ตอนที่ 4 เมียพฤตินัย 100%

3663 Words
ตอนที่ 4 เมียพฤตินัย 100% “หน้าตัวเมียอย่างนั้นเหรอฮะ!!” เลื่อนมืออีกข้างบีบปลายคางมนอย่างแรง ใบหน้างามเบ้บิดด้วยความเจ็บปวด ทิชารีย์แทบร่ำไห้ แต่หญิงสาวต้องกลั้นใจฝืนทน เชิดใส่คนนิสัยเสียอย่างไม่เกรงกลัว “ผู้ชายสารเลว…เลวนรก อุ๊บ…” ไม่ทันที่คนตัวน้อยจะเอ่ยต่อ ปากหยักแนบประกบกลีบปากอิ่มสีสวยที่เผยอค้างอย่างรวดเร็ว ความดิบเถื่อนสะท้านโลกันต์ หอบหามาฝากสาวน้อยใต้ร่างโดยเฉพาะ ทิชารีย์เม้มปากไว้แต่ก็ไม่เป็นผล เมื่อคนตัวใหญ่เหนือร่าง ใช้ความเถื่อนถ่อยทุกรูปกระบวน ปราบพยศสาวน้อยจอมอวดเก่ง กว่าสามนาที…เรือนกายกำยำของชายชาตรี ถึงผละห่างร่างงามใต้อาณัติ มือหนาปล่อยมือน้อยให้เป็นอิสระ พลางยกร่างเย้ายวนให้เลื่อนขึ้นทาบทับอยู่ด้านบน ณ ตอนนี้ ภีมวัจน์อยากกินเธอเหลือเกิน เพราะหลายวันที่ผ่านมา ร่างกายเขาเรียกร้องหาแต่สัมผัสของเธอ แม่สาวเนื้อนุ่ม…    “ทำสิ” เสียงเข้มเอ่ยบอก  “ทำอะไร?” เรียวปากสวยรูปกระจับเอ่ยเสียงหวานถามอย่างไม่เข้าใจในคำสั่ง คิ้วโก่งโค้งดุจคันสรขมวดมุ่นเข้าหากัน “ก็ทำเหมือนที่เราเคยทำร่วมกันไง แม่เมียพฤตินัย…” ทำร่วมกันอย่างนั้นเหรอ! หญิงสาวโมโหสุดขีด เรียวปากสั่นระริก ขณะนัยน์ตาวาวโรจน์ จ้องคนตัวโตอย่างเอาเรื่อง   “…” “เร็วสิ!!” เสียงห้วนรบเร้าเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเงียบและนิ่งไป ขณะมือหนาคอยบีบสะโพกมน แรงบ้างเบาบ้างสลับเปลี่ยนกัน พลันทำให้คนตัวน้อยรู้สึกกลัว หายใจเข้าออกก็รู้สึกไม่สะดวก จนในที่สุดทิชารีย์ก็ขยับปากเอื้อนเอ่ย “ฉันไม่เคยทำ” ขยับร่างหมายจะถอยห่าง แต่คนตัวใหญ่ใจเพลิงไม่ยินยอม เสียงเข้มตวาดก้องใส่หน้าสาวน้อย ถ้อยวลีที่พรั่งพรูออกมา ทำเอาทิชารีย์น้ำตาคลอรอบเบ้า รู้สึกร้อนผะผ่าวทั่วหน่วยตา “อย่ามาแสร้งโง่ ใสซื่อ เพราะไม่มีใครเชื่อเธอทิชารีย์ ผู้หญิงสำส่อนมั่วผู้ชายไม่เลือกหน้า ขนาดเมื่อครู่ยังเห็นทำระริกระรี้ใส่ผู้ชายอีกคนอยู่ อยากมากใช่ไหม!! อยากมากจนต้องไปอ่อย หึ! เห็นแล้วสมเพช!!” คนตัวน้อยได้ยินถึงกับทนไม่ไหว เขามันก็แค่ผู้ชายที่เอาเปรียบเธอด้วยวิธีเลวทราม เขามีสิทธิ์อะไรมาด่าเธอปาวๆ รู้เอาไว้ซะ! ว่าคนเรามันทนได้ไม่นาน เพราะความอดทนมันมีขีดจำกัด และที่ผ่านมาเธอก็ทนมากแล้ว วันนี้ไม่ทนต่อ ขอด่าแหลกอย่างเดียว “คุณมันก็สารเลวไม่ต่างกัน ผู้ชายชั่วช้าสามานย์ หน้าตัวเมีย โอ้ย!!” ร้องโอดเมื่อมือหนาบีบปลายคางมนอย่างรุนแรง ทิชารีย์ไม่กลัว หญิงสาวเชิดหน้าจ้องตาใส่อย่างถือดี แม้นรอบเบ้าจะมีน้ำใสคลอหน่วยก็ตาม   “ปากดีนักนะ คืนนี้เธอโดนหนักแน่!! อยากมากใช่ไหม เดี๋ยวฉันสนองให้!! รับรองเธอคลานลงจากเตียงไม่ไหว ยายผู้หญิงสารเลว สำส่อน มั่วไม่เลือก!!” เดือดดาลกันทั้งสองฝ่าย ภีมวัจน์สาดถ้อยคำชวนปวดขั้วหัวใจไม่รู้หยุด สุวานใน ปากวิ่งออกมาเล่นจนทั่วห้อง เผียะ!! เสียงเนื้อกระทบเนื้อ เมื่อฝ่ามือบางตวัดเข้ากับเสี้ยวหน้าคมอย่างแรง ภีมวัจน์โมโหสุดกู่ อารมณ์อัดอั้นภายในใจปะทุดุเดือดราวกับไฟโลกันต์   “สามหาว!!” เสียงเข้มตะคอกดังก้องห้อง แต่ดีที่ห้องพักส่วนตัวผู้บริหารหนุ่มเป็นแบบเก็บเสียง ต่อให้ตะโกนจนคอแตกก็ไม่มีใครได้ยิน “ผู้ชายชาติชั่ว จิตใจต่ำช้าสารเลว!!!” เสียงหวานแว้ดด่าจนคอเป็นเอ็น ภีมวัจน์อยากจะบีบคอขาวผ่องให้แหลกคามือนัก ชายชาญได้แต่กัดฟันกรอดๆ ขณะที่ปากหยักคอยพ่นคำหยาบ ทิ่มแทงหัวใจดวงน้อยให้แตกสลาย “เธอมันไม่ต่างจากโสเภณีข้างถนน ร่าน อยากมากใช่ไหมผู้ชาย สงสัยวันนั้นมันยังไม่สมใจอยากสินะ” โมโหจนเลือดขึ้นหน้า คนหล่อดุจเทพบุตรบัดนี้กลายร่างเป็นซาตานใจอำมหิต อารมณ์ดิ่งลงต่ำจนถึงก้นเหว “เลวนรก!!” เชิดหน้าต่อว่าอย่างไม่เกรงกลัว ท่าทางผยองของสาวน้อยทำเอาภีมวัจน์ยับยั้งความอดทนไม่ไหว พ่อคนโทสะพุ่งปรี๊ดคำรามเสียงดังกู่ก้องอีกครั้ง “ลองดู!! แล้วเธอจะรู้รสของคำว่าเลวสมใจเพรียกหา!!!” สิ้นคำ มือหนาจับหญิงสาวเปลี่ยนอิริยาบถ ให้แม่คุณลงไปดิ้นเร่าๆ อยู่ใต้อาณัติ    “ว้ายยย!!! กรี๊ดดด!!!” ทิชารีย์กรีดร้อง ยามร่างหนาคร่อมทับร่างบางไว้ทุกพื้นที่ตาราง เรือนกายอรชรดิ้นรนขัดขืนอย่างเอาเป็นเอาตายแต่ไม่สำแดงผล “สะดีดสะดิ้งเข้าไป ทำยังกับไม่เคย! ลองกับฉันมาตั้งหลายยกแล้วไม่ใช่เหรอ อย่ามาทำสำออยให้ฉันเห็น มองดูแล้วมันสมเพช!!” ถ้อยวาจาหยามเหยียดไม่นึกถึงจิตใจคนฟัง ร่างหนาทาบทับจนเจ้าของเรือนกายนุ่มดิ้นขยับไปมาไม่ได้ มีเพียงกลีบปากสวยเท่านั้นที่คอยต่อว่า “คนใจร้าย” น้ำเสียงห้วนหาญ ดวงตาคู่งามจับจ้องคนเหนือร่างอย่างเอาเรื่อง ทว่าผู้บริหารหนุ่มคนหล่อหาได้สนใจ พ่อคุณสนองคำร้ายกาจใส่สาวเจ้าอย่างไม่แยแส “ฉันจะร้ายกว่านี้อีกร้อยเท่าพันเท่า ถ้าไอ้สามีหน้าปลาบู่ของเธอมันไม่ยอมขายที่ดินผืนนั้นให้ฉัน!!” ถ้อยคำที่พรั่งพรูออกมานั้นมันเห็นแก่ตัว เสียจนคนฟังอย่างทิชารีย์เกินจะรับได้ “คุณมันเลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานเสียอีกคุณภีม อยากได้ของคนอื่นแบบหน้าด้านๆ ในเมื่อเขาไม่ยอมคุณก็ยังไม่หยุด คุณมันเลวเรี่ยดิน” ปากสีระเรื่อที่พ้นพันธนาการเพียงหนึ่งเดียว ต่อว่าคนตัวใหญ่เหนือร่างอย่างรุนแรง ภีมวัจน์เขาเป็นผู้ชายที่ตอแยไม่เลิกจริงๆ ทั้งๆ ที่พี่ชายเธอบอกไปแล้วว่าไม่ขายที่ดินผืนนั้น ทว่าเขาก็ยังดื้อด้านที่จะเอา เอามาครอบครองเพื่อเกร็งกำไรในทอดต่อไป “ปากเก่งแบบนี้อยู่ให้รอดทั้งคืนละกัน ลองดู!! ถ้าเมียมันมาอยู่กับฉันทั้งคืน ยอมอ้าขาให้ฉันเอาฟรีๆ ถึงสองครั้งสองครา มันจะเป็นอย่างไร มันจะรักที่ดินหรือรักเมีย เดี๋ยวเธอก็รู้ ทิชารีย์!!” คนสันดานทรามเอ่ยอย่างร้ายกาจ ทิชารีย์แทบร่ำไห้ เมื่อนึกตามคำพูดที่พรั่งพรูออกมา นี่ไม่กี่อึดใจเธอต้องยอมเขาอีกครั้งอย่างนั้นเหรอ… “อ๊ายย!!” ทิชารีย์กรีดร้องอย่างตกใจ เมื่อใบหน้าหล่อโน้มลงไซ้ซอกตามลำคอเรียวระหง หน้างามบ่ายเบี่ยงเลี่ยงหลบพัลวันทว่าก็ไร้ผล “เป็นเมียฉันอีกรอบมันไม่สึกหรอหรอก ก็เห็นชอบไม่ใช่เหรอกับไอ้การอ้าขา แล้วแหกปากครวญครางเวลาฉันเอาน่ะฮะ!! เดี๋ยวฉันสนองให้ คืนนี้เธอหุบขาไม่ลงแน่!!” ตวาดเสียงดังก้องไม่ห่างกกหูผ่อง ทิชารีย์ได้ยินถึงกับเจ็บร้าวลึกสุดขั้วหัวใจผู้ชายที่เธอเคยมอบหัวใจให้เมื่อหลายปีก่อน เขาไม่เหลือเยื่อใย ไม่เหลือแม้แต่ความเห็นสงสารให้เธอแม้แต่น้อย เขามันใจร้าย ใจร้ายที่สุด!! ฉาด!!! ฝ่ามือน้อยที่บิดพ้นจากการเกาะกุม ตวัดใส่เสี้ยวหน้าคมอย่างรุนแรง ภีมวัจน์พิโรธสุดๆ ปากหยักพ่นตะคอกคำห้วนตามแรงอารมณ์ที่โหมกระเพื่อมในใจ “ชอบรุนแรงก็ไม่บอก เดี๋ยวพี่จัดให้น้อง…” สิ้นคำมือหนาไม่รั้งรอ กระชากกระชั้นกั๊กยีนส์สีซีดให้พ้นกายบางอย่างป่าเถื่อน ตามด้วยเดรสสีสวยซึ่งถูกมืออสูรฉีกจนขาดวิ่น ใยด้ายคมบาดผิวพรรณผ่องสกาวจนเลือดซิบ ทว่าคนใจมารก็ไม่มีท่าทีเห็นใจ ในขณะที่ใบหน้างามเบ้บิดตามความรู้สึกที่ตนได้รับ “โอ้ยยย!!!” เสียงหวานกรีดร้องอย่างเจ็บปวด ห่อกายหลบมืออสูรร้ายพัลวัน คนตัวโตปล้ำถอดเสื้อผ้าอาภรณ์อย่างดิบเถื่อน    ปากหยักประกบปิดกลีบปากอิ่ม ลิ้นร้อนคว้านชิมโพรงปากหวาน พลางขบเม้มอย่างสาแก่ใจ ก่อนจะลากไล้ใบหน้าหล่อเหลาฝากฝังไปตามเนื้อผ่อง    มือหนาบีบหมับตามแนวร่าง อ้อมมาทางด้านหลังปลดตะขอบราเซียร์สีหวานอย่างสิเน่หา แรงพิศวาสครอบคลุมคนตัวโตจนโงหัวไม่ขึ้น ยิ่งปากร้อนลิ้นชื้นได้สัมผัสความหอมหวานเย้ายวนของแม่นวลอนงค์ตรงหน้า มันยิ่งชวนให้เขาเคลิ้มไหวจนถึงกู่ไม่กลับ ครั้นยามเสียงหวานร้องห้าม ปากหยักก็เลื่อนมอบจุมพิตแสนเร่าร้อนให้อย่างรัญจวน ปราการเบื้องบนหลุดพ้น ใบหน้าหล่อคมลากต่ำ พร้อมตวัดปลายชิวหาร้อนรัญจวนวนรอบฐานอวบอิ่ม ยอดปทุมมาลย์เต่งตึงอวดช่อชูล่อตาล่อใจให้ภมรหนุ่มเชยชิม ลิ้นร้อนร้ายไล้เลียจนถ้วนทั่ว ฟันคมขบเม้มอย่างมันเขี้ยว ขณะเดียวกันเจ้าตัวเขาเอาแต่ร่ำไห้สะอึกสะอื้น   อุ้งมือร้อนอีกข้างลากต่ำลงมาสัมผัสปราการชิ้นบางเบาเบื้องล่าง คนใจร้อนรุ่มวู่วามไม่รั้งรอให้เสียเวลา กระชากแพนตี้ตัวจ้อยให้หลุดล่อง ดอกไม้แดนสวรรค์เผยให้ประจักษ์ นัยน์ตาคมวาวทอดมองหยาดเยิ้ม ใบหน้าคมเลื่อนต่ำ ลำคอแห้งผาก ใบหน้าหล่อเลื่อนต่ำลงเรื่อยๆ จนได้กลิ่นสาบสาว ขณะที่หยาดธารน้ำหวานซึมออกมาจนเอ่อล้น คนตัวโตมีหรือจะทนไหว เขาเคลื่อนใบหน้าเข้าใกล้ แต่แล้วต้องอารมณ์ฉุนกึก! เมื่อแม่คุณเกิดดื้อขึ้นมากลางคัน ปากหยักพ่นเสียงเข้มสั่ง “อย่าดื้อ!! ถ่างขาออกเดี๋ยวนี้!!” ไม่รอให้แม่คุณได้แยกขา มือหนาวิสาสะแยกเรียวขาเสลาออกห่างกันด้วยตนเอง ชายชาญผู้ช่ำของในศึกรักมาหลายร้อยสนาม ต้องตาค้างตะลึงในความสวยงาม ซึ่งกำลังกลั่นหยาดน้ำหวานออกมาอย่างมหาศาล ลิ้นร้อนลากสัมผัสกลีบดอกไม้งามครั้งแล้วครั้งเล่า กวาดชิมจนหนำใจ ภมรผู้ตัวใหญ่มอบความหฤหรรษ์แก่คนตัวน้อยนานหลายนาที ขณะที่ความปรารถนาในกายชายกำลังลุกโชน จนเขาปวดหนึบ เขาจำใจละใบหน้าออกจากเนินสวรรค์แล้วเลื่อนมือหนาปลดเสื้อผ้าบนกายออกหมดเกลี้ยง เหลือเพียงกายเปลือยเปล่าให้ได้ยลโฉม หน้าท้องเป็นลอนคลื่นสวยงาม เรียงตัวอย่างเป็นระบบระเบียบ ไรขนสีอ่อนประปรายอย่างเซ็กซี่ สรีระถอดแบบมาจากนักรบกรีกอย่างไรอย่างนั้น เข่าแกร่งสองข้างแยกท่อนขาเสลาออกห่าง ฝังกายแทรกลงระหว่างกลาง โยกร่างเข้าใกล้ แล้วกระแทกความมหัศจรรย์เข้าไปทักทายดอกไม้สวยซึ่งกำลังพร่างพรายไปด้วยธารน้ำหวานแห่งสวรรค์ ทว่าเข้าไปรวมเป็นหนึ่งเดียวได้ไม่ถึงครึ่ง คนตัวใหญ่ต้องหน้าบิดหน้าเบี้ยวด้วยความเจ็บหนึบ ครั้นดินแดนสงวนสุดแสนคับแน่น แม้นเขาจะเคยทักทายมาแล้วหนึ่งครั้ง ทว่าส่วนนั้นมันยังแน่นกระชับเป็นอย่างดี “โอ้ยยย!!” เสียงหวานโอดครวญ เมื่อร่างกายของเธอโดนบุกรุก หญิงสาวข่มกลั้นความเจ็บรวดร้าวสุดใจ น้ำตาเม็ดน้อยใหญ่ไหลพาดหางตาออกมาไม่รู้หยุด การรักของเขาครั้งนี้เธอสติเต็มร้อย รับรู้รสชาติของความเจ็บปวดทุกอณูเนื้อ ร่างกายเหมือนโดนฉีกแยกออกเป็นชิ้นๆ ปากหยักเลื่อนประกบกลีบปากอิ่ม สอดเรียวลิ้นหนามอบความเพลิดเพลินรสหวานล้ำ ให้คนใต้ร่างลืมความเจ็บปวด นิ้วเรียวยาวกรีดน้ำตาที่ไหลออกมาให้อย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะเคลื่อนสะโพกสอบ ผลักส่วนมหัศจรรย์ที่เหลือ เข้าไปหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับหญิงสาวจนหมดสิ้น ในช่วงจังหวะที่แม่คุณกำลังเคลิบเคลิ้ม “แน่นเหลือเกินคนสวย…” เอ่ยเสียงเข้มเหนือกลีบปากอิ่ม เหงื่อเม็ดน้อยผุดตามไรผม ปากหยักพรมจูบให้อย่างสิเน่หา “เจ็บ…อ๊ะ…” เสียงหวานครางบอก เมื่อความเจ็บปวดที่มาพร้อมกับความซ่านเสียววิ่งพล่านทั่วร่างกาย “จุ๊ๆ ไม่เจ็บคนสวย…” เอ่ยเสียงทุ้มหลอกล่อแม่สาวประสบการณ์น้อย พร้อมขยับฝากฝังตัวตนเข้าไปจนลึกสุด ก่อนจะค่อยๆ ถอนออกมา ร่างบางผวาเฮือก วงแขนเรียววาดโอบร่างหนาโดยไม่รู้ตัว ขณะที่มือหนาของคนตัวใหญ่ เปลี่ยนจัดแจงร่างบางให้พร้อมในท่าเผด็จศึก ก่อนจะกระแทกกายลงไปราวพายุโหมกระหน่ำ ทิชารีย์ปล่อยให้เขากระทำเรือนกายของตนอย่างเลยตามเลย ในเมื่อห้ามไม่ได้ เธอจะห้ามไปทำไม ห้ามไปก็เปลืองน้ำลายเปล่าๆ… “อา…” เสียงหวานผสานเสียงทุ้มครวญครางออกมา เมื่อจับจูงมือกันไปแตะขอบฟ้า น้ำทิพย์แห่งเมล็ดพันธุ์ปล่อยเข้าไปในกายสาวอย่างล้นหลาก เมื่อสิ้นสุดอารมณ์ต้องการ ผ่านไปหลายนาที คนตัวใหญ่ไม่ยอมถอดถอนกายออก พ่อคุณหน้าด้านฝากตัวตนหลอมรวมเอาไว้กับหญิงสาว ซึ่งโอบกระชับอย่างแนบแน่น ขณะที่ปากหยักคอยปล้ำจูบทั่วเนินผ่อง ลิ้นร้อนรัญจวนหยอกเอินเม็ดบัวสีสวยทั้งสองข้างอย่างเมามัน ครั้นเหลือบสายตาเห็นร่างบางใต้อาณัติเหนื่อยอ่อน พ่อคุณก็นึกคันปากอยากเย้าแหย่ให้คุณเธอเจ็บใจเล่นๆ เสียงเข้มเลยเปล่งวาจาชวนข่วนหน้าออกมา “ถึงจะเก่าแต่ว่าเร้าใจเป็นบ้า” แสยะมุมปากหยักใส่อย่างดูแคลน ทิชารีย์ไม่ตอบ มีเพียงเม้มปากเป็นเส้นตรง พร้อมปล่อยหยาดน้ำตาแห่งความเสียใจให้ไหลออกมา   “ทำเป็นสำออย สำส่อนมาเป็นร้อยโดนแค่นี้ทำเป็นร้องห่มร้องไห้ หึ…น่าสมเพชสิ้นดี!!” ภีมวัจน์รู้อยู่แก่ใจ ว่าสาวน้อยตรงหน้าที่ตนเสร็จกิจเมื่อครู่ ไม่ได้เป็นอย่างว่า แต่เขาก็รั้งสุนัขตัวโตในปากเอาไว้ไม่อยู่ พลันทำให้เอ่ยคำเราะร้าย ทิ่มแทงหัวใจดวงน้อยให้บอบช้ำ “ฮึกๆ” คนตัวน้อยร่ำไห้สะอึกสะอื้น ทว่าน้ำตาเหล่านั้นไม่สามารถเรียกร้องอะไร จากคนใจดำอำมหิตอย่างภีมวัจน์ได้เลย เพราะชายหนุ่มจงใจให้เธอเจ็บปวด  คนใจต่ำทอดสายตามองเจ้าของเสียงสะอื้นอย่างหยามเหยียด มุมปากหยักยกกระตุกแล้วขยับเอื้อนเอ่ย พร้อมยื่นธนบัตรสีเทาสองใบใส่หน้า    “เอาไปซะ รางวัลปลอบใจสำหรับของเหลือใช้อย่างเธอ เอาไปซ่อมช่วงล่างมาดีๆ ล่ะ หรือจะให้ฉันช่วยซ่อมก็ยินดี ฟรีไม่คิดค่าบริการ ลองดูไหม?”  ทิชารีย์พุ่งปรี๊ด หญิงสาวสั่นเทิ้มไปทั้งตัว คำพูดเขามันเหมือนฝ่ามือใหญ่ที่ตบฉาด!! คนตัวน้อยเชิดหน้า กรีดน้ำตาให้แห้งเหือด แล้วตวาดเสียงแว้ดใส่อย่างเกรี้ยวกราด   “ฝันไปเถอะ! ฉันจะคิดซะว่า ที่ผ่านมามันเป็นการทานครั้งยิ่งใหญ่ ทานให้กับพวกสัตว์นรก เผื่อว่ามันจะได้ไปผุดไปเกิดกับเขาเสียที ครั้นอยู่ต่อไปก็รั้งแต่รกโลก!!!” ยิ้มหยันใส่หน้าชายหนุ่มอย่างสะใจ ท่าทางอวดเก่งจอมผยองเริ่มหวนกลับมาอีกครั้ง ภีมวัจน์ได้ยินโกรธสุดๆ สงสัยแม่คุณมีแรงขึ้นมาแล้วสินะ ถึงได้ปากเก่งเถียงฉอดๆแบบนี้ “อยากโดน ‘เอา’ อีกรอบใช่ไหมฮะ!! มานี่!!” กระชากร่างงามลุกขึ้น ทว่าทิชารีย์กลับหน้าเบ้ เมื่อความเจ็บจี๊ดวิ่งจุกท้องน้อย “โอ้ยยย!!! ฮึกๆ ฉันเจ็บ…ปล่อยฉัน…ฮึกๆ” เสียงโอดครวญผสานเสียงสะอื้น ร่างงามดิ้นรนขัดขืน ทำเอาภีมวัจน์ต้องบดกรามบึนเป็นสันนูน “ร้องจนตายฉันก็ไม่ปล่อย! เธอหาเรื่องเจ็บตัวเองทั้งนั้น” สิ้นคำตะคอก ใบหน้าหล่อโน้มสัมผัสความหอมยวนบนเรือนกายผ่อง มือหนารวบข้อแขนเรียวทั้งสองเอาไว้เหนือศีรษะ ปากหยักบดขยี้กลีบปากอิ่มอย่างรุนแรง ทิชารีย์จะเอื้อมมือฟาดเสี้ยวหน้าคมสักฉาดก็ไม่ได้ “ฮึกๆ พี่แธนช่วยทิชาด้วย พี่แธน…” กลีบปากเรียวสวยเรียกชื่อสามี หวังให้เขามาช่วยเธอไปให้พ้นจากนรกตรงหน้า ทว่ามันกลับทำให้ใครอีกคนเดือดดาลจนเลือดขึ้นหน้า ในขณะที่ร่างงามเย้ายวนกำลังบิดม้วนกายกระสับกระส่าย เบี่ยงหน้าหลบเลี่ยงความเจ็บปวด ที่ผู้ชายหัวใจซาตานมอบให้ “จะร้องหาพระแสงอะไร จ้างให้มันก็ไม่โผล่หัวมา ไอ้ผัวชาติชั่วของเธอน่ะ หยุดร้องแล้วเปลี่ยนมาครางหวานๆอย่างสุขสมดีกว่าไหม แม่เมียสำส่อน…” ตวาดเสียงใส่อย่างห้วนหาญ พลางเลื่อนปากร้อนชื้นลิ้นละเลงบนยอดดอกบัวคู่อวบอัด “อ๊ะ ไอ้ผู้ชายชาติชั่ว สารเลว นรกส่งมาเกิด ไอ้คนทราม ไอ้หน้าตัวเมีย!! ไอ้…อ๊ะ!” ทิชารีย์ก่นด่าต่อไปไม่ไหว เมื่ออุ้งปากร้อนชื้นงับยอดเม็ดบัวหวานอย่างจงใจ ยิ่งเธอไม่หยุดเขาก็ยิ่งเพิ่มความแรงระคนเสียดเสียวให้หญิงสาวได้สัมผัสมากขึ้นเท่านั้น  ภีมวัจน์ถูกลีบปากชื้นวนรอบฐานเต่ง พร้อมพรอดเสียงทุ้มโต้กลับอย่างไม่ยอม  “ไอ้เลวๆ ทั้งหมดเธอที่สมอ้างมา มันก็เป็นผัวเธอไม่ใช่เหรอฮะ สมใจอยากแล้วสินะ แม่วันทองสองผัว หึ…” วาจาเราะร้ายจากผู้ชายปากจัดจ้าน ทำเอาคนฟังหัวใจสั่นสะท้านทีเดียว “ฉันไม่ต้องการผัวเลวๆ อย่างคุณ หน้าตัวเมีย! ทำร้ายผู้หญิงไม่มีทางสู้ ไอ้…อ๊าย!!” คนตัวเล็กหวีดร้อง เมื่อร่างหนาทาบทับเรือนกายผ่อง เนื้อแท้สองหนุ่มสาวแนบชิดกันทุกสัดส่วน ไม่เว้นแม้กระทั่งช่องว่างให้ลมลอดผ่าน อกนุ่มเสียดสีอกกว้างกระด้างอย่างรัญจวน ส่วนหน้าท้องแบนราบแนบสนิทคลื่นลอนซิกแพ็ค ทิชารีย์ใจสั่นผวา อ้าปากค้างด้วยความตกใจ “ไอ้อะไรอีกฮะ!! อุ๊บ!!!” ภีมวัจน์แนบปากหยักบดขยี้กลีบปากอิ่มสีเรื่อด้วยหัวใจร้อนรุ่ม อยากจะงาบแม่นวลอนงค์ตรงหน้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ เรียวลิ้นร้อนชื้นเกี่ยวลากคว้านหาความหอมหวานอย่างหฤหรรษ์ ฟันซี่คมขบปลายลิ้นเล็กลงโทษเพื่อให้คนตัวน้อยรู้สึกเจ็บแล้วหลาบจำ สองหนุ่มสาวต่อสู้กันผ่านริมฝีปากนานหลายอึดใจ และเห็นว่าม้าสาวจอมพยศหยุดนิ่ง มือหนาเลื่อนให้มือบางมาโอบรอบลำคอแกร่ง ขณะที่อุ้งมือร้อนนั้นไล่บีบตามเรียวร่างระหงจนครบพื้นที่ตารางนิ้ว พร้อมแนบปากหยักซุกซนฉกชิมเนินสกาวอย่างหนำใจ ภีมวัจน์ยืดร่างออกจากเรือนกายผ่องโสภา เพื่อละเลงหน้าฝากฝังลงไปหาความอวบหยุ่น ลิ้นร้อนตวัดเลียไล้ไต่ตั้งแต่ฐานอกอวบ พาดผ่านความนุ่มนิ่มอย่างรัญจวน กายงามบิดเร้าด้วยความรู้สึกซ่านสยิว เสียงหวานครางออกมาเป็นระยะๆ เมื่อไฟพิศวาสแผดเผา เล้าโลมแม่สาวเอวบางร่างอ่อนจนระทวย คนตัวโตที่พรั่งพร้อมมานาน ตอกย้ำความมหัศจรรย์ฝังลงเนินสวรรค์อย่างซาบซ่าน ทิชารีย์สะดุ้งเฮือก จนเผลอวาดวงแขนกอดรอบลำคอแกร่ง เพราะคนใจร้ายฝากกายลงไปคราวเดียวจนมิดด้าม หนำซ้ำยังถลำลึก จังหวะการขยับทำเอาหญิงสาวซาบเสียวมากกว่าเจ็บจุก ครั้นร่างบางกระถดถอย มือหนาก็ตรึงสะโพกอวบไว้อย่างเอาแต่ใจ เรียวปากหยักไหนจะลิ้นร้อนรุ่ม ซึ่งกำลังผสานหน้าที่กันอย่างลงตัว เฝ้าระรัวไม่หนีห่างกลางร่องอวบอัด ยอดปทุมมาลย์หวานล้ำยิ่งกว่าน้ำตาล ชายชาญผู้ช่ำชองมอบความเสียวซ่าน แก่สาวเอวบางร่างน่าถนอมจนหนำใจ และไม่กี่นาทีต่อมา เขาก็พาเธอไปแตะขอบฟ้าเป็นรอบที่สอง ก่อนจะนำพาตนเองตามไปติดๆ กายหนาเกร็งกระตุก พ่นหยาดเมล็ดพันธุ์เข้าหาดอกไม้งามล้นเอ่อล้น ใบหน้าคมซวนซบลงหว่างกลางอกอวบหยุ่นทั้งสอง ไม่เพียงซบเฉยๆ แต่พ่อคุณตวัดปลายลิ้นชื้นมอบความสุขซ่านแก่สาวน้อย ทิชารีย์บิดกายเกลียวกราว ขณะที่เบื้องล่างของทั้งสองยังรวมตัวเป็นหนึ่งเดียว    จังหวะที่ลิ้นร้อนชื้นละจากความอวบหยุ่น แล้วเปลี่ยนมาสัมผัสตามลำคอระหง หญิงสาวเลยพ่นวลีเด็ดเล็ดลอดออกมาด้วยความสุดทน พ่อคนใจเพลิงได้ยินถึงกับหน้าหงิกด้วยความไม่พอใจ “ฉันเกลียดคุณ ผู้ชายนรก!!” สิ้นเสียงแว้ดๆ คนใจร้ายมอบความป่าเถื่อนให้ทิชารีย์เป็นรอบที่สาม สาวน้อยผู้ด้อยเชิงชายชาญ ต้องตกเป็นทาสรองรับอารมณ์ผู้ชายใจเหี้ยมอย่างไม่มีทางเลี่ยงหลบ นอนให้เขากระทำชำราวร่างกายตนอย่างเศร้าสร้อยใจ ปล่อยหยาดน้ำตาเม็ดหยดน้อยใหญ่หลั่งไหลออกมาไม่ขาดสาย   พายุขนาดใหญ่โหมกระหน่ำลงจนเกินต้าน หญิงสาวเหนื่อยอ่อนเพลียหลับไปตั้งแต่คราใดไม่รู้ตัว มีเพียงคนความต้องการสูงที่คอยสาดกระหน่ำสะโพกเข้าออกอย่างบ้าคลั่ง กระแทกแยกย้ำความมหัศจรรย์ลงไปอย่างหน่วงหนัก ถึงจุดสุขสมอารมณ์หมาย เขาจึงปล่อยแม่ร่างบางพักผ่อน ถอดถอนความมหัศจรรย์ออกสู่ภายนอก ทั้งๆ ที่ใจจริงอยากให้ดอกไม้สวรรค์โอบรอบเอาไว้ตลอดเวลา… ภีมวัจน์ไม่ยอมผละกายออกห่าง ในเมื่อหัวใจแกร่งเรียกร้องอยากเฝ้าสัมผัสเรือนกายหอมกรุ่น ชายหนุ่มเลยวาดวงแขนแกร่งรวบรัดร่างอรชรมานอนแนบอก ปากหยักจรดเรือนผมนุ่มสลวยที่เป็นคลื่นลอน ก่อนจะไซ้ซุกปลายจมูกโด่งสันเก็บความหอมยวนบริเวณซอกคอผ่อง ลมหายใจอุ่นร้อนรวยรดอย่างพอใจ …สองครั้งสองคราที่เขาตีตราประทับบนกายโสภาผ่อง และมันก็ยากเกินจะถอนตัว เพราะร่างกายของเขาดูเหมือนจะยึดติดในรสสัมผัสของเธอแต่เพียงผู้เดียว…เมียพฤตินัย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD