“พี่ขอโทษนะเป้” เอกวัฒน์เอ่ยขอโทษ เขานั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อนใต้ต้นจามจุรีหน้าบ้านของเธอ เสียงคลื่นกระทบฝั่งดังกังวาน หัวใจของเธอเหมือนโดนเข็มนับล้านทิ่มตำจนเป็นแผลเหวอะหวะ
“กิ๊กเองก็ขอโทษนะคะพี่เป้ กิ๊กไม่ได้ตั้งใจ”
“ขนาดไม่ได้ตั้งใจนะ” เธอมองท้องที่เริ่มนูนของอีกฝ่ายแล้วเบือนหน้าหนี วันนั้นเธอได้ยินเอกวัฒน์คุยโทรศัพท์ ผิดสังเกตเลยตามไปดู จึงได้รู้ความจริงว่าเขากับภาวิณีแอบมีสัมพันธ์สวาทกันลับหลังเธอ จนตอนนี้กำลังตั้งท้อง ทั้งๆ ที่เธอมีแพลนจะแต่งงานกับเขา
เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดปีนี้เศรษฐกิจไม่ดี ทางบริษัทปลดพนักงาน เธอเป็นหนึ่งในพนักงานที่ถูกปลด แต่พอมาคิดอีกทีก็ดีเหมือนกัน หากต้องทนเห็นคนรักที่หักหลังกับเพื่อนรุ่นน้องที่เธอเอ็นดูที่สุดในที่ทำงานอี๋อ๋อกัน กำลังจะมีลูกด้วยกันใครมันจะไปทนไหว เธอไม่ใช่แม่พระเสียหน่อย
“กิ๊กขอโทษค่ะ” ภาวิณียกมือไหว้เธอ
“เอากองไว้ตรงนั้นล่ะ”
“อย่าใช้อารมณ์สิเป้”
“พี่จะมาบอกเป้แค่นี้ใช่ไหม เป้รู้แล้ว รู้ตั้ง... นานแล้ว” จู่ๆ เธอก็สะอื้น ก้อนอะไรสักอย่างมันมาจุกอยู่ที่คอหอย มันเจ็บจุกไปถึงลิ่มปี่
“พี่ขอโทษ”
“พอสักทีเถอะคำว่าขอโทษ ถ้าอยากพูดแค่นี้ก็กลับไปได้แล้ว” ไปรยาหนีขึ้นบ้านก่อนปิดประตูโครมใหญ่ คนที่นั่งเล่นอยู่อีกด้านสะดุ้ง มองคนที่วิ่งร้องไห้ขึ้นมาหน้าตาตื่น
“เป็นอะไรของเธอ”
“แฟนทิ้ง”
“อ๋อ... คนนั้นแฟนใหม่เขาเหรอ เธอสวยกว่าเยอะ”
“ฉันสวยกว่า แต่เขาไม่เอาฉัน นายอย่ามาซ้ำเติม”
“อ้าวๆๆๆ แม่คุณไม่ได้ซ้ำเติม พูดเรื่องจริงล้วนๆ”
“มีเหล้าไหมอยากเมา”
“กินเป็นหรือไง ท่าทางเรียบร้อย”
“เอามาเถอะน่า”
“ครับๆๆๆ ผมเปรี้ยวปากอยากดื่มเหมือนกัน รอเดี๋ยวนะ” เขาหายไปพักใหญ่ก่อนจะหิ้วกับข้าวและเหล้าขึ้นมา มองคนนั่งร้องไห้เป็นเผาเต่าแล้วกวักมือเรียก
“มากินสิ” เธอเดินมาดื่มแบบกระแทกกระทั้นทันที
“เฮ้ยๆๆๆ เบาๆ สิเดี๋ยวก็เมาหรอก” เคนรีบห้ามเมื่อเห็นเธอรินเหล้าใส่แก้วก่อนจะกระดกขึ้นดื่ม
“แค่กๆๆๆๆ” สำลักเกือบตาย หูตาแดงไปหมด
“ดื่มเป็นไหม”
“ไม่เป็น”
“อ้าว... เวร!!!”
“ต้องผสมก่อน กินแบบนั้นไม่ได้”
“ไม่ผสม กินเพียวๆ แค่กๆๆๆ”
“สำลักจะตายอยู่แล้ว ใจเย็นๆ ตอนฉันอกหักก็ดื่มหนัก แต่เรื่องขี้ประติ๋ว เดี๋ยวก็หายใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม”
“รู้ไหม ฉันคบกับเขามาตั้งสิบปีแล้วนะ”
“น่าจะนานแหละ ดูเธอมีอายุแล้ว เตรียมขึ้นคาน”
“อยากตายหรือไง” เธอเหวใส่
“โอ๊ะๆๆๆ ฉันล้อเลน แหย่นิดแหย่หน่อยซีเรียสไปได้ ฉันแค่ไม่อยากให้เธอเครียดเท่านั้นเอง” เขาผสมเหล้าให้เธอ ก่อนยื่นให้ อีกฝ่ายรับไปจิบๆ ก่อนเบ้หน้า
“ขมชะมัดยาดเลย”
“บอกจะเอาเหล้า ถ้ารู้ว่าดื่มไม่เป็น จะหาอย่างอื่นมาให้ดื่ม เบาๆ กว่านี้”
“กินเหล้านี่แหละ จะได้เมาเร็วๆ อยากเมาๆ ลืมเรื่องปัญญาอ่อนนี่เสียที”
“รู้ว่าเรื่องปัญญาอ่อนก็ลืมเสียสิ จะมาคิดทำไม”
“นายจะไปรู้อะไร เคยมีความรักไหม” เธอขึ้นเสียง
“ครับๆๆๆ ผมไม่พูดก็ได้ ฟังอย่างเดียว” เห็นเธอองค์ลงเลยไม่อยากขัด คนกำลังเสียใจเขาก็เข้าใจนะ
“พูดมากเดี๋ยวกัดหู”
“เสียใจอะไรกับผู้ชายคนเดียว ผู้ชายเหมือนฝูงลิงจะจีบทิ้งจีบขว้างก็ยังไหว”
“คำพูดคุ้นๆ เหมือนรุ่นพี่ผู้ชายที่ทำงานพูดเลย อ๋อ... ผู้ชายคิดแบบนี้กับผู้หญิงใช่ไหม เลยทิ้งคนเก่าที่คบกันมาสิบปี ไปเอาเด็กวัยขบเผาะยี่สิบต้นๆ ใช่ไหม”
อ้าว... ดราม่าซะงั้น
“ผู้ชายเป็นเพศที่เห็นแก่ตัวที่สุด”
“เบาๆๆ หน่อยเดี๋ยวก็เมาหรอก” คนบอกว่าเหล้าขมเริ่มกินไม่หยุด เคนนั่งมองตาปริบๆ เธอเรียกชนแก้วเขาก็ชน
“ฉันสวยไหม” คนเมาเอ่ยถาม เธอแพ้ยายรุ่นน้องแอ๊บแบ๊วนั่นได้ยังไงกัน คิดแล้วเครียดมันโคตรเสียใจเลย
“สวย” เขาตอบ มองเธอแล้วยิ้มค้าง ไปรยาแก้มแดง ตาลอยเยิ้มแต่น่ารัก จู่ๆ เขาก็คิดว่าเธอน่ารัก
“จริงเหรอ”
“จริงสิ”
“แสดงว่าเขาตาต่ำใช่ไหม”
“ใช่ ตาต่ำเลยล่ะ แต่เธอเมาแล้วนะ เลิกดื่มได้แล้ว เดี๋ยวก็ไม่ไหวหรอก”
“มึนหัวจัง” เธอบอกในขณะที่ทำท่าพะอืดพะอม รู้สึกขมคอไปหมด
“อุ๊บ แหวะ!”
เวร!!! บรรลัยแล้วไง
อ้วกตรงไหนไม่อ้วก มาอ้วกรดเขา เคนเบือนหน้าหนี ไม่น่าเลย เขาต้องมาเช็ดอ้วกเธอเหรอนี่
เคนลากร่างโงนเงนของคนเมาไปล้างอ้วก เขาเองก็ต้องจัดการกับตัวเองเหมือนกัน มันทุลักทุเลจนสุดท้ายต้องอุ้มเธอ
คนเมาดิ้นรน เขาทำเสียงดุเลยเงียบไปพักหนึ่ง เคนมองร่างที่นั่งฟุบอยู่ในห้องน้ำแล้วส่ายหน้าไปมา เอาไงดี จะให้เธอนอนแบบนี้คงไม่ไหว
“ร้อนชะมัดเลย”
อ้าวเวรอีก!!!
เธอถอดเสื้อผ้าออกทำไม หรือกระแสจิตของเขาจะแรง
“นี่ๆๆ เธอ ใจเย็นๆ” เขาห้ามไม่ทัน ตอนนี้เธอเหลือแต่บรา เสื้อโดนเขวี้ยงไปอีกด้าน ที่เค้าเคยบอกว่าผู้หญิงเมานี่ดูไม่จืดเลย มันโคตรจริง ดื่มได้แต่อย่าเมาหัวทิ่ม ดีนะที่เป็นเขา ถ้าไปเดินแถวชายหาดมีหวังโดนลากไปรุมข่มขืน
เขาจัดการเช็ดหน้าเช็ดตาให้เธอ ก่อนจะให้เธอบ้วนปาก คนเมาอืออาทำตามบ้างไม่ทำตามบ้าง ในขณะที่เขาถอนใจพรืด
เคนประคองร่างกึ่งเปลือยของเธอเอาไว้ เขาปัดปอยผมปรกหน้าของเธอออกไป ทำให้เห็นใบหน้าผุดผ่องนั้นชัดเจน
เขาอุ้มเธอไปที่เตียง คนเมาค่อยๆ ปรือตาขึ้น ก่อนจะกอดคอหนาของเขาเอาไว้ โน้มเข้าไปหา
“ที่ทิ้งฉันเพราะยายนั่นให้ท่าใช่ไหม ฉันไม่ยอมนอนด้วย เลยทิ้ง ผู้ชายก็เหมือนกันหมด”
“นี่เธอ มีสติหน่อย” เขาตบแก้มเนียน
“ฉันด้อยกว่าเขาาตรงไหน นายคิดว่าฉันด้อยตรงไหน ฉันอึ๋มไหม” เธอคว้ามือเขามาวางแหมะกับอกอิ่ม เคนมองนิ่ง อกของเธอใหญ่เกินตัว
“ฉันไม่น่าพิศวาสตรงไหน” เธอประคองใบหน้าของเขาเอาไว้ก่อนจะบดจูบ เขานิ่งไปก่อนจะบดจูบริมฝีปากสั่นระริกนั้น
เธอยอมเขาเพราะเมาหรืออะไรเคนไม่แน่ใจ แต่เขาไม่ใช่พระอิฐพระปูนเสียหน่อย ยั่วกันขนาดนี้ จะให้เขาทิ้งร่างเปลือยเปล่าอวบอิ่มแบบนี้ไปได้ยังไงกัน น้ำเมาที่ไหลพลุกพล่านอยู่ในกระแสเลือดคือยาปลุกอารมณ์เพศที่ดีอีกขนานหนึ่ง เขาบดจูบริมฝีปากสั่นระริก เธอเม้มปากเข้าหากันเหมือนคนไม่เคยจูบ
เขาใช้ลิ้นเล็มไปตามริมฝีปากอวบอิ่ม ลามเลียจนเธอยอมเผยอริมฝีปากออกเล็กน้อย มือหนาเลื่อนไปปลดตะขอบราทางด้านหลัง ปทุมถันอวบอิ่มกระเด้งออกมาให้ยลโฉม ความงามไม่ต้องบรรยาย คนอะไรซ่อนรูป เห็นใส่เสื้อหลวมโคร่ง แต่อกอวบใหญ่เกินตัวจริงๆ
เคนก้มลงไปจูบซับความหวานของบัวงาม ยอดอกสวยแข็งเป็นไตยอมให้เชยชิมโดยง่าย เธอครางอืออา บิดส่ายไปมา ในขณะที่เขาปลดกางเกงผ้าเนื้อนิ่มของเธอไปกองอยู่ที่ปลายเท้า ไปรยากะพริบตาปริบๆ เหมือนอยู่ในโลกของความฝัน ความจริงกับความฝันมันแยกกันไม่ออก
“พี่เอก”
“เคนไม่ใช่เอก เรียกผิดจะโดนหนักรู้ไหม” เขากระซิบที่ริมหู เธอขมวดคิ้วเหมือนกำลังคิด และคร้านจะคิดอะไรอีก มือหนาที่เคล้นคลึงทรวงสาวทำให้เธอต้องเผยอริมฝีปากและรับการสอดประสานของลิ้นร้อนๆ ที่แทรกเข้ามาภายใน ความร้อนฉ่าซ่านไปทั่วปลายลิ้น ไหลวนไปสู้ก้านสมอง
ไปรยาครางหอบเมื่อเขาถอนริมฝีปากออกห่าง เธอเบี่ยงหลบ เขาตามไปจับคางสวยเอาไว้แล้วบดจูบหนักๆ ไม่ยอมลดละ เธอจิกมือกับเสื้อของเขา
“อื้อ...” เธอบิดกายเร่าๆ เมื่อเขาเลื่อนริมฝีปากไปสัมผัสเรือนร่างสาวทั่วสรรพางค์กาย เขาตวัดลิ้นไปตามผิวผ่อง ความสากร้อนและชุ่มฉ่ำลามเลียไปทั่วผิวเนื้ออ่อนใส
ผิวกายให้รสชาติหอมกรุ่นของสาวสดทำให้เขาเลื่อนริมฝีปากสัมผัสไปทั่ว ไปรยาร้องคราง เธอบิดกายหนีด้วยเสียวซ่านสะท้านหวามที่เข้ามาจู่โจมไม่หยุดหย่อน เขาแยกขาเธอออกจากกัน ก่อนจะลามเลียซอกขาด้านใน คนเมาครางอืออา ดันศีรษะของเขาเอาไว้ เคนกดมือของเธอลงข้างเตียง ก่อนจะซุกหน้าเข้าหาซอกเนื้อฉ่ำสวาท