3

1524 Words
“โจรปล้นใจยังไงล่ะ” “หือ...” เธอคราง กำลังประมวลถ้อยคำของเขา “สมองปลาทอง” เขายื่นหน้าเข้ามาหา เธอกะพริบตาปริบๆ เถียงกับยายปากกรรไกรนี่ไม่ชนะหรอก เขาไม่ใช่ผู้ชายปากมากชอบด่ากับผู้หญิง เขามีวิธีการที่ดีกว่านั้น เมื่อเห็นว่าเธอกำลังเขินอายเมื่อสบตาด้วย “ถอยไปนะ” “อือ...” คนถูกจูบเบิกตากว้างก่อนจะดิ้น เธอดิ้นหนีไปไหนไม่รอดเมื่อเขารวบไปกอดรัดเอาไว้แทบกระดูกแหลก บดจูบเธอไม่หยุดปาก แทบหายใจหายคอไม่ทัน จูบเอาๆ จูบเหมือนกับจะสูบเลือดสูบเนื้อและวิญญาณของเธอออกจากร่าง “อื้อ...” เธอประท้วง เบี่ยงหน้าหลบสูดหายใจเข้าปอดแรงๆ ทำท่าจะด่าเขาก็จูบอีก แถมยังกดเธอกับผนางไม่ให้เธอดิ้นหนีได้ “คนสารเลว” เพี้ยะ! เธอดิ้นสุดฤทธิ์ก่อนจะตบหน้าเขาฉาดใหญ่ ใบหน้าของเคนหันไปตามแรงตบ “กล้าตบฉันหรือไง ไม่เคยมีผู้หญิงกล้าตบฉันมาก่อน” “ก็เคยเสียสิ สารเลว รังแกผู้หญิง” “เหอะ! รู้ไหมว่าผู้หญิงโดนรังแกมันเป็นยังไง” เขาแบกเธอขึ้นบนบ่าในขณะที่เธอดีดดิ้นสุดฤทธิ์ มือบางรัวทุบแผ่นหลังกว้าง ขาท่อนล่างสะบัดให้ตัวเองหลุดพ้นจากเงื้อมือของเขา “โอ๊ย!” เธอร้องเสียงหลงเมื่อเขาทิ้งร่างเธอบนที่นอน ร่างน้อยจมลงไปกับเตียงนอนกว้างทันที ก่อนร่างสูงจะคร่อมทับ ด้วยความสัตย์จริง เคนแค่อยากแกล้ง เขาแค่อยากแกล้งจริงๆ แกล้งให้เธอเกรงใจเขาบ้าง ไม่ใช่ด่าเขาฉอดๆ ทำเป็นก๋ากั๋นทั้งๆ ที่ตัวเองอยู่กับผู้ชายในบ้านหลังนี้แค่สองคน แต่กลิ่นหอมเฉพาะกายของเธอทำให้เขาไม่อยากละห่าง แล้วยังท่าทีตื่นๆ ดวงตาหวาดหวั่นนั่นอีก บ้าฉิบ! “ยายผู้หญิงปากร้าย ขี้เหร่ ทีหลังอย่ามายั่วอารมณ์ผู้ชายอีก” เขาเดินหนีออกจากห้องไป หลังจากสบถและว่าเธอเสียงเข้ม ไปรยากะพริบตาปริบๆ ได้แต่งุนงงในสิ่งที่เขาพูด แถมยังโมโหด้วยที่เขาใช้กำลังข่มเหง เธอไม่กล้าไปแหย่หรือว่าอะไรเขาอีก หญิงสาวเดินเข้าไปทำอาหารในครัว เรื่องมันเศร้าที่เธอกำลังตกงาน มีเงินเก็บอยู่น้อยนิดมากๆ และมันต้องประหยัดสุดๆ อาหารเย็นของเธอจึงเป็นแค่ไข่เจียวกับข้าวสวยร้อนๆ ไปรยาเห็นชายหนุ่มโทรสั่งอาหารมากิน เขาสั่งมาเยอะมาก ยังกับกินสักสิบคน เธอคงจะไม่อะไรมากมายหากเขาจะไม่สั่งอาหารน่ากินมาเต็มโต๊ะและนั่งกินหน้าตาเฉย ข้าวผัดทะเล ปูนึ่ง กุ้งอบวุ้นเส้น ยำวุ้นเส้นทะเล และต้มยำทะเลอีกหม้อหนึ่ง “จะทำอะไรน่ะ” เธอรีบเอ่ยถามเสียงแข็ง เขาชะงักเมื่อทำท่าจะคว้าจานมาใส่อาหาร “จะกินข้าว ไม่เห็นหรือไง” “ฉันหมายถึงคุณจะหยิบจานในครัวนี้ไปไม่ได้ มันของของฉัน” “นี่แม่คุณ จะหวงแม้กระทั่งจานหรือไง” “เราตกลงกันแล้ว” “เป็นอะไรมากไหม” เขาเท้าสะเอวมองข้าวไข่เจียวในจานของเธอ ไปรยาพาจานหนีหลบไปอยู่ด้านหลัง “มีปัญญากินได้แค่นี้เหรอ” “เรื่องของฉัน ฉันกำลังตกงาน จะให้กินดีอะไรนักหนา อุ๊บ” เหวใส่เขาแล้วต้องยกมือปิดปากตัวเอง ไม่น่าเลย เขาหัวเราะขบขัน กอดอกมองเธออย่างเป็นต่อ เธอหน้างอ สะบัดหน้าพรืดหนี ไม่อยากมองใบหน้าเยาะเย้ยนี้หรอก “กินไหมล่ะ อาหารที่ฉันสั่งมาอร่อยทังนั้นเลยนะ” “ชิ! ไม่ต้องเอาอาหารมาล่อลวงฉันหรอก ฉันไม่ติดกับนายง่ายๆ แน่นอน” “ติดกับ” เขาทวนคำทำหน้างง ก่อนจะโบกมือไปมา ยายปากกรรไกรนี่ชอบพูดอะไรทำให้เขางงและฟังไม่รู้เรื่อง เขาคร้านจะเถียง “โอเค ฉันโทรไปสั่งจานข้าวกับช้อนส้อมมากินเองก็ได้” เขาหยิบโทรศัพท์อีกเครื่องที่ไม่ใช่เครื่องปกติที่ใช้อยู่ขึ้นมาทำท่าจะโทร ไปรยามองอีกฝ่ายอย่างชั่งใจ สลับกับการมองอาหารหอมกรุ่นตรงหน้า เขาคงกินไม่หมดหรอกนะ อีกอย่างเธอคงจะดูใจร้ายเกินไปหากไม่แบ่งจานชามช้อนส้อมให้เขาได้ใช้ “อยากใช้ก็ได้” เธอโพล่งออกมา เขาชะงัก ยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋า “จะกินด้วยกันก็มากินสิ ฉันสั่งมาเผื่อ” เขาอยากขอโทษเธอกลายๆ ที่แกล้งเธอเมื่อครู่ แต่คนอย่างเขาไม่มีวันพูดมันออกมาตรงๆ หรอก “ฉันไม่ได้อยากกินหรอกนะ แต่นายน่ะสั่งมาเยอะแยะ หัดรู้จักคุณค่าของเงินบ้าง ฉันเลยจะช่วยกิน ของจะได้ไม่เหลือ” เธอพูดแก้เก้อ เคนมองคนที่ชักแม่น้ำทั้งห้าแล้วกรอกตาไปมา เหลือเชื่อ! ผู้หญิงนี่โคตรเข้าใจยาก “ถ้าไม่อยากกินก็ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดี ของเหลือ... ฉันให้หมาแมวแถวนี้ก็ได้ หมาขี้เรื้อนอดอยากหิวโซแถวนี้เยอะแยะ” “แค่กๆๆๆ” ไปรยาถึงกับสำลัก โดนเขาจิกกัดขนาดนี้ อยากจะหาอะไรตะบันหน้าเขานัก แต่เห็นเขาไปหยิบจานชามช้อนส้อมมาจัดการกับอาหารที่สั่งมา เธอทำเป็นหน้าเชิดๆ เริดๆ ไปนั่งลงตรงเก้าอี้ในเขตแดนของตัวเอง “จะกินก็กินเถอะแม่คุณ หยิ่งมากเดี๋ยวอดหรอก” เขาว่าให้ “ฉันไม่ได้อยากกินสักหน่อย” ถึงเธอต้องกินข้าวกับน้ำปลาก็ไม่มีวันให้เขามาดูถูกหรอก เคนส่ายหน้าไปมา ผู้หญิงนี่เรื่องเยอะแบบนี้ทุกคนหรือเปล่านะ เขาตักกับข้าวให้เธอ ก่อนจะหันไปกินของตัวเอง ไปรยามองกับข้าวในจานที่เขาตักให้ คิดว่าจะเขี่ยทิ้งทำเป็นปั้นปึงไม่กิน แต่มันหอมหวนน่ากินซะขนาดนี้ เธอเลยทำเป็นตักกิน หือ... อร่อยกว่าข้าวไข่เจียวเป็นไหนๆ “อร่อยกว่าข้าวไข่เจียวก็กินเยอะๆ นะ ฉันไม่ได้หวง” “คะ?” เธอกะพริบตาปริบๆ ไม่รู้ตัวสักนิดว่าเผลอตัวพูดมันออกไปด้วย น่าอายจริงๆ เชียว เขามองเธอเหมือนขำ ไปรยาเม้มปาก เธอไม่น่าไปทำเอ๋อๆ ต่อหน้าเขาเลย แต่ก็เอาเถอะ หลังจากนั้นเขาก็ไม่ว่าอะไรเธออีก แถมยังตักอาหารให้เธอหลายอย่าง จริงๆ เธอไม่กล้าตักหรอก ของของเขาเกิดทะเล่อทะล่าไปตักมากิน เขาว่าให้เจ็บจุกไปถึงมดลูก “เดี๋ยวฉันล้างเอง คุณอุตส่าห์เลี้ยงอาหาร” “ขอบใจนะ” อย่างน้อยเขาก็ยังรู้จักขอบใจ ไปรยาเก็บจานชามไปล้าง หลังจากสงบศึกกับเขาชั่วคราว “คราวนี้เรามาคุยกันเป็นกิจจะลักษณะนะ” “เรื่องอะไร” เขาถามอย่างเกียจคร้าน ขณะนอนยืดขาที่ระเบียงหน้าบ้านเพื่อดูดาว ที่นี่ยุงเยอะ แต่เขาจุดยากันยุง ยุงเลยบินหายไปหมด “เรื่องบ้านไง” เธอยังค้างคาใจเรื่องบ้าน จะเอายังไงก็ควรจะทำให้มันจบๆ ไป “จะเอายังไง” เขาถามเรื่อยเปื่อยเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก ในเมื่อซื้อก็ไม่ได้ จะไปเอาเงินคืนซึ่งเขาคิดว่ายิ่งไม่ได้ใหญ่เลย ป่านนี้ปราบชัยเอาเงินไปใช้หนี้หมดแล้ว เธอคงไม่รู้ว่าพี่ชายเป็นหนี้ก้อนโต โดนนักเลงตามทวงหนี้อยู่ “มันเป็นความผิดของนาย ซื้อของไม่ดูตาม้าตาเรือ อยากได้บ้านของคนอื่นเขา” “สรุปเราตกลงกันไม่ได้ แต่... ฉันมีข้อเสนอให้เธอ” “ข้อเสนออะไร” เธอมองหน้าเขา ไม่ค่อยไว้วางใจเขาเท่าไหร่หรอก “เป็นเมียฉันเอาไหม ได้ทั้งบ้านได้ทั้งตัวฉัน” “บ้าน่ะสิ” เธอเหวใส่ หน้าแดง “รู้ไหมใครๆ ก็อยากได้ฉันกันทั้งนั้น” เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ เธอกะพริบตาปริบๆ “เคลิ้มเหรอ” “บ้าน่ะสิ! เปล่าเสียหน่อย” เธอดันใบหน้าของเขาออกห่าง ใบหน้าแดงก่ำ คนบ้าอะไรมาชวนเธอคิดลึก “อยากได้ฉันแค่สะกิดนะ ยังไงก็นอนบ้านหลังเดียวกันแล้ว” “โหย... หลงตัวเองชะมัดยาดเลย” เธอย่นจมูกใส่เขา เสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นทำให้ไปรยาชะงัก เธอมองหน้าจอนิ่ง ไม่อยากกดรับเลย แต่สุดท้ายก็ต้องกดรับ “เป้... พี่มีเรื่องจะคุยด้วย” “ค่อยคุยได้ไหม” ไปรยารีบปฏิเสธ เธอรู้ว่าเขากำลังจะพูดอะไร แต่ใจมันยังรับกับเรื่องนี้ไม่ได้ “พี่ขอร้อง คุยกันเดี๋ยวนี้นะ พี่อยู่หน้าบ้านของเป้ ลงมาเจอกันหน่อย” ไปรยาชะโงกหน้าออกไปดูเห็นเอกวัฒน์แฟนหนุ่มกับผู้หญิงอีกคน รุ่นน้องที่ทำงาน เธอเม้มปากแน่น มาถึงขนาดนี้เลย เธอโง่เองแหละ รักมากก็เลยทำเป็นไม่รับรู้ความสัมพันธ์ของเขากับรุ่นน้องที่ทำงาน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD