7

1367 Words
กระทั่งรถจอดหัวมุมถนนเสอ เจ้าหยวนอีก็หวนถึงภาพความหลังเมื่อครั้งเป็นเด็กหญิง “ที่นี่ของกินต้องอร่อยแน่เลย” เธอเอ่ยขึ้นอย่างนั้น และความทรงจำในใจผุดขึ้นทีละน้อย นั่นเป็นเพราะเจ้าของร่างยังคิดถึงหลายชีวิตในอดีต ทั้งบิดาเลี้ยง และคนคุ้นเคย เรื่องราวเหล่านั้นเกิดขึ้นก่อนที่เธอจะมาเป็นดาราดังในปัจจุบัน ในความทรงจำฉายชัดว่า พ่อเลี้ยงแซ่ถาน ชื่อ ถานจิง เขาขาเป๋ข้างหนึ่ง อาศัยอยู่กับพี่สาวชื่อ ถานเยี่ยน และฝ่ายนั้นเป็นแม่ม่ายมีลูกชาย และลูกสาว ฝ่ายเจียวจ้านที่หลับตลอดการนั่งรถ ก็ตื่นขึ้นเมื่อมาถึงที่หมาย “โอ้... ต้นไม้เยอะมาก และมีคนแต่งตัวแปลกๆ” เด็กชายว่าอย่างนั้น เขาอยู่แต่ที่คฤหาสน์ โรงแรม แล้วก็สนามเด็กเล่น การออกมาที่ไกลๆ อย่างเช่นเขตนอกพื้นที่เช่าต่างชาติ เรื่องนี้นับว่าเป็นครั้งแรก ดวงตากลมโตมองไปยังส่วนที่มีลอดตาข่ายกั้นเอาไว้ ข้างในไม่ใช่คุก หากเป็นส่วนของโรงงานผลิตเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องกระป๋อง และผลิตกระดาษ “ไม่แปลกหรอกจ้านเกอ พี่พวกนั้น ทำงานในโรงงาน แล้วก็มีคุณป้า คุณลุง น่าจะอยู่โรงละครงิ้ว” พอเอ่ยถึงโรงงาน เด็กชายก็ตื่นเต้น ชุดของคนเหล่านั้น คล้ายกันไปหมด มองแล้วก็เหมือนพี่นักเรียน ผิดแต่ใบหน้าพวกเขาบึ้งตึงสักหน่อย อีกทั้งบางคนผอมบาง “แม่ใหม่ฮะ โตขึ้นน้องจะไม่ทำงานโรงงานนะ” “เอ ทำไม ถึงพูดแบบนั้น” “น้องกลัวอดขำไม่ได้ น้องชอบหัวเราะ ชอบคุย แต่ดูพวกเขาซี เดินตัวแข็งๆ แล้วก็เข้าไปในตึกเป็นกล่องๆ น้องว่าต้องมีอะไร ที่แปลก ๆ คอยห้ามไม่ให้ยิ้ม และหัวเราะ” เจ้าหยวนอียิ้มให้กับคำพูดเด็กชาย และเนื่องจากเป็นช่วงพักเบรก จึงมีพนักงานบางส่วนออกมาอยู่บริเวณด้านข้างของโรงงาน บ้างก็เดินยืนยืดเส้นยืดสาย บ้างกินของว่าง ในโลกเดิมที่จากมา เจ้าหยวนอีไม่เคยเป็นสาวโรงงาน หากรู้จักหนุ่มๆ ที่ทำงานในออฟฟิศอยู่บ้าง บางครั้งพวกเขามักเล่าชีวิตน่าเบื่อหน่ายให้ฟัง อีกทั้งยังต้องทำโอที จนร่างกายสูบผอม บางคนถึงขั้นป่วย และเสียชีวิต “ถ้าอย่างนั้น จ้านเกอต้องตั้งใจเรียนหนังสือให้เก่ง เมื่อโตจะได้เลือกงานตามที่ใจชอบ” เด็กชายยิ้ม และเอ่ยว่า “น้องก็ชอบเรียนนะ และอยากเก่งเหมือนปะ ป๊า เป็นคนหล่อ แล้วก็รวย มีลูกน้องเป็นฝูงได้ไหม” เจ้าหยวนอียิ้มให้กับคำพูดเปรียบเทียบถึงซ่งฮ่าวตง และขำที่เด็กชายเอ่ยถึงสมุนของอีกฝ่ายที่มีเป็นฝูง “ดีค่ะ คุณพ่อเป็นคนเก่ง และรวย” เจ้าหยวนอีไม่ได้ประชด ในขณะนั้นสายตาเธอกวาดไปรอบๆ ตัว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเหตุใด ถึงอยากมาทีถนนเสอนัก “นายหญิงเล็กอี ผมว่ารีบออกไปจากทีนี่เถิดครับ ดูไม่ปลอดภัยสักเท่าไหร่” หญิงสาวเข้าใจความห่วงใยของโทนี่ ดังนั้นจึงบอกเขาว่า “ขอฉันเดินดูอีกสักหน่อย ครั้งนี้อาจเป็นโอกาสเดียวที่จะได้กลับมา และโทนี่ก็อยู่กับจ้านเกอบนรถแล้วกัน พอเขากินไอศกรีมในถ้วยหมด ฉันคงกลับมาพอดี” โทนี่ไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ แต่หญิงสาวยืนยันเจตนาของตน และไม่ใช่ว่าเธออวดดี หากเจ้าของร่างมีสิ่งติดค้างกับพื้นที่บริเวณนี้ ซึ่งหลายปีแล้ว ที่เธอไม่ได้กลับมา นอกจากนั้นเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ทำให้เธอสูญเสียหลายคน และพลัดพรากจากกัน ทั้งพ่อเลี้ยง ป้าและลูกๆ ของอีกฝ่าย เจ้าหยวนอีเดินไปอีกหลายก้าว ก็เป็นตอนนั้นที่เธอต้องยืนนิ่งค้าง ผู้หญิงคนหนึ่งแต่งตัวด้วยเสื้อผ้ามอมแมน ใบหน้าแต้มสีเครื่องสำอางราคาถูก หางคิ้วข้างหนึ่งยังมีแผลให้เห็น ถึงอย่างนั้นก็เห็นว่า มีความสวยมิน้อย “นะ นั่น พี่หยวนอีหรือ...” อีกฝ่ายร้องถาม สีหน้าไม่แน่ใจ เนื่องจากการแต่งตัว และอำพรางใบหน้าด้วยแว่นตา และหมวก ยามนั้นหัวใจของเจ้าหยวนอีหดเกร็ง เธอจำได้คลับคล้ายว่า คนที่เรียกเธอก็คือ ลูกสาวคนเล็กของป้าเยี่ยน “เสี่ยวถง... นั่นใช่เธอหรือเปล่า” หนิงถงพยักหน้ารับ และคำที่เธอเอ่ยต่อจากนั้นคือ “ทำไม พี่ถึงเพิ่งกลับมา... รู้ไหมว่า อาจิง เพิ่งตายไปเมื่อต้นปี เขายังถือรูปถ่ายของพี่ไว้ตลอด และเฮียเหว่ยก็เข้าคุก เขาพยายามไปตามหาพี่ที่โรงถ่ายหนัง เพื่อแจ้งข่าวอาการป่วยของอา ตะ แต่คนพวกนั้น ทำร้ายเขา และทุบตี แล้วยังแจ้งตำรวจว่า เขาเป็นขโมย!” หญิงสาวมึนงง และสับสนไปหมด แต่สมองประมวลผลให้ทราบว่า ถานจิงก็คือพ่อเลี้ยงที่เก็บเธอมาจากกองขยะ ส่วนถานเหว่ยคือลูกชายป้าเยี่ยน คู่กัดของเธอตั้งแต่วัยเยาว์ “พี่ทิ้งพวกเรา... ไม่เคยคิดกลับมาดูแลเลย” หนิงถงเอ่ยได้เท่านั้นก็ทรุดตัวลงไปกองบนพื้น พร้อมกับตีอกชกตนเอง ชีวิตนี้บัดซบเหลือเกิน อีกทั้งเธอเกลียดตัวเอง ที่ไม่สวย และเป็นที่รักของคนอื่นอย่างเจ้าหยวนอี ซึ่งชีวิตอยู่บนความหรูหรา ได้กลายเป็นมุกราตรีของเอเชีย! ฝ่ายเจ้าหยวนอี ยังนิ่งค้างอยู่ในห้วงคำนึง พลางนึกย้อนถึงสิ่งต่างๆ ที่รับรู้ นับแต่เข้าเรียนการแสดง และกลายเป็นคนดัง เธออยู่ในการดูแลของผู้เจ้าของค่ายหนัง (เต๋อหมิน) และผู้จัดการส่วนตัว ซึ่งชื่อว่า ถีหลัน ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน ซึ่งเงินส่วนหนึ่งเธอบอกทั้งสองช่วยดูแล พร้อมกับให้ความช่วยเหลือมูลนิธิผู้ยากไร้ในชุมชนถนนเสอ พร้อมกันนั้น ก็ให้ติดตามข่าวหาครอบครัวของถานจิง แต่ก็ไร้วี่แววมาตลอด กระทั่งวันนี้ถึงรู้ว่า เธอถูกคนอื่นปั้นเรื่องหลอกลวง ด้วยเถียนจิงไม่ได้เสียชีวิตในกองไฟ หากยังอยู่ที่ชุมชนเดิมของเมืองเผิง ยามนี้เจ้าหยวนอีเข้าใจอีกขั้นแล้วว่า เหตุใดเจ้าของร่างถึงอยากให้เธอย้อนเวลามาเกิดใหม่ ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยให้เจ้าหยวนอี ได้สะสางความแค้น ต่อคนที่หักหลังและทรยศเธอ จนทำให้ครอบครัวเดิมที่เคยดูแลเธอต้องพบกับการสูญเสีย กับความทุกข์อย่างแสนสาหัส “ปะ ป้าคังยังอยู่ที่นี่ไหม” ยามนั้นหนิงถงมองเจ้าหยวนอีตาขวางจัด ก่อนตอบเสียงสะบัดว่า “แม่เกลียดพี่เข้าใส้ บอกว่า ตายไปก็อย่าได้เผาผีกัน!” ขณะที่หนิงถงเอ่ยจบ ได้มีชายสองคนเดินมาใกล้ๆ หนิงถง พร้อมกับยื่นข้อเสนอกับเธอ “เอาเป็นว่าตามที่คุยกันไว้ บุหรี่นอกสองซอง เหล้าหนึ่งกลม... และเงินอีก 3 ดอลล่า นอนกับอั๊ว แล้วก็ไอ้ผอมนี่ได้ไหม” สิ่งที่เจ้าหยวนอีได้ยิน ทำให้เธอเข้าใจทันทีว่าหนิงถงเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของตนด้วยอาชีพอะไร? โจวซานซานใช้อภิสิทธิ์ใดถึงเข้าไปรอซ่งฮ่าวตงที่ห้องรับรองของโรงงานแห่งนั้นได้ คงเป็นเพราะบ่ายนี้ บิดาของเธอ นัดแนะเจรจาธุรกิจกับชายหนุ่ม เย็นวันนี้ หญิงสาวเปลี่ยนชุดกี่เพ้าแขนกุด เนื้อผ้าดีแนวอวดทรวดทรงหุ่นนาฬิกาทรายสีแดงเพลิง และมันผ่าลึกด้านข้างจนเห็นเนื้อสาวในร่มผ้าชัดเจน ริมฝีปากก็งามหยด มีผ้าพันคอสวยๆ พาดหัวไหล่ไว้อย่างเก๋ไก๋ หล่อนรอชายหนุ่มอยู่เกือบชั่วโมงเศษ หลังจากเขาคุยธุระเสร็จ เขาก็รอตรวจสอบสินค้าตัวอย่าง พอเข้าก้าวมาที่ห้องรับด้านใน หัวคิ้วเข้มๆ ก็ขมวดมุ่น หญิงสาวนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่าไขว่ห้าง หน้าอกอวบไหวตามการเคลื่อนตัว ท่อนขายาวนวลเนียนก็อวดสายตาเขา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD