หลังจากวันนั้น ทั้งลลินและจัสติน แทบไม่คุยหรือมองหน้ากันอีกเลย ทั้งสองพยายามเลี่ยงแทบทุกวีถีทางจนต่างคนต่างสังเกตได้ เมื่อมีงานต้องทำด้วยกันต่างคนก็ต่างส่งคนไปแทน จนตอนนี้ทุกคนในบริษัทต่างก็คิดว่าทั้งสองทะเลาะกันจนเข้าหน้ากันไม่ติดไปแล้ว
“เฮ้อ แล้วเราจะทำยังไงกันละ ต้องต่างคนต่างอยู่เหมือนเจ้านายเรารึเปล่า”
“ไม่นะพี่กันจะไปทำแบบนั้นทำไม เราทำงานด้วยกันเป็นมิตรกันดีที่สุด ว่าแต่มันเกิดอะไรขึ้นรู้เรื่องบ้างรึเปล่าคะเนี่ย”
สองเลขาสาวต่างปรึกษากันเรื่องเจ้านายของตน ที่ตอนนี้แทบไม่มีใครเข้าหน้าติด ทั้งสองดูจะอารมณ์หงุดหงิดอยู่ตลอดเวลา ถ้าใครพูดไม่เข้าหูรับรองโดนตะเพิดออกมาแทบไม่ทันจนตอนนี้ไม่มีใครอยากพูดคุยด้วยอยู่แล้ว
“อ๊วก!! อื้อ อ๊อก!”
“เอาอีกแล้ว พักนี้ไม่รู้เป็นอะไร พี่ลินเวียนหัวแล้วก็อาเจียนบ่อยมาก นี่ถ้ามีแฟนนะเมย์ละอดสงสัยไม่ได้ว่าท้องแน่ แต่พี่ลินของเมย์ดันโสดสนิทนี่สิ เฮ้อ สงสัยจะเครียดมากไปเลยเป็นแบบนี้ งั้นเมย์ขอตัวไปดูเจ้านายก่อนะคะ ไว้ค่อยคุยกันอีก”
พูดจบเมธาวีก็เดินเข้าไปในห้องทำงานของเจ้านายสาวทันทีโดยมีสายตาของกันยามองตามอย่างรู้สึกแปลกใจแต่ก็ได้แค่นั้นก่อนจะกลับไปทำงานต่อ
“อ่าวไปไหนมา เข้ามาหาผมหน่อย”
พอมาถึงโต๊ะทำงานก็เจอเข้ากับจัสตินที่พึ่งเดินออกมาก่อนเขาจะเรียกให้เธอเดินตามเข้าไปในห้องทำงานด้วย
“คุณไปไหนมา ผมโทรไปสองสามรอบไม่มีคนรับ”
“เอ่อ ขอโทษค่ะ พอดีกันยาเอางานไปส่งให้คุณลลิน แล้วเธออาเจียนหนักมากกันยาเลยช่วยน้องเมย์ดูแลเธอนิดหน่อยเลยกลับมาช้าน่ะค่ะ แล้วบอสมีอะไรจะใช้กันยาคะ”
“...............”
พอได้ยินว่าเธอไม่สบาย จัสตินถึงกับเงียบงันไปทันทีพลางคิดถึงวันนั้นที่เขาไม่สบายแล้วเธอคอยดูแลเป็นห่วง ก่อนที่มุมปากหยักจะยกยิ้มขึ้นอย่างลืมตัว ทำเอากันยาที่มองอยู่ถึงกับงุนงง
“เอ่อ บอสคะ บอส...บอสคะ”
“อ่าว เอ่อ ว่าไง คุณมีอะไรรึเปล่า”
เสียงเรียกของกันยาทำให้สติที่ล่องลอยไปของชายหนุ่มกลับคืนมาอีกครั้ง ก่อนจะตอบรับไปแบบส่งๆ ทำเอากันยาถึงกับงงหนักขึ้นไปอีก
“ก็บอสเรียกกันยาเข้ามา หรือว่ากันยาฟังผิด...หรือว่า....”
“อ้อๆๆ ผมนึกได้แล้ว เอารายงานนี้กลับไปให้การเงินแก้ไขมาให้ผมหน่อย ยอดมันผิด ให้แก้มาใหม่ เย็นนี้เลยนะ”
จัสตินบอกออกมาพร้อมกับยื่นแฟ้มตรงหน้าไปให้กันยาที่ยืนมองอย่างสับสนก่อนจะหยิบแล้วเดินออกจากห้องทำงานของเจ้านายหนุ่มไป ทิ้งให้จัสตินได้แต่คิดในสิ่งที่เลขาของเขาบอกออกมา
“ไม่สบายงั้นเหรอ...”
เขาพึมพำอยู่คนเดียวอย่างรู้สึกเป็นห่วง เพราะนี่ก็เกือบๆสองเดือนแล้วที่เขาและเธอแทบไม่พูดคุยหรือเจอหน้ากันเลย เอาตามตรงแล้วเขานั้นไม่ได้อยากให้มันเป็นอย่างนี้เลยสักนิด สู้ให้เธอเป็นเหมือนเดิมเข้ามาหาเรื่องเขาทุกวี่ทุกวันยังจะดีกว่าเงียบหายไปแบบนี้ แต่เขาคงจะทำอะไรไม่ได้เมื่อฝ่ายที่พยายามหลีกเลี่ยงเป็นเธอไม่ใช่เขา
“ไปหาหมอดีกว่าไหมคะพี่ลิน เมย์ว่ามันหนักขึ้นเรื่อยๆแล้วนะคะ เผื่อหมอจะช่วยได้ อย่างน้อยก็ได้นอนพักสักนิดหน่อยก็ยังดี ไม่ต้องเป็นห่วงงานทางนี้เมย์จัดการได้ค่ะ ไปนะคะก่อนที่มันจะแย่ไปมากกว่านี้”
ทางด้านเมธาวีที่พยายามเกลี้ยกล่อมลลินให้ไปหาหมอเพราะตอนนี้สภาพของเจ้านายสาวของเธอช่างดูย่ำแย่เกินทน แต่หญิงสาวก็ยังดื้อที่จะไม่ไปจนสุดท้ายเธอทนไม่ไหวก็เลยตัดสินใจลากแขนเจ้านายสาวออกไปโรงพยาบาลอย่างไม่ฟังคำทัดทานใดๆเพราะลลินแทบไม่มีเรี่ยวแรงอยู่แล้วในตอนนี้
“ยินดีด้วยนะคะ คุณแม่ตั้งครรภ์ได้ 7 สัปดาห์แล้วค่ะ ส่วนอาการที่เป็นอยู่ก็แค่อาการแพ้ท้องทั่วไปนะคะ เดี๋ยวหมอจะสั่งยาบำรุงครรภ์แล้วก็ยาแก้แพ้ท้องไปให้ ช่วงนี้ต้องระวังให้มากๆนะคะแล้วนี่เป็นใบนัดมาพบคุณหมออีกรอบ ยินดีด้วยค่ะ”
เสียงคุณหมอที่ดังขึ้นไม่หยุดแทบไม่ได้เข้าไปในโสตประสาทของลลินเลยสักนิดตั้งแต่ได้ยินว่าเธอกำลังตังครรภ์ มีแต่เมธาวีที่นั่งฟังทั้งๆที่ยังคงตกตะลึงก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือที่เย็นเฉียบของเจ้านายสาวเอาไว้แน่นเพื่อให้กำลังใจ เธอไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นแต่เธอก็รู้สึกยินดีที่ลลินกำลังจะมีทายาทตัวน้อยๆ
“เดี๋ยวพี่ลินรออยู่นี่นะคะ เมย์จะไปเอายา”
เมธาวีบอกขึ้นก่อนจะลุกเดินออกไปตรงเคาร์เตอร์รับยา ปล่อยให้ลลินนั่งอยู่ในภวังค์ความคิดของเธออยู่ตามลำพัง
ทำไม...ทำไมทุกอย่างถึงเป็นแบบนี้ ทำไมกัน...
หญิงสาวได้แต่คิดแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมา เธอไม่รู้ว่าโชคชะตาเล่นตลกหรือว่าแค่อยากแกล้งเธอกันแน่ เสียสาวให้กับเขาแล้วเธอยังต้องมาตั้งท้องทั้งๆที่มันไม่ควรเป็นแบบนี้อย่างยิ่ง ยิ่งคิดเธอยิ่งอยากร้องไห้ออกมาเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่ตอนนี้แค่เรี่ยวแรงจะเดินเองเธอยังไม่มี ได้แต่สะอื้นให้น้ำตาตกในใจอยู่คนเดียว ก่อนที่เมธาวีจะกลับมาพร้อมยาห่อใหญ่
“พี่ขอบใจมากนะเมย์....”
“โธ่ ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องน่ายินดีแบบนี้ เมย์ยินดีด้วยจริงๆนะคะพี่ลิน ลูกพี่ลินต้องออกมาน่ารักมากๆแน่เลยค่ะ โอ๊ยแค่คิดเมย์ก็อยากเจอหน้าตัวเล็กแล้วนะคะเนี่ย”
เมธาวีบอกขึ้นด้วยเสียงตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด เธอรู้ว่าตอนนี้เจ้านายสาวอยู่ในสถานภาพยังไง เธอพยายามเลี่ยงที่จะไม่พูดกระทบกระเทือนความรู้สึกของลลินสุดๆแล้วตอนนี้
“พี่ขอร้องได้ไหม เรื่องนี้รู้แค่เราสองคน”
“โธ่ ได้สิคะ เมย์ไม่บอกใครหรอกค่ะ เห็นเมย์อย่างนี้เก็บความลับเก่งนะคะจะบอกให้”
เมธาวีอวดอ้างสรรพคุณของตัวเองออกมาพร้อมกับยิ้มจนตาหยีทำเอาลลินอดยิ้มตามไม่ได้ เธอคิดไม่ผิดที่เลือกคนตรงหน้ามาเป็นเลขา เพราะเมธาวีทำงานดีแถมยังคอยช่วยเหลือดูแลเธอทุกอย่าง จากนั้นสองสาวก็ออกจากโรงพยาบาลกันมาโดยเมธาวีขับรถมาส่งเจ้านายสาวที่คอนโดก่อนที่เธอจะกลับไปทำงาน เพราะยังเหลือเวลาอีกมากก่อนจะถึงเวลาเลิกงาน
“อ่าว ไปไหนมายัยเมย์ พี่มารออยู่นานสองนานแล้ว”
“อ่าว มีอะไรพี่กัน มารอเมย์ทำไมคะ มีเรื่องอะไรรึเปล่า”
เมธาวีเอ่ยถามขึ้นอย่างแปลกใจก่อนจะเดินเข้ามาหากันยาที่ยืนรออยู่
“อ่าวแล้วนี่คุณลินไม่อยู่เหรอ”
“มีอะไรคะ ถามหาพี่ลินทำไม มีอะไรฝากเมย์ไว้ก็ได้ค่ะพอดีพี่ลินลาป่วยกลับบ้านไปแล้ว”
“อ่าวเหรอ เฮ้อน่าสงสารจัง คงป่วยหนักน่าดู นี่ เอานี่ไปบอสของพี่ให้เอามาให้คุณลิน บอกว่ามันดีบำรุงร่างกาย แต่พี่ว่าบอสพี่นี่ก็ดูแปลกๆนะเหมือนกับว่าจะไม่ชอบคุณลิน แต่ทีอย่างนี้กลับให้พี่เอาสมุนไพรราคาแสนแพงมาให้ พี่นี่ไม่เข้าใจเขาเลยจริงๆ”
กันยาพูดออกมายืดยาวตามที่เธอคิดก่อนจะยื่นกล่องสมุนไพรมาให้เมธาวี ไม่นานก็ขอตัวกลับไปทำงานต่อ ทำเอาเมธาวีถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างอัดอั้น เพราะเธอกับกันยาถือว่าเป็นคู่หูสายกอสซิปเลยก็ว่าได้ พอต้องมากุมความลับสุดยอดเธอก็อดคันปากยุบยิบไม่ได้