“เงินทุนตรงนั้นเอาไว้ให้พลับพลึงเรียนหนังสือไม่ใช่เอาไปสำมะเลเทเมา ฉันไม่น่าไว้ใจนายพันเลยจริงๆ” ครูใหญ่รู้สึกผิดหวังไม่น้อย แม้ใครๆ จะเตือนแล้วแต่เขาคิดว่านายพันน่าจะรักลูกและมีความเป็นพ่ออยู่บ้าง
“เงินของมันก็เหมือนเงินของผม” คนขี้เมาเถียงข้างๆ คูๆ
“จากนี้ไปฉันจะฝากเงินเอาไว้ที่ครูศรีสุภางค์ ให้พลับพลึงได้ใช้ในการเรียน” ครูใหญ่สุภาพพูดคำขาด นายพันถึงกับโวยวายลั่น
“พวกครูจะงุบงิบเงินไปใช้เองน่ะสิ”
“อย่าพูดแบบนั้นนะนายพัน ฉันไม่เคยคิดแบบนั้น” ครูใหญ่เริ่มเสียงเข้ม นายพันถึงจะไม่พอใจแต่ก็ไม่กล้ากับครูใหญ่เพราะเกรงใจอีกฝ่ายอยู่มาก
“ผมให้มันเรียนก็ได้ อะไรกันนักกันหนา ผมไม่เรียนหนังสือยังอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ ต่อไปมันเรียนจบ ได้ดิบได้ดีมีผัวก็ทิ้งพ่อมันเชื่อสิ” คนพูดด่ากราดออกไปเหมือนคนบ้า ก่อนจะเดินออกจากโรงเรียนเล็กๆ มุ่งหน้าไปหาเหล้ากิน
“อย่าคิดมากเลยนะ” ครูใหญสุภาพลูบศีรษะเด็กน้อยเบาๆ อย่างเอ็นดู เด็กน้อยพยักหน้า เธอไม่เคยถือโทษโกรธบิดาอยู่แล้ว
“อีกไม่กี่วันจะเป็นวันแม่แล้วนะ ทางโรงเรียนจะจัดกิจกรรม หนูอย่าลืมชวนพ่อมานะ”
“ค่ะครูใหญ่” เด็กน้อยยกมือไหว้ก่อนจะวิ่งไปทำเวรทำความสะอาดในห้องเรียน พลับพลึงเก็บซ่อนความวูบโหวงเอาไว้ในใจ ปีนี้เธอคงไม่มีแม่เหมือนคนอื่นๆ อีกเช่นเคย
วันแม่ปีนี้เหมือนทุกๆ ปี พลับพลึงยืนกอดเสาแอบมองเด็กๆ หลายคนพาพ่อแม่มาทำพิธีวันแม่ เธอบอกบิดาแล้วแต่ไม่เห็นวี่แววว่าท่านจะมาเป็นแม่แทนแม่จริงๆ ให้กราบ ป้าลำไยก็มีธุระต้องเข้าเมือง เธอแอบเลียบๆ เคียงๆ ถามพอรู้เข้าก็เลยไม่กล้าเอ่ยขอให้ท่านมา
“ยายพลับพลึงแม่หาย ยายพลับพลึงแม่หาย เปล่าๆๆ ไม่ได้หายหรอก แม่เราบอกว่าแม่นางพลับพลึงดอกทองเลยหนีตามชู้ไป” พวกไอ้ทิดล้อเลียน แลบลิ้นปลิ้นตาใส่ พลับพลึงเดินหนีน้ำตาร่วงพรู
“หยุดนะ พวกเธอนี่ยังไงกัน เดี๋ยวจะจับตีเสียให้เข็ด” ครูใหญ่ดุเสียงเข้ม เด็กพวกนั้นเลยรีบวิ่งหนีไปทันที
“พ่อไม่มาเหรอพลับพลึง” ครูใหญ่สุภาพเอ่ยถาม เด็กน้อยก้มหน้าสะอื้นก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
“เดี๋ยวครูเป็นแม่ให้เอง ดีไหม” ครูใหญ่สุภาพแม้จะเป็นชายแท้ก็สงสารเด็กน้อยจับใจ เขาจูงมือเล็กๆ ไปนั่งลงอีกด้าน พลับพลึงได้ยินแบบนั้นก็รีบหยิบดอกมะลิช่อเล็กๆ เหี่ยวๆ ที่แอบซ่อนเอาไว้ในกระเป๋ากระโปรงออกมาให้ครูใหญ่ ก่อนจะกราบแทบเท้า ครูใหญ่ลูบผมนุ่มของเด็กน้อยอย่างรักใคร่
“แม้ใครจะมองว่าเราเป็นแค่เศษดินที่ไร้ค่า แต่ดินก็ยังมีคุณค่ากับคนทุกคนบนโลก จำไว้นะพลับพลึง ไม่ว่าใครจะเหยียบย่ำเราให้ต่ำแค่ไหน แต่ถ้าเราเห็นคุณค่าของตัวเราเองก็ไม่ต้องไปสนใจใครทั้งนั้น”
“หนูจะจำเอาไว้ค่ะครูใหญ่”
“หนูต้องเข้มแข็ง ต้องอดทนและเป็นคนดีแล้วสิ่งดีๆ จะเข้ามาหาหนูเอง” ครูใหญ่สั่งสอนเด็กน้อย อีกนัยหนึ่งคล้ายเป็นการปลอบประโลมให้คลายจากความเศร้าใจ
พลับพลึงไม่รู้เลยว่านั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่เธอได้ยินจากครูใหญ่ในเย็นวันนั้น เพราะคืนนั้นครูใหญ่นอนหลับและไม่ฟื้นอีกเลย พอทราบข่าวว่าครูใหญ่สุภาพผู้แสนใจดีจากไป เธอก็ร้องไห้โฮออกมาด้วยความเสียใจ งานศพของครูใหญ่ผ่านพ้นไป แต่ชีวิตของเด็กน้อยยังต้องก้าวเดินต่อไป ข่าวคราวของเหมราชหายไปพร้อมกับสายลม แต่เธอไม่เคยลืมพี่ชายใจดีคนนั้นเลยแม้แต่วันเดียว ช่วงปีใหม่ผ่านเข้ามาอีกครั้ง ทางโรงเรียนจัดให้เด็กๆ ได้แลกของขวัญ เธอได้แต่ยืนมองอย่างเศร้าๆ ครูศรีสุภางค์เริ่มพูดจาไม่ดีและหงุดหงิดใส่ เธอเลยไม่กล้าบอกใครว่าทุนการศึกษาที่ฝากครูเอาไว้ไม่เคยได้รับเลยแม้แต่น้อย
“ไม่แลกของขวัญเหรอพลับพลึง” เพื่อนๆ เอ่ยถาม พลับพลึงรีบส่ายหน้าไปมา
“อย่าแลกเลย เดี๋ยวมันเอาหัวมันต้มมาใส่ในกล่องของขวัญให้เรา นางพลับพลึงจนจะตายไป” พวกของทิดที่ชอบหาเรื่องพูดขึ้น ปภาจึงรีบพูดจาดูถูกด้วยอีกคน
พลับพลึงเดินหนีในขณะที่ยังโดนล้อ เด็กน้อยแอบมองเพื่อนๆ แลกของขวัญกันอย่างเศร้าใจ ในโรงเรียนมีครูน้อยมาก ครูหนึ่งคนจะสอนหมดทุกชั้น เมื่อก่อนครูใหญ่ช่วยสอน ครูผู้ชายอีกคนที่สอนๆ หยุดๆ บางทีก็หายไปคือครูชูชัย ส่วนครูศรีสุภางค์ที่เธอคิดว่าท่านใจดีหนักหนา แต่หลังๆ ท่านไม่ได้เป็นเหมือนเก่าอีก
วันนั้นเธอโดนทิดผลักตกน้ำ แต่ไม่กล้าบอกใครเพราะพวกของทิดขู่เอาไว้ พลับพลึงเลยได้แต่เก็บเงียบคนเดียว พอโดนล้อก็เลยไม่กล้าเถียง
ทางโรงเรียนทำอาหารเลี้ยงนักเรียนฟรีตอนปีใหม่ อีกทั้งยังแจกขนมและน้ำดื่มสีสวยๆ ด้วย
น่ากินจัง...
เด็กน้อยมองอย่างหิวโหย แอบกลืนน้ำลายลงคอเบาๆ แต่ไม่กล้าหยิบ
“อยากกินเหรอ” ครูชูชัยที่เป็นครูในโรงเรียนอีกคนเอ่ยถามเด็กน้อย
“ค่ะ” พลับพลึงรีบพยักหน้าทันที
“ไปทำงานให้ครูก่อนสิ เดี๋ยวจะให้กิน”
“ทำงานอะไรเหรอคะ” เด็กน้อยถามอย่างสงสัย
“ตามครูมาสิ” ครูใหญ่รีบจูงเด็กน้อยไปที่ห้องพักครูในทันที
“ครูจะให้หนูทำอะไรคะ” พลับพลึงถามอย่างสงสัย แต่ก็กระตือรือร้นที่จะทำตามครูสั่ง เพราะครูชูชัยอาจจะให้ขนมหรือของกินอร่อยๆ
“ครูเจ็บตรงนี้น่ะ หนูช่วยลูบๆ จับๆ บีบนวดให้ครูหน่อย”
“เจ็บตรงไหนคะ” เด็กน้อยเอ่ยถามมองอย่างสงสัยใคร่รู้ ครูชูชัยค่อยๆ ปลดกางเกงที่สวมอยู่ออก ก่อนที่เสียงตวาดจะดังขึ้นจากทางด้านหลัง
“ชัย! กำลังจะทำอะไรน่ะ” ครูศรีสุภางค์นั่นเอง ครูหนุ่มรีบสวมกางเกงกลับไปในในทันที
“ผมเปล่านะพี่”
“แล้วแกมาทำอะไรนางพลับพลึง” เสียงกระชากของครูศรีสุภางค์ที่เคยใจดีทำให้พลับพลึงตัวสั่นยกมือไหว้ปลกๆ
“หนูมาช่วยครูค่ะ”
“มาช่วยงั้นเหรอ นางเด็กร่าน แกคิดจะมีผัวตั้งแต่เด็กหรือไง” พลับพลึงอ้าปากค้างก่อนจะโดนตบตีอย่างรุนแรง
“หยุดนะพี่ศรี จะบ้าไปแล้วหรือไง เดี๋ยวเด็กก็ตายหรอก”
“ใช่พี่มันบ้า เพราะใครล่ะ นี่ขนาดเด็กเธอยังไม่เว้น” พลับพลึงคลานหนีผมเผ้ากระเซอะกระเซิงยุ่งเหยิงไปหมด เด็กน้อยหวาดกลัวจนน้ำตาไหลริน
“ครูใหญ่จ๋า... ช่วยหนูด้วย” ตอนนี้พลับพลึงคิดถึงแต่ครูใหญ่ ก่อนที่ลมวูบหนึ่งจะพัดมาโดนใบหน้า
“งั้นเธอก็ตายซะเถอะ เบื่อพี่แล้วใช่ไหม พี่ทุ่มเทให้เธอทุกอย่าง เงินทองข้าวของ เธอก็ยังนอกใจพี่” ครูวัยห้าสิบร้องห่มร้องไห้อย่างหนักเมื่อได้ยินครูหนุ่มที่บอกว่ารักนักรักหนา บอกว่าอยากดูแล อยากอยู่ด้วยกลับมาหาว่าเธอเป็นบ้า เพราะความรักที่มีให้เธอจึงยอมเขาทุกอย่าง
เธอเป็นครูที่ตั้งใจทำงาน ไม่เคยสนใจเรื่องรักๆ ใคร่ๆ มาก่อน พยายามรักษาความดีงามมาตลอด ไม่เคยหลงไปกับคำหวานของชายใด ถึงกับทุกข์ใจอย่างหนักเมื่อเห็นผู้ชายที่รักเริ่มตีตัวออกห่าง เมื่อได้ทรัพย์สินเงินทองของเธอไปจนหมด แม้แต่ทุนการศึกษาของพลับพลึง เธอก็เอาไปให้ชูชัยจนหมด คิดมาถึงตรงนี้ก็รู้สึกผิดกับครูใหญ่ที่ฝากฝังพลับพลึงเอาไว้กับตนไม่น้อย แรกเริ่มเดิมทีที่จะมาเป็นครูเพราะเธออยากช่วยเหลือเด็กๆ ให้มีความรู้ แต่ตอนนี้อุดมการณ์ของเธอป่นปี้ไปจนหมดเพราะคำรักโกหกหลอกลวงจากผู้ชายคนหนึ่งซึ่งหาความจริงใจไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
“พี่ศรีอย่าทำแบบนี้เลย วางปืนลงก่อน” เสียงโวยวายของชูชัยดังขึ้น อีกฝ่ายโบกไม้โบกมือไปมาด้วยท่าทีหวาดกลัว พลับพลึงที่กำลังคลานหนีรีบหันไปมองก่อนจะอ้าปากค้างตาโต
“เราไปอยู่ด้วยกันนะชัย เธอไม่อยากอยู่กับพี่ไม่เป็นไร แต่พี่จะเอาเธอไปอยู่ด้วยกัน” ครูวัยห้าสิบกดไกปืนระรัว
ปัง ปัง ปัง!
เสียงปืนหลายนัดดังขึ้น ร่างของครูชูชัยล้มลงไปกองเลือดไหลนองอยู่กับพื้น กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปหมด พลับพลึงถึงกับฉี่ราด ตกตะลึงอ้าปากค้างตาโต หลายคนวิ่งกรูกันเข้ามา สิ้นเสียงคำว่าหย่า... เสียงปืนก็ดังขึ้นอีกครั้ง ครูศรีสุภางค์ที่วิ่งไปกอดศพของครูหนุ่มก่อนจะร่ำไห้จ่อปืนที่หัวยิงตัวตายตามไปด้วย
“กรี๊ด!” พลับพลึงหมดสติไปบนพื้นห้องพักครู สติของเธอดับวูบไม่รับรู้อะไรอีก