หนึ่งนภา

1386 Words
ศิวะเดินเข้าไปในลิฟท์ทันที หลังจากคนของเขาโทรเข้ามารายงานว่าคนที่อยู่ชั้นบนสุดรอจนหลับไปแล้ว เขาที่นั่งอยู่ในห้องประชุมเฉยๆ ถึงได้ออกเดินไปทันที เมื่อมั่นใจว่าเธอคือคนเดียวกันกับผู้หญิงในคืนนั้น เขาไม่ได้บอกอะไรเธอเลย ถ้าเธอไม่รู้จักเขาอยู่แล้ว เธอไม่มีทางขึ้นมานอนอยู่บนนี้ได้แน่ๆ นั่นก็หมายความว่าเธอคือคนๆเดียวกันกับคนที่เขาเคยส่งที่อยู่ไปนัดเธอให้มาหาในคืนนั้นนั่นเอง เป็นครั้งแรกที่เขานั่งทำอะไรโง่ๆ อย่างการสำราจผู้หญิงหลับ เขาติดใจอะไรในตัวเธอ ถึงได้ละเมอเพ้อพกถึงทุกค่ำคืน ใบหน้านี่เหรอ ก็สวยเหมือนๆผู้หญิงที่ผ่านมา หุ่นก็ไม่ต่างกัน แล้วเธอมีอะไรให้เขาหลง? แทบจะไม่มีเลย เซ็กส์ก็งั้นๆ แค่ไม่ร้องไห้โวยวาย และเอะอะเสียงดังตอนที่เขากระแทกเท่านั้น แล้วทำไมเขาถึงยังรู้สึกโหยหา น้ำเสียงใบหน้าและเซ็กส์ของเธอ นิ้วมือเรียวยาวที่จับปากกาอยู่ตลอด เปลี่ยนมาจับเส้นผมดำสนิทเหมือนแพรไหมเบาๆ ผมเธอนุ่มและลื่นมาก จำได้ว่าคืนนั้นเขาดึงรั้งมัน เพื่อให้ใบหน้าเธอแหงนเงยรับแรงกระแทกของตัวเอง แต่ทำได้อย่างยากลำบาก เพราะความนุ่มลื่นของมัน จนเขาต้องตัดใจปล่อย “อือ” เมื่อถูกเขารบกวนมากๆ คนที่นอนหลับสนิทก็ส่งเสียงครางเหมือนรำคาญ มานอนในที่ของคนอื่นแบบนี้ ยังมาทำเสียงเหมือนรำคาญเจ้าของที่อีกนะ ใบหน้าหล่อเหลาขยับเป็นรอยยิ้ม วันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะมาทำอะไรแบบนี้ แค่อยากรู้ว่าเธอใช่คนเดียวกันไหมแค่นั้น เมื่อรู้แล้วก็นั่งสำรวจร่างกายเธอต่อเงียบๆ เพื่อรอเวลาที่เธอจะตื่นเท่านั้น “อืม” บ้าไปแล้ว! เขาทำอะไรอยู่ เสียงครางของเธอเรียกสติได้อย่างดี แต่ริมฝีปากที่คลอเคลียทั่วดวงหน้าสวยหวานกลับไม่ยอมหยุดนิ่ง ซ้ำยังหาจุดมุ่งหมายใหม่ นั่นก็คือริมฝีปากสีแดงสดที่ส่งเสียงครางเมื่อครู่ หึ! ตื่นเต้นนิดๆแฮะ ทั้งที่เพียงแค่แตะริมฝีปากลงเบาๆเท่านั้น หัวใจเขากลับเต้นโครมครามอย่างน่ากลัว ยิ่งได้สัมผัสกับความนุ่ม ยิ่งรู้สึกว่าหัวใจทำงานอย่างหนัก เลือดสูบฉีดไปทั่วร่าง จนแท่งเนื้อใต้ร่มผ้าขยับขยาย เป็นครั้งแรกที่แค่แตะก็รู้สึกอยากมากขนาดนี้ อาจจะเพราะเขาจำรสสัมผัสคืนนั้นได้ดี ร่างกายจึงตอบสนองทันทีที่ได้สัมผัสเธอ หนึ่งนภาขยับตัวด้วยเพราะรู้สึกเมื่อย และรู้สึกรำคาญอะไรที่ไต่อยู่ที่ปากนิดๆ แต่คิดว่าคงเป็นเส้นผมอย่างทุกทีจึงไม่สนใจ ขยับตัวหลับกับโซฟานุ่มๆต่อด้วยท่าที่สบายตัวที่สุด พรึ่บ ตุบ “โอ้ย!” เมื่อนึกได้ว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องเช่า ก็ดีดตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว หน้าผากชนเข้ากับคนที่ขึ้นมาคร่อมทับอยู่บนตัว จนต้องหงายหลังลงนอนท่าเดิม สายตาเบิกโพลงเมื่อเห็นภาพตรงหน้าชัดเจน “เจ็บไหมนั่น?” ศิวะมองคนใต้ร่างด้วยความสงสัย เจ็บไหมนั้น! ชนเขาซะแรงเลย ขนาดเขายังรู้สึกเจ็บเลย แล้วเธอล่ะเจ็บไหม? “คะ? คุณถอยออกไปก่อนสิคะ” เขาจะมาห่วงเธอทำไม เขาต้องถอยออกไปไม่ใช่เหรอ แล้วขึ้นมาอยู่แบบนี้ถ้ามีคนมาเห็นมันจะไม่แย่เอาเหรอ เขาเป็นประธานบริษัท คงดูไม่ดีนักถ้ามาทำอะไรแบบนี้ กับคนนอกแบบเธอ “จะช่วยปลุกแต่เธอไม่ยอมตื่น” มันมีความจริงแค่ส่วนหนึ่ง แต่เขาหวังให้เธอหลับไปนานกว่านี้ หน้าตาเธอดูอิดโรย ใต้ตาดำคล้ำเหมือนคนนอนไม่เต็มอิ่ม แต่อีกครึ่งก็อยากปลุกเธอมาทำอะไรอย่างอื่นมากกว่า “ฉันเพิ่งได้นอนวันนี้วันแรก หลังจากที่นอนไม่ค่อยหลับเลยตั้งแต่เสียน้องสาวไปเมื่ออาทิตย์ก่อน ขอโทษค่ะที่ทำให้คุณลำบาก” รู้สึกอยากจะเล่าให้เขาฟัง อยากเล่าเรื่องทุกข์ใจของเธอให้เขารับรู้ แม้จะไม่ได้เป็นอะไรกันเลยก็ตาม “มันก็เป็นแบบนี้แหละ สักวันมันจะดีขึ้น ” ศิวะลุกขึ้นนั่ง หมดอารมณ์นิดๆ เมื่อเจอใบหน้าเศร้าๆ อยากดึงเธอเข้ามากอด อยากลูบมือเข้ากับเส้นผมสีดำสวย แต่สิ่งที่เขาทำคือกำมือแน่น กลัวจะเผลอทำแบบนั้นไปอย่างที่ใจคิดจริงๆ “ค่ะ ฉันก็หวังให้เป็นแบบนั้น แล้วคุณจะให้ฉันมาช่วยงานอะไรคะ” หนึ่งนภาถามธุระที่เธอต้องทำช่วยเขา ที่มาเพราะอยากตอบแทนที่เขาช่วยเหลือ ถ้าเธอพอจะช่วยเขาได้บ้าง เธอก็อยากตอบแทน “ง่ายๆ ช่วยงานภิภพเลขาฉัน” งานของเขามีคนทำหมดแล้ว ภิภพทำงานได้ดี เพราะเป็นเลขาให้เขามานานหลายปี ที่ให้เธอมาช่วยเพราะอยู่ดีๆก็อยากรู้ว่าเธอคือผู้หญิงในคืนนั้นไหม นั่นคือเหตุผลที่สมองเขาคิดได้ เขาติดใจน้ำเสียงของเธอ แค่อยากมั่นใจมากขึ้นเท่านั้นเอง “ค่ะ ฉันเริ่มงานได้วันไหนคะ” “พรุ่งนี้เลยได้ไหม ฉันจะให้คนพาไปซื้อชุด ชุดนี่มันก็เรียบร้อยดี แต่บางทีงานฉันมันก็ต้องพบปะผู้คน และคนของฉันต้องดูดีกว่านี้” ศิวะมองชุดที่เธอใส่เงียบๆ มันก็ดูเรียบร้อยดี แต่เขาไม่ชอบ จะมีผู้หญิงมาทำงานข้างๆทั้งที อยากได้อะไรที่เจริญหูเจริญตามากกว่านี้ ไม่จำเป็นต้องเปิดเปลือยเนื้อตัว แต่ปิดหมดแบบนี้มันก็ไม่ไหว “ค่ะ พรุ่งนี้บ่ายโมงฉันจะมาที่นี่ ส่วนเรื่องชุดคุณซื้อมาไว้ที่นี่เลยก็ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจดไซด์ไว้ให้ เพราะถึงฉันไป ฉันก็เลือกของพวกนั้นไม่เป็นอยู่ดีค่ะ” หนึ่งนภาพยายามปฎิเสธแบบเลี่ยงๆ ไม่กล้ารับอะไรจากเขาอีกแล้ว “อย่าขัดใจ ฉันไม่ชอบ และฉันก็ไม่ได้ใจดีตลอด อย่าเพิ่งติดภาพผู้ชายแสนดีตอนนี้ บางทีฉันอาจจะร้ายมากกว่าที่เธอคิด” ศิวะบอกเสียงเรียบ เธอคงจะเจอกับนิสัยเขาแล้วทั้งสองแบบ และเขาไม่ใช่คนดี ย้ำเตือนไว้สักหน่อยเผื่อเธอจะลืม “ค่ะ พรุ่งนี้เจอกันค่ะเจ้านาย” หนึ่งนภาตอบรับ ไม่อยากขัดใจเขามากนัก เพราะหนี้ชีวิตนี้ยังต้องใช้คืนอีกเยอะ คนที่ตัวเล็กกว่าลุกขึ้นยืน เมื่อคุยธุระเรียบร้อย ยกมือไหว้คนที่ต่อไปจะมาเป็นเจ้านายอีกคน พร้อมกับหันหลังก้าวเดินจากไปช้าๆ “เธอจะไม่บอกชื่อฉันหน่อยเหรอ” ศิวะเอ่ยถามคนที่อยู่ห่างออกไปเพียงสามเมตร ไม่ได้ใช้เสียงดังมาก แต่ตอนนี้ค่อนข้างเงียบ และเธอน่าจะได้ยินเพราะเท้าที่หยุดเดิน แม้จะไม่ยอมหันหน้ากลับมาหาเขาก็ตาม หนึ่งนภากัดริมฝีปากนิดๆ ครุ่นคิดเพียงครู่ ก่อนจะตอบออกไปทั้งที่ยังยืนอยู่แบบเดิม “หนึ่งนภาค่ะ ฉันชื่อหนึ่งนภา” ใบหน้าสวยหันกลับไปยิ้มให้ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเงียบๆ นั่นคือชื่อจริงๆของเธอ ไม่รู้เขาจำเรื่องคืนนั้นได้รึเปล่า แต่เขานิ่งมาก ถ้าวันใด เขาจำได้แล้วนึกรังเกียจผู้หญิงแบบเธอขึ้นมา วันนั้นเธอคงต้องไปทันที ศิวะชักจะติดใจรอยยิ้มของเธอเข้าแล้ว เธอเป็นผู้หญิงที่ยิ้มแล้วสวยดี แต่เวลาทำหน้าปกติ หน้าตาเธอเศร้ามาก เศร้าจนเขารู้สึกว่าเธอช่างโดดเดี่ยว เศร้าจนเขารู้สึกอยากรักษารอยยิ้มนั้นไว้ ถ้าทำให้เธอยิ้มได้บ่อยๆก็คงดี เพราะเธอน่าจะเหมาะกับรอยยิ้มมากกว่าน้ำตา หนึ่งนภาสินะ ไม่ใช่สิริมา ในคืนนั้นเหรอ?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD