เทียนไขนั่งเงียบอยู่ข้างคนขับ รถยุโรปราคาแพงแล่นไปตามท้องถนนด้วยความเร็ว เธอรู้สึกว่า อีกนิดเดียวรถคันนี้ก็น่าจะบินได้แล้ว ภายนอก ม่านเมฆดูเป็นคนอบอุ่น แต่ความจริงใครจะรู้ว่าเขาซ่อนความร้ายกาจเอาไว้แค่ไหน และในตอนนี้มีแต่เธอเท่านั้นที่รู้
“เราจะไปไหนกันคะคุณเมฆ” เทียนไขตัดสินใจเอ่ยถาม เพราะตั้งแต่ขึ้นรถมาเขาก็ไม่ยอมบอกอะไรเลยสักอย่าง
“ไปสวนสนุก” เขาตอบแล้วก็เงียบไป
“ไปสวนสนุกเหรอคะ”
“หูก็ไม่ได้หนวก จะถามซ้ำทำไมหนักหนา” แล้วเธอก็โดนเขาว่าอีกจนได้
แต่ไหนแต่ไรเทียนไขไม่ชอบไปสวนสนุก เธอไม่ชอบเครื่องเล่นหวาดเสียวพวกนั้น และโดยเฉพาะบ้านผีสิง ตอนเด็ก ๆ เคยตามม่านเมฆไปครั้งหนึ่ง ในตอนนั้นเธอร้องไห้จนตาบวมเพราะกลัวผีที่อยู่ในบ้านผีสิง
เขาคงหาเรื่องแกล้งเธออีกแล้วแน่ ๆ
ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมง รถของม่านเมฆก็มาถึงสวนสนุกชื่อดัง ที่มีเครื่องเล่นสารพัดชนิด ตั้งแต่ชิงช้าสวรรค์ รถไฟเหาะ เรือไวกิ้ง และอีกมากมาย
ผู้ชายตัวสูงยังคงไม่พูดอะไร เอาแต่เดินตรงไปข้างหน้าเรื่อย ๆ ขายาวก้าวเร็วขึ้น โดยที่ไม่สนใจสักนิดว่าคนขาสั้นอย่างเธอจะตามทันหรือเปล่า ขนาดแทบจะวิ่งตามแล้วก็ดูเหมือนยังช้าอยู่ดี
“เมฆ ทางนี้ ๆ” เสียงใสเรียกเขาดังมาแต่ไกล เทียนไขมองไปตามเสียงนั้นก็เห็นลูกพีชยืนโบกไม้โบกมืออยู่ข้างหน้า แล้วก็มีขุนเขาเพื่อนของม่านเมฆยืนอยู่ข้างกัน
“มาถึงนานหรือยังพีช แล้วนี่ ไอ้ขุน มึงมาได้ยังไง”
ม่านเมฆเอ่ยถามเพื่อนทั้งสองคน ส่วนเทียนไขได้แต่ยืนดูอยู่เงียบ ๆ ดูเหมือนว่าตอนแรกเขาคงนัดกับเพื่อนผู้หญิงแค่นั้น ถึงได้ดูแปลกใจที่เห็นเพื่อนอีกคน
“พอดีกูโทรหาพีช พีชบอกว่านัดกับมึงมาสวนสนุก กูก็เลยตามมาด้วย มึงนี่ก็เหลือเกินนะ จะมาเที่ยวกันก็ไม่ยอมชวนกู ทำไม กลัวกูมาเป็นก้างขวางคอพวกมึงหรือไง”
ขุนเขาตอบพร้อมกับได้ทีบ่นเพื่อนยาวเหยียด แต่สายตาของเขากลับมองเลยมายังด้านหลังของม่านเมฆ ที่มีหญิงสาวหน้าตาน่ารักยืนอยู่
“สวัสดีครับน้องเทียน วันนี้แต่งตัวน่ารักจังเลยนะครับ” ชายหนุ่มตัวสูงผมสีทองเพราะเป็นลูกครึ่งพูดขึ้น พร้อมกับส่งยิ้มละมุนให้เทียนไขที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูหลายดอกไม้น่ารัก
“สวัสดีค่ะพี่ขุน ขอบคุณนะคะ แต่ดูเหมือนเทียนจะแต่งตัวไม่ค่อยเข้ากับสถานที่เท่าไหร่” เสียงหวานตอบออกไป ก็คนพามาไม่ยอมบอกว่าจะมาสวนสนุก อย่างน้อย ๆ เธอก็คงจะได้เปลี่ยนเป็นใส่กางเกงขายาวมาแทน
บทสนทนาระหว่างเทียนไขและขุนเขา ถูกสายตาคมของม่านเมฆจ้องอยู่ไม่วางตา จู่ ๆ ก็รู้สึกหงุดหงิดที่เห็นเธอส่งยิ้มให้เพื่อนตัวเอง
“คุยกันเสร็จยัง ไปเล่นกันเถอะ” ม่านเมฆพูดขึ้นพร้อมกับเดินขึ้นไปขนาบคู่กับลูกพีช ทิ้งให้เทียนไขเดินรั้งท้าย เห็นแบบนั้น ขุนเขาจึงเดินช้าลงเพื่อจะได้เดินเป็นเพื่อนเธอ
“เอ่อ เทียนไม่เล่นได้ไหมคะ พอดีเทียนไม่ชอบอะไรแบบนี้น่ะค่ะ” เทียนไขพูดขึ้น ทำให้ม่านเมฆที่เดินอยู่ชะงักฝีเท้าทันที
“ก็ตามใจ จะนั่งรอตรงไหนก็ดูดี ๆ หลงทางขึ้นมาลำบากต้องตามหาอีก” เขาพูดเพียงแค่นั้นแล้วก็เดินไป
เทียนไขมองตามแผ่นหลังกว้าง ขอบตาร้อนผ่าว ดูเหมือนน้ำตามันจะไหลออกมาเสียให้ได้ คนตัวเล็กพยายามเงยหน้ามองฟ้า กลั้นน้ำตาแห่งความน้อยใจเอาไว้ข้างใน
“เฮ้ย! ถ้างั้นกูอยู่เป็นเพื่อนน้องมึงนะ”
พอได้ยินขุนเขาตะโกนมาบอก ม่านเมฆก็หันกลับมาดู ถึงจะรู้สึกว่าไม่พอใจมาก ๆ แต่ไม่อยากจะแสดงออกมา เขาคว้าข้อมือของลูกพีชเอาไว้แล้วเดินไปยังโซนเครื่องเล่นทันที
“น้องเทียนไม่ชอบที่แบบนี้ แล้วตามไอ้เมฆมาทำไมครับ” ผู้ชายที่ตัวสูงกว่าเธอหลายสิบเซนติเมตรก้มหน้าลงมาถาม
“เทียนไม่รู้ว่าคุณเมฆจะมาที่นี่ค่ะ คุณเมฆไม่ได้บอก” เทียนไขก้มหน้าก้มตาตอบ เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาต้องการอะไร อยากจะแกล้ง หรืออยากจะให้เธอเห็นว่าเขานัดกับผู้หญิงคนอื่น
“ถ้างั้น เราไปนั่งกินไอติมรอพวกนั้นทางโน้นดีกว่าไหม เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง” พอเงยขึ้นมามองหน้าของอีกฝ่าย รอยยิ้มอบอุ่นนั่นทำให้เธอยิ้มเล็ก ๆ ออกมาได้
“ก็ได้ค่ะ แต่เทียนกินเยอะนะคะ พี่ขุนเลี้ยงไหวหรือเปล่า”
“สบายมาก ตัวเล็กแค่นี้จะกินสักแค่ไหนเชียว”
ขุนเขาตอบ แล้วก็คว้าเอาข้อมือเล็กจูงให้เดินตามตัวเองไปด้วย ซึ่งเทียนไขเองก็ไม่รู้สึกรังเกียจ แต่เธอกลับรู้สึกว่า เหมือนมีพี่ชายตัวโตคอยปกป้องเพิ่มอีกคน
ขุนเขาเป็นลูกชายเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่อันดับต้น ๆ ของประเทศ เมื่อก่อน เทียนไขเคยเจอเขาอยู่บ้างตอนที่มาหาม่านเมฆที่บ้าน เพราะทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม
“เทียนอยากกินรสอะไร”
“เทียนขอเป็นรสสตรอเบอร์รี่นะคะ”
“สมกับเป็นเทียนไข เด็กผู้หญิงที่ชอบแต่สีชมพู”
คนตัวโตเอ่ยแซว เมื่อก่อน เวลาที่ไปหาม่านเมฆที่บ้าน ขุนเขามักจะเห็นเทียนไขช่วยแม่บ้านทำนู่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา และทุกครั้ง เธอก็จะสวมชุดสีชมพู เขาชอบเธอมาตั้งนานแล้ว แต่ว่า ไต้ฝุ่น พ่อของม่านเมฆ และอาพัด หวงเทียนไขมาก ทำให้ไม่กล้าจีบตรง ๆ แต่ตอนนี้คงต้องจริงจังสักที
“อร่อยไหมเทียน”
“อร่อยค่ะพี่ขุน” คนตัวเล็กที่ได้กินของถูกใจฉีกยิ้มกว้างจนเห็นฟันแทบจะครบทุกซี่ ยิ่งมองก็ยิ่งน่ารัก
แต่คงไม่ใช่กับชายหนุ่มที่กำลังเดินดุ่ม ๆ กลับมาทางพวกเขาสองคน ที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเห็นผู้หญิงของตัวเองกำลังยิ้มกว้างและคุยกับเพื่อนตัวเองอย่างสนุกสนาน
“อ้าว ทำไมพวกมึงเล่นเสร็จเร็วจังวะ กูกับน้องเทียนยังกินไอติมไม่เสร็จเลย” ขุนเขาเอ่ยทัก เมื่อเพื่อนทั้งสองคนกลับมาเร็วกว่าที่คิด
“ก็เมฆอะดิ จู่ ๆ ก็บอกว่ามีธุระด่วน ต้องรีบกลับไปช่วยพ่อทำงาน” ลูกพีชพูดขึ้น สีหน้าดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่
“เราขอโทษนะพีช เอาไว้วันหลังเราค่อยพามาเล่นใหม่” มือหนายกขึ้นลูบหัวไหล่เพื่อนสาวคล้ายกำลังง้อคนที่กำลังโกรธ การกระทำของเขา อยู่ในสายตาของเทียนไขทุกอย่าง
“กินเสร็จหรือยัง จะได้กลับสักที”
“ไอ้เมฆ มึงจะรีบไปไหนวะ เทียนเพิ่งกินไม่กี่คำเอง หรือถ้ารีบมาก มึงก็กลับไปก่อนเลย เดี๋ยวกูไปส่งเทียนเอง” ขุนเขาเอ่ยบอกเพื่อน
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ขุน เทียนอิ่มแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะ เอาไว้เทียนเลี้ยงคืนวันหลังนะ” เทียนไขรีบพูดแทรก เธอไม่อยากทำให้ม่านเมฆหงุดหงิดไปมากกว่านี้ ไม่อย่างนั้น ความซวยอาจจะตกมาที่เธอ
แต่เทียนไขคงไม่รู้ว่า การที่ตัวเองพูดกับขุนเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม นั่นกำลังทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย
/////
ทุกคนแยกย้ายกันกลับ และก็เหมือนเดิมกับทุกครั้ง ภายในรถของม่านเมฆยังคงไร้เสียงพูดคุย มีเพียงเสียงเพลงที่เปิดคลอเอาไว้เบาๆ
“ดูเหมือนเธอจะถูกใจไอ้ขุนมากนะ”
แล้วความเงียบก็ถูกทำลายลง ด้วยน้ำเสียงของคนขับ ที่ฟังดูแล้วเหมือนกำลังไม่พอใจอะไรสักอย่าง
“ค่ะ พี่ขุนนิสัยน่ารัก” ระหว่างที่ตอบ ใบหน้าหวานก็คลี่ยิ้มบาง จนทำเอาคนที่อยู่ข้าง ๆ รู้สึกไม่พอใจยิ่งกว่าเดิม
“พี่ขุน หึ กับเพื่อนฉันล่ะเรียกพี่ ทำไม หรืออยากจะได้มันเป็นผัวเพิ่มอีกคน” เทียนไขหันขวับไปมองม่านเมฆ เธอกำลังโดนเขาหาเรื่องอยู่
“คุณเมฆอย่ามาหาเรื่องเทียนนะคะ เทียนก็แค่พูดไปตามความจริง พี่ขุนนิสัยน่ารัก ไม่ได้ใจร้ายเหมือนคุณเมฆที่คิดอยากจะแกล้งเทียน พามาสวนสนุกทั้งที่รู้ว่าเทียนไม่ชอบ”
ยิ่งได้ยินเธอบอกว่าคนอื่นดีกว่าตัวเอง ก็ยิ่งทำให้ผู้ชายตัวโตเหยียบคันเร่งของรถแรงขึ้น
“ใจร้ายเหรอ แล้วเธอจะรู้ว่าฉันใจร้ายได้มากกว่านี้อีกเทียนไข”
////////////////////////////////////////////
อย่าลืมกดใจ กดคอมเม้น ป้ายยาต่อเพื่อเป็นกำลังใจให้ไรท์ตัวน้อย ๆ ด้วยน้าาา จะรีบอัพให้จนจบค่า