ตอนที่ 1
บ้านไม้สองชั้นหลังเก่าแก่บนเนื้อที่เกือบสองงานตั้งอยู่ย่านชานเมือง เจ้าบ้านหลังนี้ก็คือนรินทิพย์ภรรยาของดาบตำรวจวิชัยซึ่งได้เสียชีวิตไปเกือบสิบปีแล้วนั่นเอง
ภายในห้องรับแขกเล็กๆ ของบ้าน กำลังต้อนรับการมาเยือนของผู้หญิงแต่งตัวดีคนหนึ่ง ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับผู้ชายในชุดสูทสีเทา
“เอาล่ะนะ ฉันจะไม่อ้อมค้อมก็แล้วกัน”
คุณหญิงประไพพรรณ เศรษฐีนีผู้ร่ำรวยเงินทอง หล่อนเป็นเจ้าของสถานเสริมความงามชื่อดัง ซึ่งมีสาขาอยู่ในหลายประเทศ และก็ยังเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของนรินทิพย์อีกด้วย
“วันนี้ฉันต้องได้เงินก้อนคืนทั้งหมด หนึ่งล้านบาท”
นรินทิพย์หน้าซีดเผือด พยายามวิงวอนเพราะคิดว่าคุณหญิงประไพพรรณจะยอมยืดเวลาให้เหมือนเดิม
“คุณหญิงคะ ได้โปรดเถอะค่ะ ฉันยังไม่มีจริงๆ ขอผลัดไปสักเดือนหน้าได้ไหมคะ”
“คงไม่ได้แล้วล่ะคุณทิพย์ เพราะฉันใจดีให้ผ่อนผันมาเกือบปีแล้ว แต่ทั้งต้นทั้งดอกฉันก็ยังไม่ได้คืนเลย”
“แต่ฉันยังไม่มีจริงๆ นะคะ เงินที่กู้ยืมมาฉันก็เอาไปลงทุนหมด แต่ธุรกิจมันเจ๊งน่ะค่ะ”
“ฉันเห็นใจนะ แต่ฉันก็คงช่วยอะไรคุณทิพย์มากไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้วล่ะ ก็อย่างที่ฉันบอกนั่นแหละ ฉันไม่ใช่เจ้าแม่เงินกู้ ที่ฉันยอมให้คุณทิพย์หยิบยืมก้อนใหญ่ขนาดนี้ ก็เพราะเห็นกับดาบวิชัยที่เคยเป็นลูกน้องของสามีฉันมาก่อนน่ะ ถ้าเป็นคนอื่น ฉันคงไม่ให้ยืมหรอก”
นรินทิพย์ร้องไห้ออกมาอย่างอับจนหนทาง ยกมือไหว้คุณหญิงประไพพรรณทั้งน้ำตา
“ได้โปรดเถอะนะคะ ช่วยฉันอีกครั้งหนึ่ง แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะคะ แล้วฉันจะหาเงินมาคืนคุณหญิงทั้งหมดเลยค่ะ”
คุณหญิงประไพพรรณผ่อนลมหายใจออกมาอย่างหนักใจ
“เงินตั้งหนึ่งล้าน คุณทิพย์จะไปเอาที่ไหนมาใช้ฉันล่ะ ขนาดดอกดวงคุณทิพย์ก็ยังไม่มีให้ฉันเลย”
“ฉันจะพยายามค่ะคุณหญิง ฉัน... กำลังรอเงินที่ลงทุนอยู่ ถ้าสำเร็จคงได้มาก้อนใหญ่เลยล่ะคะ”
นรินทิพย์หมายถึงหุ้นที่ตัวเองซื้อเอาไว้
“อย่าหาว่าฉันใจจืดใจดำเลยนะ แต่ฉันคงยืดเวลาให้ไม่ได้แล้วล่ะ”
“แต่ฉันไม่มีเงินเลยค่ะตอนนี้”
“งั้นฉันก็คงต้องยึดบ้านหลังนี้ตามที่คุณทิพย์จำนองเอาไว้กับฉันแล้วล่ะ นี่ฉันก็พาทนายมาด้วย”
“อย่านะคะคุณหญิง ให้โอกาสฉันอีกสักเดือนนะคะ ได้โปรดเถอะค่ะ”
นรินทิพย์คุกเข่าและยกมือไหว้ น้ำตาไหลท่วมใบหน้า
คุณหญิงประไพพรรณมองอย่างเวทนา ก่อนจะพูดออกมาอย่างเห็นใจ
“งั้นเอาอย่างนี้ ฉันมีงานที่จะเสนอให้กับลูกสาวของคุณทิพย์ทำ ซึ่งถ้าทำสำเร็จหนี้สินระหว่างเราถือว่าจบสิ้นกันไป”
นรินทิพย์เบิกตากว้าง มองคุณหญิงประไพพรรณด้วยความสงสัยระคนหวาดหวั่น
“คงไม่ใช่งานไม่ดีใช่ไหมคะ”
“ไม่ใช่งานผิดกฎหมายอะไรหรอกคุณทิพย์”
“เอ่อ... แล้วคุณหญิงจะให้ลูกสาวของฉันทำอะไรคะ”
นรินทิพย์ถามออกไปด้วยความสงสัย และก็มั่นใจว่ามันจะต้องเป็นงานที่ยากเย็นมาก ไม่อย่างนั้นค่าจ้างถึงไม่แพงเป็นล้านแบบนี้แน่นอน
“ฉันต้องการให้ลูกสาวของคุณทิพย์รวบหัวรวบหางลูกชายของฉันน่ะ”
“คะ?!”
ท่าทางตกใจของนรินทิพย์ ทำให้คุณหญิงประไพพรรณต้องรีบอธิบายเพิ่มขึ้น
“คืออย่างนี้นะ ฉันกับลูกชายฉันน่ะ ตาธันน่ะ ไม่รู้คุณทิพย์จำได้หรือเปล่า”
“จำได้ค่ะ ตอนนั้นคุณธันยังเล็กๆ อยู่เลย”
นรินทิพย์ยังคงจำเด็กผู้ชายเจ้าของใบหน้าฟ้าประทานอย่างธันฐกรณ์ได้ไม่ลืม
“ฉันน่ะอยากอุ้มหลานแล้ว แต่ลูกชายยังไม่มีทีท่าจะยอมแต่งงานเลย มีแต่ควงผู้หญิงไปวันๆ ฉันก็เลยคิดแผนนี้ขึ้นมาน่ะ”
นรินทิพย์หน้าซีดเผือด เพราะตอนนี้เข้าใจแผนการของคุณหญิงประไพพรรณแล้ว
“คุณหญิงจะให้... ยัยหอมไปนอนกับคุณธันเพื่อที่จะมีหลานให้คุณหญิงอย่างนั้นเหรอคะ”
“ใช่แล้วล่ะ ค่าจ้างหนึ่งล้านบาท ถ้าหนูหอมตั้งท้องกับตาธันนะ”
“แต่ว่า...”
นรินทิพย์อึกอัก เพราะไม่รู้ว่าลูกสาวจะยินยอมหรือเปล่า
“แต่ฉันไม่บังคับหรอกนะ คุณทิพย์ลองเอาข้อเสนอของฉันไปปรึกษาหนูหอมก่อนก็ได้ แล้วพรุ่งนี้ฉันจะให้ทนายเดินทางมาฟังคำตอบก็แล้วกัน”
“ได้... ได้ค่ะคุณหญิง”
“งั้นฉันไปก่อนนะ”
คุณหญิงประไพพรรณลุกขึ้นยืนจากโซฟา ก่อนจะพูดย้ำอีกครั้ง
“คิดให้ดีๆ ล่ะ งานแบบนี้มันหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วนะคุณทิพย์”
“ค่ะ คุณหญิง”
นรินทิพย์ลุกขึ้นเดินตามออกมาส่งคุณหญิงประไพพรรณที่รถ และก็ยืนมองตามท้ายรถของเจ้าหนี้ของตัวเองไปจนลับตา
“จะทำยังไงดี...”
นรินทิพย์เต็มไปด้วยความวิตกกังวล สีหน้าเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดเหลือเกิน
ร่างอรชรในชุดเสื้อกระโปรงสีเทาอ่อนแบบสุภาพ รีบเร่งฝีเท้ามุ่งหน้าไปตามริมถนน เพื่อที่จะไปให้ถึงบริษัทฯ ที่ตนเองมีนัดสัมภาษณ์งานให้ทันเวลาที่นัดหมายเอาไว้
มือเล็กที่กุมโทรศัพท์มือถืออยู่ยกขึ้นเพื่อมองเวลา ก่อนเหงื่อจะแตกพลั่ก เมื่อเห็นเวลากระชั้นเข้ามาทุกขณะ
“อุตส่าห์เผื่อเวลาแล้วนะ แต่รถก็ยังมาติดอีก” จันทร์หอมบ่นพึมพำด้วยความร้อนใจ ขณะเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น
อีกแค่ร้อยกว่าเมตรจะถึงบริษัทฯ เป้าหมายแล้วล่ะ
หญิงสาวให้กำลังใจตัวเอง และก็รีบเร่งฝีเท้าให้เร็วยิ่งขึ้น แต่แล้วก็ต้องร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อน้ำเย็นๆ จากที่ไหนไม่รู้กระเซ็นมาราดรดร่างกายของหล่อนเข้าอย่างจัง
หล่อนหยุดเดิน ยกมือขึ้นป้ายหยาดน้ำออกจากหน้า และมองหาสาเหตุ ก่อนจะพบว่าน้ำที่เปื้อนกายสาวมาจากแอ่งน้ำบนถนนนั่นเอง แต่น้ำสกปรกนั่นจะกระเซ็นมาที่หล่อนไม่ได้หากไม่มีล้อรถยนต์คันนั้นสัมผัสมัน