บทที่ 6

1329 Words
“ไม่มีกุญแจ” ผู้กองหนุ่มยักไหล่ยิ้มตอบหน้าตาเฉย “ไม่มีกุญแจ...” ขวัญชนกทวนคำตอบเสียงสูง “ไม่มีก็ไปเอาจากลูกน้องคุณมาสิ” “ขี้เกียจวิ่งขึ้นไปบน สน. บอกมาเร็วๆ สิ รถของคุณคันไหน เดี๋ยวก็ขับไม่ทันเขาพอดี” ผู้กองแกล้งบ่นเสียงดัง ขวัญชนกกระทืบเท้าด้วยความขัดใจเดินนำหน้าไปยังรถของเธอ “จะให้ผมขับให้มั้ย” ผู้กองจอมยียวนเอ่ยถามยิ้มๆ “ไม่ต้อง...ฉันขับเอง” ขวัญชนกไขกุญแจรถ หญิงสาวหันไปยิ้มหวานให้น้องอาร์ตที่ยืนทำตาปริบๆ ฟังพ่อเถียงกับคุณครูหลิน “น้องอาร์ตขึ้นรถนะคะ ครูหลินจะพาไปหาน้องบลูเสร็จแล้วครูหลินจะพาไปหาคุณหมอด้วย” ขวัญชนกเอ่ยกับน้องอาร์ตด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลไพเราะ “ครับ ครูหลิน” น้องอาร์ตรู้หน้าที่เปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่งด้านหลัง ส่วนด้านหน้าปล่อยให้พ่อนั่งคู่กับครูสาว ร.ต.อ.พันธวุธยิ้มกว้างเมื่อได้ฟังน้ำเสียงที่ครูสาวพูดกับลูกตัวเอง เขารู้สึกว่าครูสาวจะรักเด็กๆ มาก “จะยืนยิ้มอีกนานมั้ยคะ จะไปหรือเปล่า ถ้าไม่ไป ดิฉันจะไปสองคนกับน้องอาร์ต” ขวัญชนกพูดประชดผู้กองหนุ่มเมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนยิ้มกว้างไม่ยอมขึ้นรถสักที ผู้กองหนุ่มมาดเข้มหุบยิ้มทันทีเมื่อเจอน้ำเสียงดุๆ ตวาดแว้ดมา “ไปสิครับ” ผู้กองพันเปิดประตูรถเข้าไปนั่งเอนตัวพิงเบาะรถด้วยท่าสบายๆ จนขวัญชนกหมั่นไส้ ปิดประตูรถกระแทกดัง ปัง! ขวัญชนกขับรถออกไปจากโรงพักอย่างรวดเร็ว ถ้าหากผู้กองหนุ่มจะหันหลังไปมองที่สน. สักนิดหนึ่งจะได้เห็นว่าตอนนี้ลูกน้องของผู้กองทั้งโรงพัก พากันมายืนอออยู่ตรงประตูหน้าโรงพัก มองผู้บังคับบัญชาตัวเองเถียงกันครูสาวแสนสวย และในมือทุกคนมีกระดาษแผ่นเล็กๆ ทายกันว่าผู้กองจะจีบครูสาวหรือไม่จีบ... บทที่ 3 ขวัญชนกขับรถมาได้ครึ่งทางก็นึกได้ว่ายังไม่ได้โทรไปแจ้งข่าวน้องบลูให้คุณพ่อทราบ หญิงสาวปล่อยมือจากพวงมาลัยรถ มือบางอีกข้างก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทำท่าจะกดโทรออกแต่ยังไม่ทันได้กดโทรก็โดนผู้กองหนุ่มตวาดเสียงดังจนขวัญชนกตกใจแทบปล่อยโทรศัพท์หล่นไปกองกับพื้นรถ “นี่คุณจะทำอะไร” ผู้กองหนุ่มมาดเข้มเด้งตัว นั่งตัวตรงจากท่านอนพิงเบาะเอ่ยถามเสียงดังเมื่อเห็นครูสาวหยิบโทรศัพท์ออกมาจะกดโทร “อีตาบ้า! ตะโกนเสียงดังออกมาได้ คนเขาตกใจหมด ไม่เห็นหรือยังไง ฉันกำลังจะโทรศัพท์” ขวัญชนกตวาดแว้ดกลับคืนเหมือนกัน “เห็น...แต่ขับห้ามโทร โทรห้ามขับ ไม่เคยได้ยินเขาประชาสัมพันธ์หรือยังไง แบบนี้ผมจับคุณได้นะ ข้อหาขับแล้วโทร” ผู้กองหนุ่มดึงโทรศัพท์ออกจากมามือบาง ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาแสดงสีหน้าจริงจังเหมือนขณะปฎิบัติหน้าที่อยู่ ขวัญชนกอ้าปากหว๋อ ใบหน้างามเจื่อนไปนิดหนึ่งเมื่อโดนต่อว่าตรงๆ เพราะความรีบตั้งแต่ออกมาจากโรงเรียนเธอเลยไม่ได้ใช้หูฟังขณะที่โทรศัพท์ แต่คนอย่างขวัญชนกหรือจะยอมให้ถูกต่อว่าฝ่ายเดียว “จับอีกแล้ว ช่างขยันขันแข็งทำหน้าที่เป็นตำรวจที่ดีเหลือเกินน่ะ“ ขวัญชนกพูดประชดเหน็บแนม ดวงตาสีดำกลมโตมองค้อนคนที่นั่งข้างๆ “อ๋อ...แน่นอนสิครับ ไม่งั้นผมจะได้รับรางวัลตำรวจดีเด่นถึง 4 ปีซ้อนหรือครับ” ผู้กองหนุ่มยิ้มกว้างยืดอกผึ่งผายบอกอย่างภูมิใจ ขวัญชนกกลอกตาขึ้นบนทำหน้าหนักใจพูดออกมาให้ผู้กองจอมยียวนได้ยินด้วย “ไม่ค่อยจะหลงตัวเองเลย” “เอาโทรศัพท์มานี้” ขวัญชนกขับรถมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างก็พยายามจะคว้าโทรศัพท์มาคืน “จะโทรไปหาแฟนหรือยังไง เอาไว้ให้คุณจอดรถก่อนแล้วค่อยโทร” ผู้กองเอ่ยแนะนำเสียงเข้ม “บ้า! ฉันจะโทรไปหาคุณพ่อบอกท่านว่าเราเจอน้องบลูแล้ว” “แล้วไป... นึกว่าจะโทรไปหาแฟน” ผู้กองยิ้มพูดเหมือนโล่งอก “หูฟังบลูทูธอยู่ไหน ทำไมไม่รู้จักเอามาใช้” ผู้กองต่อว่ากลายๆ “อยู่ในลิ้นชักหน้ารถ หยิบมาให้หน่อย” ครูสาวใช้ผู้กองหน้าตาเฉย หญิงสาวกำลังตั้งใจขับรถจึงไม่กล้าเอื้อมมือไปหยิบหูฟังเดี๋ยวจะโดนต่อว่าอีก ผู้กองพันหยิบหูฟังบลูทูธออกมาจากลิ้นชักแล้วจับคู่กับมือถือให้เรียบร้อย นายตำรวจหนุ่มดูรูปหญิงสาวที่อยู่หน้าจอโทรศัพท์แล้วก็ยิ้มกว้างอดที่จะแซวครูสาวไม่ได้ “รูปคุณสมัยสาวๆ ก็ดูสวยดี” “อีตาบ้า! ฉันยังไม่แก่ พูดมาได้ว่าสมัยสาวๆ รูปที่เห็นฉันเพิ่งถ่ายเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเอง” ขวัญชนกค้อนปะหลับปะเหลือกโมโหหน้าแดงก่ำ ผู้กองหนุ่มหัวเราะร่วนด้วยความขำกับคำประชดแสบๆ คันๆ “เสร็จแล้วจะใส่หูฟังข้างไหนดี” ผู้กองพันเอ่ยถามเมื่อจับคู่ระหว่างหูฟังกับมือถือได้แล้ว “ข้างซ้ายสิ เอามา เดี๋ยวฉันใส่เอง” ขวัญชนกแบมือขอหูฟัง “ไม่ต้อง ขับรถไปเถอะ เดี๋ยวผมใส่ให้อีก” ผู้กองหนุ่มปฎิเสธ มือใหญ่เอื้อมมือไปจับผมที่หลุดอยู่ข้างๆ แก้มไปทัดใบหูเสร็จแล้วก็ค่อยๆ ใส่หูฟังแบบคล้องใบหูให้ครูสาว นายตำรวจหนุ่มทำได้อย่างแผ่วเบา ครูสาวเขินอายหน้าแดงก่ำเอ่ยพึมพำขอบคุณเสียงแทบไม่พ้นลำคอ “ขอบคุณค่ะ” “เบอร์คุณพ่อคุณเบอร์อะไร เดี๋ยวผมกดโทรให้” ผู้กองหนุ่มอาสาอย่างใจดี “คุณกดปุ่มโทรด่วนได้เลยค่ะ ปุ่มเลข 2 ฉันตั้งเบอร์ของคุณพ่อไว้” ขวัญชนกละสายตาจากถนมมามองหน้าผู้กองหนุ่มนิดหนึ่ง “ครับ ได้แล้วครับ” ผู้กองพัน กดปุ่มเลข 2 โทรด่วนให้ครูสาว ขวัญชนกหันมายิ้มหวานให้ผู้กองระหว่างที่รอคุณพ่อรับสาย ผู้กองพันตาพร่า ใจเต้นรัวเร็ว เขาไม่เคยเจอหญิงสาวคนไหนที่ยิ้มได้สวยและพิมพ์ใจเหมือนครูสาวคนนี้มาก่อน ชายหนุ่มทำเป็นหันไปคุยกับน้องอาร์ตเพื่อปิดบังความรู้สึกของตัวเอง “น้องอาร์ต หิวข้าวหรือเปล่าครับ” ผู้กองถามลูกชายด้วยความเป็นห่วงมองนาฬิกาข้อมือเห็นว่าเวลา 6โมงเย็นแล้ว “ไม่ค่อยหิวครับ เมื่อตะกี้น้องอาร์ตกินขนมไป 2ถุงกับนมอีกกล่อง” น้องอาร์ตเกาะเบาะหลังยื่นหน้ามาตอบพ่อ “น้องอาร์ตถูกใครต่อยมาครับ หนูไปทำคนอื่นก่อนหรือเปล่าครับ” ผู้กองพันเอื้อมมือไปจับแก้มลูกแล้วลูบเบาๆตรงขอบตา ขวัญชนกแจ้งข่าวกับคุณพ่อเรียบร้อยแล้วเธอเอาหูฟังออกตั้งใจฟังเรื่องที่น้องอาร์ตถูกต่อย “น้องอาร์ตทะเลาะกับพี่ต้นและถูกพี่ต้นต่อยครับ” น้องอาร์ตเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเบาๆ “ทะเลากันเรื่องอะไรคะ” ครูหลินเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ เธอยังไม่ได้ถามเรื่องนี้กับน้องอาร์ตสักทีมัวแต่วุ่นๆ เรื่องของน้องบลู “ก็พี่ต้นแย่งสมุดวาดเขียนของน้องบลูจะเอาไปทิ้งน้ำ น้องอาร์ตเลยไปแย่งกลับมาคืน พี่ต้นไม่ยอมให้แล้วยังต่อยน้องอาร์ตด้วย น้องบลูเห็นอาร์ตถูกต่อยก็เลยต่อยพี่ต้นบ้าง พอพี่ต้นต่อยน้องบลูคืน อาร์ตก็เลยต่อยพี่ต้นคืนบ้าง พี่ต้นตาเป็นหมีแพนด้าทั้งสองข้างเลย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD