เทียนไขขยับตัวเบา ๆ เพราะไม่อยากให้คนที่เพิ่งรังแกเธอเมื่อคืนตื่นขึ้นมาเสียก่อน หลังจากม่านเมฆปลดปล่อยความกระหายของตัวเองเสร็จ เขาก็ไม่ปล่อยให้เธอกลับไปนอนที่ห้อง แม้ว่าจะอ้อนวอนยังไง แต่คนตัวโตก็ไม่สนใจจะฟัง
มือเล็กยกลำแขนแกร่งออกจากเอวช้า ๆ พอพ้นตัว เทียนไขก็รีบลุกขึ้นแล้วกลับไปห้องของตัวเองทันที
ร่างบางอาบน้ำชำระร่างกาย ฝ่ามือค่อย ๆ ถูไปตามลำตัวที่ถูกเขาสัมผัส จ้ำสีแดงช้ำที่เขาทำเอาไว้กระจายอยู่ทั่วผิวขาวเนียน น้ำตาไหลลงอาบแก้ม เธอไม่ได้รังเกียจที่เขาเป็นคนแรก แต่เสียใจที่เขาทำกับเธอราวกับเป็นผู้หญิงขายบริการที่นึกอยากจะเอายังไงก็ได้
เทียนไขอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็หยิบชุดสีชมพูน่ารักมาใส่ เธอเป็นผู้หญิงเรียบร้อย ออกแนวหวาน แต่ก็ยังพอจะรู้ว่าต้องทำยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
คนตัวเล็กที่มีความสูงเพียงร้อยห้าสิบกว่า ๆ รีบพาตัวเองออกมาจากเพ้นท์เฮาส์สุดหรู แล้วตรงมายังร้านขายยาที่อยู่ด้านล่าง
“ไม่ทราบว่าต้องการยาอะไรคะ ไม่สบายตรงไหนแจ้งได้นะคะ” เภสัชกรสาวที่อายุน่าจะประมาณสามสิบต้น ๆ เอ่ยถาม เมื่อเห็นเทียนไขเดินวนไปวนมาอยู่ในร้านเกือบสิบนาทีแล้ว
“คือ คือว่า อยากจะซื้อยาคุมฉุกเฉินค่ะ” เสียงหวานอ้อมแอ้มตอบอยู่ในลำคอ เภสัชกรได้ยินแบบนั้นก็เผยยิ้มบาง ๆ มาให้
“ไม่ต้องอายนะคะ เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติค่ะ แต่จะกินยาแบบนี้บ่อย ๆ ไม่ดีนะคะ ทางที่ดีฉีดยาคุมกำเนิด หรือกินแบบรายเดือนดีกว่าค่ะ” เห็นท่าทีไม่ค่อยรู้ประสาของเทียนไข เภสัชกรก็อธิบายพร้อมกับให้คำแนะนำในขณะที่กำลังหยิบยาคุมฉุกเฉินมาให้
“ได้แล้วค่ะ เป็นแบบเม็ดเดียวนะคะ ให้กินหลังจากมีเพศสัมพันธ์ภายใน 72 ชั่วโมงค่ะ”
“ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ” เทียนไขรับยา รีบจ่ายเงินแล้วออกมาจากร้านอย่างรวดเร็ว
สองขาเรียวรีบก้าวเดินกลับขึ้นมาบนเพ้นท์เฮาส์ ขณะที่กำลังจะแตะคีย์การ์ดเปิดประตูเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“เทียน ไปไหนมาแต่เช้า” เป็นเสียงของม่านหมอกที่ออกไปเที่ยวตั้งแต่เมื่อคืนเพิ่งกลับมา
“เอ่อ เทียนรู้สึกไม่ค่อยสบาย ก็เลยลงไปซื้อยาที่ร้านขายยาข้างล่างมาน่ะค่ะ”
“ไม่สบายเหรอ ไหน พี่ดูหน่อยว่าเป็นอะไร” ยังไม่ทันจะได้เอ่ยห้าม ม่านหมอกก็คว้าถุงยาที่อยู่ในมือเธอไปแล้ว
เขาล้วงมือลงไปในถุง หยิบกล่องยาขึ้นมาอ่านอย่างช้า ๆ แล้วก็หันมามองหน้าหญิงสาวที่พ่อกับอาพัดไว้ใจส่งเธอมาให้พวกเขาดูแล
“เทียน เมื่อคืนที่พี่ไม่อยู่ห้อง เมฆรังแกเทียนเหรอ” ม่านหมอกถามออกไปตรง ๆ นอกจากคู่แฝดของเขาแล้วจะเป็นใครไปได้ ที่นี่ไม่ใช่คนนอกจะเข้าออกได้ง่าย ๆ และเทียนไขก็ไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่จะนอนกับใครต่อใครไปทั่วแน่นอน
ไม่มีคำตอบออกจากปากของหญิงสาวตัวเล็กที่ยืนอยู่ด้านหน้า มีเพียงแค่หยดน้ำใสรินลงมาจากดวงตาไม่ขาดสาย เห็นแบบนั้น ม่านหมอกก็รีบแตะคีย์การ์ดที่ประตูแล้วคว้าข้อมือของเทียนไขให้เดินตามตัวเองเข้ามาข้างในด้วย
ปัง! ปัง! ปัง! เสียงฝ่ามือหนากระแทกลงบานประตูห้องของคู่แฝดตัวเองเสียงดังหลายครั้ง จนคนที่นอนหลับอยู่ด้านในทนไม่ไหวลุกออกมาเปิดประตูให้
“มีไรหมอก เคาะอะไรเสียงดังแต่เช้า” ม่านเมฆถามขึ้นพร้อมกับท่าทีงัวเงีย
“เมฆ เมฆทำกับเทียนแบบนี้ได้ยังไง พ่อกับอาพัดไว้ใจเราให้ดูแลเทียนนะ ทำไมเมฆถึงรังแกเทียน” ได้ยินคำถาม สายตาคมก็มองผ่านฝาแฝดตัวเองไปยังคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง
“เธอไปฟ้องหมอกเหรอ” คนตัวโตที่อยู่ในสภาพสวมกางเกงนอนเพียงตัวเดียวถามขึ้น สายตาคาดคั้นเอาเรื่อง
“เทียนไม่ไม่ได้ฟ้อง แต่หมอกเห็นกล่องยาที่เทียนเพิ่งซื้อมาต่างหาก” ว่าแล้วก็ชูกล่องยาคุมฉุกเฉินให้คนตรงหน้าดู
“เห็นเงียบ ๆ แบบนี้ก็ฉลาดดีนี่ รู้ด้วยว่าต้องกินยาคุมฉุกเฉิน หรือว่าเมื่อคืนมันแค่การแสดงว่าตัวเองยังบริสุทธิ์อยู่”
คำพูดดูถูกถากถางจากเขาทำเอาเทียนไขสะอื้นไห้อย่างไม่อาย สองมือเล็กพยายามเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา แต่ยิ่งเช็ดดูเหมือนจะยิ่งมากกว่าเดิม
“เมฆ! นี่เทียนนะ ทำไมพูดแบบนี้” ม่านหมอกตวาดเรียกคู่แฝดเสียงดังด้วยความไม่เข้าใจ ปกติแล้วม่านเมฆไม่ใช่คนปากร้ายอะไร โดยเฉพาะกับผู้หญิง
“พอเถอะค่ะคุณหมอก ช่างมันเถอะค่ะ” เทียนไขเขย่าแขนม่านหมอกให้หยุดโต้เถียงกับอีกคน แค่นี้เธอก็โดนเขาดูถูกมากพอแล้ว
“ไม่ได้เทียน เมฆทำ เมฆต้องรับผิดชอบ” ม่านหมอกหันมาพูดกับเธอแล้วหันไปหาคู่แฝด “เมฆรีบไปอาบน้ำ แล้วออกมาคุยกัน เร็ว ๆ ให้เวลาสิบนาที”
ม่านหมอกพาเทียนไขมานั่งรอคนก่อเรื่องที่ห้องนั่งเล่น สิบนาทีพอดิบพอดี ม่านเมฆก็เดินมาหย่อนตัวลงนั่งที่โซฟาตรงข้ามกับหญิงสาว
“จะให้บอกพ่อกับอาพัดยังไง” ม่านหมอกเอ่ยถามฝาแฝดตัวเองสีหน้าจริงจัง
“ไม่ได้นะคะคุณหมอก บอกอาพัดกับคุณท่านไม่ได้นะคะ” เทียนไขรีบพูดแทรกขึ้นมาทันที
“ทำไมล่ะเทียน บอกพ่อกับอาพัด จะได้จัดการทำเรื่องให้ถูกต้อง อย่างน้อยก็จัดงานหมั้นก็ยังดี”
“เลิกทำตัวเรียกร้องความสงสารสักทีได้ไหม มันเฟค ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้ใสซื่อขนาดนั้น หึ” เมื่อเห็นสองคนกำลังถกเถียงกันอยู่ ม่านเมฆก็พูดขึ้นพร้อมกับแค่นหัวเราะในลำคอ
“พอเถอะค่ะคุณเมฆ ถ้าเทียนทำอะไรให้คุณเมฆโกรธ เทียนขอโทษด้วยนะคะ เรื่องเมื่อคืน ถือว่าเทียนไถ่โทษให้คุณก็แล้วกันนะคะ จากนี้หวังว่าคุณเมฆจะไม่ทำร้ายเทียนอีก”
คำว่าทำร้ายที่ออกมาจากน้ำเสียงสั่นเครือ ทำเอาหัวใจของชายหนุ่มชาวาบ เขาน่ะเหรอที่อยากจะทำร้ายเธอ ไม่ใช่เธอหรือไงที่โกหกหน้าตาย แล้วก็ทำร้ายความรักของเขา
“เมฆ”
“รู้แล้วน่าหมอก ก็แค่รับผิดชอบ พอใจแล้วใช่ปะ”
ไม่ต้องรอให้ม่านหมอกพูดอะไรให้ยืดยาว ม่านเมฆก็ตัดบทพูดเองเสียก่อนแล้วก็เดินกลับเข้าไปในห้องของตัวเอง โดยที่ไม่สนใจคนที่ยังร้องไห้อยู่
“เทียน หยุดร้องเถอะ เมฆไม่ใช่คนใจร้ายอะไร ค่อย ๆ คุยกันนะ พี่ว่าเมฆคงต้องมีเรื่องเข้าใจอะไรผิดอยู่แน่ ๆ” เขาพยายามปลอบใจหญิงสาว
“ถ้าเทียนรู้ว่าคุณเมฆโกรธเรื่องอะไร เทียนคงไม่ต้องโดนเหมือนเมื่อคืนใช่ไหมคะคุณหมอก”
สองมือเล็กกำชายกระโปรงสีหวานไว้แน่น ตั้งแต่รู้จักกันมา เธอไม่เคยทะเลาะกับม่านเมฆสักครั้ง หากเขาเอ่ยบอกเธอสักนิดว่าเพราะอะไร บางทีคงจะไม่รู้สึกแย่ขนาดนี้
/////
เทียนไขกลับมาอยู่ในห้องของตัวเอง เอนตัวลงบนที่นอนปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาระบายความเจ็บปวดในหัวใจ แต่แล้วจู่ ๆ เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น
“คุณเมฆ มะ มีอะไรหรือเปล่าคะ” เรียวขาเล็กก้าวถอยหลังอัตโนมัติ นึกถึงเรื่องเมื่อคืนแล้วเธอก็รู้สึกกลัวเขาขึ้นมา
“ไม่มีอะไรแล้วฉันจะมาไม่ได้หรือยังไง ที่นี่ก็เพ้นท์เฮาส์ของฉัน จะเข้าออกห้องไหนก็ได้” ได้ยินเขาพูดแบบนั้น ริมฝีปากบางก็เม้มเข้าหากันแน่น ใช่แล้ว เธอเป็นเพียงผู้อาศัย คงจะว่าอะไรเจ้าของไม่ได้
“หยุดเลยนะ ไม่ต้องทำหน้าจะร้องไห้ ฉันหิวข้าว ไปกินข้าวเป็นเพื่อนฉันเดี๋ยวนี้” ม่านเมฆออกคำสั่งโดยไม่ถามความคิดเห็นใด ๆ
“แต่เทียนไม่หิวค่ะ”
“แต่เธอเป็นของฉัน เพราะอย่างนั้น ฉันสั่งให้เธอทำอะไรก็ต้องทำ เร็ว ๆ อย่าให้รอนาน” เทียนไขจำได้ดี ประโยคนี้เขาพูดหลังจากรังแกเธอเสร็จ
เธอเป็นของเขา
จะปฏิเสธก็ไม่ได้ เทียนไขจึงกลับเข้าไปหยิบกระเป๋าสะพายใบเล็กแล้วก็เดินออกมาหาคนที่ยังยืนรออยู่หน้าห้อง
ม่านเมฆพาเธอลงมาด้านล่าง ที่นี่มีร้านขายอาหารอยู่หลายร้าน แล้วเขาก็พาเดินเข้าร้านอาหารเกาหลีซึ่งเป็นสิ่งที่เทียนไขชอบกินมาก หัวใจดวงเล็กเต้นแรงอยู่ข้างใน แอบดีใจคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาจำได้ ก็เลยพาเธอมาร้านนี้
“เมฆ ทางนี้ ๆ” แต่ความดีใจก็มีแค่แป๊บเดียว เมื่อเข้ามาถึงในร้านก็เห็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยคนหนึ่งโบกไม้โบกมือเรียกเขา
“พีช รอนานไหม” ม่านเมฆเอ่ยถามคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้วก็พาตัวเองไปนั่งอยู่ข้างกัน ปล่อยให้เทียนไขยืนทำตัวไม่ถูก
“เมฆ นี่ใครน่ะ”
“อ๋อ น้องสาวน่ะ พอดีอาฝากให้มาอยู่ด้วย เรียนที่เดียวกัน คณะเดียวกัน” ม่านเมฆตอบคำถามของลูกพีชที่กำลังมองเทียนไขอย่างสงสัย
“นั่งลงสิ อยากกินอะไรก็สั่ง” เทียนไขนั่งลงตรงข้ามพวกเขาทั้งคู่ สั่งอาหารเสร็จก็เหลือบมองสองคนคุยกันเป็นระยะ ดูท่าทางสนิทสนมกันมากพอตัว
“ชื่ออะไรจ๊ะ”
“ชื่อเทียนไขค่ะ”
“เทียนไขเหรอ ชื่อน่ารักจัง เหมาะกับน้องมากเลย พี่ชื่อลูกพีชนะ เรียกพี่พีชเฉย ๆ ก็ได้ เรียกคณะเดียวกับเมฆนี่แหละ”
“ค่ะ” เทียนไขตอบเพียงสั้น ๆ แล้วก้มหน้าก้มตากินอาหารที่ตัวเองสั่งมา
ชายหญิงที่นั่งอยู่ตรงข้ามคุยกันสนุกสนาน ม่านเมฆฉีกยิ้มกว้างเวลาคุยกับเธอ เห็นแล้วก็เหมือนจะเจ็บจี๊ด ๆ อยู่ในหัวใจ จนถึงตอนนี้ ทำไมนะ ถึงยังเลิกรักผู้ชายคนนี้ไม่ได้สักที
/////////////////////////////////////////////////