วันต่อมา 07.20 น.
“สวัสดีตอนเช้าค่ะ พี่องศา” ทันทีที่ฉันเดินออกจากห้องมา ก็เห็นว่าพี่องศากำลังวุ่นอยู่กับการทำอาหารในครัว
“ตื่นแล้วเหรอ เมื่อคืนนอนหลับไหม”
“ก็ นอนหลับค่ะ” แต่กว่าจะข่มตาหลับได้ก็เที่ยงคืนกว่าเข้าไปแล้ว ไม่ใช่เพราะแปลกที่หรอกนะ แต่เป็นเพราะซิกแพคพี่องศานั่นแหละที่ทำให้ฉันสติแตก
“อาหารเช้าเสร็จพอดี มากินสิ พี่ทำเผื่อเราด้วยนะ” นอกจากจะหล่อแล้ว ยังทำอาหารเก่งอีกต่างหากช่างแตกต่างจากพี่ชายของฉันโดยสิ้นเชิง รายนั้นนะได้แต่ใช้ฉันทำให้กินอย่างเดียวเลย
“ว้าว น่ากินมากค่ะ งั้นพราวไม่เกรงใจแล้วนะ” ฉันเดินไปหย่อนสะโพกลงบนเก้าอี้ขนาดพอดี พร้อมกับมองจานข้าวผัดหมูที่พี่องศายกมาวางที่โต๊ะเมื่อกี้
“กินเยอะๆนะ จะได้โตไวๆ” พี่องศายื่นมือมาขยี้ผมฉันอย่างหมั่นเขี้ยว หลังจากที่เขาเดินมานั่งฝั่งตรงข้ามกับฉัน
“ผมพราวเสียทรงหมดแล้วนะคะ” ฉันบ่นอุบให้คนตรงหน้าที่ชอบขยี้ผมฉันตั้งแต่ประถมจนตอนนี้เรียนจะจบมหาลัยอยู่แล้ว
“หึ” พี่องศาระบายรอยยิ้มออกมา ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานข้าวตรงหน้าของตัวเอง ว่าแต่หล่อขนาดนี้ทำไมยังไม่มีแฟนอีกนะ ฉันได้แต่สงสัย แล้วก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวของตัวเองต่อไป
“เดี๋ยวไปทำงานพร้อมพี่เลยเนอะ รถพราวก็เอาจอดไว้นี่แหละ” หลังจากที่เราสองคนนั่งกินข้าวเสร็จ พี่องศาก็เงยหน้าขึ้นมาพูดกับฉัน ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องขับรถเอง ประหยัดน้ำมันด้วย
“ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวพราวไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะคะ” ฉันบอกพี่องศาไป ก่อนจะลุกแล้วหยิบจานข้าวของตัวเองที่ตั้งใจจะเอาไปล้าง แต่…..
“เอาไว้ตรงนี้แหละ เดี๋ยวพี่จัดการเอง พราวไปทำธุระของตัวเองเถอะ” เขาว่าพลางหยิบจานข้าวของฉันไป ก่อนจะเดินตรงไปที่อ่างล้างจาน
ฉันยืนมองแผ่นหลังกว้างของพี่องศาที่อยู่ภายใต้เสื้อเชิตสีขาวตัวบาง ที่ทำให้เห็นเนื้อหนังด้านในลางๆ ก่อนที่ภาพบางอย่างจะฉายวับเข้ามา
ยัยพราวฟ้า นี่แกคิดถึงซิกแพคของพี่องศาเขาอีกแล้วนะ ฉันละอยากจะทึ้งหัวตัวเองจริงๆ ได้แต่ก่นด่าตัวเองอยู่ในใจ ก่อนจะรีบหันหลังแล้วเดินกลับไปที่ห้องนอนของตัวเองทันที
สามวันต่อมา…
“พี่องศาคะ ดื่มเบียร์มั้ย?” เสียงพราวฟ้าเอ่ยถามผม หลังจากที่ผมเปิดประตูห้องนอนออกมา
“คิดยังไงซื้อเบียร์มาดื่ม” คือตอนนี้พราวฟ้ามาอยู่ห้องผมได้สามสี่วันแล้วนะ นี่ก็ไม่รู้ว่าพ่อกับแม่เธอจะกลับไปเมื่อไหร่
“ก็พรุ่งนี้บริษัทหยุดนี่คะ ตื่นสายได้” มันก็จริงอย่างที่เธอพูด เพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุด ปกติผมต้องออกไปดื่มกับไอ้พวกนั้นแล้วนะ แต่ติดตรงที่ไอ้เพทายบินไปดูงานต่างจังหวัด ส่วนไอ้คามินก็ไม่รู้หายหัวไปไหนของมัน
“ซื้อมากี่กระป๋อง?” ที่ถามไปแบบนั้นคือกลัวไม่พอไง เพราะแค่ผมคนเดียวก็หกเจ็ดกระป๋องแล้วนะ
“สิบกระป๋องค่ะ มีแช่อยู่ในตู้เย็นอีก” เธอตอบผมกลับมา พร้อมกับพยักพเยิดหน้าไปทางตู้เย็นขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับเคาน์เตอร์ทำอาหาร แล้วนี่เธอลงไปซื้อตอนไหนกัน
สองชั่วโมงต่อมา 20.40 น.
“พี่องศาไม่คิดจะมีแฟนเหรอคะ?” พราวฟ้าที่นั่งดื่มเบียร์อยู่ข้างผมถามขึ้น แล้วทำไมน้องมันต้องมองผมด้วยสายตาหวานเยิ้มขนาดนั้น
“ถามทำไม อยากมาเป็นแฟนพี่หรือไง?” ที่ถามไปแบบนั้นเพราะอยากจะแกล้งเธอเฉยๆนะ แต่ไม่รู้ทำไมในใจถึงหวังคำตอบบางอย่างจากเธอ
คือตอนนี้เราสองคนนั่งดื่มเบียร์ด้วยกันตรงโซฟากลางห้องโถง นี่ก็ดื่มจนเบียร์ที่อยู่ในตู้เย็นใกล้จะหมดอยู่แล้ว
“ปะ เปล่าซะหน่อย” เธอรีบหันหน้าหนีไปทางอื่นทันที ทำไมถึงได้น่าแกล้งขนาดนี้วะ
“พี่องศาจะเอาเบียร์เพิ่มไหมคะ? เดี๋ยวพราวเอามาให้”
“อืม” ผมก็พยักหน้าตอบกลับพราวฟ้าไป ก่อนที่เธอจะลุกแล้วเดินตรงไปยังตู้เย็น
ผมนั่งมองร่างบางที่อยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวคอวีตัวบาง กับกางเกงยีนส์ขาสั้นที่เธอชอบใส่เป็นประจำอย่างไม่ละสายตา ทำไมพราวฟ้าถึงได้หน้ามองขนาดนี้นะ แค่แผ่นหลังยังทำผมใจเต้นไม่เป็นจังหวะเลย หรือเพราะแอลกอร์ฮอร์ที่ดื่มเข้าไป
“นี่ค่ะ คนละกระป๋องสุดท้ายแล้วนะคะ ในตู้เย็นหมดแล้ว” พราวฟ้าที่เดินกลับมาพร้อมกับเบียร์ที่อยู่ในมือจำนวนสองกระป๋อง เอ่ยบอกผม
“อยากดื่มต่อมั้ย ห้องพี่มีเหล้าอยู่” ที่ถามไปแบบนั้นเพราะผมอยากได้คนนั่งดื่มเป็นเพื่อนไง นี่ผมเพิ่งดื่มไปแค่สี่ห้ากระป๋องเองนะยังอยากดื่มต่ออยู่เลย อีกอย่างพราวฟ้าก็ดูคอแข็งใช้ได้
“ดื่มเพรียวๆเหรอคะ พราวไม่ไหวแน่”
“งั้นเดี๋ยวพี่ลงไปซื้อเบียร์มาเพิ่มให้ พราวดื่มสองกระป๋องนี่รอพี่ไปก่อน” พูดจบผมก็หยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูงของตัวเอง ก่อนจะลงไปซื้อเบียร์ที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ๆกับคอนโดมาเพิ่มอีก
สองชั่วโมงต่อมา…
“เดี๋ยว หมดกระป๋องนี้ พราวจะ เข้าไปนอน แล้วนะคะ อึก!” ร่างบางที่นั่งหน้าแดงเพราะฤทธิ์ของแอลกอร์ฮอร์ที่ดื่มเข้าไป หันหน้ามาพูดกับผมด้วยเสียงยานคาง
“อืม แล้วเดินไหวไหม ให้พี่เดินไปส่งหรือเปล่า?” ดูจากสภาพคือตอนนี้พราวฟ้าเริ่มจะเมาแล้วครับ จะไม่ให้เมาได้ยังไงเล่นยกดื่มๆขนาดนั้น อีกอย่างเธอคนเดียวก็ดื่มเกือบสิบกระป๋องแล้วนะ อย่างโหดเลย
“ไหวค่ะ แค่นี้ สบาย มาก” พราวฟ้าตอบผมกลับมาก่อนจะลุกจากโซฟา แต่ยังไม่ทันจะก้าวขาเธอก็ทรงตัวไม่อยู่ แล้วล้มลงมาที่หน้าตักของผมพอดี
อึก!!
ผมกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่เมื่อมือของผมได้สัมผัสกับตัวนุ่มนิ่มของเธอ ที่สำคัญตอนนี้สะโพกมนๆของเธอมันกำลังนั่งทับอยู่บนลูกชายของผม
“ข ขอโทษค่ะ พ พราวไม่ได้ตั้งใจ” เธอรีบลุกออกจากตักผมอย่างไว ก่อนจะล้มลงไปที่โซฟาข้างๆผมเหมือนเดิม พอเห็นแบบนั้นผมก็อดที่จะแกล้งเธอไม่ได้อีกแล้ว ผมค่อยๆขยับเข้าไปใกล้เธอทีละนิด ทีละนิด
“พ พี่องศา จะทำอะไรคะ?”
“อยากโดนเด็กน้อยเปิดซิง” ไม่รู้ว่าผมแกล้งเธอหนักเกินไปมั้ย แต่ตอนนี้ผมเริ่มจะหยุดตัวเองไม่ได้แล้วจริงๆ อาจเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอร์ฮอร์ที่มันกำลังพลุ่งพล่านในตัวผมตอนนี้ก็ได้
“……..”
“อยากลองจับดูไหม มันใหญ่นะ”
“พ พี่องศา” เธอเรียกชื่อผมเสียงแผ่ว ก่อนที่ผมจะเอื้อมมือของผมไปจับมือของเธอ แล้วเอามาวางลงตรงกลางเป้ากางเกงของผม ที่มีเจ้าลูกชายที่หลับไหลอยู่ก่อนหน้านี้ กำลังจะตื่นขึ้นมาเพราะสัมผัสนอกผ้าเมื่อกี้นี้
อา…..ทำไมมือเธอถึงได้นุ่มขนาดนี้วะ นี่แค่สัมผัสด้านนอกยังทำผมเสียวได้ขนาดนี้ แล้วถ้าผมให้เธอเขามาสัมผัสข้างใน ผมจะเสียวขนาดไหนกันนะ
“ให้พี่ถอดกางเกงออกไหม น้องจะจับมันได้สะดวก”
ไม่รู้ว่าอะไรเข้าสิงหรือดลจิตดลใจให้ผมถามคำถามนี้เธอออกไป อาจจะเป็นผีห่าซาตานที่กำลังเข้าร่างผมตอนนี้ก็ได้
“พ พี่องศา” สิ้นเสียงพราวฟ้า จู่ๆเธอก็เป็นคนดึงผมเข้าไปใกล้ ก่อนจะทาบทับริมฝีปากของเธอลงมา
“อื้ออ/อื้มม....” ผมกับพราวฟ้าเราสองคนหลุดเสียงครางในลำคอออกมาพร้อมกัน ก่อนหน้านี้ผมว่าผมกำลังเป็นฝ่ายรุกเธออยู่นะ แล้วไหงตอนนี้ผมกลายเป็นฝ่ายรับวะ
“อื้ออ” พราวฟ้าสอดแทรกลิ้นร้อนของเธอเข้ามาในโพรงปากของผม ซึ่งผมก็ยอมให้เธอลุกล้ำเข้ามาอย่างง่ายดาย เราสองคนนั่งจูบกันแบบดูดดื่มอยู่ตรงโซฟาสักพัก ก่อนที่พราวฟ้าจะเป็นคนผลักผมออกเบาๆ
“พ พราวหายใจไม่ออก” ไม่รู้ว่าที่หน้าเธอขึ้นสีแดงระเรื่ออยู่ตอนนี้เป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอร์หรือว่าความเขินอายกันแน่ แต่ผมชอบนะ เธอดูน่ารักดี
“ต่อเลยมั้ย?”
“อื้อ…..” ผมไม่รอให้เธอได้ตอบก่อนจะเป็นฝ่ายขึ้นไปคร่อมบนตัวของเธอแล้วกดริมฝีปากหนาของตัวเองลงไปบนริมฝีปากบางของเธอ
ผมสอดแทรกปลายลิ้นร้อนเข้าไปตักตวงความหอมหวานจากโพรงปากของเธอ ที่มีกลิ่นเบียร์ผสมกับกลิ่นลิปสติกจางๆ จนตอนนี้ผมแทบไม่อยากปล่อยเธอให้เป็นอิสระ หรือผมควรจะปล่อยให้ผีห่าซาตานที่มันอยู่ในร่างผมตอนนี้ เผยตัวตนออกมาดี