ตอนที่ 2
ความต้องการของผู้ชายชื่อ ‘ภีมวัจน์’ 100%
“เวรเอ๊ย!!” แวบหนึ่งที่หางตาสบประสานกับคนตัวน้อยข้างกาย เป็นเชิงว่าให้หยุดต่อปากต่อคำกับคนนิสัยเสีย ซะเถอะ และเพื่อเป็นการเห็นแก่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยา เจ้าพ่อโลกีย์จึงหยุดสงครามน้ำลายเอาไว้เพียงเท่านั้น
มือหนากระชับเอวบางแนบกายเตรียมจะกลับคฤหาสน์อีกครั้ง ทว่าก้าวขาเพียงไม่กี่ก้าวก็ต้องชะงักค้าง เมื่อคนไม่ยอมเลิกราอย่างภีมวัจน์หันมาท้าชนด้วยวิธีแสนถนัด
“กูยื่นคำท้าอย่างลูกผู้ชาย ถ้าแน่จริง! อาทิตย์หน้าเจอกันที่สนามแข่งรถของกู… ถ้ามึงไม่โผล่หัวมากูจะถือว่ามึงปอด หลบชายกระโปรงเพศเมีย ที่สำคัญกูจะเอาผู้หญิงที่อยู่ข้างมึงเป็นเดิมพัน” ประกาศโต้งๆ ต่อหน้าธนาวัฒน์และทิชารีย์ ไหนจะบรรดาบอดี้การ์ดทั้งหลาย เจ้าพ่อโลกีย์เจ็บแค้นใจ ไม่รู้ว่าอันธพาลตรงหน้ามันจะมาไม้ไหน?
ด้านทิชารีย์ได้ยินถ้อยคำห้วนกระด้างหลุดจากปากหยักของผู้ชายที่เธอเคยมอบหัวใจให้ แขนขาพลันไร้เรี่ยวแรงเอาเสียดื้อๆ ทำไมภีมวัจน์ถึงไม่เลิกตามจองล้างจองผลาญเธอเสียที บรรดาผู้หญิงคู่ขาของเขามีตั้งมากมาย แต่ทำไมไม่ยอมเอามาเป็นเดิมพัน ทำไมต้องเจาะจงว่าเป็นเธอด้วย!!
“ไม่ได้!! เปลี่ยนคนใหม่” ธนาวัฒน์ปฏิเสธทันควัน เขาไม่ยอมเอาคนที่เขารักสุดหัวใจไปเกลือกกลั้วกับเรื่องแบบนั้นแน่ และอีกใจหนึ่งเจ้าพ่อโลกีย์รู้สึกว่าตนต้องโดนเอาคืนเหมือนเมื่อคราวหลายปีก่อน เขามีลางสังหรณ์ใจเหมือนว่าจะสูญเสียอะไรบางอย่าง…
“กูขอคิดดูอีกทีนะ หึ!” ส่งยิ้มร้ายราวเสือดุมาให้สองสามีภรรยาที่ยืนกอดแขนเคียงข้างกัน
ภีมวัจน์เห็นภาพนั้นแล้ว ก้นบึ้งหัวใจพลันเจ็บจี้ดขึ้นมาเอาเสียดื้อๆ นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงต้องปิดกลั้นความรู้สึกเบื้องลึกภายใต้ซอกหลืบเอาไว้อย่างทรมาน คนตัวใหญ่ใช้เพียงนิสัยอันธพาลออกมาสู้ และทำตัวกร่างเพื่อปกปิดความรู้สึกแท้จริงที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน
“เวรนรกเอ๊ย!!” ธนาวัฒน์สบถตามหลังคนอันธพาลอย่างหัวเสีย ครั้นจะเจรจาต่อลองก็ไม่ทันการณ์ เมื่อร่างสูงทรงพลังดันสืบเท้าออกไปจากบริเวณอย่างรวดเร็ว
เมื่อเหตุการณ์เงียบสงบ ธนาวัฒน์สั่งลูกน้องไปส่งภรรยาสาวที่คฤหาสน์ ส่วนตัวเขานั้นขอค้างอยู่ที่ทำงาน
ครั้นศีรษะแนบหมอนนุ่มเจ้าพ่อหนุ่มสุดหล่อกลับข่มตาหลับไม่ลง ข่มเปลือกตาหนักอึ้งให้เข้าสู่นิทรารมย์ครั้งแล้วครั้งเล่า ทว่าไม่สัมฤทธิ์ผล เนื่องจากสมองมัวแต่ไปพะวงติดอยู่กับนวลเนื้อสาวกลิ่นหอมเย้ายวนใจที่เขาไล่ตะเพิดออกจากห้องไปเมื่อก่อนหน้า ไหนจะเรื่องที่หมาบ้าอย่างภีมวัจน์มาต่อลองอีก เขาจะเอาอย่างไรดี ร่างใหญ่พลิกกลับไปกลับมาอยู่บนเตียงกว้าง เจ้าพ่อผู้ยิ่งใหญ่ไม่เคยยี่หระกับเรื่องกระจุกกระจิกต้องครุ่นคิดหนักหน่วง ปัญหาดูเหมือนจะง่ายทว่ากลับแก้ปมเชือกอย่างยากสุดแสน จะคลายปมไปทิศทางใดก็ไม่สามารถล่วงรู้ได้
ตีสี่ครึ่ง…คนนอนไม่หลับต้องลุกขึ้นมาสาดบรั่นดีรสเฝื่อนกระหน่ำลงคอราวกับกินน้ำเปล่า มือหนายกแก้วทรงสะบึ้มจรดริมฝีปากหยักได้รูปแล้วดื่มด่ำน้ำเมาราคาแพงหูฉี่ลงไปเลี้ยงกายไม่มีหยุดหย่อน
ครั้นแอลกอฮอล์เข้าไปผสมกับเลือดในกายหนุ่ม ภาพสาวน้อยนัยน์ตาเฉอะแฉะฉายย้อนเข้ามาในห้วงมโนนึก เวลาสาวน้อยออดอ้อนวอนขอ พร้อมดวงตาที่มีน้ำตาคลอหน่วย ทำเอาหัวใจแกร่งว้าวุ่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แม้กระทั่งกับภรรยาเขาก็ไม่เคยมีความรู้สึกดังกล่าวด้วย
ด้านเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ใช่จะย่างกายทรงพลังกลับคฤหาสน์เรือนหรู ชายหนุ่มนำยวดยานราคาแพงโลดแล่นไปยังท้องถนนกว้าง ความเร็วของพาหนะไม่ต้องพูดถึง เท้าไฟหนุ่มจัดเต็ม!! เหยียบจนแทบมิดแป้นคันเร่ง
BMW Series 7 สีดำวาวเคลื่อนมายังคอนโดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นสถานพำนักยามต้องการหาที่ดับทุกข์ หรือต้องการปลดปล่อยความเครียดที่สั่งสมมาตลอดทั้งวัน
ร่างหนาทรงพลังนำเรือนกายอันเป็นที่อิจฉาแก่ผู้ชายด้วยกันไปยังห้องพักหรู ซึ่งในนั้นมีคู่นอนแสนเซ็กซี่จับเจ่าเฝ้ารออยู่ แม้ว่าจะดึกดื่นเที่ยงคืนแต่ผู้บริหารหนุ่มเชื่อว่าเธอต้องรอเขา แม่นางแบบสาวทรวดทรงองเอวชวนเคี้ยวชวนขย้ำ
เตียงกว้างคิงไซส์ยุบตัวลง เมื่อคนตัวใหญ่ทิ้งกายลงนอน เจมีร่าที่แต่งองทรงเครื่องรอผู้บริหารหนุ่มงัวเงียขึ้นมา เมื่อคนมีความต้องการสูงปลุกปั่นกายเธอ ด้วยการลากไล้ฝ่ามือร้อนพร้อมใบหน้าคมคายไปตามเรือนกายอวบอัดโดยมีเสื้อนอนตัวบางเป็นปราการขวางกั้น
มือหนาเลื่อนกระชากอาภรณ์เนื้อบางเบานั้นออกจากเรือนร่างเซ็กซี่เย้ายวน ปากหยักสีสดระดมจูบทั่วสัดส่วนอวบอั๋น ด้านนางแบบสาวลูกครึ่งอย่างเจมีร่า คาโล ก็ไม่ได้ปล่อยให้ชายหนุ่มผิดหวัง หญิงสาวเอื้อมมือคว้าลำคอแกร่งให้โน้มลงมาหา เมื่อเธอเผยอกลีบปากอวบอิ่มมอบจุมพิตแสนเร่าร้อนให้ พร้อมมือเรียวบางไล้ลูบหน้าอกกว้างกระด้าง ม้วนไรขนอ่อนจางๆ อย่างเย้าอารมณ์ ชายหนุ่มเจ้าของฉายา ‘ลีลาดิ้นสุดมันส์’ ถึงกลับครางเสียงกระเส่า
เพียงชั่วพริบตาที่สองหนุ่มสาวปลดเปลื้องปราการออกจากเรือนกายจนหมดเกลี้ยง แต่ก่อนจะเดินทางสู่ดินแดนแห่งความสุข ภีมวัจน์ไม่ลืมป้องกันอันตรายด้วยการสวมหมวกนิรภัยให้ลูกชายสุดที่รัก เมื่อพร้อมพรักแล้วนั้นสะโพกสอบถึงได้เคลื่อนย้ายฝากฝังลำกายมหัศจรรย์ทักทายดอกไม้งามชุ่มฉ่ำ และไม่กี่นาทีถัดมาเจ้าของลีลาดิ้นสุดมันส์ก็โหมพละกำลังเข้าใส่ ชนิดที่คนตัวน้อยต้องดิ้นพล่านทรมานสุดจะบรรยาย เรียวปากเย้ายวนชวนบดขยี้ขยับส่งเสียงหวีดร้องลั่นห้องนอนกว้าง
ยิ่งจังหวะสะโพกสอบโหมกระหน่ำเคลื่อนเข้าใส่หนักหน่วง เจมีร่าถึงกับร้องครางไม่เป็นภาษา ลีลาการโยกขยับ บดกระแทกของชายหนุ่มผู้ช่ำชองไม่เพียงทำให้หญิงสาวทรมานคนเดียว เมื่อสมรภูมิรักรองรับอารมณ์พิศวาสต้องทรมานร่วม ถึงขั้นส่งเสียงร้องดังเอี๊ยดอ๊าดก้องหู ฟังดูแล้วมันช่างเร้าใจคนควบคุมเกมอย่างภีมวัจน์เป็นบ้า อารมณ์ที่ลุกโชนปลุกเคลื่อนให้ชายมากด้วยความต้องการ กระแทกกระทั้นความมหัศจรรย์เข้าใส่ราวกับพายุบุแคมถล่ม
อารมณ์พิศวาสขับกล่อมสองหนุ่มสาวจมปลักอยู่นานหลายชั่วโมง กว่าบทรักแสนร้อนระอุจะสิ้นสุด แสงแรกแห่งวันใหม่ก็คืบคลานเข้ามาเยือน นักธุรกิจหนุ่มจึงทอดเรือนกายลงนอนกกกอดแม่สาวร่างอวบอัดอย่างสุขสม เปลือกตาหนาปิดแนบสนิทเพื่อพักผ่อน ของีบเอาแรงสักสามสี่ชั่วโมงค่อยตื่นไปทำงาน เข้าบริษัทสายหนึ่งวันคงไม่ถึงกับเจ๊งบ๊งหรอกมั้ง!
สองวันถัดมา…นัยน์ตาคู่งามจ้องมองพั้นช์สีสวยในแก้วทรงสูงอย่างค้นหา ทิชารีย์ยังคงว้าวุ่นใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อนไม่หาย คืนนี้เธอเลยจัดการเติมแอลกอฮอล์เปอร์เซ็นต์น้อย เข้าไปในกระแสเลือดเสียหน่อย เอาพอเป็นยากำลังคลายความเครียด ทว่ามือเรียวสวยยกพั้นช์ขึ้นจิบไม่ถึงสี่แก้ว กลับต้องรู้สึกปวดฉี่ถี่ยิบ เพราะระบบปัสสาวะในร่างกายเธอจะทำงานเป็นอย่างดี ถ้ามีแอลกอฮอล์เข้าไปผสมกับกระแสโลหิต...
ร่างสวยสะโอดสะองในชุดมินิเดรสสีแดงเพลิง เยื้องย่างกายไปห้องน้ำส่วนตัว เสียงรองเท้าส้นสูงสีดำสี่นิ้วกระทบพื้นกระเบื้อง ปลุกให้คนซ่อนกายในห้องน้ำรู้ว่าคนที่เขาดักรอนั้นได้เข้ามาใช้บริการห้องน้ำเสียแล้ว
พอคนตัวน้อยเข้าไปจัดการธุระส่วนตัวเสร็จสรรพ เธอก็ออกมาสำรวจความเรียบร้อยของร่างกาย ใบหน้างามสะท้อนเงาในกระจก มือน้อยแปลงผมคลื่นลอนสีน้ำตาลไหม้ตามนิสัย เอียงซ้ายแลขวานิดๆ สำรวจความเรียบร้อยอีกครั้ง ก่อนขยับเท้าก้าวขาเดินออกไป จังหวะร่างระหงกำลังเอี้ยวตัว เสียงหวานต้องกรีดร้องอย่างตกใจ
“กรี๊ดดด!!! อุ๊บ!!” ท่อนแขนเรียวสองข้างถูกมือปริศนารวบจับไว้ ในขณะที่กลีบปากสวยรูปกระจับที่ส่งเสียงกรีดร้องนั้นโดนมือติดจะหยาบอีกข้างปิดจนสนิทไร้เสียงเล็ดลอด
ทิชารีย์ไม่รู้ว่าเป็นใครเพราะเธอหันหลังให้กระจก ที่สำคัญกระจกในห้องน้ำส่วนตัวมีฝั่งเดียว กระทั่งได้ยินเสียงทุ้มคุ้นเคยกระซิบกระซาบข้างใบหูผ่อง พร้อมลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดเนื้อหอมกรุ่นบริเวณซอกคอเรียวระหง
“อยู่นิ่งๆ แล้วก็หยุดร้อง!” ทิชารีย์อ้าปากค้าง ดวงตางามเบิกกว้างอย่างตกใจ หญิงสาวไม่คาดคิดเลยว่าคนที่เธอเผลอใจรักเมื่อหลายปีก่อนจะกล้ากระทำเช่นนี้ แต่ก็อย่างว่า เวลายังเปลี่ยน นับประสาอะไรกับนิสัยของคน มันย่อมเปลี่ยนเป็นธรรมดา
“อื้อ” หญิงสาวยอมสงบ ทว่าภีมวัจน์กลับไม่ไว้ใจ คนตัวใหญ่ต้องขู่คำโตอีกระลอก ถ้าขืนปล่อยมือออกแล้วแม่คุณเกิดพยศขึ้นมาล่ะ จะไม่เสียแผนการเขาหมดเหรอ?
“ถ้าเธอกรีดร้องเสียงดัง ฉันจะไม่ทำแค่นี้ แต่จะทำมากกว่านี้ เธอคงรู้ว่าฉันหมายถึงอะไร อยู่นิ่งๆ อย่างเงียบๆ แล้วฟังที่ฉันพูด” ขณะที่พูดมือหนาจับพลิกร่างงามหันมาเผชิญหน้า ทอดสายตาดุกร้าวสยบอดีตแฟนเก่า
“อื้อ…”
ภีมวัจน์เห็นหญิงสาวนิ่ง เขาจึงเลื่อนมือหนาออกจากใบหน้านวล พร้อมเกลี่ยปลายนิ้วแกร่งไล้ตามปลายคางมน ทอดสายตาคมจ้องมองดวงตาคู่งามอย่างแพรวพราว ทั้งที่ภายใต้ซอกหลืบหัวใจนั้นก็เคียดแค้นผู้หญิงตรงหน้าสุดๆ
“สวยเหมือนเดิมนะ…” เอ่ยเสียงพร่าครั้นมือหนาเชยดวงหน้ามนยลโฉมให้เห็นชัดๆ เต็มสองตา คำชมของเขาทำเอาทิชารีย์ใจเต้นผิดจังหวะ ทว่าอาการที่เผชิญไม่กี่วินาทีต้องหยุดชะงัก เมื่อปากหยักกระตุกพ่นถ้อยคำแทงใจดำตามออกมา
“แต่ช่วงล่างคงไม่สวยแล้วล่ะมั้ง” มุมปากหยักแสยะยิ้มสะใจ ทิชารีย์ได้ยินถึงกับหน้าชาวาบราวกับโดนตบ!!
หญิงสาวเฝ้าเก็บความไม่พอใจอย่างสุดทน ข่มกลั้นแล้วข่มกลั้นอีกที่จะไม่ถือความ สูดลมหายใจเขาปอดลึกๆ ก่อนเสียงหวานจะเอ่ยออกมาพร้อมใบหน้าเรียบตึง
“คุณมีธุระอะไรก็ว่ามา” น้ำเสียงเรียบติดจะห้วนนิดๆ ทำเอาคนเจ้าเล่ห์ตัวใหญ่กดมุมปากยิ้มหยัน
“อย่าเพิ่งรีบคนสวย… คุยกับ ‘ผัวเก่า’ อย่างฉันก่อนสิ ไม่ได้ทักทายกันแบบนี้นานมากแล้วนะ” ภีมวัจน์จงใจเน้นคำว่า ผัวเก่า ให้หญิงสาวเจ็บใจ
“พูดให้มันดีๆ นะคะ ฉันไม่เคยเป็นเมียใคร นอกจากเป็น เมีย-พี่-แธน” หญิงสาวย้อนคืนอย่างเจ็บแสบไม่แพ้กัน
คนปากสุนัขได้ฟังถึงกับหัวใจกระตุก เมื่อคำพูดของอดีตแฟนเก่า มันสะกิดแผลลึกที่ฝังกลบในซอกหลืบหัวใจอารมณ์อยากจะเย้าหยอกต้องขาดสะบั้น มีเพียงเสียงกัดฟันดังกรอดๆ เล็ดลอดออกมาแทน สายตาคมดุกร้าวจ้องมองคนตัวน้อยราวเสือร้าย มุมปากหยักยกกระตุกแล้วเค้นเสียงห้วนใส่
“หึ! ทำเป็นลืม…เดี๋ยวฉันจะทวนให้เอาบุญนะคนสวย” สิ้นคำมือหนาทั้งสองข้างโอบอุ้มดวงหน้ามนให้แหงนรับ จุมพิตแสนป่าเถื่อนที่ตนตั้งใจมอบให้
ชายหนุ่มบดขยี้กลีบปากบางอย่างรุนแรงจนหญิงสาวน้ำตาคลอ ฟันซี่คมขบเม้มปลายลิ้นน้อยให้รับรู้รสชาติความเจ็บปวดจนได้กลิ่นคาวเลือด ครั้นทิชารีย์จะคัดค้านก็ต้องพ่ายแก่คนช่ำชอง อ้าปากทีไรคนใจร้ายก็ประกบปากหยักทุกที
ทิชารีย์ทุบกำปั้นน้อยรัวใส่แผงอกกว้าง หวังจะให้เขาหยุด แต่นานเข้าคนตัวโตกลับไม่รามือ หนำซ้ำเขายังบดขยี้กลีบปากรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ชิวหาร้อนคว้านชิมความหวานนานเกือบสองนาที ถึงยอมปล่อยให้กลีบปากนุ่มเป็นอิสระ เมื่อพ้นพันธนาการจากคนเลวทราม หญิงสาววาดฝ่ามือพิฆาตตวัดใส่เสี้ยวหน้าคมจนสุดแรงเหวี่ยง!
เผียะ!!!
ภีมวัจน์หน้าชาวาบ เพราะแรงกระทบจากฝ่ามือน้อยมันนั้นมันโคตรหนักหน่วง ชายหนุ่มตวัดสายตาคมกลับมามองด้วยความพิโรธ อยากจะตบคืนแต่ต้องยั้งมือเอาไว้ ตนเป็นผู้ชายทั้งแท่งแต่จะไปตบตีเพศแม่นี่ก็คงไม่ไหว นักธุรกิจหนุ่มจึงคิดหาทางเอาคืนเธอด้วยวิธีเจ็บแสบไม่แพ้กัน
“หึ! มือหนักไม่เคยเปลี่ยน แต่รสจูบที่ปากเน่าๆ ของเธอมันเปลี่ยนไปมาก บอกได้คำเดียวว่าคาวสุดๆ” ลิ้นหนาดุนกระพุ้งแก้มตนด้วยท่าทียียวน
ซึ่งมันก็ได้ผลเพราะคำพูดของเขาที่พรั่งพรูออกมานั้นมันก็ไม่ต่างจากฝ่ามือหนักๆ ที่ตบฉาดใส่ซีกแก้มบางของเธอ ยิ่งยามสายตาหยามเหยียดทอดมองมา ทิชารีย์สุดแสนจะช้ำใจ หญิงสาวต้องทนกล้ำกลืนความเจ็บปวดเอาไว้อย่างลำบาก
“ธุระของคุณ มีแค่นี้ใช่ไหม” แม้จะเจ็บใจปนโมโหแต่เธอก็ยังทนกัดฟันถามเขา
ภีมวัจน์เห็นอาการหญิงสาวแล้วต้องยิ้มสะใจ วิธีการตบหน้าของเขาไม่จำเป็นต้องใช้มือตบให้เปลืองกำลัง เพียงแค่ใช้ริมฝีปากพ่นคำพูดไม่กี่คำก็เกินพอแล้ว
“อย่าเพิ่งใจร้อนสิครับคนสวย หืม…” ขยับเรือนกายแกร่งเข้าใกล้ร่างงามเย้ายวนใจ ใบหน้าหล่อคมเคลื่อนหาซอกคอผ่อง พลางจรดปลายจมูกโด่งคมดอมดมความหอมอวลบนร่างกายสาว ซึ่งการกระทำอันชวนขนลุกซู่ของเขา ทำเอาทิชารีย์ต้องเขยื้อนกายถอยห่างทันที
ภีมวัจน์ทอดสายตาเจ้าเล่ห์จดจ้องดวงหน้าหวานหยด แล้วเคลื่อนร่างทรงพลังขยับตาม ชายหนุ่มอยู่ใกล้หญิงสาวจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆ ของกันและกัน
“ขยับออกไปให้ห่างฉันนะ คุณภีมวัจน์” ทิชารีย์กดเสียงสั่นเครือสั่งคนตัวโตที่คอยขยับร่างตาม ยิ่งเขาอยู่ใกล้และพ่นลมหายใจอุ่นร้อนรินรดผิวผ่องไม่ห่างเธอยิ่งหวาดกลัว
ส่วนภีมวัจน์นั้นเคลิ้มไปชั่วขณะ เมื่อได้สัมผัสกลิ่นหอมยวนที่ตนห่างหายมานานหลายปี ครั้นถอดถอนปลายจมูกห่างความหอมได้คนตัวโตรีบกลบเกลื่อนความรู้สึกตนเอง ด้วยการเปลี่ยนมาสวมวิญญาณร้าย แล้วขยับปากหยักยิ้มหยัน พร้อมตะคอกเสียงห้วนกระด้างใส่หน้าหญิงสาว
“ฉันขยับห่างเธอแน่! ถ้าเธอยอมรับข้อเสนอของฉัน” คนเจ้าเล่ห์ยื่นข้อต่อรอง ทว่าทิชารีย์กลับพยศไม่ยอมฟังเขา
เพราะเมื่อครู่ที่ผ่านมาผู้ชายคนนี้ช่างไร้สัจจะสิ้นดี อุตส่าห์เธอยอมฟัง ไม่ดื้อ ไม่พยศแต่ไหนมาแสดงกิริยาไม่เหมาะสม ต่อไปเธอจะไม่ทนฟังน้ำคำจากคนลวงโลกแบบเขาอีก!
“ไม่!! ฉันไม่ฟัง” เสียงหวานปฏิเสธโดยไม่ต้องครุ่นคิดให้หนักสมอง ภีมวัจน์เห็นหญิงสาวดื้อด้าน หนำซ้ำยังออกอาการแข็งข้อทำท่าไม่หวั่นเกรง แล้วเริ่มเดือด!
อาการผยองของแม่คุณ มันน่าจับขังไว้ใต้ร่างสักเจ็ดวันเจ็ดคืนนัก! มือหนาตะปบข้อแขนเรียวแล้วกดน้ำหนักมือจนทิชารีย์หน้าเบ้ด้วยความเจ็บปวด
“ปล่อยนะ!!” เสียงหวานเปล่งคำห้วนสั่งเจ้าของมือคีมหนีบ พร้อมสะบัดข้อแขนเรียวให้พ้นมือหนา ทว่าไม่เป็นผลตรงกันข้ามคนตัวโตยิ่งเพิ่มแรงบีบแรงขึ้นเรื่อยๆ ทิชารีย์เจ็บจนน้ำตาจะเล็ดไหล น้ำใสคลอรอบเบ้า ภีมวัจน์เห็นแล้วหยักยิ้มด้วยความพึงพอใจ
“ไม่ปล่อย!!” ภีมวัจน์ตอบอย่างเอาแต่ใจ ทิชารีย์หลุบเปลือกตาพร้อมปล่อยหยาดธารน้ำใสแห่งความเจ็บปวด ให้ไหลกลิ้งออกมาอาบตามร่องแก้มสวย
“ฉันเกลียดคุณ คนไม่มีเหตุผล” เสียงหวานต่อว่า ทว่าผู้ชายใจร้ายอย่างภีมวัจน์กลับไม่สะทกสะท้าน ซ้ำยังตวาดเสียงห้วนใส่คนตัวน้อยอย่างไม่เกรงใจ
“ฉันจะทำให้เธอเกลียดฉันทิชารีย์ เกลียดเป็นร้อยเท่าพันเท่าจำไว้!!” ภีมวัจน์แผดนิสัยเสียออกมา ตามฉบับผู้ชายโหด โฉด เถื่อน เลวทราม ให้หญิงสาวได้สัมผัส ก่อนที่ปากหยักจะขยับเอ่ยต่อ “แล้วที่ฉันมาพบเธอวันนี้ก็เพราะว่าฉันมีงานให้เธอทำ ทำอย่างไรก็ได้ให้ไอ้แธนผัวเธอยอมขายที่ดินผืนนั้นให้ฉัน” หัวใจแกร่งของชายหนุ่มรวดร้าวทุกครั้ง เมื่อเอ่ยถึงบุคคลที่สามอย่างธนาวัฒน์
เมื่อทิชารีย์ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับที่ดิน ถึงกลับย่นคิ้วเรียวสวยเป็นโบว์ผูกปม พร้อมเสียงใสที่เปล่งคำถามออกมาด้วยความไม่เข้าใจ
“ที่ดิน?” ภีมวัจน์มองเห็นใบหน้าสวยใสซื่อก็ต้องเหยียดยิ้มหยันดูถูก ก่อนที่จะเริ่มอ้าปากร่ายความจริงทั้งหมดทั้งมวลให้หญิงสาวได้รับฟัง
“เธอนี่มันสวยไร้สมองจริงๆ ทิชารีย์!! ฉันจะบอกให้เอาบุญนะว่าที่ดินที่ฉันต้องการน่ะ เป็นที่ดินผืนงามย่านเศรษฐกิจ ฉันต้องการที่ดินผืนนั้นมาเป็นของฉันภายในหนึ่งสัปดาห์ ถ้าไม่ได้เธอก็รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอและไอ้ผัวสารเลวของเธอ” ภีมวัจน์เค้นเสียงห้วนออกมาด้วยความทรมานหัวใจ เมื่อเอ่ยถึงศัตรูหมายเลขหนึ่ง
ด้านทิชารีย์ก็กระตุ้นสมองน้อยๆ คิดตามที่เขาพูด ที่ดินผืนนั้นน่ะเหรอ ใช่ๆ เธอจำได้แล้ว!! ที่ดินผืนงามที่คุณพ่อธรรมนูญหวงนักหวงหนา หลังจากคุณพ่อเสียพี่แธนก็ดูแลต่อ แต่แปลกที่พี่แธนไม่ยอมทำอะไร ใครมาถามซื้อก็ไม่ยอมขาย จะทำอะไรก็ไม่ยอมทำ ได้แต่ปล่อยให้มันว่างเปล่า เอาไว้ให้พวกหากินกับที่ดินร้อนรนอยากกว้านซื้อ หวังจะสร้างกำไรมหาศาล
“ไม่!! ฉันไม่ทำ” คนตัวน้อยปฏิเสธอย่างรวดเร็ว ซึ่งคำปฏิเสธของเธอก็ทำเอาเพลิงอารมณ์ของพ่อคนใจร้อนลุกโชน มือหนากระชากร่างบางปะทะอกกว้าง ก่อนจะเค้นเสียงห้วนกระด้างใส่หน้าหญิงสาวดังลั่น!
“แต่ฉันสั่งเธอทิชารีย์! เธอต้องทำ!!” แผดรังสีอำมหิตใส่คนตัวน้อย ทำเอาทิชารีย์หัวใจแทบวาย ยิ่งคนใจร้ายตะคอกเสียงดัง เธอก็ยิ่งหวาดกลัว แต่ต้องอดกลั้นกัดฟันอ้าปากปฏิเสธเขาด้วยถ้อยคำเดิม
“ไม่!!” สะบัดกายออกห่างอย่างสุดแสนรังเกียจทว่าไม่เป็นผล เพราะคนตัวใหญ่แรงมหาศาล หนำซ้ำตอนนี้ใบหน้าหล่อเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น ฟันคมบดกระทบกันเสียงดังกรอดๆ ขณะที่ปากหยักขยับพ่นถ้อยคำห้วนออกมาอย่างโมโห
“อวดเก่งนัก!!” มือใหญ่บีบปลายคงมนอย่างโหดร้าย ทำให้เอาทิชารีย์ร้องโอดครวญด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดเหลือคณา
“โอ้ยยย!!! ฉันเจ็บ! ปล่อยฉันนะคุณภีม” น้ำตาเม็ดโตไหลอาบร่องแก้มอย่างน่าสงสาร
ทว่ามันไม่ได้เรียกร้องขอความเห็นใจจากคนใจยักษ์ใจมารแม้แต่น้อย ณ เวลานี้ความพิโรธของผู้ชายที่ชื่อภีมวัจน์มันลุกโชนจนยากเกินจะมอดดับเสียแล้ว
“ถ้าไม่อยากเจ็บไปกว่านี้ เธอก็ต้องทำตามที่ฉันสั่ง!!” เค้นคำพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน
ขณะเดียวกันมือหนายังคงกดบีบปลายคางมนแน่นขึ้นเรื่อยๆ และถ้าไม่ติดว่าคนสวยตรงหน้าคืออดีตแฟนเก่า และยังพอมีประโยชน์ต่อเขาอยู่บ้างล่ะก็ แม่คุณไม่มีโอกาสได้ยืนแย่งลมหายใจบนโลกใบนี้แน่ๆ
ภีมวัจน์ไม่สนเลยว่าเธอจะรู้สึกเช่นไร ทุกสิ่งที่เขากระทำออกมานั้นมันมาจากความเอาแต่ใจและอารมณ์ จนลืมนึกไปว่าคนทุกคนมีเลือดเนื้อหัวใจ ทุกคนเจ็บได้และร้องไห้เป็น
ส่วนทิชารีย์ไม่ยอมรับปาก หญิงสาวยังคงนิ่งงัน และปล่อยให้ความเงียบเป็นคำตอบ
“…” เชิดดวงหน้าปรายสายตาอยู่ในระดับเดียวกับคนใจร้าย ดวงตาคู่งามที่มีน้ำตาคลอรอบ จ้องกับคนตัวใหญ่ราวจะค้นหาคำตอบแท้จริงจากภายในใจ
ภีมวัจน์เห็นแววตาคู่นั้นของเธอแล้วใจกระตุกวูบ ก่อนที่จะรีบกลบเกลื่อนความรู้สึก แล้วเปลี่ยนใบหน้าเป็นสีเข้มน่าสะพรึ่งกลัว เรียวปากหยักเข่นเขี้ยวด้วยความโมโห ก่อนจะตะคอกเสียงห้วนดังก้องเอาคำตอบ
“ว่าไงฮะ!” มีเพียงหยาดน้ำตาที่ไหลออกมา ทิชารีย์ปล่อยให้คนตัวใหญ่อาระวาดเพียงผู้เดียว ขืนเธอพูดไปก็มีแต่เปลืองน้ำลายเสียเปล่า และขณะเดียวกันนั้น เจ้าของเรียวปากสวยส่งเสียงสะอื้นออกมาเป็นระยะๆ
“ฮึกๆ”
ภีมวัจน์กัดฟันกรอดๆ ด้วยความไม่พอใจ ขู่ไปทิศทางไหนทิชารีย์ก็ไม่ยอมทำตามที่ตนเสนอ และเค้าลางที่บ่งบอกว่าไม่สำเร็จนั้นก็ลอยเด่นมาแต่ไกล
ไหนจะเสียงฝีเท้าหนักๆ ที่เดินมาทางห้องน้ำ เสียงเข้มเรียบนิ่งชวนเกรงขาม ตะโกนเรียกหานายผู้หญิงด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นว่าเธอหลบมาเข้าห้องน้ำนานผิดปกติ
ทิชารีย์ไม่ทันจะอ้าปากขานรับบอดี้การ์ดคนสนิท เสียงเข้มของคนตัวใหญ่ใจร้ายรีบขู่ออกมาอย่างรวดเร็ว
“ถ้าไม่อยากให้ผัวเธอรู้ว่า ฉันกับเธอมาทำอะไรกันในห้องน้ำ เธอก็ต้องทำตามที่ฉันสั่ง!! ทำอย่างไรก็ได้ให้ไอ้แธนผัวของเธอมันยอมขายที่ดินผืนนั้นให้ฉัน!!” สั่งธุระด้วยความเห็นแก่ตัวอีกรอบ
ทิชารีย์อดคิดไม่ได้ว่าเขาไม่มีปัญญาต่อรองกับสามีเธอหรือไง ถึงได้มาอาศัยเธอเป็นเครื่องมือช่วย???
ภีมวัจน์ที่รอคำตอบจากคนตัวน้อยตรงหน้าสุดจะโมโห ไหนจะเสียงเรียกถี่ยิบของบอดี้การ์ดพวกนั้นอีก!
“นายหญิงครับ! นายหญิงอยู่ไหนครับ!!”
เสียงเข้มร้องเรียกหานายหญิงดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ด้านคนรอคำตอบอย่างภีมวัจน์ก็สุดจะทน ยิ่งคนตัวน้อยเอาแต่สะอึกสะอื้น ไม่ยอมรับงานที่เขามอบหมายให้ จนผ่านไปหลายอึดใจ เธอยังคงเงียบกริบไม่ยอมปริปากเอื้อนเอ่ยประโยคใดๆ ออกมาภีมวัจน์ไม่รอช้ารีบสั่งลาอดีตแฟนเก่าด้วยวิธีแสนถนัด!
มือหนาสองข้างโอบประคองดวงหน้าสวยหวาน พร้อมแนบปากหยักสัมผัสเรียวปากอิ่มรสหวานอย่างพอใจ ทว่าการจุมพิตครั้งนี้ทำเอาทิชารีย์แทบขาดใจ เมื่อพ่อคุณเล่นจูบมาราธอน หนำซ้ำยังบดขยี้หนักหน่วงยาวติดกันเกือบสามนาที เก็บแต้มจนสมใจอยาก และถือเป็นการลงโทษคนดื้อเงียบไปในตัว
ฟันคมขบโพรงเนื้อนุ่มอย่างมันเขี้ยว ทิชารีย์ต้องเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะเลื่อนมือเรียวผลักร่างหนาออกห่าง ซึ่งคราวนี้ภีมวัจน์ล่าถอยไปอย่างง่ายดาย น้ำตาเม็ดน้อยหยดลงเหนือปากหยักของเขา ความอุ่นร้อนของน้ำตาสาวเจ้าทำให้เขาฉุกคิดได้ ก่อนจะเผ่นร่างหลบไปอีกทางอย่างว่องไว ทิชารีย์ได้แต่เจ็บช้ำในการกระทำของคนใจร้าย เขาทำราวกับว่าเธอเป็นของไร้ค่า
จังหวะเดียวกันบอดี้การ์ดคนสนิทของสามี ถือวิสาสะเดินเข้ามาข้างในห้องน้ำ เพราะตะเบ็งเสียงเรียกอยู่นานแต่คนข้างในยังเงียบ ส่วนทิชารีย์นั้นกำลังยกมือเช็ดปาก พลางเช็ดคราบน้ำตาออกจากดวงหน้าอย่างลวกๆ อดัมเห็นอาการของผู้เป็นนายแล้วต้องรีบเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“นายหญิงเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” โน้มหน้าลงเล็กน้อย เมื่อรู้ตัวว่าตนเองล่วงล้ำเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต
“ปะ เปล่าค่ะ” ทิชารีย์ตอบอดัมด้วยน้ำเสียงสั่นระริก ทว่าด้วยความเป็นห่วง ทำให้อดัมต้องขยับปากถามย้ำอีกครั้ง
“แต่ว่า” อดัมเอ่ยได้เพียงเท่านั้น เสียงหวานของทิชารีย์ตัดบททันควัน
“ขอบใจมากๆ นะที่เป็นห่วง ทิชาปลอดภัยดีค่ะ” ว่าจบร่างสวยในชุดเดรสสีแดงก็เดินนำหน้าบอดี้การ์ดคนสนิทของสามีออกไป
ผู้ชายหน้าโหดใจอบอุ่น ได้แต่เดินตามหลังผู้เป็นนายหญิงไปอย่างเงียบๆ แต่ว่าภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่งกลับเป็นห่วงคนใจเด็ดเดี่ยวอย่างทิชารีย์พอสมควร เพราะไม่บ่อยนักเขาจะเห็นหยาดน้ำตาของเธอ ครั้งล่าสุดน่าจะเป็นตอนคุณท่านเสีย แล้ววันนี้ใครกันหนอ ที่ช่างกล้าทำให้นายหญิงของอดัมเสียน้ำตา…