หยั่งเชิง

1318 Words
บทที่ 11 หยั่งเชิง รามเปิดประตูห้องทำงานแล้วให้หญิงสาวเดินนำเข้าไปก่อน “หนูนิดรอพี่อยู่ในนี้ก่อนนะ พี่ขอตัวไปประชุมก่อนเพราะใกล้ถึงเวลาแล้ว” “นิดขอใช้คอมได้ไหมคะพี่ราม” “ได้เลย พี่ไปก่อนนะ” “ค่ะ โชคดีค่ะ” เธอโบกมือลาแล้วนั่งลงที่โซฟา หยิบโทรศัพท์มาโทรหาเพื่อนเพื่อสอบถามเรื่องรับปริญญาและเรื่องทั่วๆ ไป ไม่ได้ใช้คอมอย่างที่ขอกับเขาไว้ ก๊อกๆๆ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงประตูห้องทำงานก็ถูกเคาะให้สัญญาณก่อนจะเปิดออก หญิงสาวหันไปมองแล้วคลี่ยิ้มกว้างก่อนจะทำหน้างง เธอบอกวางสายกับเพื่อนแล้วยกมือสวัสดีอีกฝ่าย “ประชุมเสร็จแล้วเหรอคะ ทำไมเร็วจัง” “เขาประชุมฝ่ายบุคคลเท่านั้นจ้ะ ไม่ใช่ฝ่ายส่งออก” “แต่พี่รามบอกนิดว่าพี่ราชเข้าประชุมด้วยนี่คะ” “พี่รามพูดอย่างนั้นจริงๆ เหรอ” “จริงค่ะ ก็ตอนแรกนิดจะให้พี่ราชแวะไปรับที่บ้านเพราะเห็นพี่รามเขามีประชุม แต่พี่รามบอกว่าพี่ราชก็ต้องเข้าประชุมด้วยเหมือนกัน ให้นิดมาพร้อมกับเขาเลยทีเดียว” ราชคลี่ยิ้มกว้าง เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจว่าทำไมพี่ชายถึงพูดแบบนั้น “พี่รามเขาคงกลัวพี่มาทำงานสายมั้ง แล้วหนูนิดมาทำอะไรที่นี่ล่ะ” “นิดจะไปหาที่เรียนต่อปริญญาโทค่ะ” “อ๋อ พี่ก็เรียนอยู่เหมือนกันนะ แต่พี่เรียนปริญญาเอก เพิ่งสมัครไปเอง แล้วหนูนิดได้ที่เรียนหรือยังล่ะ” “ยังค่ะ แต่ก็มีเลือกไว้บ้างแล้ว” “ก็ลองไปดูก่อนนะ ถ้าไม่ถูกใจเราค่อยมาคุยกัน” “ค่ะ หนูนิดสนใจที่นี่เพราะคุณแม่บอกว่าที่นี่หลักสูตรดี เทียบเท่ากับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ นิดก็เลยอยากลองไปดูที่นี่ก่อนค่ะ” “ดีจ้ะ แล้วหนูนิดจะเรียนภาคปกติหรือว่าภาคพิเศษล่ะ” “ตั้งใจว่าจะเรียนภาคพิเศษนะคะ” “ไม่ดีหรอกหนูนิด เรียนภาคปกติเถอะเชื่อพี่” ถ้าเธอเลือกเรียนภาคพิเศษ เธอกับพี่ชายของเขาก็คงจะห่างเหินกันไปอีกเพราะวันหยุดไม่ตรงกัน แล้วความหวังของมารดาก็อาจจะเป็นจริงขึ้นมาก็ได้ “ทำไมเหรอคะพี่ราช” “พี่คิดว่าวันเสาร์อาทิตย์เป็นวันของครอบครัวนะ แต่ถ้าหนูนิดไม่กลัวว่าคนอื่นจะมาทำหน้าที่แทนพี่แก้ว หนูนิดจะเรียนภาคพิเศษก็ได้ ก็แล้วแต่หนูนิดนะ” “ตกลงค่ะ นิดจะเรียนภาคปกติ ขอบคุณนะคะที่เตือนสตินิด ไม่งั้นนิดพลาดแน่ๆ” ราชคลี่ยิ้มกว้างก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยความขบขัน รู้สึกภูมิใจตัวเองนิดๆ ที่ฉลาดหลอกล่อให้เธอคล้อยตามได้สำเร็จ พวกเขาทั้งสองพูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับเรื่องเรียนกันไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้สนใจเวลาที่ผ่านไปมากกว่าครึ่งชั่วโมง ขณะนั้นเองประตูห้องทำงานก็เปิดออกอีกครั้ง และคนที่เข้ามาก็เลิกคิ้วด้วยความแปลกใจที่เห็นคนอื่นอยู่ในห้องอีกคน “ทำไมไม่เข้าประชุมนายราช” รามทำทีเป็นตำหนิน้องชายหน้าตาเฉย “ผมต้องเข้าด้วยเหรอพี่ราม ไม่เห็นมีใครแจ้งนี่” “ทำไมต้องมีใครแจ้งด้วย ในเมื่อพี่เคยบอกนายแล้วว่าให้เข้าร่วมประชุมทุกครั้งในฐานะน้องชายของพี่” ราชอ้ำๆ อึ้งๆ พูดไม่ออกไปเลยทีเดียว ครั้งนี้ไม่ใช่ประชุมผู้ถือหุ้นนะ มันแค่ประชุมฝ่ายบุคคลเองไม่ใช่เหรอ ทำไมเขาต้องเข้าร่วมด้วยล่ะ “นายคงไม่เข้าใจความหมายที่พี่เคยพูดกับนายสินะ เอาเป็นว่าต่อไปนี้ให้เข้าร่วมด้วยทุกครั้งก็แล้วกัน” “ครับพี่ราม” “มีอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีก็ไปทำงานได้แล้ว” “......” ราชงงเป็นรอบที่สอง เขามองไปที่หญิงสาวแล้วยักไหล่น้อยๆ “ครับพี่ราม พี่ไปก่อนนะหนูนิด แล้วค่อยโทรคุยกันนะ” “ค่ะพี่ราช บายค่ะ” เธอโบกมือลาเขา “หนูนิดสนิทกับราชมากเหรอ” รามรอจนน้องชายออกไปจากห้องแล้วจึงถามหญิงสาว เขาหรืออุตส่าห์รีบประชุมเพราะไม่อยากให้เธอคอยนาน แต่ก็ต้องเสียความรู้สึกเมื่อกลับมาเห็นแบบนี้ “สนิทค่ะ พี่ราชเป็นเพื่อนคนเดียวของนิดนี่คะ” “แล้วทำไมไม่ให้ราชพาไปดูที่เรียนล่ะ” “นิดอยากไปกับพี่รามมากกว่านี่คะ” ถ้าเธอไปกับราช ก็ไม่ได้ยั่วพินแพรน่ะสิ รามเหลียวมองหญิงสาวด้วยสายตาเคลือบแคลง สงสัยว่าที่เธอพูดนั้นแค่ต้องการเอาใจหรือว่าเป็นเรื่องจริง “จริงๆ นะคะ” “ถ้าอย่างนั้นก็เตรียมตัวได้แล้ว เราจะไปกันเดี๋ยวนี้แหละ” “ค่ะ” เธอตอบรับอย่างร่าเริง แล้วหยิบกระเป๋าเป้แฟชั่นแบรนด์ดังขึ้นสะพายหลังทันที ไม่นานทั้งสองก็เดินเคียงคู่กันออกไปจากห้อง ผ่านหน้าพินแพรที่เพิ่งเดินมาถึงโต๊ะทำงานพอดี รามหยุดยืนที่หน้าโต๊ะของเธอ แล้วบอกกับเธอว่าจะออกไปทำธุระข้างนอก วันนี้ให้เลื่อนนัดลูกค้าไปก่อน “แต่แพรเพิ่งรับนัดคุณปนัดดาไปเองค่ะพี่ราม วันนี้ตอนบ่ายสามโมง” “โทรไปเลื่อนนัดเป็นพรุ่งนี้แทนก็แล้วกัน” “แต่ว่า..” พินแพรทำหน้าลำบากใจ เพราะในบรรดาลูกค้าของบริษัท แม่หม้ายทรงเครื่องวัยสี่สิบนามว่าปนัดดาคนนั้นเดาใจยากที่สุด และอารมณ์ร้ายที่สุดเลยก็ว่าได้ “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เดี๋ยวพี่โทรไปบอกคุณนัดเธอเอง” “แพรว่าอย่างนั้นน่าจะดีกว่าค่ะ” เธอยิ้มออกเมื่อได้ยินดังนั้น “แล้วพี่รามจะไปไหนเหรอคะ เผื่อคนในบริษัทถามแพรได้ตอบถูก” ได้คืบจะเอาศอกจริงนะหล่อน สิริญ่าคิดในใจก่อนจะคลี่ยิ้มกว้าง และตอบแทนพี่เขยของตน “นิดชวนพี่รามไปดูที่เรียนแถวคลองจั่น เสร็จแล้วจะเลยไปทำธุระแถวๆ ถนนโพธิ์แก้วด้วย ตอบไปตามนี้ก็แล้วกันนะคะคุณแพร” “คุณนิดจะมาเรียนต่อที่เมืองไทยเหรอคะ” “ค่ะ ทำไมคุณแพรทำหน้าแปลกๆ อย่างนั้นล่ะ” ไม่เก็บอาการเลยนะหล่อน “ขอโทษที่เสียมารยาทค่ะ แต่การเรียนที่ออสเตรเลียน่าจะดีกว่าที่ไทยมาก แพรก็เลยแปลกใจที่คุณนิดเลือกเรียนที่ไทยก็เท่านั้น” ถ้าเธอตัดสินใจเลือกที่เรียนแบบนี้ แสดงว่าเธอจะอยู่ที่นี่ไปอีกอย่างน้อยๆ ก็สองถึงสามปีเลยสิ แบบนี้โอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับรามก็ยิ่งยากไปอีกล่ะสิ “ก็อาจจะเป็นอย่างนั้น แต่เท่าที่นิดรู้ที่นี่สอนดีพอๆ กับมหาวิทยาลัยที่เมืองนอกเลยค่ะ นิดจึงตัดสินใจจะไปดูเป็นที่แรก ขอบคุณคุณแพรมากนะคะที่เป็นห่วง นิดไปก่อนนะคะ เดี๋ยวจะเลยไปทำธุระแถวโพธิ์แก้วไม่ทัน” เธอรู้สึกขัดเคืองใจอยู่บ้างที่อีกฝ่ายตกใจผิดเรื่อง จึงเน้นย้ำอีกครั้งเผื่อเธอไม่ได้ยิน “ค่ะ” พินแพรตอบรับพร้อมรอยยิ้มเจื่อนๆ เครียดจนไม่อยากได้ยินเรื่องอะไรจากปากสวยๆ ของสิริญ่าอีก “นิดไปก่อนนะคะ” เธอก็รู้สึกหงุดหงิดไม่ต่างกัน ที่ไม่สามารถยั่วอารมณ์อีกฝ่ายได้สำเร็จ “หนูนิดจะไปที่ไหนก่อน” รามถามหญิงสาวเมื่อนั่งอยู่ในรถด้วยกัน “ไปหาที่เรียนก่อนดีกว่าค่ะ” 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD