ห้องผู้บริหาร
คุณอัสดา โอมรยะนันท์
ภายในห้องทำงานของคุณอัสดามีเขาและฉันที่นั่งข้างกัน และคนตรงหน้าก็คือยัยจี๊ดเพื่อนสนิทสมัยเรียนของฉันที่เมืองนอก เราเคยเรียนด้วยกันมาตั้งแต่ช่วงไฮสคูลจนจบตรี แต่มันกลับมาเมืองไทยได้ 2 ปีแล้วไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอมันที่นี่
“คุณจี๊ดครับ..”
“คะ..บอส..?”
ยัยจี๊ดมันเอาแต่เล่นจ้องหน้าฉันไม่ละสายตา แต่ฉันต้องทำเป็นไม่สนใจมันเพราะไม่อย่างงั้นมันต้องจับได้แน่ๆว่าฉันไม่ใช่มินตา
“คุณมองภรรยาผม เหมือนคุณเคยรู้จักกันมาก่อน..?”
ฉันหันไปจ้องหน้าเขาตาค้าง แล้วหันมามองหน้ามัน
“ไม่เคยหรอกค่ะ เราจะรู้จักกันได้ยังไงละคะในเมื่อเราเพิ่งเจอกันครั้งแรก..”
“งั้นมั้งคะ..”
“ตั้งแต่ผมแต่งงานกับมินมาผมยังไม่เคยพามินมาที่นี่เลยครับ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมพามินมาที่บริษัท คุณจี๊ดเพิ่งเข้ามาทำงานได้ 6 เดือน คงจะยังไม่เคยเจอมินหรอกครับ..”
“ค่ะ จี๊ดคงจำคนผิดจริงๆ..”
มันหันมามองหน้าฉันนิ่งๆ
“นี่มินตาครับ ภรรยาของผม..”
“สวัสดีค่ะคุณมินตา จี๊ดอาจจะจำคนผิดเอง ต้องขอโทษคุณมินด้วยนะคะ..”
“ไม่เป็นไรค่ะ มินอาจจะหน้าโหลก็ได้ คุณจี๊ดก็เลยจำผิดคน..”
“ค่ะ..”
สายตาของยัยจี๊ดที่มองมาบ่งบอกว่ามันไม่เชื่อว่าฉันคือมินตาจริงๆ จนมันออกไปจากห้องแล้ว
“คุณจี๊ดเขามองเหมือนรู้จักมินเลย..?”
“หรอคะ..?”
“เมื่อกี้พี่ได้ยินเหมือนคุณจี๊ดเขาเรียกชื่อมินว่าอะไรนะ..พี่ได้ยินไม่ถนัด..”
“มินจำไม่ได้แล้วค่ะ พี่อัสอย่าไปใส่ใจเลยค่ะ ทำงานเถอะ..”
ฉันพยายามบอกให้เขาลืมๆไป และก็ให้เขาหันไปสนใจกับงานบนโต๊ะแทน ฉันนั่งเล่นไปเรื่อยๆจนเริ่มเบื่อๆจึงขอเขาออกไปเดินเล่นรอบๆบริษัท
“มุขดา..”
“..”
ฉันเปิดประตูออกมาก็เจอยัยจี๊ดนั่งขวางอยู่หน้าห้อง ฉันหันไปยิ้มให้มันเล็กน้อยแล้วก็กำลังจะเดินผ่านหน้ามันไป แต่มันดันเรียกไว้ก่อนจนฉันต้องชะงักทันที
“ฉันรู้นะว่าแกคือมุขดา..”
“...”
ฉันยืนนิ่งเหงื่อแตกเลย ว่าแล้วต้องหลอกมันไม่ได้ไม่น่าเดินออกมาเลยจริงๆ
“อย่ามาหลอกฉันซะให้ยาก..แล้วถ้าแกจะปฏิเสธฉันก็พิสูจน์ได้..”
“เห่ย..!”
ยัยจี๊ดคว้าข้อมือฉันขึ้นไปดูเปิดแขนเสื้อฉันขึ้น
“นี่ไง..ขี้แมลงวัน 3 จุดตรงข้อพับ..แกคือมุขดาจริงๆ..”
ฉันมองหน้ามันอย่างอึ้งๆ อีบ้าจี๊ดมันจับฉันได้จริงๆด้วย ไม่ได้การละถ้าปล่อยไว้แบบนี้เดี๋ยวคนอื่นมาได้ยินเข้าพอดี
“มานี่เลย..”
“แกจะพาฉันไปไหน..?”
ฉันลากมันขึ้นมาบนดาดฟ้าของบริษัทเพื่อที่จะมาคุยกัน 2 คน และฉันก็ยอมสารภาพความจริงกับมันว่าฉันคือมุขดาจริงๆ
“อะไรนะ..แกปลอมตัวเข้ามาเป็นมินตาน้องสาวแกเนี้ยนะ..เพื่ออะไรวะ..?”
“ฉันมีเรื่องบางอย่างจะต้องสืบให้รู้..”
“แล้วแกจะทำแบบนั้นไปทำไม..แล้วมินตาน้องสาวแกละตอนนี้อยู่ที่ไหน..?”
“...”
ฉันพูดไม่ออกได้แต่ยืนนิ่งนึกถึงภาพที่ฉันเห็นมินตาตายไปต่อหน้าต่อตา
“มินเสียแล้ว..”
“อะไรนะ..?”
“มินเสียในวันที่ฉันมาถึงไทยได้แค่ 2 วัน มินตรอมใจได้เป็นอาทิตย์แล้วก่อนที่ฉันจะมาถึงโดยที่ไม่มีใครรู้สาเหตุ มินบอกไม่ต้องการให้ฉันบอกกับพวกนายอัสดา ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมมินต้องไม่ให้ฉันบอกพวกนั้นด้วย แต่ในวันสุดท้ายที่มินเสีย...ฉันเพิ่งได้รู้ความจริงว่ามินกำลังท้อง..”
“ท้องหรอ..?”
“ใช่ มินท้องได้ 3 เดือนแล้วโดยที่มินไม่ได้บอกกับใคร และสุดท้ายมินก็จากไปพร้อมกับลูก.”
ฉันร้องไห้แทบขาดใจเพราะฉันจำได้ดีวันที่มินจากไปวันนั้น ทุกคนเสียใจมากแค่ไหน ยัยจี๊ดเดินเข้ามากอดปลอบฉันจนเวลาผ่านไปสักพักฉันจึงสงบลง
“ฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่าใครเป็นต้นเหตุทำให้ยัยมินเป็นแบบนี้..?”
“ฉันเอาใจช่วยนะ..เอ่อ..แล้วเรื่องงานศพ..?”
“ฉันจะต้องรู้ความจริงก่อนที่จะครบ 100 วันของยัยมินให้ได้ก่อน..ฉันมีเวลาไม่มากเพราะฉันต้องพาคนที่ทำให้ยัยมินต้องตายไปกราบศพยัยมินให้ได้..แต่ตอนนี้ฉันยังมืดแปดด้านไปหมดเลย..”
“แกมีอะไรให้ฉันช่วยก็บอกนะ..?”
ฉันหันไปมองหน้ามันก็ยิ้มออก
“แกทำงานที่นี่มา 6 เดือนแล้วใช่ไหม..?”
“อื้ม..”
“ปกตินายอัสดามีผู้หญิงมาหาที่นี่บ้างไหม..?”
“ก็ไม่นะ..”
“แล้วพนักงานสาวๆในบริษัทละ นายอัสดามีไปจีบๆบ้างไหม..?”
“ไม่เคยเห็นบอสจะจีบใครเลยสักคน..”
“นี่ฉันก็ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ฉันไม่รู้จักใครสักคนที่อยู่รอบตัวเขา นี่อีก 5 วันแม่กับน้องเขาก็จะกลับมาแล้ว ไม่รู้ว่า 2 คนนั้นมีพิษสงอะไรกับยัยมินบ้าง..”
“แม่ของบอสนะไม่เท่าไหร่แต่น้องสาวของบอสอะ..ร้ายน่าดูเลยล่ะ.”
“ที่ชื่อญานินใช่ไหม..?”
“ใช่...ขี้วีน ขี้เหวี่ยงเป็นที่สุด..”
“จริงหรอ..?”
“อื้ม..ไม่พอใจอะไรก็กรี๊ดแล้วก็ทำลายข้าวของ ส่วนคนเป็นแม่นะก็ตามใจลูกสาวทุกอย่าง ใครผิดใครถูกไม่สน สนแต่ลูกตัวเองต้องถูกอยู่เสมอ..”
“งั้นแปลว่ายัยมินก็คงเจอ 2 แม่ลูกนี้เล่นงานเหมือนกันแน่ๆ..”
“ก็คงจะจริง..”
“แต่ทำไมนายนั่นไม่รู้จักปกป้องเมียตัวเอง..ปล่อยให้แม่กับน้องมารังแกเมียตัวเองอยู่ได้..”
“แต่ที่ฉันรู้มานะ 2 คนนั้นไม่ใช่แม่แล้วก็น้องสาวแท้ๆของบอสนะ..”
“อะไรนะ..?”
“ก็พ่อของบอสแต่งงานใหม่กับผู้หญิงที่มีลูกติดนะ แต่บอสก็รักแม่เลี้ยงเหมือนแม่แท้ๆแล้วก็รักน้องสาวที่ติดแม่มากด้วยนะ..”
“...”
“แต่คนในบริษัทเขาลือกันนะว่าน้องสาวแท้ๆของบอสแอบรักพี่ชายตัวเอง ทั้งที่ตัวเองก็ยังมีคู่หมั้นอยู่แล้ว..”
“คุณพีรพลนะหรอ..?”
“ใช่..แกรู้จักเขาด้วยหรอ..?”
“เปล่า..ฉันเคยได้ยินแม่บ้านเล่าให้ฟังนะ..”
“คุณพีรพลเป็นเพื่อนสนิทมากๆของบอสเลยนะ เขาเป็นคู่หมั้นกับน้องสาวของบอสมา 2 ปีแล้วแต่ยังไม่แต่งงานกันสักที..”
“นี่แกมาทำงานได้ 6 เดือนนี่รู้ไปหมดทุกเรื่องเลยนะ..?”
ฉันอดแซวมันไม่ได้ มันยังเหมือนเดิมจริงๆตั้งแต่สมัยเรียนทันโลกทันเหตุการณ์ไปหมด
“แต่ที่ฉันยังไม่รู้คือ...บอสคิดอะไรกับน้องสาวตัวเองหรือเปล่านี่ซิ..?”
“...”
ฉันคิดตามที่มันพูดหรือว่าอาจจะจริง พวกเขา 2 คนอาจจะชอบกันก็ได้นะ แต่เพราะเป็นพี่น้องกันเพราะพ่อแม่แต่งงานกัน แล้วเพื่อนสนิทเขาก็ดันเป็นคู่หมั้นกับเธออีก เขาอาจจะแต่งงานกับยัยมินเพื่อบังหน้าและตบตาเพื่อนตัวเองอยู่ก็ได้
“2 คนนั้นจะต้องมีอะไรที่ลึกซึ้งมากกว่าพี่น้องแน่ๆ ฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่าจริงไหม..?”
“มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่แกคิดก็ได้นะ..?”
“ฉันคิดว่าต้องใช่แน่ๆ ยัยมินอาจจะรู้ความจริงเรื่องนี้แล้วก็ได้ก็เลยหนีไปแบบนั้น..ถ้าฉันเจอกับ 2 คนนั้นฉันจะต้องทำให้พวกเขาเข้าใจว่าฉันไม่รู้อะไรเลย..และจำเรื่องทุกอย่างไม่ได้..”
“แกจะทำอะไร..?”
ฉันมองหน้ายัยจี๊ดนิ่งๆแล้วยิ้มอย่างมีแผนการ และตัดสินใจเดินไปที่ลิฟต์แล้ววิ่งออกไปที่หน้าบริษัทเพื่อให้ทันรถที่กำลังจะวิ่งมา
โครม>>>
“ว๊าย...คุณมินโดนรถชนค่ะ..”