ม่านทอฝัน Talk
พี่ตะวันเดินออกจากห้องไป โดยไม่หันกลับมา
มองอีกเลย ฉันยืนมองตามแผ่นหลังกว้าง พี่ตะวันคงเกลียดฉันมาก ไม่เหมือนพี่ตะวันคนเก่าที่ใจดี อบอุ่น ปกป้องและเอาใจเธอเสมอ ฉันทำเรื่องที่เลวร้าย และทำตัวร้ายกาจกลับพี่ตะวันไว้มาก มากเสียจนไม่คิดจะอภัยหรือยกโทษให้ 'พี่ตะวันคงเกลียดทอฝันมากสินะ จะมีสักวันไหมที่พี่ตะวันจะยกโทษให้ทอฝัน ทอฝันสำนึกผิดแล้วจริงๆ ทอฝันเปลี่ยนไปแล้วนะ พี่ตะวันโปรดเห็นความตั้งใจจริง ทอฝันจะทำทุกวิถีเพื่อไถ่โทษ' ความรู้สึกมากมายที่ไม่สามารถพรั่งพรูให้ออกมาเป็นคำพูด
"ทอฝัน หนูมาเหนื่อยๆวันนี้ ลุงว่าหนูกลับไปพักผ่อนที่บ้านดีกว่านะ อาทิตย์หน้าหนูค่อยมา เริ่มฝึกงาน" เสียงลุงภูพูดขึ้น ทำให้ฉันหลุด ออกจากภวังค์
"ค่ะ คุณลุง" ฉันก็อยากพักผ่อนเหมือนกัน วันนี้รู้สึกเหนื่อยล้าทั้งใจและกาย ขับรถกลับจากคุณเทพระยะทางค่อนข้างไกลมาก ที่เลือกขับรถมาเองไม่ขึ้นเครื่อง เพราะต้องการขนบางส่วนกลับมาด้วย เพราะการกลับมาครั้งนี้ คงอยู่ที่บ้านตัวเองถาวร
"หนูขับรถตามลุงมาเลยนะ ลุงก็จะกลับเหมือนกัน ลุงจะได้พาหนูไปดูที่พักด้วย ลุงให้ป้าแจ่มทำความสะอาดเก็บกวาดและเตรียมของใช้ ต่างๆไว้เรียบร้อยแล้วไม่รู้ว่าหนูจะชอบรึเปล่า"
"หนูอยู่ยังไงก็ได้ค่ะคุณลุง ขอบคุณ คุณลุงภูมากๆนะที่เมตตาและเอ็นดูเหมือนเดิม" ฉันไม่เรื่องมากอยู่ยังไงก็ได้ ฉันขับรถตามคุณลุงไปที่บ้านภูตะวันที่อยู่ห่างจาก ออฟฟิศคุณลุงจะเป็นตึกขนาด 4 ชั้นใช้เป็นสำนักงานด้านบริหารงานแผนกต่างๆจะแยก ตัวออกมา จะเป็นคนล่ะส่วนจากไร่และบ้านพักของคุณลุงคุณป้าที่อยู่ บริเวณเดียวกัน บ้านพักจะมี 3 หลังบ้านใหญ่ชื่อบ้านภูผาจะเป็นแบบสไตล์ล้านนากึ่ง โมเดิร์นมีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงานร่มรื่นน่าอยู่ แยกออกมาติดๆกัน จะเป็นบ้าน 2 ชั้นสไตล์โมเดิร์นเรียบหรูเคร่งขรึมตามแบบฉบับ ชื่อบ้านภูตะวันชื่อเดียวกับคนพักอาศัย แยกออกจากบ้าน สองหลังมาประมาณ 300 เมตรจะเป็นบ้านพักรับรอง เพื่อความเป็นส่วนตัวของแขกที่มาพักบ้านสไตล์รีสอร์ท 2 ชั้น ชื่อบ้านม่านหมอก คุณลุงให้ฉันพักหลังนี้ ในไร่จะมีออฟฟิศเล็กสำหรับไว้ให้พี่ตะวันทำงานในไร่เพื่อที่จะอยู่ดูแลงานและคุมงานคนงานในไร่ จะมีโรงเรือนเพาะปลูกหลายสิบหลังรวมทั้งมี แผนกสำหรับแผนกวิจัยและพัฒนาคุณภาพผล มีแปลงองุ่น แปลงไม้ดอกไม้ประดับหลากหลายพรรณสีสันสวยงาม บางอย่างยังคงเหมือนเดิม แต่ก็มีบางอย่างที่เปลี่ยนไป และไม่รู้ว่าสิ่งมันเปลี่ยนไปจะยังกลับมาเป็นเดิมได้ หรือเปล่า ความหวาดหวั่นที่เกิดขึ้นในใจฉันตอนนี้
"งั้นทอฝันเข้าบ้านพักเก็บของก่อน แล้วอย่าลืมไปทานข้าวกับลุงและป้านะ" คุณลุงพูดเสร็จก็เดินไปขึ้นรถและขับกลับบ้านใหญ่
"ค่ะคุณลุง ทอฝันขอบคุณลุงอีกครั้งนะคะ ที่ช่วยดูแลกิจการของคุณพ่อคุณแม่ ถ้าไม่มีคุณลุง ทอฝันคงเคว้งคว้างน่าดู" ฉันไม่รู้เรื่องานพ่อกับแม่เลย ถ้าไม่คุณบริหารให้ บริษัทคงไปไม่รอด
"พ่อแม่หนูเป็นเพื่อนสนิทของลุง เราช่วยเหลือกันและกันมาตลอด อีกอย่างลุงก็รักหนูเหมือนลูกของลุง ถ้าไม่ช่วยลูกตัวเองลุงคงรู้สึกผิดกับพ่อแม่ของหนู" ฉันเดินเข้าไปสวมกอดคุณลุง มันช่างอบอุ่นเหมือนมีพ่ออยู่ข้างๆ ไม่ได้รู้สึกขาดเลย
คุยกับคุณลุงเสร็จ คุณลุงจึงขับรถกลับไปที่บ้านใหญ่ฉันมองตามรถคุณลุงสุดสายตา จึงถือกระเป๋าจะเดินเข้าบ้าน
"คุณหนูมีอะไรให้ป้าแจ่มช่วยไหมคะ" ป้าแจ่มเดินมาเหมือนจะมาช่วยยกกระเป๋า
"ไม่ต้องเรียกทอฝันว่าคุณหนูก็ได้นะคะ ป้าแจ่มเรียกทอฝันเฉยๆก็ได้ค่ะ" ฉันไม่ได้ถือตัวขนาดนั้น ไม่เจ้ายศเจ้าอย่างด้วย แต่อาจเป็นเพราะตอนที่ฉันเคยอยู่ที่ดูเอาแต่ใจ เลยทำให้ทุกติดกับภาพทอฝันตอนนั้นแน่นอน
"ค่ะคุณทอฝัน" ป้าแจ่มเดินเข้าช่วยถือกระเป๋า
"เดี๋ยวทอฝันยกเองค่ะป้าแจ่ม" ฉันเกรงใจว่าแจ่มกลัวแกหนัก ป้าแจ่มค่อนข้างอายุมากแล้วไม่อยากให้แกถือของหนัก
"คุณฝันจะฝันอยากให้ป้าจัดเตรียมอะไรเพิ่ม บอกป้ามาได้เลยนะคะ ห้องป้าแจ่มอยู่ข้างล่าง มีอะไรเรียกใช้ได้เลยนะคะ" ป้าแจ่มอาสาจัดของช่วย แต่ฉันคิดว่าจะดูห้องก่อน แล้วค่อยจัดอีก เผื่ออะไรขาดเหลือจะได้หาเพิ่มทีเดียว
"ไม่เป็นไรค่ะ ป้าแจ่มไปพักได้เลยนะคะ" มันเริ่มเย็นแล้วไม่อยากรบกวนป้าแจ่มมาก
ฉันจัดของเก็บเข้าตู้เรียบร้อย เดินสำรวจภายในบ้านตกแต่งแบบเรียบง่าย สบายๆน่าอยู่ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน หลังจากสำรวจบ้านเสร็จฉันก็ไปอาบน้ำแต่งตัว ลงมานั่งชมความงามของธรรมชาติช่วงเย็นตามสไตน์บ้านใน ไร่ เพื่อรอไปทานข้าวกับคุณลุงคุณป้า
"ดีใจจังได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง แม้เจ้าของไร่จะไม่ต้องการ ฉันจะอยู่แบบเจียมตัว สำนึกผิดกับสิ่งที่ทำ" ฉันได้แต่บ่นพรึมพรำกับตัว ไร่แห่งนี้ก็เหมือนหลังที่สองของฉัน