ตอนที่ 3.

1527 Words
                “คุณหวังไม่ยอมยกคุณหนูหวังให้เฉินจิ้ง เพราะรู้ว่าเฉินจิ้งเป็นพวกซาดิสต์ ชอบทำร้ายร่างกายคู่นอน คุณหนูหวังตัวเล็กแบบนั้นคงช้ำในตายพอดี นี่ครับรูปของเธอ”                 ไป่หลางเปิดแท็ปเลตให้ผู้เป็นนายดูรูปของ หวังลี่จู ลูกสาวประธานหอการค้า หญิงสาวเป็นผู้หญิงร่างเล็กผิวขาวราวกับไข่มุกสมชื่อ มีใบหน้าหวานน่าเอ็นดู ในรูปหญิงสาวถ่ายร่วมกับบิดาและน้องชายคนเดียว ซึ่งมีอายุห่างกันไม่ถึงห้าปี                 “ส่วนนี่เป็นลูกชายคนเล็กของประธานหวัง ชื่อ หวังเล่ยเทียน อายุเพิ่งยี่สิบปีนี้ครับ เรียนอยู่มหาวิทยาลัยที่อังกฤษ ได้ข่าวว่าเพิ่งบินกลับมาเยี่ยมพ่อและพี่สาวช่วงปิดเทอม”                 ไป่หลางชี้มือไปยังรูปของเด็กหนุ่มหน้าตาหวานใส ไม่ต่างจากสตรีพร้อมอธิบาย เขาลอบสังเกตปฏิกิริยาของผู้เป็นนายไปด้วย แววตาของหลิวเฟยหลงวาววับขึ้นมาแวบหนึ่งก่อนจะเลือนหายไป แต่ยังจ้องมองรูปของหวังเล่ยเทียนไม่ละสายตา เขารู้ดีว่าผู้เป็นนายสนใจลูกชายของประนหอการค้า มากกว่าลูกสาวของอีกฝ่าย หวังเล่ยเทียนมีใบหน้าที่หมดจดเกลี้ยงเกลารูปร่างเล็กผอมเพรียว มองเผินๆ คล้ายกับผู้หญิง สมัยเรียนอยู่ที่อเมริกาหลิวเฟยหลงเคยคบกับเพื่อนร่วมมหาลัยเป็นชาวเกาหลีชื่อคิมมินจุน ซึ่งมีลักษณะท่าทางและหน้าตาคล้ายกับหวังเล่ยเทียนไม่น้อย แต่ทั้งคู่ก็ต้องพรากจากกันเมื่อคิมมินจุนถูกคนร้ายที่ส่งไปลอบฆ่าหลิวเฟยหลงฆ่าตาย คิมมินจุนยอมเอาตัวเข้าขวางทางปืนจนถูกยิงเสียชีวิตเพื่อปกป้องคนที่ตัวเองรัก ตั้งแต่นั้นมาหลิวเฟยหลงกลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจมาตลอด ตัวเขาเองถูกหลิวเฟยหลงใช้เป็นที่ระบายอารมณ์เท่านั้น ไป่หลางรู้ดีว่าผู้เป็นทางไม่เคยลืมรักครั้งแรกได้ และไม่เคยมองเขาเป็นคนรักนอกจากที่รองรับอารมณ์ปรารถนา เขาเป็นได้แค่ทาสสวาทไม่ใช่ผู้ครอบครองหัวใจ แต่ไป่หลางก็อดทนเรื่อยมาหวังเพียงได้คอยรับใช้ได้อยู่ข้างกายคนที่เขาจงรักภักดียิ่งกว่าชีวิต แค่นั้นที่เขาต้องการ                 “ครอบครัวนี้มีกันสามคนพ่อลูก ภรรยาของประธานหวังได้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อสิบปีก่อน หลังจากภรรยาตายประธานหวังก็ดูแลลูกเพียงลำพังโดยไม่คิดแต่งงานใหม่ นั่นเป็นสาเหตุให้ประธานหวังรักลูกมาก จึงไม่ยอมให้ลูกถูกเฉินจิ้งย่ำยี เลยต้องมาขอร้องให้เราช่วยครับ” ไป่หลางสรุป                 “อืม นับว่าเป็นคนที่รักครอบครัว มากกว่าเห็นแก่ผลประโยชน์ ไม่เหมือนไอ้ประธานหอการค้าคนเก่า มันส่งลูกสาวไปสังเวยไอ้เฉินจิ้งตั้งแต่ขึ้นตำแหน่งได้วันเดียว หึ แต่โชคร้ายที่ลูกสาวของมันไม่ยอมทำตามใจพ่อ ฆ่าตัวตายก่อนที่จะเป็นเหยื่อของไอ้เฉินจิ้ง ไอ้คนเป็นพ่อเลยซวยถูกไอ้เฉินจิ้งสั่งเก็บ”                 หลิวเฟยหลงนึกถึงประธานหอการค้าคนเก่าที่ยอมเข้าเป็นพวกของเฉินจิ้ง แต่โชคไม่เข้าข้างเมื่อลูกสาวไม่ยอมทำตามความต้องการของพ่อฆ่าตัวตายหนีไปก่อน ทำให้หัวหน้าแก๊งพยัคฆ์ดำโมโหจนสั่งเก็บยกครัว แล้วหวังจงก็เข้ามาดำรงตำแหน่งแทน หวังจงจึงถูกเฉินจิ้งบีบบังคับอีกคนจนต้องหันหน้ามาพึ่งเขา                 “คุณหลิวคิดจะช่วยสามพ่อลูกนี้ใช่ไหมครับ”                 ไป่หลางเอ่ยถาม แม้จะมั่นใจเกินร้อยว่าผู้เป็นนายจะยื่นมือไปช่วยครอบครัวตระกูลหวัง ดูจากแผนการก่อนหน้าที่หวิวเฟยหลงวางไว้ ประกอบกับเมื่อครู่สายตาที่มาเฟียหนุ่มมองรูปของหวังเล่ยเทียน มันบ่งบอกว่าอีกฝ่ายไม่ยอมให้ลูกชายของประธานหวังถูกแก๊งพยัคฆ์ดำทำร้ายแน่ หัวใจของทาสผู้ภักดีเจ็บแปลบขึ้นมาเมื่อเริ่มรู้ชะตาของตัวเองแล้วว่า กำลังจะหมดความสำคัญในไม่ช้า หากเด็กหนุ่มคนนั้นก้าวเข้ามาใต้ร่มเงาของจอมมาเฟีย                 “นายคิดว่าคนอย่างเฉินจิ้งมันจะปล่อยเหยื่อของมันง่ายๆ หรือ ประธานหวังออกตัวมาเข้าข้างเราแบบนี้ มันจะปล่อยให้รอดหรือไง”                 หลิวเฟยหลงเหลือบตามองรูปครอบครัวตระกูหวัง ก่อนจะนิ่งมองรูปของหวังเล่ยเทียน หัวใจของเขาจากที่ตายด้านคล้ายมีความรู้สึกขึ้นมาทีละน้อย แค่เห็นรูปเด็กหนุ่มทำไมหัวใจของเขาถึงได้เต้นแรงแบบนี้ มาเฟียหนุ่มเบือนสายตาหนีภาพกวนหัวใจ เขาคงบ้าไปแล้วที่รู้สึกแปลกกับคนที่ไม่เคยเห็นตัวจริง แค่หน้าคล้ายรูปร่างเหมือนคนในหัวใจ หวังเล่ยเทียนไม่ใช่คิมมินจุน เขาบอกตัวเองพยายามปัดความคิดวุ่นวายออกจากสมอง สงบใจให้ตัวเองสงบลงอย่างที่เคยเป็นมาตลอด                 “ครับ เราคงต้องใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์”                 ไป่หลางบอกผู้เป็นนาย ขณะกดปิดแท็ปเลตเมื่อเห็นว่ารถกำลังเคลื่อนไปจอดยังหน้าภัตตาคารที่นัดหมาย เขามองไปยังประตูทางเข้าก่อนจะนิ่วหน้าเมื่อเห็นประธานหวังไม่ได้ยืนอยู่คนเดียว แต่มีลูกชายและลูกสาวยืนขนาบทั้งสองข้าง เมื่อหันมามองหน้าผู้เป็นนายก็ต้องสะท้อนใจเมื่อเห็นแววตาของหลิวเฟยหลงวาบวามฉายแววตื่นตะลึง สายตาจดจ้องมองร่างสูงเพรียวของหวังเล่ยเทียนนิ่ง                 หรือจะฟ้าลิขิตให้ผู้เป็นนาย ได้หัวใจดวงเดิมกลับคืนมาอีกครั้ง…                   “ยินดีที่คุณหลิวให้เกียรติมา”                 ประธานหอการค้า ค้อมศีรษะพร้อมกับยื่นมือมาจับมือเจ้าพ่อมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ เขายิ้มกว้างท่าทางตื่นเต้นดีใจจนออกนอกหน้า ไม่คิดว่าหลิวเฟยหลงจะยอมรับนัดหมายในครั้งนี้                 “ยินดีเช่นกันครับคุณหวัง”                 หลิวเฟยกระชับมือตอบตามมารยาท เขามองหน้าประธาหวังแลเลยสายตาไปยังลูกสาวและหยุดนิ่งมองลูกชายของอีกฝ่าย หัวใจของมาเฟียหนุ่มกระตุกแรงเมื่อสบตากับหวังเล่ยเทียน แววตาของอีกฝ่าช่างคล้ายกับแววตาของคิมมินจุน ใบหน้าท่าทางรูปร่างราวกับถอดแบบกันออกมา ฟ้ากำลังเล่นตลกอะไรกับชีวิตของเขากันแน่ จากที่คิดว่าจะไม่มีวันได้พบคนแบบคิมมินจุงอีกแล้วในชีวิตนี้ แต่หวังเล่ยเทียนกลับเข้ามาในสายตา หลิวเฟยหลงนิ่งงันชั่วครู่ ก่อนจะคลายมือของหวังจงออก แล้วนิ่งสงบอยู่ท่าทีเคร่งขรึมเช่นเดิม ซ่อนแววตาและความรู้สึกแปลกๆ ในหัวใจของตนไว้ภายใต้ใบหน้าอันเฉยชา                 “ผมขอแนะนำให้รู้จักกับ หวังลี่จูลูกสาวของผม” หวังจงรีบแนะนำลูกสาวให้มาเฟียหนุ่มรู้จัก                 “ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณหนูหวัง”                 หลิวเฟยหลงยิ้มรับที่มุมปากนิดหนึ่ง แล้วก็คลายยิ้มทำหน้าเคร่งเหมือนเดิม ทำเอาคุณหนูหวังยิ้มแห้งๆ พลางก้มหน้าหลบสายตาคมของเขาอย่างหวาดหวั่น                 “แล้วนี่หวังเล่ยเทียน ลูกชายคนเล็กของผมครับ อาเล่ยฝากเนื้อฝากตัวกับคุณหวังสิ”                  คนเป็นพ่อดันหลังลูกชายให้ก้าวออกไปทำความเคารพผู้ทรงอิทธิพลสูงคนหนึ่งของฮ่องกง อนาคตครอบครัวของเขาต้องพึ่งพาหลิวเฟยหลง ลูกชายกับลูกสาวจะอยู่ภายใต้ความคุ้มครองของมาเฟียผู้นี้ เขามั่นใจว่าอีกฝ่ายจะปกป้องครอบครัวของเขาให้ปลอดภัยจากอำนาจมืดของเฉินจิ้งหัวหน้าแก๊งพยัคฆ์ดำได้                 “ผมหวังเล่ยเทียนครับ”                 หวังเล่ยเทียนขยับไปยืนตรงหน้าหลิวเฟยหลง ค้อมศีรษะทำความเคารพเขาอย่างนอบน้อมตามคำสั่งของบิดา เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นสบตาคมกริบของเจ้าพ่อมาเฟีย ก่อนจะใจสั่นหวิวเมื่อสบนัยน์ตาคมเข้มคู่นั้น เขาถอยออกมายืนด้านหลังบิดา ไม่กล้าสบตาต่อ ยืนนิ่งฟังหลิวเฟยหลงพูดคุยอะไรบางอย่างโดยจับใจความไม่ได้ สายตามองเลยไปสำรวจบรรดาลูกน้องของมาเฟียหนุ่ม ก่อนจะนิ่วหน้าเมื่อเห็นไป่หลาง หัวใจเต้นรัวตาเบิกกว้างขึ้น นึกออกในทันทีว่าอีกฝ่ายคือคนที่เคยช่วยเขาจากกลุ่มคนร้ายเมื่อห้าปีก่อน ตอนนั้นเขาอายุสิบห้ายังเรียนไฮสคูล ตอนเกิดเรื่องเขามีนัดทำรายงานที่บ้านเพื่อน จึงกลับบ้านคนเดียวโดยไม่ให้คนขับรถมารับ แต่โชคร้ายถูกแท๊กซี่ปล้นเกือบเอาตัวไม่รอด ในนาทีชีวิตนั้นเขาคิดว่าตัวเองคงไม่รอดแน่ แท็กซี่โจรกำลังจะเอามีดจ้วงแทงเขา หลังจากที่มันลากเขาลงมาซ้อมที่พงหญ้าข้างทางจนน่วม และปลดทรัพย์สินมีค่าไปจนหมด 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD