bc

บ่วงรักร้อยเล่ห์

book_age18+
272
FOLLOW
1.7K
READ
HE
police
single mother
sweet
bisexual
brilliant
campus
surrender
addiction
like
intro-logo
Blurb

ร.ต.อ.พันธวุธ นายตำรวจหนุ่มรูปหล่ออนาคตไกล กับ ขวัญชนก ครูสาวแสนสวย มีเหตุให้ ปะทะฉะดะ ตั้งแต่เห็นหน้ากันครั้งแรก ทว่านำมาซึ่งรักแรกพบ ที่ทำให้ผู้กองหนุ่มเจ้าเล่ห์ ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งรักแท้

และใช่ว่าผู้กองหนุ่มจะผ่านอุปสรรคไปได้ง่ายๆ เพราะผู้กองหนุ่มต้องผ่านด่านพิสูจน์รักแท้จากครูสาวแสนสวย ด่านพ่อตาสุดโหดที่เป็นถึงท่านนายพลที่ขึ้นชื่อลือนามว่าหวงลูกสาวราวกับ งูจงอางหวงไข่ และที่สำคัญท่านนายพลเป็นแชมป์ยิงปืน 5 สมัยซ้อน

แล้ว...ผู้กองหนุ่มแชมป์ยิงปืนแค่ 3 สมัยจะทำอย่างไร? เพื่อให้ผ่านด่านสุดหินเหล่านี้...

มื่อถูกคนรักร้องขอให้เลือกระหว่างหน้าที่กับความรัก

ผู้กองหนุ่มจะตัดสินใจเลือกสิ่งใด?...ระหว่างความรักที่บริสุทธิ์งดงามกับหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อันทรงเกียรติ

chap-preview
Free preview
บทที่ 1
บ่วงรักร้อยเล่ห์ เป็นนิยายภาคต่อจากเรื่องบ่วงรักพันใจค่ะ ++++++++++++ ธิติการเนอร์เซอร์รี ... โรงเรียนอนุบาลเอกชน รับดูแลและสอนเด็กตั้งแต่อายุ 3-6 ขวบ โรงเรียนอนุบาลตั้งอยู่บนเนื้อที่ 4ไร่ มีอาคารเรียนเป็นแบบอาคารชั้นเดียว 3อาคาร มีสระว่ายน้ำ สนามฟุตบอล และสนามเด็กเล่น มีเด็กนักเรียนทั้งหมด 160 คน ครูประจำชั้นอนุบาล 10 คน ธิติการเนอร์เซอร์รี จะรับสอนนักเรียนเตรียมอนุบาลก่อนที่จะเข้าเรียนในระดับป.1 โรงเรียนได้รับมาตรฐานตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด ทั้งในเรื่องความสะอาด ปลอดภัย คุณครูที่สอนจะจบเอกปฐมวัยทุกคน รวมถึง ขวัญชนก ธิติการณ์กุล ครูสาวเจ้าของโรงเรียน ขวัญชนก ธิติการณ์กุล หรือครูหลินที่เด็กๆ ทุกคนรัก เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของพลโทธิติกับคุณหญิงขวัญฤทัย ธิติการณ์กุล เธอมีพี่ชาย 1 คน คือพ.ต.ท.ปวรุตม์ ธิติการณ์กุล ซึ่งได้รับทุนให้ไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ หญิงสาวมีใบหน้างามรูปไข่สวยคมเข้ม จมูกโด่งได้รูปรับกับริมฝีปากบางเฉียบ ดวงตากลมโตภายใต้ขนตายาวงามงอน ผมสีดำขลับเงางามยาวถึงกลางหลัง ขวัญชนกจบเอกปฐมวัยมาจากต่างประเทศ เมื่อกลับมาทำงานที่เมืองไทยก็สมัครเป็นครูสอนเด็กอนุบาลในโรงเรียนเอกชนชื่อดังในกรุงเทพฯ แต่ทำงานได้ไม่นานก็ต้องลาออกเพราะเจอเจ้าของโรงเรียนชีกอ จีบได้ไม่เลือกหน้า สุดท้ายเธอทนไม่ไหวก็เลยลาออกและเปิดโรงเรียนอนุบาลเอง ตอนที่ขออนุญาตคุณพ่อกับคุณแม่เปิดโรงเรียนอนุบาล ท่านทั้งสองไม่เห็นด้วย เนื่องจากเกรงว่าลูกสาวจะทำไม่ได้ ท่านอยากให้ลูกสาวคนเดียวมาดูแลธุรกิจของครอบครัวซึ่งตอนนี้คุณลุงของเธอเป็นผู้ดูแลแทนอยู่ แต่ขวัญชนกปฎิเสธความต้องการของพ่อแม่ เธอเป็นคนรักเด็ก เวลาที่เธออยู่กับเด็กๆ เธอจะมีความสุขมาก เด็กๆ มีแต่ความใสซื่อบริสุทธิ์ ไม่เหมือนผู้ใหญ่...ซึ่งบางทีก็ใส่หน้ากากเข้าหากันตลอดเวลา หญิงสาวต้องอธิบายถึงสารพัดเหตุผลที่อยากตั้งโรงเรียนอนุบาลกว่าที่คุณพ่อกับคุณแม่จะยอมให้จัดตั้งโรงเรียน ช่วงแรกที่เธอเปิดโรงเรียนมีผู้ปกครองฝากลูกหลานให้ดูแลไม่กี่คน เนื่องจากเห็นว่าเป็นโรงเรียนอนุบาลเอกชน ค่าเทอมคงจะแพง และที่ผู้ปกครองไม่ค่อยมั่นใจก็คือตัวเจ้าของโรงเรียน เนื่องจากเห็นว่าเป็นลูกของคนดัง นามสกุลไฮโซ ผู้ปกครองจึงคิดว่าขวัญชนกจะดูแลเด็กนักเรียนได้ไม่ดี แต่ 1 ปี ผ่านไป ขวัญชนกก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเธอสามารถบริหารโรงเรียนและดูแลเด็กนักเรียนได้ดีขนาดไหน โรงเรียนของเธอได้รับรางวัลจากกระทรวงศึกษาธิการมากมายหลายรางวัล และมีนักเรียนเพิ่มขึ้นมากในทุกๆ ปี ค่าเทอมที่เรียกเก็บก็ไม่แพงเกินไปถูกกว่าโรงเรียนอนุบาลเอกชนอื่นๆ หลายสิบเท่า มีผู้ปกครองหลายๆ คนที่อยากให้ลูกเรียนที่โรงเรียนของเธอ แต่ขวัญชนกเปิดโรงเรียนอนุบาลเพราะใจรัก ไม่ใช่เพราะต้องการหากำไร เธอจึงรับนักเรียนในแต่ละภาคการศึกษารวมกันทั้งหมดไม่เกิน 160 คน เพื่อให้ครูสามารถดูแลนักเรียนได้ทั่วถึง เธอจะมาถึงที่โรงเรียนแต่เช้าและจะกลับเป็นคนสุดท้ายซึ่งจะเป็นแบบนี้ในทุกวัน วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่ง เธอมาถึงโรงเรียนตั้งแต่เวลา 06.00 น. เดินสำรวจตามห้องเรียนแต่ละห้อง สนามเด็กเล่นเพื่อเตรียมความพร้อมของโรงเรียนก่อนที่ผู้ปกครองจะพาลูกๆ มาส่งที่โรงเรียน ประมาณ 7 โมงเช้าหญิงสาวจะไปรอหน้าประตูโรงเรียนเมื่อผู้ปกครองเริ่มพาลูกมาส่งที่โรงเรียน เธอจะออกมารับนักเรียนทุกๆ คนที่หน้าโรงเรียนพร้อมกับครูเวรอีกหนึ่งคน วันนี้จะเป็น้็น ็นหน้าที่ของครูจ๋า “สวัสดีค่ะ“ ขวัญชนกยกมือไหว้ผู้ปกครองที่มาส่งนักเรียน เธอรับกระเป๋ามาจากผู้ปกครองแล้วปล่อยให้ครูจ๋าพาเด็กๆ เข้าไปในโรงเรียน “สวัสดีครับ คุณครูหลิน” น้องบลู เด็กน้อยที่มีนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มเหมือนคุณพ่อ ยกมือไหว้และกล่าวสวัสดีคุณครู “สวัสดีค่ะ น้องบลู ทำไมวันนี้น้าปุ้นมาส่งคะ” ครูหลินยิ้มหวานรับไหว้นักเรียนพลางเอ่ยถามเพราะปกติคุณพ่อโดมินิทจะเป็นคนมาส่งน้องบลูทุกๆ วัน “คุณพ่อบลูไปอเมริกาครับ น้าปุ้นก็เลยมาส่งน้องบลูเอง” น้องบลูยิ้มแป้นตอบคุณครู “ครูหลินครับ พี่อาร์ตมาถึงโรงเรียนหรือยังครับ” น้องบลูเอ่ยถามถึงเพื่อนสนิท “ยังเลยค่ะ น้องบลูเข้าไปข้างในโรงเรียนก่อนนะคะ” ครูหลินรับกระเป๋ามาจากข้าวปุ้น “ครับ! บ๊าย บาย น้าปุ้น” น้องบลูยิ้มยกมือบ๊าย บายให้น้าสาว “ปุ้นกลับก่อนนะคะ เดี๋ยวบ่ายๆ ปุ้นจะมารับน้องบลูเอง” ณิชาดาหรือข้าวปุ้นน้าสาวของ น้องบลูยกมือไหว้คุณครูแล้วเอ่ยลา ขวัญชนกรอรับนักเรียนจึงถึงเวลา 08.00 น. นักเรียนคนสุดท้ายก็มาถึงโรงเรียน เด็กชายพันธวิศ ศิริวัฒน์ รีบลงมาจากรถเก๋งคันงามวิ่งกระหืดกระหอบมาหยุดอยู่หน้าครูหลิน “สวัสดีครับ คุณครูหลิน” เด็กชายพันธวิศ หนีบกระเป๋านักเรียนไว้ระหว่างขาทั้งสองข้างแล้วยกมือไหว้กล่าวสวัสดีน้ำเสียงปนหอบ “สวัสดีค่ะน้องอาร์ต วันนี้มาทันเข้าแถวพอดีเลยนะคะ” ครูหลินรับไหว้แล้วแซวนักเรียนด้วยสีหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มของความเอ็นดู “ครับ เมื่อคืนคุณพ่อกับไม่ค่อยดึกเท่าไหร่ วันนี้คุณพ่อก็เลยตื่นแต่เช้ามาส่งน้องอาร์ตครับ” น้องอาร์ตยิ้มสดใสหันไปยกมือบ๊าย บายให้คุณพ่อที่นั่งอยู่ในรถ ขวัญชนกเพ่งสายตามองเข้าไปในรถเก๋งคันงามที่ติดฟิล์มสีดำทึบจนคนภายนอกมองแทบไม่เห็นคนขับ หญิงสาวรู้สึกไม่ค่อยชอบผู้ปกครองของน้องอาร์ต เพราะขนาดว่ามาส่งลูกแต่เช้า น้องอาร์ตก็มาถึงโรงเรียนเวลา 8โมงเช้าเกือบทุกวัน บางวันก็มาถึงตอนที่เพื่อนๆ เข้าแถวเคารพธงชาติแล้ว เธอเคยถามน้องอาร์ตว่าทำไมถึงมาโรงเรียนสาย เด็กน้อยจะบอกทุกครั้งว่าคุณพ่อกลับบ้านดึกเลยตื่นสายมาส่งน้องอาร์ตไม่ทัน เธอบอกให้คุณแม่มาส่งแทน น้องอาร์ตบอกว่าคุณแม่หนีน้องอาร์ตไปตั้งแต่น้องอาร์ตตัวยังเล็กๆ หญิงสาวคิดว่าพ่อของน้องอาร์ตคงจะอยู่เที่ยวดึกเลยทำให้ตื่นสายมาส่งลูกไม่ทัน เธอเคยส่งจดหมายไปถึงคุณพ่อของน้องอาร์ตให้ช่วยพาน้องอาร์ตมาส่งที่โรงเรียนเร็วกว่านี้ เธอได้รับจดหมายเซ็นต์รับทราบตอบกลับคืน แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือด้วย น้องอาร์ตยังมาโรงเรียนสายทุกวัน

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook