หลังพิธีปักปิ่น 4-5 วัน หลี่จือหยาก็เตรียมตัวไปเก็บสมุนไพรที่ป่าศักดิ์สิทธิ์
“พี่เหมยหลิง นอกจากข้าต้องระวังสัตว์อสูรไป๋หลิงที่เฝ้าบัวดอกเงินแล้ว มีอย่างอื่นต้องระวังเพิ่มเติมหรือไม่”
หลี่จือหยาได้สอบถามเหมยหลิงเพื่อความปลอดภัยอีกครั้ง
ไม่ทันที่เหมยหลิงจะเอ่ยตอบ เสียงสาวใช้หน้าประตูก็ดังขึ้น
“คุณหนู…คุณชายใหญ่มาขอพบเจ้าค่ะ”
“เชิญพี่ชายไปพักในเรือนก่อน…ข้ากำลังจะออกไป”
จือหยารีบเอ่ยบอก แล้วหันไปพูดคุยกับเหมยหลิงเล็กน้อยก่อนออกไป
“น้องคารวะเก๋อเก๋อ…เจ้าค่ะ”
คุณชายหลี่เจิ้น บุรุษที่มีความอบอุ่นอยู่รอบๆ กาย ใบหน้างดงามสูงส่งมีสง่าราศี เพียงแค่ยืนอยู่ก็ทำให้ผู้คนรอบข้างรู้สึกอุ่นใจ เวลาอยู่ใกล้พี่ชายหลี่จือหยาจึงรู้สึกปลอดภัยอยู่เสมอ
“ตามสบายเถิด… ท่านพ่อบอกว่าพี่ว่า จือเอ๋อร์จะไปป่าศักดิ์สิทธิ์”
หลี่เจิ้นยิ้มให้น้องสาวอย่างอ่อนโยน น้องสาวคนนี้เมื่อวันก่อนยังเป็นเด็กน้อยที่ร้องให้วิ่งตามเขา พริบตากลายเป็นดรุณีน้อยที่งดงามละลายตาแล้ว
“ค่ะท่านพี่...ข้าอยากไปฝึกตนและถือโอกาสเก็บสมุนไพรด้วยเจ้าค่ะ”
หลี่จือหยาพยักหน้าพลางตอบ นางอยากฝึกฝนตนเองให้เป็นยอดฝีมือ เป็นบุคคลที่เก่งกาจในทุกด้าน ตั้งแต่เริ่มฝึกพลังลมปราณได้นางก็ไม่ได้ไปคารวะพี่ชายที่เรือนบ่อยๆ เช่นเคย
“พี่ขอไปด้วยกับเจ้า องค์รักษ์พี่เองก็ได้จัดเตรียมเพิ่ม น้องสาวเพียงคนเดียวพี่อดห่วงไม่ได้”
หลี่เจิ้นแจ้งเหตุผลที่ตนเองมาวันนี้ทันที
“จริงหรือเจ้าคะ ...น้องดีใจที่สุด ไปกลับพี่ชายน้องย่อมไม่ต้องกังวลใด”
น้ำเสียงหลี่จือหยาออดอ้อนพี่ชาย ถ้าพี่ชายไปด้วยนางย่อมไม่ต้องกังวลใดๆ
เมื่อได้ฟังคำของน้องสาว พี่ชายก็เข้าใจถึงความในใจ จึงเอ่ยปลอบน้องสาว
“เจ้าไม่ต้องฝึกตนให้เก่งกาจ เจ้าไม่ต้องกังวลใดๆ พี่จะปกป้องเจ้าเอง พี่สัญญากับท่านแม่ไว้ว่าพี่จะดูแลเจ้า”
หลี่เจิ้นได้กล่าวสัญญาปลอบโยนกับหลี่จือหยา น้องสาวคนนี้ของเขาตั้งแต่เด็กก็เป็นคนที่ขี้กังวัลและเกรงใจ เพราะไม่มีมารดาคอยปลอบ เขาผู้เป็นพี่ชายจึงทำหน้าที่นี้แทน
“ข้ารู้เจ้าค่ะ ว่าท่านพี่ดีกับข้าที่สุด ข้าเพียงอยากทำอะไรให้เต็มที่ ภายหลังจะไม่ได้เสียใจ”
เมื่อนึกถึงบางสิ่ง จือหยาจึงหันไปหาสาวใช้
“เหมยรุ๋ย หยิบกล่องสีเงินใบนั้นให้ข้า”
“พี่ชาย ยาลมปราณ เม็ดนี้ข้าได้ฝึกปรุงมาหลายรอบ แม้ไม่มีสรรพคุณเทียบเท่า ยาอายุวัฒนะ สรรพคุณก็ไม่เลว จะช่วยให้ท่านพี่เพิ่มระดับพลังลมปราณได้ ท่านจะได้ไปปกป้องข้าที่ป่าศักดิ์สิทธิ์ได้”
หลี่จือหยายืนกล่องยาให้พี่ชาย ยาเม็ดนี้นางเตรียมไว้หลายวันแล้ว เพียงยังไม่มีจังหวะจะมอบให้นางไม่อยากให้ผู้คนรู้เรื่องราวมากนัก
“ยาล้ำค่าเช่นนี้”
หลี่เจิ้นย่อมไม่กล้ารับของจากน้องสาว
“ข้าพึ่งเลื่อนขั้นมา ยาเม็ดนี้จึงไม่มีประโยชน์ต่อตัวข้าท่านพี่ ท่านรับเถอะเจ้าค่ะ น้องตั้งใจปรุงยาเม็ดนี้มาให้ท่านนะเจ้าคะ...และน้องยังมีเรื่องต้องรบกวนท่านพี่อีก”
หลี่จือหยากล่าวพลางลุกไปหยิบกล่องดำใบหนึ่งออกมา
“นี่คือ...นี่คงไม่ใช่ ยาลมปราณทั้งหมดกระมัง”
หลี่เจิ้นตื่นตระหนกเขายังไม่ค่อยแน่ใจจึงได้ถามดู
“เป็นยาลมปราณทั้ง 100 เม็ดเจ้าค่ะ”
หญิงสาวพยักหน้ายืนยันอีกครั้ง
“มากมายถึงเพียงนี้...น้องพี่...เจ้าเก่งกาจเกินไปแล้ว”
จะไม่ให้หลี่เจิ้นตกใจได้อย่างไร ยาลมปราณ ไม่ต้องกล่าวถึง 100 เม็ด แค่ 1 เม็ดก็ไม่สามารถหาได้เพราะผู้ปรุงยาระดับนี้ได้นอกจากสมุนไพรล้ำค่าแล้ว ยังต้องเป็นถึงเทพโอสถปรมารจารย์ หลี่จือหยาเมื่อสามารถปรุงยา อายุวัฒนะ ได้ยาลมปราณนี้ย่อมไม่มีข้อกังขาแน่นอน
ในเมื่อน้องสาวให้มากมายเพียงนี้แสดงว่าย่อมมีเหตุผล
“เจ้าจะให้พี่ทำการสิ่งใดหรือไม่”
“ท่านพี่ก็ทราบ ช่วงนี้น้องไปแจกจ่ายยาให้ชาวบ้านทุก 10 วัน เงินที่ใช้จำนวนมากโข เพื่อไม่ให้มีคำติฉินนินทา ข้าจึงไม่อยากใช้เงินในจวน ขอรบกวนท่านพี่ขายยาเหล่านี้ให้”
สำหรับหลี่จือหยาแล้วเรื่องเงินไม่ใช่เรื่องสำคัญมากนัก นางต้องการสร้างบารมีและชื่อเสียงให้กับตนเองเป็นเหตุผลหลัก
“เรื่องเล็กน้อยพี่จัดการให้เจ้าได้ ในเรือนเจ้ามีของล้ำค่าเช่นนี้ พี่จะจัดเวรยามองค์รักษ์ให้มากขึ้น เรื่องนี้พี่จะแจ้งท่านพ่อเอง...อีก 3 วัน พี่จะมารับเจ้าไปป่าศักดิ์สิทธิ์”
หลี่เจิ้นกล่าวเสร็จก็ลุกขึ้นยืน
“น้องนอบส่งเก๋อเก๋อเจ้าค่ะ”
เรือนหยกอี้ถง เรือนคุณชายใหญ่หลี่เจิ้น
หลังจากกลับจากเรือนของน้องสาว หลี่เจิ้นก็รีบกลับเรือน สั่งบ่าวให้เฝ้าประตูห้ามรบกวน
เมื่อ กลืนยาลมปราณ หลี่เจิ้นก็รีบเดินลมปราณ เดิมหลี่เจิ้นก็ไม่ใช่บุรุษไร้ค่ามีพลังลมปราณอยู่ระดับทองเช่นเดียวกับบิดาเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อได้รับยาลมปราณเสริมจุดพลัง ให้กล้าแกร่งขึ้นเขาค่อยๆ เพ่งสมาธิควบคุมพลังงานเหล่านั้นที่กระจัดกระจายในกายอย่างไร้ทิศทาง
เวลาผ่านไปเกือบ 1 ชั่วยาม หลี่เจิ้นยังไม่สามารถควบคุมพลังเหล่านั้นได้ เหงื่อในกายเริ่มไหลออกยิ่งกว่าสายน้ำ เสื้อผ้าเปียกชุ่ม ความกังวลใจเริ่มก่อตัว เมื่อจิตใจฟุ้งซานย่อมทำให้การเลือนระดับลมปราณเป็นไปไม่ได้ หลี่เจิ้นพลางนึกถึงหน้าน้องสาว มารดา จึงได้ดึงสติกลับมา
เดิมทีการเลื่อนระดับโดยยาลมปราณ ไม่ใช่เรื่องยากเท่าใดนัก แต่ยาเม็ดที่หลี่จือหยามอบให้หลี่เจิ้นได้ผสมเลือดของจิ้งจอกเก้าหางลงไปมากกว่าเม็ดอื่นๆ การเลื่อนขั้นของหลี่จือจึงไม่ใช่เพียงเลื่อนจากระดับทองเป็นระดับระดับขาวแต่เป็นการเลื่อน 2 ระดับเป็นระดับเพชร ทำให้หลี่เจิ้นต้องให้พลังจิตที่สูงกว่าเดิมมาก
ในขณะที่หลี่เจิ้นกำลังจะหมดพลัง เขาก็เริ่มควบคุมพลังงานเหล่านั้นได้ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองมีพลังที่น่ากลัวยิ่งนัก สติเริ่มกลับสู่สภาพปกติ ร่างกายเริ่มรู้สึกเบาสบายและทรงพลัง เขารับรู้เสียงต่างๆ รอบกายอย่างชัดเจน มีเสียงเท้ามากมายวิ่งมาที่เรือนของเขา
ภายนอกเรือน
เมื่อมีผู้ฝึกตนเลื่อนขั้นถึงระดับเพชรหงส์ทองย่อมปรากฏกายเช่นเดียวกับในวันงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของนายท่านตระกูลหลี่ บ่าวรับใช้มากมายวิ่งมารวมตัวกันที่เรือนของคุณชายใหญ่
“หลี่เฟย”
หงส์พันธสัญญาณของนายท่านหลี่ได้บินมารวมกับฝูงหงส์คล้ายถามข่าวคราวกันก่อนหน้าทุกคน
“อู่เป๋า คุณชายเป็นอย่างไรบ้าง”
นายท่านหลี่กล่าวถามบ่าวคนสนิทของบุตรชาย อย่างร้อนรนใจปะปนความรู้สึกยินดี
“เรียนนายท่าน...คุณชายยังเข้าไปประมาณเกือบ 2 ชั่วยามแล้วขอรับ คุณชายสั่งบ่าวไว้ว่าผู้ใดห้ามรบกวน”
“เช่นนั้นเราก็รอตรงนี้เสียก่อน...”
แม้นายท่านหลี่จะร้อนใจอยากรู้เรื่องราวแต่เมื่อบุตรชายกล่าวไว้เช่นนั้นจึงได้เพียงแต่นั่งรอก่อน
ไม่ถึง 1 เค่อ หลี่เจิ้นก็เปิดประตูเรือนออกมา เขาชำเลืองสายตามองไปที่ฝูงหงส์ เห็นหลี่เฟยยืนเคียงข้างหงส์ตนหนึ่ง จึงได้เลือกหงส์ตัวนั้นทำพันธสัญญาณเคียงคู่กาย จากนั้นหันกายทำความเคารพหลี่จงหยาง
“ลูกคารวะท่านพ่อขอรับ” หลี่เจิ้นเดินมาคุกเข่าคารวะนายท่านหลี่อย่างนอบน้อม
“ลุกขึ้นๆ เจ้าทำให้พ่อภูมิใจยิ่งนัก ตระกูลหลี่ของเราตอนนี้มีผู้ฝึกพลังลมปราณระดับทองถึง 2 คน ในแผ่นดินฟูฟงแห่งนี้ ยังไม่มีตระกูลใดทำได้ ไม่ได้การเราควรจะต้องจัดฉลองสักหน่อย”
พอกล่าวเสร็จก็หันไปสั่งกับบ่าวคนสนิททันที
“อู่จง เจ้าไปเตรียมงานฉลอง”
“ขอรับ”
“เรื่องนี้ลูกละอายยิ่ง เดิมทีควรเป็นลูกที่ฝึกฝนตนจนเลื่อนระดับแต่เป็นลูกได้ยาลมปราณจากน้องมาจึงทำให้ลูกสามารถเลื่อนระดับลมปราณได้ขอรับ”
ผลงานชิ้นนี้น้องของเขาต้องได้รับประโยชน์ไม่ว่าจะชื่อเสียงและเงินทอง
“เจ้าว่าอะไรนะ ...ยาลมปราณ.. ยาในตำนานอย่างนั้นรึ”
หลี่จือหยางตื่นตระหนกในคราวแรกก็ปรับเปลี่ยนใบหน้าเป็นความยินดี
“แน่นอนอยู่แล้วยาอายุวัฒนะ จื่อหยาเอ๋อร์ยังปรุงออกมาได้ ยาลมปราณนับว่าอะไร ฮ่า ฮ่า”
เสียงหัวเราะของหลี่จงหยาง ดังก้องไปทั่วคฤหาสน์ของตระกูลหลี่ ด้วยพลังลมปราณระดับเพชร แม้กระทั่งชาวบ้านรอบๆ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยพลังนั้น
“น้องให้ลูกมา 50 เม็ด มอบให้ท่านพ่อเก็บไว้เป็นสมบัติของตระกูลขอรับ”
หลี่เจิ้นตั้งใจจะนำไปเพียง 50 เม็ดเท่านั้น น้องคงไม่รู้ว่าเม็ดหนึ่งมีค่าเพียงใดจึงให้นำไปขายมากมายเพียงนั้น
“เจ้าทั้งสองคน ทำให้ตระกูลยิ่งใหญ่เพียงนี้ พ่อขอบใจเจ้ามาก ถ้ามารดาเจ้ายังอยู่นางต้องดีใจมากแน่นอน”
50 เม็ด ยาลมปราณ 50 เม็ด แค่ 1 เม็ดก็ทำให้ผู้คนสั่นสะท้านแล้ว ยาลมปราณ 50 เม็ดนี้อาจจะสะเทือนถึงแผ่นดิน คาดว่าผู้ที่นั่งอยู่บัลลังก์มังกรอาจจะนั่งไม่ติดแล้ว ยาเม็ดนี้สามารถซื้อเส้นสาย พรรคพวกได้อย่างมากมายเลยทีเดียว
“และลูกยังได้เพิ่มจำนวนองค์รักษ์ที่เรือนของจือหยาเอ๋อร์ กังวลว่านางจะมีอันตรายขอรับ”
“เจ้ารอบคอบดีมาก เจ้าทำถูกต้องแล้ว พ่อจะรีบจัดการหาองค์รักษ์ฝีมือดีที่สุดปกป้องจือหยาเอ๋อร์”
หลังจากนั้นเรือนของหลี่จือหยาก็มีองค์รักษ์ฝีมือดีมากมายคุ้มครองยิ่งกว่าวังหลวง ผู้ที่ดีใจที่สุดในเรื่องนี้ ไม่ใช่คนอื่นแต่เป็น เหมยหลิง
ในที่สุดเรือนของคุณหนูก็ปลอดภัย ตงซิงหยวนคิดจะทิ้งคนสอดแหนมตัวเองไว้คงเป็นไปได้ยาก ปานนี้คงรู้เรื่องแล้วกระมัง ไม่ใช่โกรธจนกระอักเลือดทิ้งไปหลายถ้วยแล้วมั้ง ฮ่า ฮ่า