ตอนที่ 2 เพื่อนใหม่

1743 Words
หญิงสาวตัวเล็กน่ารักกำลังยืนหมุนตัวอยู่หน้ากระจก สำรวจชุดนักศึกษาว่าเรียบร้อยดีหรือยัง วันนี้เปิดเทอมวันแรก เทียนไขอยากจะแต่งตัวให้เรียบร้อยถูกกฎระเบียบมากที่สุด กระโปรงพลีทความยาวคลุมเข่ากับเสื้อนักศึกษาขนาดพอดีตัว ไม่รัดแน่นและไม่หลวมจนเกินไป แต่ระหว่างที่ตรวจดูความเรียบร้อยของตัวเอง ก็มีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น มันจะเป็นใครไปได้ถ้าไม่ใช่เขาคนนั้น “แต่งตัวเสร็จหรือยัง จะแต่งอะไรนานหนักหนา ไปเรียน ไม่ได้ไปอ่อยผู้ชาย ไม่ต้องละเมียดละไมขนาดนั้นก็ได้” ทันทีที่เธอเปิดประตู ผู้ชายที่ยืนอยู่ด้านหน้าก็เอาแต่ตำหนิเธอไม่หยุด “แล้วคุณเมฆมีธุระอะไรกับเทียนแต่เช้าคะ” เสียงหวานเอ่ยถามออกไป นับวันม่านเมฆก็ขยันหาเรื่องเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ ดีหน่อย ตั้งแต่ครั้งนั้นที่เขารังแกเธอ ม่านหมอกก็ไม่เคยปล่อยให้เทียนไขอยู่ตามลำพังกับม่านเมฆอีกเลย “ฉันเป็นผัวเธอ ต้องมีธุระด้วยเหรอถึงจะเจอเธอได้” “คุณเมฆ อย่ามาพูดจาแบบนี้นะคะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันค่ะ” “ทำไม หรือจะให้ทบทวนว่าฉันเป็นผัวเธอยังไง” ร่างสูงขยับเข้ามาประชิด ทำให้เทียนไขก้าวถอยหลังเข้าไปในห้องอัตโนมัติ “แต่งตัวเสร็จหรือยัง จะไปไหมมหา’ลัยน่ะ” “เสร็จแล้วค่ะ เดี๋ยวเทียนนั่งแท็กซี่ไปเอง” คนตัวเล็กหยิบกระเป๋าสะพายและกระเป๋าหนังสือขึ้นมา พร้อมกับพยายามเดินเลี่ยงไปอีกด้านของประตู แต่ม่านเมฆก็เขยิบมาขวางเอาไว้อีก “นี่เธอจะหาเรื่องให้พ่อด่าฉันหรือไง เดินตามมาเร็ว ๆ ไปด้วยกันนี่แหละ แต่ถ้าขืนเธอชักช้าทำฉันไปเรียนสาย ฉันจะลงโทษเธอ” ม่านเมฆพูดขึ้นแล้วก็เดินนำหน้าออกจากห้องไป เทียนไขจำยอมเดินตามคำสั่งของเขาไปขึ้นรถยุโรปราคาแพงที่จอดอยู่ เพราะเธอเองก็ไม่อยากเป็นตัวต้นเรื่องให้คุณท่านที่เป็นคนส่งเสียเธอเรียนไม่สบายใจ “ฉันไม่ใช่คนขับรถของเธอนะ มานั่งข้างหน้านี่” คนตัวโตดุเธออีกครั้ง เมื่อเทียนไขเปิดประตูเข้าไปนั่งยังเบาะหลัง และเป็นอีกครั้งที่เธอจำใจต้องย้ายมานั่งเบาะหน้าคู่กันกับเขา รถสีควันบุหรี่ขับตามท้องถนนมาเรื่อย ๆ มุ่งหน้าไปยังมหาวิทยาลัยนานาชาติชื่อดัง ภายในรถไร้เสียงพูดคุย มีเพียงเสียงเพลงที่ม่านเมฆเปิดเอาไว้เบา ๆ ดังอยู่ตลอดทางจนมาถึงที่หมาย “เดี๋ยว” “คุณเมฆมีอะไรอีกคะ” เทียนไขถามขึ้นเมื่อกำลังจะเปิดประตูลงจากรถ แต่ม่านเมฆก็เรียกเอาไว้ “ถ้าใครถามว่าเธอเป็นอะไรกับฉัน ก็ให้บอกว่าเป็นน้องสาวแค่นั้น จำเอาไว้ด้วย” ดูเหมือนว่าผู้ชายใจดำคนนี้คงจะกลัวใครต่อใครรู้ว่าตัวเองทำอะไรไว้กับเธอสินะ “คุณเมฆไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ เทียนจะบอกกับทุกคนที่ถาม ว่าเทียนเป็นแค่หลานคนรับใช้ พอใจหรือยังคะ แล้วอีกอย่าง เทียนก็ไม่ได้อยากจะเป็นอะไรกับคุณเมฆหรอกค่ะ” เทียนไขตอบกลับเพียงแค่นั้นแล้วก็เปิดประตูลงจากรถไปทันที นัยน์ตาสีน้ำตาลมองตามร่างบางที่เดินเข้าไปยังตึกเรียนด้วยความเจ็บใจ ฝ่ามือหนาฟาดลงกับพวงมาลัยรถ จู่ ๆ ก็รู้สึกหงุดหงิดเมื่อได้ยินว่าเธอไม่อยากเป็นอะไรกับตัวเอง ///// เทียนไขเข้ามานั่งอยู่ในห้องเรียนเงียบ ๆ เพียงคนเดียว เธอยังไม่รู้จักใครสักคน ตอนนี้ในห้องก็เริ่มมีคนทยอยเข้ามาเยอะแล้ว “นี่ ๆ เธอชื่ออะไรเหรอ” เสียงเล็ก ๆ ของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น เทียนไขจึงเงยหน้าขึ้นดู “เราชื่อเทียนไข เรียกเทียนก็ได้ แล้วเธอล่ะ” “เราชื่อนับดาว เรียกนับเฉย ๆ ก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักนะ” นับดาว หญิงสาวที่ผูกผมหางม้าสูง ท่าทางคล่องแคล่วมั่นใจ เธอเผยยิ้มกว้างสดใสมาให้พร้อมกับนั่งลงข้าง ๆ เทียนไข “เทียนมีเพื่อนหรือยัง ถ้ายังไม่มีมาเป็นเพื่อนกันไหม” นับดาวถามขึ้นตรงไปตรงมา “อื้อ เอาสิ เทียนก็ไม่มีเพื่อนเหมือนกัน” เทียนไขตอบตกลงทันที นี่ถ้าไม่นับเรื่องที่โดนผู้ชายใจร้ายต่อว่าเมื่อเช้า ก็ถือว่าวันนี้เป็นวันที่ดีของเธออีกวันหนึ่งเลยก็ว่าได้ มาเรียนปุ๊บ ก็ได้เพื่อนใหม่ปั๊บ เปิดเทอมวันแรก อาจารย์ยังไม่ได้สอนอะไรมากมาย ส่วนมากก็แนะนำตัวและอธิบายสิ่งที่จะเรียนในแต่ละวิชาก็แค่นั้น จบคลาสในช่วงเช้า เทียนไขกับนับดาวก็เดินมายังโรงอาหารด้วยกัน ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยพร้อมกับมองหาที่ว่าง มีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องอยู่ตลอดเวลา “นั่นมันน้องเทียนไข น้องของไอ้เมฆนี่หว่า เมื่อเช้าเห็นไม่ชัดเท่าไหร่ พอมาเห็นตอนนี้ น่ารักฉิบหาย” ขุนเขา เพื่อนของม่านเมฆพูดขึ้น สายตาที่มองเทียนไขแฝงด้วยความหมายบางอย่าง และม่านเมฆก็รู้ดีว่าหมายถึงอะไร “คนนี้ไม่ได้ พ่อกูกับอาพัดหวงมาก ลองยุ่งดู มึงคงได้แดกลูกปืน” คนที่เขากล่าวอ้างก็ส่วนหนึ่ง แต่ความจริงคือรู้สึกไม่ชอบใจที่ใครต่อใครพยายามเข้ามาจีบผู้หญิงของตัวเอง คนตัวสูงลุกจากโต๊ะตัวเอง เดินดุ่ม ๆ ไปยังโต๊ะที่เทียนไขกับนับดาวนั่งอยู่ “นับ เป็นอะไร ลุกขึ้นทำไม” เทียนไขถามออกมาด้วยความสงสัย เมื่อจู่ ๆ เพื่อนใหม่ก็ลุกพรวดจากม้านั่ง แล้วจ้องมองไปยังด้านหลังของเธอด้วยความตกใจ “คุณเมฆ” เธอเอ่ยเรียกผู้ชายที่มายืนอยู่ด้านหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ “นับรู้จักคุณเมฆเหรอ” เห็นท่าทีของนับดาวแปลก ๆ เทียนไขจึงถามออกไป “ปะ เปล่า เผอิญว่าพี่เขาหน้าเหมือนคนรู้จักน่ะ” ม่านเมฆหรี่ตาคมสีน้ำตาลมองเพื่อนของเทียนไขอย่างสงสัย แต่ชื่อนับดาวก็คุ้น ๆ เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน “ตอนบ่ายไม่มีเรียนใช่ไหม รีบ ๆ กินเข้า ฉันจะกลับบ้านแล้ว” เสียงทุ้มเข้มออกคำสั่งอย่างเอาแต่ใจ ทั้งที่เทียนไขยังไม่ทันได้ตักข้าวเข้าปากเลยสักคำ “ถ้าคุณเมฆรีบ ก็กลับไปก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวเทียนกลับเองได้” คนตัวเล็กพูดแค่นั้นแล้วก็หันไปคุยกับเพื่อนใหม่ต่อ ทำม่านเมฆเริ่มไม่สบอารมณ์ที่เธอกล้าขัดคำสั่ง “ถ้าเธอยังไม่รีบกิน วันนี้ฉันจะทำตัวเป็นผัวเธอทั้งวันทั้งคืนไม่ให้พักเลย จะลองดูก็ได้นะ” ร่างสูงโน้มตัวลงมากระซิบข้างใบหูเล็กด้วยเสียงเข้ม ๆ จริงจัง เทียนไขได้แต่หันไปมองหน้าคนใจร้าย ปากบางเม้มเข้าหากันแน่น เจ็บใจที่เขามักเอาเรื่องนี้มาขู่เธอเสมอ คนโดนขู่ทำได้เพียงตักข้าวเข้าปากคำโต ๆ เพื่อจะได้หมดไว ๆ เธอไม่อยากจะโดนเขาทำแบบเดิมราวกับว่าเป็นเครื่องสนองตัณหาเหมือนคราวก่อน “เทียนกลับก่อนนะนับ เจอกันพรุ่งนี้นะ” “อื้ม ไว้เจอกันนะ” เทียนไขโบกมือให้เพื่อนเสร็จก็เดินตามม่านเมฆกลับมายังรถของเขาที่จอดเอาไว้ไม่ไกล “เทียน!” อีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงรถแล้ว ก็มีเสียงผู้ชายเรียกเธอเอาไว้ เทียนไขหันกลับไปมอง พร้อม ๆ กับผู้ชายตัวโตที่ทำหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด “เอ่อ..” “เราเฟิร์สไง เรียนอยู่ห้องเดียวกัน พอดีอาจารย์ฝากเราเอาใบงานมาแจกให้เพื่อนน่ะ เห็นหลังเทียนไว ๆ ก็เลยวิ่งตามมา” “อ๋อ ขอบใจมากนะเฟิร์ส” มือนุ่มยื่นไปรับแผ่นกระดาษที่เฟิร์สเอามาให้ แล้วก็รีบหมุนตัวกลับเดินมายังรถทันที “มาเรียนวันแรกก็อ่อยผู้ชายเลยนะ ฉันชักจะสงสัยแล้วสิว่าคืนนั้น ไอ้ที่เห็นสีแดง ๆ นั่นเป็นเลือดบริสุทธิ์จริงหรือเปล่า” ความรู้สึกบางอย่างตีแน่นขึ้นมาจุกอยู่ที่อก ขอบตาสวยร้อนผ่าวเมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดจาดูถูกเธอ “คุณเมฆจะคิดยังไงก็ตามใจคุณเมฆเถอะค่ะ เทียนไม่เถียงอะไรทั้งนั้น ถึงเถียงไป ยังไงซะตอนนี้เทียนก็ไม่ใช่ผู้หญิงบริสุทธิ์อยู่ดี” ดวงตากลมโตมองไปยังถนนข้างหน้า เธอไม่อยากสนใจว่าม่านเมฆจะทำหน้าตาหรือรู้สึกอย่างไร รู้ไปก็มีแต่ตัวเองที่รู้สึกเจ็บอยู่ฝ่ายเดียว “เดี๋ยวนี้เถียงเก่งขึ้นนะ ทีเมื่อก่อนได้แต่พยักหน้าตอบค่ะ ค่ะ อย่างเดียว” “ก็เหมือนกับคุณเมฆนั่นแหละค่ะ เมื่อก่อน พี่เมฆที่เทียนรู้จักเป็นคนใจดีและเป็นสุภาพบุรุษ แตกต่างจากในตอนนี้อย่างสิ้นเชิง” ได้ยินเธอพูดออกมาแบบนั้น ก็ทำให้หัวใจที่อยู่ด้านในเจ็บจี๊ดขึ้นมาเสียดื้อ ๆ “ถ้าเมื่อก่อนฉันใจดีและเป็นสุภาพบุรุษ แล้วทำไมเธอถึงไม่เลือกฉัน” ม่านเมฆถามออกไปแล้วก็หันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างกัน “เทียนเคยบอกไปแล้ว ว่าเทียนกับคุณเมฆไม่เหมาะสมกัน อีกอย่างตอนนั้นเทียนก็เด็กมาก เพิ่งจะ 16 ปีเอง” เทียนไขตอบไปตามความรู้สึก ทุกอย่างที่เธอเคยโดนรุ่นพี่พวกนั้นดูถูกคือเรื่องจริง “หึ..” เธอได้ยินเพียงเสียงแค่นหัวเราะออกมาจำลำคอของอีกฝ่าย “งั้นฉันก็เสียใจด้วยนะเทียนไข ที่ตอนนี้เธอไม่มีสิทธิ์เลือกอะไรอีกแล้ว เพราะเธอเป็นของฉัน” ม่านเมฆตอบกลับพร้อมกับเหยียบคันเร่งให้เร็วขึ้น เมื่อก่อนเขาให้เกียรติ และขอเธอเป็นแฟนด้วยความรัก แต่นับจากนี้มันจะไม่มีอีกแล้ว /////////////////////////////////////////
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD