ภูตะวัน Talk
เหตุผลที่ผมเกลียดแสนเกลียดม่านทอฝัน ครอบครัวผมสนิทสนมกับครอบครัวคุณลุงชลเทพ มหรรณพเดชาและคุณป้าณัฐวดี ซึ่งเป็นคุณพ่อคุณแม่ม่านทอฝัน คุณลุงเทพเป็นเพื่อนรักกับพ่อผม เรียนและโตมาด้วยกัน คุณลุงช่วยเหลือคุณพ่อหลายครั้งด้านการค้าและเงินทุน ต่างๆ ทั้งสองท่านจึงรักและสัญญาว่าจะดูแลกันละกันอย่างดี พ่อของผมจึงรักลูกสาวของลุงเทพเหมือนลูกเหมือนหลานคน หนึ่งของท่าน ผมมีโอกาสได้ตามคุณพ่อไปที่บ้านคุณเทพตั้งแต่เด็ก
"ทอฝัน อย่าซนสิครับ นั่งดีๆเดี๋ยวก็ตกจากจักรยาน เดี๋ยวไม่ช่วยทำแผลนะ" เสียงผมที่เอ่ยปราม ม่านทอฝันในวัย 5 ขวบจะตามติดผมไปในที่ต่างๆ ม่านทอฝันเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของคุณลุงเทพกับ คุณป้าวดี ซึ่งมีป้าอิ่มเป็นแม่นม ครอบครัวจึงลี้ยงดูแบบสปอยและตามใจสุดๆ จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่านิสัยของม่านทอฝัน จะเอาแต่ใจ อยากได้อะไรก็ต้องได้ ของที่เธอคิดว่าเป็นของเธอจะหวงและไม่คิดจะยกให้ใคร
"พี่ตะวันก็ปั่นดีๆสิคะ ปั่นเร็วๆด้วยเดี๋ยวก็ไปไม่ทันเล่นน้ำตกกันพอดี วันนี้พี่ตะวันสัญญาแล้วนะว่าจะพาทอฝันไปเล่นน้ำตกท้ายไร่" เสียงแว๊ดกลับของม่านทอฝัน
"วันนี้เล่นนานไม่ได้นะพี่ต้องกลับไปทำการบ้าน" ผมในวัย 10 ขวบมักจะตามใจทอฝันทุกเรื่องที่เธออยากทำ
"ไม่รู้ล่ะ สัญญาก็ต้องเป็นสัญญา"ม่านทอฝันเบะปากเสียงเหมือน จะร้องไห้ที่ผมไม่ตามใจ
ทอฝันเป็นเด็กหน้าตาหน้ารักมาก ตากลมโตใสแก้มป่องมีลักยิ้ม 2 ข้าง เวลายิ้มทีโลกสว่างไสว ใครเห็นต่างก็พากันหลงรัก ผมกับทอฝันจะสนิทสนมกันมาก ทอฝันจะมาเล่นและมาค้างที่บ้านผมบ่อยๆบางครั้งที่ คุณลุงเทพและ ป้าวดีไปทำงานต่างประเทศจะฝากม่านทอฝันไว้ พ่อผมทำห้องพักไว้สำหรับทอฝัน ผมรักและดูแลทอฝันเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง ไปรับไปส่งที่โรงเรียน พาไปด้วยทุกที่ เวลาที่ผมไม่เที่ยวกับเพื่อนๆก็จะมีทอฝันติดตามเสมอ ทอฝันกับเพื่อนๆผมจึงสนิทกัน แม้ว่าทอฝันจะมีนิสัยที่เอาแต่ใจไม่น้อย แต่ทุกคนก็ไม่ถือสาเพราะคิดว่าเธอยังเด็ก โตมาน้องก็คงจะเข้าใจและเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นผมอายุ 19 ปีตอนนั้นผมเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปี1 ทำให้ผมห่างๆม่านทอฝันเพราะเพิ่งเข้าเรียนใหม่
ทอฝันอายุ 14 ปี ม่านทอฝันคิดว่าผมทำตัวตีห่างคิดว่าผมไม่รักเหมือนเดิม ทอฝันจะแสดงออกว่าหวงผมมากๆและชอบบอกคนอื่นว่า ผมเป็นแฟน ห้ามให้ผู้หญิงเข้าใกล้ ถ้ามีใครเข้าใกล้ผมเธอจะตามไปอาละวาดผู้หญิงคนนั้นจน หนีหายไปหมด
"พี่ตะวันผู้หญิงคนนี้เป็นใครคะ" เพื่อนผู้หญิงในห้องที่มานั่งทำรายกลุ่มกับพวกผม ทอฝันเห็นก็ตรงเข้ามาเล่นงาน
"เพื่อนพี่ เรากำลังทำรายกลุ่มกันอยู่" ทุกคนตกใจที่เห็นทอฝันเข้าเท้าเอวยืนตรงโต๊ะที่เรานั่งทำงาน
"แน่ใจเหรอคะว่าทำงานกลุ่ม แต่ที่ทอฝันเห็น ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้จะตั้งใจทำรายงาน แต่ตั้งใจอ่อยพี่ตะวันมากว่า" ทอฝันยืนจ้องเพื่อนผมและอาละวาด โดยไม่ฟังคำอธิบายใดๆ
"นี่เธอ คือจะอ่อยพี่ตะวันเหรอ พี่ตะวันเขาไม่เอาเธอหรอก จะไปไหนก็ไป อย่ามายุ่งกับพี่ตะวันอีก แล้วอย่าว่าฉันไม่เตือนเธอ"ทอฝันตอนนี้ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แม่แต่คนรอบข้างที่มองมา ด้วยความสนใจ เพราะทอฟังใช้น้ำเสียงตะคอกเพื่อนผู้หญิงในห้อง เธอตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
"ทอฝันใจเย็นๆก่อนพวกพี่แค่ทำรายงานกัน เดี๋ยวนี้ทอฝันไม่น่ารักแล้วรู้ไหม พูดจาดีๆ อย่าก้าวร้าวพี่เขา ขอโทษพี่เขาด้วย "ผมได้แต่อธิบายและสอนเธอ
"ใช่ครับพวกพี่ทำรายงานกันอยู่ เพื่อผู่หญิงคนนี้คนนี้บังเอิญจับฉลากได้อยู่กลุ่มพวกพี่ พี่เขาไม่ได้ทำแบบที่ทอฝันคิดแน่นอน พี่เป็นพะยานให้ได้" ไอ้หมอกกำลังช่วยอธิบายเพื่อไม่ให่เกิดความเข้าใจผิดมากไปกว่านี้
"ทีนี้ทอฝันเข้าใจแล้วใช่ ทอฝันควรขอโทษพี่เขาเดี๋ยวนี้ที่พูดจาไม่ดีใส่" ทอฝันยังยืนเผชิญหน้าเพื่อนผม พูดจาไม่ไว้หน้าใครเหมือนเดิม
"พี่ตะวันจะให้ทอฝันขอโทษทำไมคะ ในเมื่อทอฝันไม่ได้ทำอะไรผิด ผู้หญิงคนนี้ควรสำนึกมากกว่าทอฝันด้วยซ้ำ" ทอฝันก็ยังเป็นคนที่ดื้อรั้นเหมือนเดิม ผมได้แต่ส่ายหัว นับวันยิ่งแสดงออกมากขึ้น
"พอเถอะตะวันคนมองใหญ่แล้วเราอาย ค่อยหาเวลาทำใหม่กัน ตอนนี้เราไปดีกว่า" เพื่อนผมเอามือป้องปากกระซิบ พร้อมทั้งหันมองรอบๆตัว เพราะโต๊ะเป็นจุดสนใจมากเกิน
"อืม งั้นเราขอโทษแทนน้องสาวเราด้วย เราจะอบรมน้องเราดีๆ" ผมขอโทษเพื่อนได้แต่พยักหน้าเข้าใจ แบบปลงๆนิสัยของทอฝัน
ทอฝันเริ่มก้าวร้าว เริ่มเอาแต่ใจมากขึ้น ผมไม่รู้จะจัดการเรื่องนี้ยังไงดี บางครั้งที่เหนื่อยใจมากๆผมก็ได้แต่ปล่อยผ่าน คงต้องพูดกับพ่อแม่ผมให้ช่วยสอน ลำพังผมคนเดียวแบบเมื่อก่อนไม่ได้ เพราะทอฝันไม่ใช้น้องน้อยที่น่ารักของผมเหมือนในอดีต