นัดดูตัว

1268 Words
ไม่นานการนัดดูตัวระหว่างทั้งสองคนก็เริ่มต้นขึ้น วันนั้นทางผู้ใหญ่ฝ่ายของบริณัยนัดเธอให้มาที่โรงแรมแห่งหนึ่งใจกลางเมืองซึ่งเหล่าบรรดาไฮโซชอบแวะเวียนมาใช้บริการกันอย่างหนาแน่น เพราะบรรยากาศที่ดีและอาหารที่อร่อย เฌอริมาสวมชุดสีน้ำเงินเข้มเข้ารูป พร้อมชุดเครื่องประดับชิ้นเล็ก ๆ แต่แอบซ่อนความหรูหราไว้ให้ดูแล้วน่าค้นหา ฝ่ายบริณัยก็สวมชุดสูทสีน้ำเงินเข้มเข้ากันพอดี กำลังนั่งรอเธออยู่ที่โต๊ะอาหาร “เอาละ ผมขอเป็นคนเริ่มเข้าเรื่องก่อนเลยนะครับ” พ่อของเฌอริมาในฐานะที่อาวุโสที่สุดและยังเป็นถึงรุ่นพี่ที่ทรงอิทธิพลในวงการธุรกิจซึ่งพ่อของบริณัยให้ความยำเกรงเป็นฝ่ายเริ่มต้นบทสนทนาระหว่างทั้งสองครอบครัว “เชิญครับ” พ่อของบริณัยพยักหน้าอย่างให้เกียรติ “ขอบคุณทางครอบครัวนายที่มาเจอกันกับครอบครัวของเรา เนื่องจากลูกสาวฉันรู้สึกถูกชะตากับเจ้าบลูมาก และทั้งสองคนก็ได้มีโอกาสได้พบปะพูดคุยกันพอสมควร ถ้าหากทั้งสองคนคบหาดูใจกันในอนาคตก็คงดีไม่น้อย นายคิดเหมือนกันมั้ย” พ่อเฌอริมาเกริ่นกับเพื่อนรุ่นน้อง “เห็นด้วยค่ะ ที่จริงทางเราก็เห็นผลงานรวมถึงชื่อเสียงในการทำธุรกิจของหนูเฌอริมามาพอสมควรเลย หากได้หนูเฌอริมามาเป็นลูกสะใภ้ก็คงดีไม่น้อยเลยค่ะ” ฝ่ายแม่ของบริณัยเอ่ยปากชมหญิงสาวด้วยแววตาชื่นชม “ครับพี่ หนูเฌอริมาหน้าตาสวย มารยาทดี แถมยังเก่งคล่องตัว ผมและภรรยาก็ยังชื่นชมกันอยู่เลย” พ่อของบริณัยกล่าวเสริม “เช่นกันค่ะ ทางเราเห็นตาบลูมานานแล้ว แต่ไม่นึกว่าทั้งสองคนจะวนมาเจอกันได้ ยังแอบเสียดายที่เจอกันช้าไปด้วยซ้ำ” แม่ของเฌอริมาโปรยยิ้มมองบริณัยด้วยความชื่นชมเช่นกัน เพราะบริณัยเองมีชื่อเสียงในด้านการทำงาน แถมหน้าตาดีชนิดที่คนทั่วไปเห็นก็ต้องออกปากชมกันไม่หยุด “หน้าตาท่าทางสุขุมแบบนี้แหละ เหมาะสมกับลูกสาวของฉันมาก” ฝ่ายพ่อของเฌอริมาก็กล่าวชมลูกของอีกฝ่ายไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ทั้งเฌอริมาและบริณัยได้ยินคำกล่าวชมจากผู้ใหญ่ต่างก็รับฟังด้วยอาการสุภาพ สำรวมกิริยามารยาทเป็นอย่างดีด้วยกันทั้งคู่ หลังจากที่กล่าวชื่นชมกันยกใหญ่แล้ว ทั้งสองครอบครัวก็เริ่มรับประทานอาหารกันอย่างเป็นทางการ โดยระหว่างรับประทานอาหารหัวข้อที่ถูกหยิบยกมาพูดคุยกันเห็นจะไม่พ้นประเด็นเรื่องเศรษฐกิจและการทำธุรกิจ ต่างฝ่ายต่างออกความเห็น ซึ่งตอนนี้เองที่ฝ่ายผู้ใหญ่ของแต่ละฝ่ายก็ยกคำถามเพื่อลองดูความคิดเห็นของทั้งบริณัยและเฌอริมาไปด้วย ซึ่งไม่ต้องบอกก็คงพอเดากันออก เพราะทั้งสองคนต่างก็ตอบกคำถามได้เป็นที่ถูกใจเป็นอย่างมาก บริณัยมีความเฉลียวฉลาดสามารถมองการณ์ไกลวิเคราะห์เหตุการณ์ได้อ่างเฉียบแหลม ส่วนเฌอริมาก็คล่องแคล่ว มีหัวคิดแหวกแนว มองทุกอย่างเป็นไปได้ มีความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างชัดเจน ด้วยบุคลิกของนักบริหารอันน่าประทับใจของทั้งสอง จึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่ทั้งคู่ต่างก็ได้รับความพึงพอใจจากพ่อแม่ของทั้งสองอย่างง่ายดาย เพราะดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะเป็นคู่ที่เหมาะสมไปด้วยกันเสียทุกอย่าง ทั้งรูปร่างหน้าตา กิริยา ฐานะ และความคิดความอ่าน ในสายตาของพวกเขาจะมองหาคู่ที่สมบูรณ์แบบลงตัวไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว หลังจากรับประทานอาหารกันเสร็จแล้วบรรดาพ่อแม่ก็กลับกันก่อน ทิ้งให้หนุ่มสาวพูดคุยทำความรู้จักกันตามลำพัง “ตอนนี้คุณมีแผนจะทำโครงการไหนต่อไปคะ” เฌอริมาเป็นฝ่ายชวนคุย เธอหยิบยกหัวข้อกลาง ๆ ที่ไม่ทำให้เขาอึดอัดและเห็นว่าเธอสนใจเขา หรือเธอพอใจกับการจับคู่ในครั้งนี้ “อืม...ผมมีแผนหลายอย่างครับทั้งเรื่องห้าง เรื่องนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ แล้วคุณล่ะครับ” บริณัยเอ่ยถามตามมารยาท เขาไม่ได้ต่อต้านการจับคู่ของพ่อแม่ในครั้งนี้ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาปรารถนา เขารู้สึกโล่งใจขึ้นที่ผู้หญิงที่พ่อแม่หามาเป็นเฌอริมา เขากับเฌอริมาเคยดีลงานกันมาก่อน เขาไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษกับเธอแล้วก็รู้ด้วยว่าหญิงสาวเองก็ไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษกับเขาเช่นกัน แต่สิ่งที่ทั้งสองเข้ากันได้ดีคือเรื่องงาน “ตอนนี้ฉันสนใจเรื่องการนำเข้าสินค้าเหมือนกันค่ะ กำลังบุกเบิกให้บริษัทอยู่เหมือนกัน แบบนี้ดีเลยฉันอาจจะขอคำปรึกษาจากคุณบ้าง คงไม่รังเกียจนะคะ” เฌอริมายิ้มให้บริณัยก่อนได้รับยิ้มอย่างสุภาพตอบเหมือนเช่นเคย “ยินดีครับ ถ้าเรื่องไหนผมพอจะให้คำปรึกษากับคุณได้ก็ยินดีมากครับ” “คุณใจดีจังเลยนะคะ เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ฉันชอบค่ะ” เฌอริมาเริ่มรุกเข้าหาอีกฝ่าย “ขอบคุณครับ” “ว่าแต่คุณคงใจดีกับทุกคนเป็นเรื่องปกติสินะคะ” “จะว่ายังงั้นก็คงได้ครับ ผมพยายามจะเป็นมิตรกับทุกคน” “ดีจังค่ะ ได้เจอกับคุณแล้วฉันรู้สึกดีมาก ขอบคุณที่วันนี้มาพบกันนะคะ” เฌอริมายิ้มวาวให้อีกฝ่ายแต่ก็ไม่ทำให้ประเจิดประเจ้อเกินไป ทั้งสองลงมือทานอาหารที่อยู่ตรงหน้าจนหมด ก่อนจะเรียกเก็บเงินแล้วเดินออกมาจากร้านพร้อมกัน บริณัยทำหน้าที่จัดการเรื่องบิล ส่วนเฌอริมาก็กำลังวุ่นวายกับการหาของในกระเป๋าของเธอ ตอนนั้นเองที่เธอรู้สึกอยากจะเข้าห้องน้ำเพื่อไปเติมเครื่องสำอางเล็กน้อย เธอเลยหันไปบอกบริณัยที่เดินมาข้าง ๆ “คุณบลู” เฌอริมาเรียกเขาอย่างสนิทสนมเนื่องจากครั้งสุดท้ายทั้งสองคนได้พูดคุยกันเรื่องงานอยู่หลายชั่วโมง จนเธอคิดว่าการเรียกเขาด้วยชื่อเล่นจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเป็นกันเองกับเธอมากขึ้น “ครับคุณริมา” บริณัยผ่อนคลายตัวเองด้วยการเรียกชื่อเล่นของอีกฝ่ายเช่นกัน แม้จะเป็นการดูตัวแต่ต่างฝ่ายต่างก็รู้ดีว่าเป็นการหมั้นหมายเพื่อความสัมพันธ์ทางธุรกิจเป็นหลัก แต่สำหรับเฌอริมาแล้วเรื่องธุรกิจเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น เพราะเธอเห็นบริณัยเป็นเหมือนเป้าหมายที่ต้องพิชิตเพื่อชัยชนะเล็ก ๆ ที่หอมหวานสำหรับเธอ “ขอตัวไปห้องน้ำสักครู่นะคะ” “ครับ” บริณัยยิ้มให้เฌอริมา เขาเดินไปนั่งรอที่เลานจ์ของโรงแรมเพราะต้องไปส่งเธอที่บ้านเนื่องจากพ่อกับแม่ของทั้งสองได้เดินทางกลับกันไปก่อนหน้านั้นแล้ว ส่วนเฌอริมาก็แยกตัวไปเข้าห้องน้ำตามที่ได้บอกชายหนุ่มไป เธอยิ้มให้บริณัยก่อนจะปลีกตัวออกมาคิดตะไปแต้มริมฝีปากที่จางไประหว่างทานอาหารเพราะคนอย่างเฌอริมาต้องสวยนึ้ยบตลอดเวลา ระหว่างทางเดินที่ทอดไปยังห้องน้ำที่ไร้ผู้คนเฌอริมากำลังหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเช็ก “อุ๊ย!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD