา
“คุณเมฆ ถ้าเทียนทำอะไรให้คุณเมฆโกรธ เทียนขอโทษ อย่าทำอะไรเทียนเลยนะคะ” เสียงหวานสั่นเครือเอ่ยขอร้องพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้คนตรงหน้า
“ถ้ารู้ว่าฉันโกรธ เธอก็ต้องทำตัวดี ๆ ไถ่โทษ รู้ใช่ไหม ง่ายนิดเดียว แค่นอนให้ฉันกระแทกแล้วก็ครางเสียงดัง ๆ ก็พอ”
เห็นใบหน้าที่เหมือนตุ๊กตาของเทียนไข มันทำให้ม่านเมฆห้ามใจแทบไม่ไหว ยิ่งคิดถึงตอนที่เธอครางเสียงแผ่ว ยิ่งกระตุ้นให้เขาอยากจะได้เธอมากขึ้นเรื่อย ๆ
คนตัวโตขึ้นมาคร่อมร่างบางเอาไว้โดยที่เธอไม่มีทางหนี เทียนไขได้แต่เบนหน้าหลบสายตา หัวใจไม่รักดีเต้นรัวเร็วอยู่ข้างใน ยิ่งได้เห็นสายตาของเขาที่มองมา ก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกแปลกอยู่ในร่างกาย
“เป็นเด็กดี แล้วฉันจะทำเบา ๆ”
จมูกคมซุกลงตรงซอกคอขาว ไออุ่นจากลมหายใจรินรดผิวเนียน เทียนไขนอนนิ่ง ๆ ให้เขากระทำได้ตามใจชอบ ถึงดื้อรั้นไปก็มีแต่จะทำให้เจ็บตัวเปล่า ๆ
ม่านเมฆละจากซอกคอ หยัดกายขึ้นมามองดูหญิงสาวที่ตอนนี้หลับตาพริ้มอยู่ใต้ร่างตัวเอง นิ้วยาวเกลี่ยไปตามริมฝีปากสีชมพูระเรื่อเบา ๆ ก่อนที่จะทาบทับริมฝีปากของตัวเองลงไป
ปลายลิ้นร้อนแทรกเข้ามากวาดต้อนเรียวลิ้นข้างใน ดูดดึงเอาแต่ใจจนเทียนไขต้องยกมือผลักอกเขาออก
“ทะ เทียน หายใจไม่ทัน” เธอเอ่ยบอก แล้วก็หลบสายตามองไปทางอื่น
ม่านเมฆปล่อยให้เธอได้พักหายใจเพียงชั่วครู่ แล้วริมฝีปากหยักก็กดจูบลงไปใหม่ คราวนี้จูบของเขามันหนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม เทียนไขพยายามจะผลักเขาออก แต่ก็ไม่เป็นผล
คนตัวเล็กได้แต่ส่งเสียงอื้ออึงประท้วงอยู่ในลำคอ แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าม่านเมฆจะหยุดเลยสักนิด
ฝ่ามือหนาไล้ต่ำสอดแทรกเข้าไปใต้กระโปรงเดรสสีหวาน เขาไล้ฝ่ามือลูบวนอยู่ตรงเนินเนียนที่ยังมีแพนตี้ตัวบางกั้นเอาไว้อยู่ มืออีกข้างก็ปลดกระดุมเสื้อด้านบนของเธอออกจนหมด หน้าอกขาวอวบอัดเต็มไม้เต็มมือล่อตาล่อใจ
“อ้าออกกว้าง ๆ” เขาออกคำสั่ง เมื่อเรียวขาหนีบเข้าหากันเพราะโดนเขาสัมผัส
“แต่ว่า...” ยังไม่ทันที่จะได้อธิบายอะไรต่อ ม่านเมฆก็แทรกตัวเองเข้ามาตรงกลาง ทำให้ขาเรียวจำต้องแยกจากกันโดยอัตโนมัติ
“อย่าขัดใจ ถ้าเธอไม่อยากเจ็บตัว”
ม่านเมฆถลกกระโปรงขึ้นไปกองไว้ที่เอว ถอดแพนตี้ตัวจิ๋วออกไปให้พ้นทาง แล้วยกก้นกลมมาเกยไว้กับหน้าขาแกร่ง นิ้วยาวลากผ่านร่องน้ำหวานช้า ๆ แล้วสะกิดลงตรงติ่งเกสร ก่อนที่จะดันนิ้วเข้าไปข้างใน
เทียนไขได้แต่หลับตา เบนหน้าไปทางอื่น ไอ้ท่าทางน่าอายแบบนี้ ทำให้เธอไม่กล้ามองหน้าเขา นิ้วยาวขยับเข้าออกเชื่องช้า ความรู้สึกหวามไหวแผ่ซ่านไปทั่วร่าง
“อื้อ คุณเมฆ” เสียงเรียกแผ่วเบาจากเธอ ทำให้ม่านเมฆหยักยิ้มอย่างพอใจ
จากเนิบนาบ นิ้วของเขาก็เพิ่มความเร็วมากขึ้น จากหนึ่งนิ้ว เขาก็ใส่เพิ่มเขาไปเป็นสอง น้ำหวานสีใสไหลเคลือบนิ้วแข็งที่ขยับเข้าออกไม่หยุด มืออีกข้างก็บีบขยำเต้าอวบทั้งที่ยังมีบราลูกไม้ปกปิดอยู่
“ความรู้สึกไวเหมือนกันนี่ ทำแป๊บเดียวยังเปียกขนาดนี้” คำพูดจาลามกยิ่งทำให้เทียนไขหลับตาปี๋ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันรู้สึกดี
จากที่บีบขยำผ่านบรา ดูเหมือนว่ามันจะไม่ถึงใจ ม่านเมฆดึงบราตัวจิ๋วลงมากองอยู่ใต้เต้าอวบ แล้วก็บีบขยำอย่างเอาแต่ใจ เนื้อเนียนล้นออกตามร่องนิ้ว ปลายนิ้วโป้งบดบี้ลงบนเม็ดทับทิมที่แข็งเป็นไต
มือของเขาทำงานสอดประสานกันทั้งบนและล่างอย่างช่ำชอง ทำเอาเทียนไขแทบจะกลั้นเสียงตัวเองเอาไว้ไม่ไหว จนต้องยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้
“หึ ดูสิว่าเธอจะทนได้นานแค่ไหน ถึงจะยอมคราง”
แจะ
แจะ
ม่านเมฆงอข้อนิ้วครูดกับผนังข้างใน แล้วชักเข้าออกระรัวเร็วจนเกิดเสียงน้ำหวานฉ่ำแฉะฟังดูลามก ปลายนิ้วสะกิดลงตรงจุดอ่อนไหวข้างในซ้ำ ๆ ร่างเล็กดิ้นเร่า อยากจะหุบขาเข้ามา แต่ก็ติดที่มีเขานั่งแทรกอยู่ตรงกลาง
“อ๊า คุณเมฆ”
เสียงครางหวานดังระงม เมื่อเธอทนต่อความซ่านสยิวที่เขากระทำให้ไม่ไหว ความรู้สึกซาบซ่านวิ่งผ่านร่างจนมารวมอยู่ที่จุดกลางลำตัว
ร่างเล็กเกร็งกระตุก ความรู้สึกวูบโหวงเบาเหมือนลอยได้ ก่อนที่จะทิ้งตัวหอบเหนื่อย พร้อมกันกับเขาที่หยุดขยับนิ้วยาว
นิ้วที่ถูกเคลือบไว้ด้วยน้ำหวานสีใสฉ่ำเยิ้มถูกถอนออกจากร่องรัก ม่านเมฆยกมันขึ้นมาดูด้วยความพอใจ ก่อนที่จะส่งเข้าปากตัวเอง ดูดกินทุกหยดที่เปื้อนอยู่จนหมด
“พะ พอ หรือยังคะคุณเมฆ” เสียงหวานละล่ำละลักถาม เมื่อเขาได้แกล้งเธอสมใจแล้ว
“พอ? จะพอได้ยังไง ฉันยังไม่ได้ระบายอารมณ์เลยสักน้ำ”
ม่านเมฆถอดชุดเดรสที่แสนเกะกะของเธอออก ตามมาด้วยบราลูกไม้ จนตอนนี้เทียนไขไร้ซึ่งอาภรณ์ห่อหุ้มร่างกาย
“ทำเบา ๆ ได้ไหมคะ เทียนกลัว แล้วคุณเมฆช่วยใส่ถุงยางอนามัยได้หรือเปล่าคะ เทียนไม่อยากกินยาคุมฉุกเฉินแล้ว คุณเภสัชกรบอกว่ากินบ่อย ๆ ไม่ดีต่อร่างกายค่ะ”
รู้ตัวแล้วว่ายังไงคงหนีไม่พ้น เทียนไขจึงลองเอ่ยขอเขาดูสักครั้ง เผื่อว่าม่านเมฆจะใจดีกับเธอบ้าง
“ฟังนะเทียนไข ฉันจะทำเบา ๆ หรือจะกระแทกเธอแรง ๆ ยังไงก็ได้ แล้วแต่อารมณ์ของฉัน ส่วนเรื่องถุงยาง เธอลืมไปได้เลย เพราะฉันไม่ชอบใส่”
ใบหน้าสวยเจื่อนลงเมื่อเขาปฏิเสธคำขอ ความจริงแล้วม่านเมฆมีถุงยางอนามัยเตรียมพร้อมเสมอ แต่สำหรับเทียนไข เธอคือข้อยกเว้น
กางเกงยีนส์ขายาวถูกเขาถอดออกจากตัวเอง ท่อนลำแข็งชี้ตรงเข้าหาคนใต้ร่าง
“ทำตัวดี ๆ ให้ฉันระบายอารมณ์สักสองสามน้ำ แล้วฉันจะไม่หาเรื่องเธออีก”
ขาเรียวเล็กถูกจับอ้าออกกว้าง เทียนไขได้แต่หลับตา ริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่น เมื่อรู้สึกได้ถึงส่วนแข็งขืนถูไถอยู่ปากทางเข้าที่เปียกชื้น
ปลายหัวหยักดันเข้าข้างในช้า ๆ ม่านเมฆพยายามควบคุมอารมณ์ที่พลุ่งพล่านอยู่ข้างในเอาไว้ แต่ก็กดไม่อยู่ เอวสอบกระแทกแรงดันเข้าไปจนสุด
“เจ็บ เทียนเจ็บ” ฝ่ามือเล็กยันหน้าท้องที่เต็มไปด้วยลอนกล้ามเอาไว้ “คุณเมฆ เบา ๆ หน่อยค่ะ”
แต่เขาก็ไม่ฟังเธอเลยสักนิด แรงกระหน่ำถาโถมเข้าใส่คนใต้ร่างไม่หยุด นัยน์ตาคมจ้องมองหญิงสาวที่กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะของตัวเอง ความรู้สึกมากมายตีวนอยู่ในหัว
ม่านเมฆโน้มตัวลง สอดมือไว้ใต้แผ่นหลังขาวเนียน ดันเต้าอวบให้ขึ้นมาอยู่ระดับพอดี เรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดดูดดึงเม็ดทับทิมที่แข็งเป็นไต การกระทำของเขาทำเอาเทียนไขปั่นป่วนไปทั่วทั้งตัว
“อ๊ะ คุณเมฆ”
เสียงหวานเริ่มกระเส่า เมื่อความซ่านสยิวปะทุมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเผลอเรียกชื่อของอีกฝ่าย
“เรียกพี่เมฆ เหมือนที่เรียกไอ้ขุน” เขาออกคำสั่งทั้งที่ยังกระทุ้งแรงตอกเข้าหาเธอไม่หยุด
“พะ พี่เมฆ” เสียงนั้นลอดออกมาเพียงเบา ๆ พร้อมกับที่เทียนไขเปิดเปลือกตาขึ้นมามองคนตรงหน้า
ใบหน้าคมฉาบไปด้วยเหงื่อ แต่สายตาของเขานั้นดูอ่อนโยนลง
“พี่เมฆ” เทียนไขเรียกเขาอีกครั้ง สองมือเล็กยกขึ้นมาประคองใบหน้าเขาเอาไว้ นานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ได้เห็นสายตาแบบนี้ สายตาของพี่เมฆที่แสนใจดี
“เทียน” เสียงทุ้มเปล่งเรียกอีกฝ่ายอยู่ในลำคอ ม่านเมฆดึงเทียนไขให้ลุกขึ้นนั่งทั้งที่สะโพกแกร่งยังทำงานอย่างต่อเนื่อง
ฝ่ามือหนากดศีรษะคนตัวเล็กให้ใบหน้าใกล้ชิดกันมากขึ้น แล้วกดจูบลงบนรีมฝีปากสีชมพูระเรื่อ เรียวลิ้นสอดลึกดูดดึงอยู่กับปลายลิ้นเล็ก ป้อนจูบหนักหน่วงเข้าหาเธอซ้ำ ๆ
เทียนไขยกมือขึ้นคล้องคออีกฝ่าย พร้อมกับที่เขาเองก็กอดรัดแผ่นหลังเธอเอาไว้แน่น แม้จะยังไม่ชิน แต่มันก็รู้สึกดีกว่าครั้งแรกที่เขารังแกเธอ
“พี่เมฆ เทียน..” ความรู้สึกบางอย่างตีรวนอยู่ในร่างกาย ทุกส่วนเริ่มเกร็ง นิ้วเรียวจิกลงบนแผ่นหลังคนตัวโต เหมือนเขาจะรู้ว่าเธอใกล้จะถึงฝั่งเต็มที
มือหนาจับกระชับเอวคอดไว้แน่น ออกแรงแทงสวนเข้าหาซ้ำ ๆ เสียงครางหวานดังก้องอยู่ในห้องนอน ความร้อนเร่าที่พุ่งเข้าหา เหมือนกับเปลวเพลิงที่กำลังจะเผาเธอให้หลอมละลาย
“อ๊า..” เสียงหวานหวีดดังความซ่านเสียวแผ่กระจายไปทั่วร่าง พร้อมกับความรู้สึกเบาโหวงในร่างกาย และมันก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เมื่อม่านเมฆยังไม่ยอมหยุดขยับแก่นกาย
“ซี้ด อา..” เขากดเอวเธอให้ร่องรักแนบกับแท่งร้อน แล้วลาวาอุ่นก็ฉีดพุ่งเข้าข้างใน
เทียนไขฟุบหน้าลงกับลาดไหล่กว้าง ลมหายใจหอบเหนื่อยราวกับจะตายเสียให้ได้ ม่านเมฆยังกอดเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
“คุณเมฆ” ใบหน้าสวยเงยขึ้นมองอีกฝ่าย “ถ้าเสร็จแล้วก็ปล่อยเทียนเถอะค่ะ”
ได้ยินแบบนั้น ม่านเมฆจึงยอมคลายอ้อมกอดของตัวเอง ดึงแก่นกายร้อนที่เพิ่งปลดปล่อยไปหมาด ๆ ออกจากร่างกายของเธอ
“ฉันให้เวลาเธอพักแค่ห้านาที”
“แต่..เทียนไม่ไหว ตรงนั้นเทียนเจ็บ”
ถึงมันจะรู้สึกดีไม่น้อย แต่ขนาดร่างกายของเขานั้นเล็กเสียเมื่อไหร่ โดนเขากระแทกแรง ๆ ติด ๆ กัน แค่รอบเดียวก็บวมช้ำแล้ว
“อย่าสำออย โดนแค่นี้มันไม่ตายหรอก”
////////////////////////////////////////////