ไม่มีสิทธิ์เลือก#1
กึก... กึก...
เสียงรองเท้าส้นสูงสีไวน์แดงกำลังก้าวย่างอย่างเก้ ๆ กังๆ เสียงฝีเท้าที่ดูไม่สม่ำเสมอบ่งบอกได้ว่าผู้สวมใส่ไม่คุ้นชินกับมันนัก เจ้าของฝีเท้ากำลังพยายามคุมไม่ให้ก้าวย่างของเธอสั่นไหว แม้พื้นพรมนี้จะไม่ได้มีระยะทางที่ยาวไกลนัก แต่ในความรู้สึกของเธอเหมือนเส้นทางนั้นทอดยาวออกไปไกลเหลือเกิน หญิงสาวทำได้เพียงปลุกปลอบเรียกกำลังใจตัวเองเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ไม่ง่ายเลยที่จะยืนหยัดอยู่ในสังคมที่เต็มไปด้วย
‘ความใคร่’
บทเรียนจิตวิทยาที่เคยได้เรียนสมัยเรียนยังคงเด่นชัดขึ้นมาในหัวของรชนิชล บัณฑิตหมาดๆ ที่พึ่งเรียนจบด้านจิตวิทยาโดยเฉพาะ โดยเฉพาะย่อหน้าหนึ่งที่กล่าวถึงจังหวะการเดินที่สามารถบ่งบอกสภาวะอารมณ์ของคนได้ ตัวเธอเองก็พยายามควบคุมในสิ่งที่ตนเองแสดงออกผ่านทุกการก้าวย่าง และพยายามอย่างที่สุดให้ฝีเท้าของเธอรวดเร็วผสานและมั่นคง
ความพยายามทั้งหมดนี้ของหญิงสาวช่างแน่ชัดว่าเธอกำลังต่อสู้กับสิ่งนั้น... สิ่งที่รอคอยอยู่หลังประตู
มือเรียวยกมือขึ้นเคาะประตูตามมารยาท รวบรวมความกล้าก่อนจะผลักเข้าไป
“ช้า...”คำแรกที่ควรจะเป็นคำทักทายกลับกลายเป็นคำตำหนิจากชายรูปร่างสูงใหญ่ในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวสะอาดตา ร่างสูงกำลังนั่งเอนหลังอยู่บนเก้าอี้สีดำหรูที่ตัวใหญ่ราวกับโอบอุ้มเขาไว้
ท่าทางหยิ่งยโสของเขาดูเป็นธรรมชาติไม่ได้เสแสร้งหรือแกล้งทำ ร่างสูงกำลังนั่งอ่านเอกสารด้วยท่วงท่าอันน่าเกรงขาม รังสีที่แผ่ซ่านออกมาเสมือนราชสีห์ตัวโตที่ยืนอยู่บนโขดหิน เขาเหลือบตาขึ้นจากเอกสารดังกล่าวพลางหันมามองหญิงสาว สายตาของเขาช่างเหมือนราชสีห์ที่เฝ้ามองดูเหยื่อตัวน้อยก่อนจะกระโจนเข้าขย้ำอย่างใจเย็น
เธอไม่กล้าแม้แต่จะสบสายตาคมคู่นั้น หญิงสาวต้องกดข่มความรู้สึก ที่มีชื่อเรียกว่า ‘ความกลัว’
ความกลัวในสิ่งซึ่งมาในสิ่งมีชีวิตรูปแบบเดียวกัน นามว่า ‘มนุษย์’ แต่สถานะทางสังคมของทั้งสองช่างแสนจะแตกต่างราว ‘ราชสีห์ทองคำ’ กับ ‘หนูขาวตัวกระจ้อย’
ในทุกครั้งที่ ‘หนูขาวตัวกระจ้อย’ อย่างเธอมาหาเขา สัญชาติญาณนักจิตวิทยาทำให้เธอเคยชินกับการสังเกตและใส่ใจกับสถานที่และผู้คนอยู่เสมอ กับเขาก็เช่นเดียวกัน... ราชสีห์ทองคำคนนี้และคอนโดที่เธอกับเขาต้องใช้ค่ำคืนร่วมกันย่อมไม่พ้นจากการสังเกตและใส่ใจของเธอไปได้ ทุกครั้งที่มาพบเขา หญิงสาวพบว่ากระจกหน้าต่างทุกบานถูกติดฟิล์มกรองแสงที่มืดมาก ผ้าม่านถูกทำเป็นสองชั้น ทุกผืนเป็นสีเข้มและรูดปิดหน้าต่างเอาไว้ทุกบาน ราวกับจะปิดตายจากโลกภายนอกก็ไม่ปาน หากเธอไม่ดูนาฬิกาคงไม่มีทางรู้เลยว่าข้างนอกเป็นเวลาไหนแล้ว และยิ่งดวงไฟภายในห้องถูกเปิดอย่างสว่างจ้า ยิ่งทำให้ห้องนี้ดูเหมือนเป็นเวลากลางวันอยู่เสมอ
หลังจากได้ยินคำตำหนิกลายๆ จากเขา เธอก็ลอบผ่อนลมหายใจเบาๆ ก่อนจะโค้งคำนับเพื่อเป็นการขอโทษตามมารยาท เขาเพียงส่งเสียงครางรับในลำคอตอบกลับมา ก่อนเขาจะก้มดูเอกสารต่อ เธอจึงมีโอกาสได้ลอบมองสำรวจตัวเอง จัดระเบียบชุดที่รัดรึงไปทุกสัดส่วน
ชุดที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้เธอในวันนี้เป็นเดรสสีน้ำเงินเข้ม มองอย่างไรก็ทราบว่าเป็นแบรนด์หรู ตัวชุดถูกตัดเย็บด้วยผ้าที่พริ้วไหว ออกแบบมาให้ผ่าตั้งแต่ปลายด้านล่างจนถึงต้นขาเรียวของหญิงสาว เปิดแผ่นหลังขาวนวลและเพิ่มลูกเล่นด้วยสายโซ่สีน้ำเงินเข้มคล้องไว้ ตัดกับผิวที่ขาวผุดผาด
เธอเผลอปล่อยใจล่องลอยไปกับเรื่องของผู้ชายตรงหน้า ก่อนจะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงเขาวางเอกสารลงบนโต๊ะ
ชายหนุ่มขยับตัวจากท่านั่งไขว่ห้างมาเป็นเหยียดขาตรง สายตาคมกริบจ้องมองร่างบาง เริ่มไล่สำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพึงพอใจ ก่อนจะยกมือขึ้นเป็นสัญญาณให้เธอเดินเข้าไปหา
หญิงสาวปฏิบัติตามคำสั่ง เธอก้าวเดินไปใกล้ก่อนจะขึ้นคร่อมบนตักอย่างเงอะงะ ถึงจะไม่ใช่ครั้งแรกที่มาปรนนิบัติเขา แต่เธอยังคงตื่นเต้นราวกับเป็นครั้งแรกที่โดนสัมผัส
เขาลากไล้นิ้วมือที่สั่นน้อยๆ ไปตามหน้าขา ลูบไล้ไปตามส่วนโค้งส่วนเว้าอย่างถือสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ
“อ๊ะ”
เธอเผลอส่งเสียงครางออกมาอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่ ก่อนจะได้ยินเสียงกระซิบที่แหบพร่ากระซิบข้างๆ หู
“วันนี้เธอจะใช้ส่วนไหนของเธอ… บำบัดให้ฉัน”
เธอนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะข่มตาลงเพื่อรวบรวมความกล้า และเงยหน้าขึ้นตอบรับด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือ
“ส่วนไหนก็ได้ที่คุณต้องการ”
ร่างสูงใหญ่ได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเบาๆ ในลำคอ พลางสอดปลายนิ้วหนึ่งข้างเข้าไปในริมฝีปากอิ่ม พร้อมกับเอ่ยคำสั่ง
“เลีย!”
เมื่อได้ยินดังนั้น ใบหน้านวลก็ขึ้นสีแดงระเรื่อมากกว่าเดิม
มือเรียวแหวกเสื้อคลุมของเขา มองไล่ตั้งแต่ใบหน้าลงไปถึงช่วงล่าง เธอจึงเห็นถึงความใหญ่โต ที่กำลังชูคอผงาด แถมยังมีน้ำใสๆ ไหลซึมบนส่วนปลาย หญิงสาวลุกออกจากตักของเขาก่อนจะค่อย ๆ คุกเข่าลงในระดับเดียวกัน เธอใช้ปลายนิ้วแตะเบา ๆ ราวกับกลัวว่ามันจะเจ็บปวด
ก่อนจะจับสิ่งนั้นด้วยท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ อย่างไม่เป็นงาน ชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็รู้สึกขัดใจอย่างเสียไม่ได้ เขาตัดสินใจกอบกุมมือเธอเพื่อช่วยควบคุม รูดขึ้นและรูดลง ส่วนมืออีกข้างก็ลากสายโซ่ลงเพื่อปลดปล่อยหญิงสาวออกจากชุด เผยให้เห็นร่างบางอันเปลือยเปล่า
ทรวงอกคู่สวยและยอดเกอกสีอ่อนที่ชูชันกำลังอวดโฉมต่อสายตาเขา หญิงสาวช้อนตามองอย่างสั่นสะท้านแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะมือของเธอกำลังกอบกุมความเป็นชายของเขา แถมยังถูกควบคุมด้วยมือเขาอีกชั้นหนึ่ง ชายหนุ่มเห็นร่างเปลือยเปล่าและท่าทีสั่นสะท้านของเธอก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือเข้าไปลูบไล้อย่างโหยหา
“อ๊า!”
ร่างบางสั่นระริกราวกับจะตอบรับสัมผัสจากเขา ชายหนุ่มยกยิ้มอย่างพึงพอใจก่อนจะเอนหลังพิงเก้าอี้อีกครั้งแล้วปล่อยให้เธอเป็นคนจัดการทุกอย่างต่อ
หญิงสาวกอบกุมความแข็งขืนของเขาไว้ พลางรูดขึ้นรูดลงเป็นจังหวะตาม รู้สึกถึงความร้อนผะผ่าวบนแก่นกายของเขาราวกับลาวาที่รอวันปะทุ
ในหัวของเธอนึกถึงคำสอนของแม่ใหญ่ และนึกถึงหนังผู้ใหญ่ที่เคยดูในเว็บไซต์ หญิงสาวค่อยๆให้ใช้เรียวลิ้นแตะมัน พร้อมทั้งปาดเลียดูดเม้มเป็นจังหวะเข้าๆ ออกๆ