ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังสามครั้งก่อนที่สองพี่น้องจะเปิดเข้ามาหาพ่อและแม่ด้วยรอยยิ้ม
“พ่อเป็นยังไงบ้างคะ ดีขึ้นบ้างไหม” หลันลู่อิงยิ้มให้ทั้งสองคน
“ดีขึ้นแล้วลูก ว่าแต่พ่อกับแม่ไม่อยู่ดื้อและซนกับกลุ่มของเฟยเทียนหรือเปล่า ฮึ ยายตัวแสบของพ่อ”
หลันเทียนหยู่ลูบหัวของลูกสาวด้วยความเอ็นดู เพราะลูกคนนี้ทำให้ทั้งครอบครัวผ่านพ้นช่วงวิกฤตมาได้และทำให้บ้านรองเป็นอิสระจากบ้านใหญ่
“โธ่...พ่อขา หนูไม่ใช่เด็กน้อยนะที่คอยเที่ยวและซนเป็นเด็กสามขวบ” หลันลู่อิงหน้ายู่ก่อนจะโน้มตัวกอดเอวพ่อเชิงอ้อนเล็กน้อย ทำให้ทั้งครอบครัวจึงมีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
“หนูเอาอาหารมาให้แม่ด้วย หนูกับพี่ใหญ่ตั้งใจว่าจะเข้าไปที่โรงเรียนมัธยมดูว่ายังเปิดรับสมัครอยู่หรือเปล่า”
“รอพ่อออกจากโรงพยาบาลก่อนดีกว่า พ่อจะพาไปสมัครเรียนเอง หากเทอมนี้ไม่ได้คงต้องรอปีหน้า ลูกไปกันเพียงสองคนความน่าเชื่อถือมันไม่มีหรอกลูก รอพ่ออีกสองวันพ่อก็ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว”
หลันเทียนหยู่ไม่อยากให้ลูกไปกันเองสองคนเพราะสายตาของคนอื่นทั้งสองยังเด็กนัก รอให้เขาออกจากโรงพยาบาลเผื่อว่าผู้ปกครองไปด้วย ทางโรงเรียนจะเห็นใจและเขาอาจจะช่วยพูดขอร้องให้ลูกๆ ทั้งสองคนได้เล่าเรียน
“ค่ะพ่อ / ครับพ่อ”
สองพี่น้องรับคำ ก่อนจะมองซ้ายมองขวาเพื่อความมั่นใจ หลันลู่อิงจึงเอาอาหารออกมาจากมิติเพื่อให้พ่อกับแม่ รวมทั้งเอายาบำรุงมาให้พ่อกับแม่กินด้วย เมื่ออยู่กับครอบครัวพักใหญ่สองพี่น้องจึงคิดจะเข้าตลาดมืดเพื่อหาเงินและต้องทำทีเป็นซื้อของเข้าบ้าน หลันเทียนหยู่และหงเหยาเข้าใจ แต่รู้สึกเจ็บปวดหัวใจเมื่อต้องให้ลูกๆ ทั้งสองคนต้องเสี่ยงอันตรายกันเอง
“พ่ออย่าคิดมากเลยค่ะ หลังจากที่พ่อหายป่วยพ่อค่อยสลับกันไปกับพี่ใหญ่บ้างก็ได้ แต่อย่าลืมว่าการที่หนูไปกับพี่ใหญ่นั้นความปลอดภัยมันมีมากกว่าเพราะไม่ผิดสังเกต แต่ถ้าพ่อหายไปชาวบ้านในหมู่บ้านต้องสงสัยแน่นอนค่ะ”
หลันลู่อิงรีบอธิบายเพราะรู้ดีว่าทั้งพ่อและแม่ย่อมเป็นห่วงเธอและพี่ใหญ่จึงพูดให้ทั้งสองคนคลายความไม่สบายใจ
“ทั้งสองคนสัญญากับพ่อนะว่าหากมีอะไรไม่ชอบมาพากลรีบเข้ามิติไปก่อน อย่าปล่อยให้ตัวเองเกิดอันตรายได้ เข้าใจที่พ่อพูดไหม จำคำของพ่อไว้นะ ต่อให้ครอบครัวเรามีเงินเป็นล้านหยวน มันไม่สำคัญเท่ากับความปลอดภัยของลูกพ่อทั้งสองคน
ดูแลตัวเองให้ดี เสร็จงานแล้วรีบกลับบ้าน พรุ่งนี้ค่อยมาหาพ่อ จริงสิ วันนี้กลับไปแล้วแจ้งลุงผู้นำหมู่บ้านด้วยนะว่าเอาชื่อทั้งสองคนออกจากงานที่คอมมูนเพราะต้องการเรียนต่อ ลุงผู้นำจะไปรายงานหัวหน้าหวางเอง”
หลันเทียนหยู่ไม่อยากให้ลูกทั้งสองคนทำงานในคอมมูนอีก ในเมื่อต้องการเรียนต่อ ควรจะศึกษาตำราไว้จะได้เรียนทันคนอื่น
“ค่ะพ่อ หนูรักพ่อกับแม่นะ” หลันลู่อิงกอดพ่อแล้วเดินมากอดแม่อีกคน
“ครับพ่อ ผมจะรีบจัดการเรื่องทั้งหมด ผมรักพ่อกับแม่นะครับ จริงสิ ผมลืมเล่าเรื่องบ้านใหญ่ให้ฟัง”
หลันอี้ข่ายจึงเล่าเรื่องของหลันซูซินให้ฟังอย่างละเอียด หลันเทียนหยู่โกรธจนหน้าดำหน้าแดง กล้าดียังไงมาหยามเกียรติของเมียรักเขาแบบนี้ ดีแค่ไหนแล้วที่เฟยเทียนรับหน้าแทน หากเป็นเขานะเขาจะฟ้องค่าเสียหายเรื่องทำลายชื่อเสียงอีกด้วย
“พ่อใจเย็นก่อน แค่สองร้อยหยวนที่ต้องจ่ายบ้านเรากับหนึ่งร้อยหยวนที่ต้องจ่ายพี่เฟยเทียน ผมว่าอาเล็กคงขโมยเงินของย่ามา ปล่อยให้เธอรับกรรมเองดีกว่า เราอยู่ของเราแค่ไม่วุ่นวายกับคนบ้านนั้นก็พอแล้ว”
หลันอี้ข่ายรีบบอกเพราะกลัวว่าความโกรธของพ่อจะกระทบกระเทือนอาการป่วยของท่าน
“นั่นสิพี่เทียน น้องว่าปล่อยไปเถอะ อย่างซูซินยังไงก็ต้องแพ้ภัยตนเอง เธอไม่แค่นินทาน้องคนเดียว หญิงสาวในหมู่บ้านที่พยายามคุยกับเฟยเทียนน้องเห็นเธอพูดจากระทบกระทั่งตลอด เดี๋ยวสักวันเธอก็แพ้ภัยตนเอง น้องเชื่อแบบนั้น” หงเหยารีบลูบแขนสามีเพราะกลัวว่าอาการป่วยจะทรุดลงไปอีก
“ใช่แล้วค่ะพ่อ คนไม่ดีมักแพ้ภัยตนเอง”
หลันลู่อิงกล่าวด้วยอีกคน หากต้องมาโกรธและมัวแต่เครียดกับคนพวกนี้หรือว่าเต้นตาม มีแต่พวกเธอนี่แหละจะประสาทเสียเองมากกว่า สี่คนพ่อแม่ลูกคุยกันอีกพักใหญ่ ก่อนที่สองพี่น้องจะแยกตัวออกมา
เมื่อมาถึงตลาดมืดก่อนที่จะเข้าไปทั้งสองคนจึงแอบเข้ามิติเพื่อปลอมตัว จากนั้นจึงเดินเข้าตลาดมืดเพื่อไปค้าขายอีกครั้ง ช่วงก่อนที่พ่อจะออกจากโรงพยาบาลสองพี่น้องยังมีเวลาเก็บเงิน
“พ่อค้ามาแล้ว” ลูกค้าคนที่เคยซื้อของกับสองพี่น้องเมื่อวาน เดินเข้ามาทักทายด้วยรอยยิ้ม
“ครับ พวกเรามาแล้ว” หลันอี้ข่ายยิ้มตอบก่อนจะสอบถามว่าลูกค้าคนนี้ต้องการอะไร
“พ่อค้ามีพวกสบู่ไหม หลานสาวฉันทำงานในโรงงานของรัฐ เธอขายของพวกนี้อยู่ ป้าคิดว่าสินค้าที่เอามาน่าจะดีกว่าที่ขายอยู่” เธอพูดอย่างไม่ปิดบัง
“พอจะมีค่ะ แต่วันนี้พวกเราไม่ได้เอามา เป็นพรุ่งนี้ได้ไหม” แม้ว่าจะมีในโรงงาน แต่ยังไม่ได้ห่อ ไอ้ที่มีกล่องแล้วก็ไม่ใช่ของยุคนี้ เธอไม่อยากมีปัญหา จึงขอนัดเป็นพรุ่งนี้ดีกว่า
“ได้สิ แต่ว่ามีเยอะไหม ป้าอยากได้สองร้อยก้อน ป้าให้ก้อนละสองหยวน”
“ตกลงค่ะ”
หลันลู่อิงรับปาก ไม่ว่าเท่าไหร่เธอก็ขายทั้งนั้น เงินนะไม่ใช่ใบไม้ใครบ้างไม่อยากได้ จากนั้นลูกค้าคนนี้จึงสั่งเนื้อหมูและอาหารแห้งบางอย่างเพื่อเอากลับไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาตามนัด แค่ลูกค้ารายแรกสองพี่น้องได้เงินมาร้อยกว่าหยวนแล้ว ไม่รวมกับของที่สั่งพรุ่งนี้
จากนั้นจึงมีลูกค้ามาเรื่อยๆ หลันลู่อิงเริ่มสนุกกับการค้าขาย เธอคิดว่าเมื่อไหร่ที่รัฐเปิดการค้าเสรีเธอคงเปิดร้านที่ปักกิ่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเธอต้องสอบเข้ามหาลัยให้ได้เสียก่อน
ทางด้านลูกน้องของหยางเฟยเทียนได้แต่พยายามมองหาหลันลู่อิงและหลันอี้ข่ายตามคำสั่งของเจ้านาย แต่ไม่เจอ มีเพียงพ่อค้าแม่ค้าตัวน้อยสองพี่น้อง ที่มองยังไงก็ไม่มีเค้าเด็กบ้านรองหลัน แต่ก็ต้องรายงานตามที่เห็น
แม้ว่าจะสงสัยว่าทั้งสองคนเอาสินค้ามาจากไหนขาย แต่ไม่ใช่เรื่องที่คนดูแลตลาดมืดเช่นพวกเขาต้องยุ่ง จึงได้แต่ปล่อยผ่าน เพราะกฎของที่นี่คือช่วยเหลือชาวบ้านยามที่เอาของมาขาย ไม่ว่าสินค้าพวกนั้นมาจากที่ไหนพวกเขาไม่มีสิทธิ์สอบถามหรือว่ายุ่งเกี่ยว
หลังจากที่คิดว่าน่าจะได้เวลากลับบ้าน สองพี่น้องจึงรีบดินออกมาจากตลาดมืด จากนั้นจึงหลบมุมเข้ามิติเพื่อเปลี่ยนชุดกลับมาเป็นตัวเอง
“พี่ใหญ่ พี่ไปเหมาเกวียนมาหน่อย เอาคนที่ไว้ใจได้นะ หนูจะอยู่เฝ้าของตรงนี้”
หลันลู่อิงบอกกับพี่ชาย เธอเอาของมาแค่บางอย่าง ของใหญ่ค่อยกลับไปเอาออกตอนถึงบ้าน เวลานี้กลุ่มของอาเฟยเทียนยังคงอยู่ที่คอมมูน ไม่น่าจะเป็นปัญหา และของพวกนี้เธอจะเอาผ้าปิดอีกชั้นเพื่อไม่ให้ใครเห็นของด้านใน
“อืม ได้สิ เสี่ยวอิงระวังตัวด้วยนะ พี่จะรีบกลับมา”
หลันอี้ข่ายพยักหน้ารับก่อนจะไปเรียกเกวียน ซึ่งเขาก็ได้คุณตาขับเกวียนใจดีคนหนึ่งมา
หลังจากที่ขนของขึ้นเกวียนแล้ว จากนั้นจึงคลุมผ้าเพื่อไม่ให้คนนอกเห็นว่าในเกวียนนั้นมีอะไร ก่อนจะมุ่งหน้ากลับหมู่บ้านอีกครั้ง
ระหว่างทางเข้ามาในหมู่บ้าน แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลางานแต่ยังมีชาวบ้านกลุ่มว่างงานอยู่ แต่ละคนมองสองพี่น้องด้วยความอิจฉา คิดว่าคงเอาเงินค่าปรับมาซื้อของเข้าบ้าน แต่ของมากขนาดนี้จะต้องเสียเงินเท่าไหร่ อย่างมากคงจะเป็นเจ้าหนุ่มเฟยเทียนให้ยืมเงินเพิ่มอีกแน่
เมื่อขนของลงและเอาเข้าบ้านเรียบร้อยแล้ว หลันลู่อิงจึงนำเงินค่าเวียนมาจ่าย พร้อมกับเอาเนื้อหมูและอาหารอีกเล็กน้อยให้ตาขับเกวียนคนนี้เพื่อเป็นน้ำใจที่ช่วยเธอขนของ
“มันเยอะไปนะหนู ค่าจ้างก็จ่ายตามาแล้ว” เขามือสั่นเมื่อเห็นของในตะกร้าที่สองพี่น้องนี้ให้มา
“ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้หนูซื้อมาเยอะ ตาเก็บไว้เถอะนะคะ จะได้บำรุงร่างกาย แต่รีบกลับบ้านเลยนะคะ ใครเห็นจะไม่ปลอดภัย อีกสองวันพ่อหนูต้องออกจากโรงพยาบาล หนูจะไปตามตาอีกครั้งนะ”
หลันลู่อิงรีบบอกก่อนจะเดินเข้าบ้านไปจัดของทั้งหมด ก่อนที่บ้านของอาเฟยเทียนจะกลับมาแล้วจะไม่มีคำตอบให้