ตอนที่ 9

1695 Words
ทั้งคู่ต่างมองหน้ากัน พูดไม่ออก เพราะไม่คิดว่าจะเจอกันในสถานแบบนี้ได้ คุณหญิงประไพพรรณเห็นทั้งสองคนชี้หน้ากันไปมา ก็อมยิ้มออกมา “รู้จักกันมาก่อนเหรอพ่อธัน หนูหอม” “ครับ เคยเจอหน้ากันสองสามครั้ง ผมขอคุยกับหนูหอมของคุณแม่เป็นการส่วนตัวหน่อยนะครับ” ธันฐกรตอบมารดาสั้น ก่อนจะาลุกขึ้นยืน พร้อมกับฉุดแขนของจันทร์หอมและให้หญิงสาวเดินแกมวิ่งตามมาด้านนอกของคฤหาสน์          “ไอ้คนบ้า นี่ปล่อยแขนฉันนะ”          หญิงสาวสะบัดแขนแรงๆ ก่อนจะถอยออกห่าง หล่อนไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ผู้ชายที่ตัวเองจะต้องมามีลูกด้วยจะเป็นผู้ชายทำฟาร์มสุนัขคนนี้          “คิดว่าอยากจับนักหรือไง แขนคุณน่ะ” ธันฐกรณ์เอามือเช็ดกับเสื้อของตัวเอง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา นั่นทำให้จันทร์หอมถึงกับหน้าร้อนจัดด้วยความอับอาย          “นี่ถ้าฉันรู้ว่าเป็นคุณนะ ฉันจะไม่ยอมรับงานนี้เด็ดขาด”          “หึ... ก็กลับไปยกเลิกกับคุณแม่สิ ผมก็ไม่ต้องการให้คุณเข้ามาจุ้นจ้านในบ้านของผมเหมือนกัน ไสหัวไปเลย”          ใช่ หล่อนควรไปให้พ้น ยิ่งรู้ว่าผู้ชายที่ตัวเองจะต้องลากขึ้นเตียงเป็นผู้ชายคนนี้ หล่อนก็ต้องรีบไปให้ไกล          แต่หล่อนจะทำอย่างนั้นได้ยังไงกันล่ะ ในเมื่อหล่อนทำสัญญากับคุณหญิงประไพพรรณไปแล้ว          ทำไมนะ ทำไมโชคชะตาถึงเล่นตลกกับชีวิตของหล่อนแบบนี้ แค่ต้องมานอนกับผู้ชายที่ไม่รู้จักก็อัปยศพอแล้ว แต่นี่ดันเป็นผู้ชายที่เกลียดขี้หน้ากันตั้งแต่แรกเห็นอย่างหมอนี่          “ฉันทำสัญญาไปแล้ว คงทำแบบนั้นไม่ได้หรอก”          “หึ... ไหนว่าไม่ต้องการเงินไง หรือว่าเงินมาผ้าหลุด ไม่ต่างจากผู้หญิงคนอื่นล่ะ”          คำเยาะหยันจากผู้ชายตรงหน้า ทำให้จันทร์หอมเจ็บช้ำเหลือเกิน          “คุณจะคิดยังไงก็ช่าง ฉันไม่มีทางเลือก”          “ต่ำ เห็นแก่เงิน”          หล่อนเจ็บจนแทบขาดใจตายกับคำด่าทอของผู้ชายตรงหน้า แต่ก็ทำได้แค่เชิดหน้าต่อสู้กับความเจ็บปวดเท่านั้น          “มันเรื่องของฉัน คุณมีหน้าที่แค่นอนกับฉันก็พอ”          “ไร้ยางอาย! คุณนี่น่ารังเกียจยิ่งกว่าอีตัวข้างถนนเสียอีก” เขาก้าวเท้าเข้ามาหา ดวงตาที่มองมาเต็มไปด้วยเปลวเพลิงแห่งโทสะ “จำเอาไว้นะ ผมไม่มีทางนอนกับคุณ!” จันทร์หอมเจ็บช้ำ แต่ก็จำต้องแสดงทีท่าว่าไม่เป็นไร “แล้วคุณจะรู้ว่า คุณปฏิเสธฉันไม่ได้” หล่อนหมุนตัวจะเดินหนี แต่อุ้งมือใหญ่ยื่นมากระชากเอาไว้ และบีบแรงๆ อย่างจงใจให้เจ็บ “กลับไปซะ แล้วผมจะพูดกับคุณแม่ให้เอง ส่วนเรื่องเงิน ต้องการเท่าไหร่ก็บอก ผมจะจ่ายให้ แค่คุณไปให้พ้นหน้าพ้นตาผมก็พอแล้ว” “ทำไมคะ ฉันมันน่ารังเกียจนักหรือไง” หล่อนกัดฟันยิ้มยั่วยวน “อย่าลืมสิ เราจูบกันไปแล้วนะ และต่อจากนี้ไป เราจะไม่ทำกันแค่จูบ...” “ผู้หญิงบ้า หน้าด้าน!” ธันฐกรณ์ผลักเจ้าของดวงหน้าหวานออกห่างแรงๆ อย่างรังเกียจ “ตอนแรกฉันคิดว่างานนี้มันจะน่าเบื่อเสียอีก แต่พอรู้ว่าคนที่ฉันจะต้องมาทำให้ครางคือคุณ ฉันก็เริ่มมองเห็นความสนุกเสียแล้วสิ” นี่หล่อนพูดแบบนี้ออกไปได้ยังไงกันนะ ทำไมถึงกล้าพูดอะไรที่ไม่ใช่ตัวเองออกไปแบบนี้ หรือเพราะว่าอยากเอาชนะท่าทางรังเกียจที่ธันฐกรณ์แสดงออกมากันนะ “ผมเตือนคุณก่อนนะ อย่ามาล้อเล่นกับผม เพราะผมไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษสำหรับผู้หญิงทุกคน” เขาเค้นเสียงเลือดเย็นเตือนออกมา แต่จันทร์หอมไม่มีทางเลือกแล้ว หลังของหล่อนจนฝาหมดทางเลือกเสียแล้ว “ฉันก็ไม่คิดต้องการผู้ชายที่เป็นสุภาพบุรุษสักหน่อย” หล่อนทำใจกล้าเดินเข้าไปหา และยกมือขึ้นไล้แก้มสากของเขาแผ่วเบา จนเขาขยับหนีไม่ทัน “ยิ่งเถื่อนๆ คลั่งๆ ฉันยิ่งชอบ” “ไปให้พ้น” ธันฐกรณ์ไม่เคยถูกลูบคมแบบนี้มาก่อนตั้งรับไม่ทันเลยทีเดียว เขาผลักหล่อนออกห่าง แต่หญิงสาวรวบร่างของเขาเอาไว้ด้วย ทำให้เสียหลักล้มลงไปนอนกับพื้นด้วยกัน โดยที่ร่างของจันทร์หอมอยู่ด้านบน หญิงสาวระบายยิ้มเย้ายวน พร้อมกับกลั้นใจเอาปากของตัวเองประกบเข้าหากับริมฝีปากหยักสวยของผู้ชายใต้ร่าง ปากแนบชิดกันแล้ว จันทร์หอมก็หลับหูหลับตาขยับปากบดเคล้าไปมา หล่อนไม่รู้หรอกว่าทำถูกไหม รู้เพียงแต่ว่าต้องทำให้ผู้ชายคนนี้รู้ว่า หล่อนไม่ใช่ไก่ในอุ้งมือที่จะบีบเมื่อไหร่ก็ได้เท่านั้น ธันฐกรณ์หลงเคลิ้มไปหลายนาที พอดึงสติกลับมาได้ก็พลิกตัวขึ้นคร่อมร่างของจันทร์หอมเอาไว้เสียเอง พร้อมกับกระชากสองแขนไปตรึงรวมกันเอาไว้เหนือศีรษะ เขาระบายยิ้มชั่วร้าย ขณะจ้องมองดวงหน้าซีดเผือดของหญิงสาว “คุณไม่มีทางเก่งกว่าผมได้หรอก จำเอาไว้” แล้วชายหนุ่มก็กระแทกปากลงไปหาแรงๆ จงใจมอบความเจ็บปวดให้กับเจ้าของปากนุ่มทุกสัมผัสที่ขับเคลื่อน เขาบดขยี้ดุดัน ไร้ความปรานี จนกระทั่งปากนุ่มเลือดออก จึงเงยหน้าขึ้นมอง ทิ้งยิ้มหยันของผู้ชนะเอาไว้ให้ ก่อนจะลุกขึ้นยืน จันทร์หอมรีบลุกขึ้นยืน มือเล็กกุมปากของตัวเองเอาไว้ และมองเขาด้วยสายตาเจ็บใจ “จำเอาไว้นะ ฉันจะทำให้คุณมาสยบแทบเท้าให้ได้” ธันฐกรณ์ยิ้มยั่ว “เอาสิ มีกลยุทธ์อะไรก็งัดออกมาใช้ได้เลย แต่ขอบอกนะว่าผมน่ะเป็นนักสู้ที่ไม่เคยพ่ายให้กับใครมาก่อน ยิ่งเป็นอีตัวข้างถนนแบบคุณ ผมก็ยิ่งไม่คิดจะยอมแพ้” “ไอ้คนบ้า!” “อ้อ... ไปฝึกจูบมาอีกหน่อยนะ เพราะจูบของคุณมันยังจืดเหลือเกิน” แล้วเขาก็หัวเราะเยาะ พร้อมกับเดินกลับเข้าไปในตัวตึกใหญ่อีกครั้ง จันทร์หอมยืนน้ำตาริน หล่อนยกมือขึ้นลูบปากที่เห่อบวมของตัวเองด้วยความเสียใจ “ทำไมลูกชายของคุณหญิงจะต้องเป็นคุณด้วย นะ” หญิงสาวยืนสงบสติอารมณ์อยู่สักพักก็ก้าวตามเข้าไปข้างใน ซึ่งก็พบว่าธันฐกรณ์กลับมานั่งบนโซฟาตัวเดิมแล้ว “หนูหอม ทำไมหน้าซีดจัง แล้วนั่นปากเจ่อเลยไปทำอะไรมาจ้ะ” คุณหญิงประไพพรรณเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง จันทร์หอมอึกอัก และก็อดที่จะมองไปที่ธันฐกรณ์ไม่ได้ ซึ่งก็เห็นว่าเขานั่งหัวเราะอยู่ หล่อนกำมือแน่นด้วยความโมโห “พอดีหมามันกัดปากมาน่ะค่ะ” ธันฐกรณ์สะดุ้งกับคำตอบของจันทร์หอม เพราะไม่คิดว่าเจ้าหล่อนจะตอบแบบนี้ “หมา...? หมาที่ไหนกันหนูหอม ที่บ้านฉันไม่ได้เลี้ยงหมาสักตัวเลยนะ” “เอ่อ... หอมพูดเล่นน่ะค่ะ หอมเดินชนขอบประตูน่ะค่ะ” “โอ้ แย่จัง แล้วเจ็บมากไหมเนี้ย” “ไม่มากค่ะ หอมโอเคค่ะ” หล่อนฝืนยิ้มตอบคุณหญิงประไพพรรณออกไป ก่อนจะพูดต่อ “เอ่อ... วันนี้หอมขอกลับบ้านก่อนได้ไหมคะ แล้วหอมจะมาวันพรุ่งนี้น่ะค่ะ” “ใจเสาะเหรอครับ” ธันฐกรณ์พูดออกมาลอยๆ แต่จันทร์หอมรู้ดีว่าเขาหมายถึงอะไร หล่อนถลึงตาใส่เขาทันที “หอมไม่ได้ใจเสาะหรอกค่ะผัวขา แต่หอมอยากกลับไปรักษาปากให้หายบวมก่อน เพราะถ้าอยู่ที่นี่คืนนี้ผัวก็จะจูบปากเมียไม่ได้นะคะ เพราะปากเมียเจ็บ” หล่อนจงใจใช้คำพูดกวนประสาทที่สุด และแน่นอนว่าทำได้สำเร็จ “งั้นก็ไม่ต้องกลับ อยู่ที่นี่แหละ ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าคุณจะทำยังไง ให้ผมเอาคุณทำเมีย” ธันฐกรณ์ผุดลุกขึ้นยืน หน้าตาเต็มไปด้วยโทสะ “ผมออกไปทำธุระได้แล้วนะครับคุณแม่” “ไปเถอะ แต่ห้ามกลับเย็นล่ะ” ธันฐกรณ์ปลายตามองจันทร์หอมด้วยสายตาคาดโทษ “ผมไม่พลาดที่จะกลับมาดูลีลาลากผู้ชายขึ้นเตียงของยัยเด็กนี่หรอกครับ” แล้วชายหนุ่มก็ก้าวยาวๆ เดินออกไปจากบ้านอย่างอารมณ์เสีย จันทร์หอมถอนใจออกมาแผ่วเบา สีหน้าอวดดีจางหายไปจนหมด คุณหญิงประไพพรรณหันมามอง ก่อนจะพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง “หนูหอมก็ยอมๆ พ่อธันหน่อยนะ รายนี้ถ้าใครขัดใจ เขาจะหัวร้อนเอาง่ายๆ ยิ่งต่อปากต่อคำเขาก็ยิ่งโมโห” “แต่คุณหญิงก็เห็นนี่คะว่าลูกชายของคุณหญิงพูดจาไม่ดีใส่หอมก่อน” คุณหญิงถอนใจออกมาเบาๆ รู้สึกอ่อนอกอ่อนใจไม่น้อย “ฉันรู้ว่านิสัยของพ่อธันไม่ค่อยดีนัก ปากก็เสีย แต่ยังไงซะ ฉันก็อยากขอร้องให้หนูหอมยอมๆ หน่อยนะ เพราะไม่อย่างนั้นหลานของฉันก็คงจะไม่ได้เกิดอย่างแน่นอน” จันทร์หอมยิ้มบางๆ คำพูดของคุณหญิงประไพพรรณเตือนให้หล่อนรู้ว่า ตัวเองอยู่ในฐานะที่ไม่อาจจะขัดอกขัดใจใครได้ “ค่ะ หอมจะทำตามที่คุณหญิงสั่งค่ะ” “ขอบใจมาก งั้นเดี๋ยวฉันให้คนพาขึ้นไปที่ห้องนอนของพ่อธันนะ” “คุณหญิง... ให้หอมนอนห้องเดียวกับคุณธันเหรอคะ” หญิงสาวถามด้วยความตกใจ “ก็ใช่น่ะสิ ถ้าไม่นอนห้องเดียวกัน แล้วหลานฉันจะเกิดได้ยังไงล่ะ คืนนี้เผด็จศึกเลยนะหนูหอม” หล่อนทำได้แค่ผงกศีรษะตอบรับด้วยใบหน้าที่ซีดเผือดปนสยองเท่านั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD