บทที่ 15 ชิงไหวชิงพริบ
ร้านอาหาร
ปนัดดามองหญิงสาวที่เดินเคียงคู่มากับบุรุษที่ตนหมายตาอย่างสนใจ เธอสูงเกือบจะพอๆ กันกับเขา เธอสวยชนิดที่หาตัวจับได้ยาก เธอหุ่นดีชนิดที่เรียกว่านางแบบระดับโลกยังอาย เพราะนางแบบพวกนั้นมีดีแค่หุ่นแต่หน้าตายังสวยสู้เธอไม่ได้ ที่สำคัญเธอมองเห็นความสุขในดวงตาของเขา แค่พี่เขยกับน้องเมียเหรอ... ทำไมเธอสังหรณ์ใจว่าอีกหน่อยมันอาจจะมากกว่านั้นนะ
“น้องเมียสวยแบบนี้นี่เองรามถึงอยากพามาแนะนำให้รู้จัก สวัสดีจ้ะคนสวย ฉันชื่อปนัดดา เรียกฉันว่าพี่นัดก็ได้นะ ฉันกับพี่เขยของเธอสนิทกันมาก” ปนัดดาชิงแนะนำตัวเองก่อนด้วยภาษาอังกฤษพร้อมกับรอยยิ้มแบบมีเลศนัย
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อนิดค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน” สิริญ่ายกมือไหว้และแนะนำตัว รู้สึกไม่ค่อยเป็นมิตรกับเธอผู้นี้เลย ไม่ใช่เพราะความอคติส่วนตัวแต่เป็นเพราะการวางตัวของอีกฝ่ายต่างหาก
“นั่งสิจ๊ะ” ปนัดดารู้สึกได้เลยว่าหญิงสาวคนนี้ไม่ใช่ธรรมดา แต่เธอกลับรู้สึกชอบคนแบบนี้มากกว่าคนเสแสร้งแบบพินแพรเพราะอ่านใจได้ง่ายกว่า “เป็นน้องเมียของรามเหรอจ๊ะ”
“ค่ะ คุณปนัดดาสงสัยอะไรเหรอคะ”
“ก็... สงสัยแล้วถามได้ไหมล่ะ”
“ก็ลองถามมาสิคะ เผื่อจะตอบได้”
“ผมหิวแล้ว สั่งอาหารก่อนดีกว่านะครับ” รามเห็นท่าไม่ดีจึงรีบชิงพูดขึ้นมาก่อนที่จะบานปลาย น้องเมียเขานี่ก็เหลือเกิน อุตส่าห์ย้ำนักย้ำหนาตอนที่นั่งรถมาด้วยกันว่าปนัดดาเป็นคนอย่างไร เธอพูดอะไรก็อย่าไปใส่ใจให้มาก แค่ฟังๆ ไว้แต่ไม่ต้องไปต่อความยาวสาวความยืดด้วยก็ไม่เชื่อฟังกันบ้างเลย
“ก็ดีค่ะ นัดก็หิวจนแสบท้องแล้วเหมือนกัน”
“หนูนิดอยากทานผัดรวมมิตรเห็ดไหม” รามถามน้องเมียที่นั่งใกล้กันอย่างเอาใจใส่เมื่อเห็นภาพอาหารในเมนู
“อะไรก็ได้ค่ะ แค่อย่าเผ็ดมากก็พอ”
“ถ้าอย่างนั้นเอาผัดรวมมิตรเห็ดหนึ่งที่ คั่วกลิ้งหมู แกงเหลืองสับปะรด ผัดพริกหยวก ไข่เจียวทรงเครื่อง ต้มยำกุ้ง แค่นี้ค่ะ” ปนัดดาชิงสั่งอาหารทั้งหมดแล้วส่งเมนูคืนให้บริกร คิดไม่ผิดจริงๆ ที่จงใจเลือกร้านอาหารไทยสไตล์บ้านๆ แห่งนี้
“ผมขอต้มจืดเต้าหู้หมูสับ แกงเลียงผักรวม ปลานึ่งซีอิ้วเพิ่มด้วยนะ” รามสั่งอาหารเพิ่มเติมแล้วส่งเมนูคืนให้บริกร เก็บความไม่พอใจปนัดดาที่จงใจสั่งอาหารรสชาติเผ็ด แกล้งน้องเมียของเขาเอาไว้ในใจอย่างมิดชิด
แต่เมื่ออาหารถูกนำมาวางลงบนโต๊ะ เขาก็ต้องหงุดหงิดอีกครั้ง เมื่อเธอเล่นตักคั่วกลิ้งใส่จานข้าวให้น้องเมียของเขาซะพูนช้อน
“คั่วกลิ้งที่นี่อร่อยมากค่ะ พี่มาเมืองไทยทีไรต้องแวะทานตลอด ลองชิมดูนะคะรสชาติกำลังดีไม่เผ็ดมาก”
“ขอบคุณค่ะ” สิริญ่าตักคั่วกลิ้งขึ้นมาเต็มช้อน “แต่นิดไม่ทานเนื้อหมูค่ะ” แล้วเธอก็ส่งคั่วกลิ้งช้อนนั้นคืนไปที่จานของปนัดดา “ดูหน้าตาน่าทานมากเลยค่ะ คงจะอร่อยสมชื่อ คุณนัดทานให้เยอะๆ นะคะ ทานเผื่อนิดด้วยก็แล้วกัน” อย่าคิดว่าคุณร้ายเป็นคนเดียวนะคุณปนัดดา ฉันไม่ใช่นางเอกละครไทยหรอกนะ ถึงได้สงบเสงี่ยมเจียมตัวยอมรับการกลั่นแกล้งจากนางร้ายอย่างคุณ
“ถ้าอย่างนั้นลองทานแกงเหลืองดูนะคะ อร่อยเหมือนกัน” คราวนี้ปนัดดาไม่ตักเนื้อปลาให้หญิงสาวอีก “เนื้อสับปะรดเปรี้ยวอมหวาน อร่อยชุ่มคอเลยค่ะ”
“สับปะรดนิดก็ทานไม่ได้ค่ะ ทานทีไรท้องเสียทุกที คุณนัดทานแทนนิดหน่อยนะคะ” เธอตักคืนไปให้อีกครั้งพร้อมทั้งข้าวที่ชุ่มไปด้วยน้ำแกง
“สรุปคุณนิดทานอะไรได้บ้างคะเนี่ย” ปนัดดาเริ่มไม่สนุกด้วยแล้วในตอนนี้ เพราะในจานข้าวของเธอเต็มไปด้วยอาหารที่เธอก็ไม่ถนัดสักนิด
“ก็ทานได้ทุกอย่างที่อยากทานนั่นแหละค่ะ เช่นผัดเห็ด ต้มจืด ไข่เจียว ปลาซีอิ้ว แต่อาหารที่คุณนัดสั่งมานั้นนิดไม่อยากทานสักอย่างเดียว ไม่ถูกกับกระเพาะ ขอโทษด้วยนะคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ” ปนัดดากำช้อนแน่นเพื่อระงับอารมณ์โกรธ
ส่วนรามนั้นสนใจอาหารบนโต๊ะอย่างเดียว เพราะรู้สึกลำบากใจกับการเป็นคนกลางเหลือเกิน ที่สำคัญ น้องเมียของเขาก็เอาตัวรอดได้ดีเยี่ยมอยู่แล้วจึงเลือกที่จะทำเป็นนิ่ง
“พี่พูดทำไมไม่เชื่อฟังกันบ้างเลยหนูนิด” หลังจากออกจากร้านอาหารและนั่งอยู่ในรถด้วยกัน รามก็เริ่มตำหนิน้องเมียทันที
“ฟังอะไรคะ”
“พี่บอกอย่าไปตอแยกับคุณนัดเธอไง”
“แล้วไงคะ ใครที่เป็นฝ่ายเริ่มก่อน” เธอมองเขาอย่างไม่พอใจ “นิดเริ่มก่อนหรือว่าคุณนัดเธอเริ่มก่อน”
“คุณนัดเธอก็เป็นแบบนั้นแหละ ไม่ต้องไปสนใจก็จบ”
“คุณนัดเป็นแบบนั้นนิดไม่สนใจหรอกค่ะเพราะมันจบไปแล้ว แต่ที่พี่รามเป็นแบบนี้นิดไม่พอใจมาก” ตอบชัดเจนตรงไปตรงมา
“หนูนิด” เขากลายเป็นคนผิดไปได้ยังไงล่ะเนี่ย
“นิดไม่เข้าใจพี่รามเลยจริงๆ ทำไมพี่รามต้องทำตัวเป็นสุภาพบุรุษที่แสนดีกับผู้หญิงทุกคนด้วย รู้บ้างไหมว่าการกระทำของพี่รามทำให้พี่แก้วน้อยใจจนต้องฆ่าตัวตาย”
“เลิกพูดไร้สาระนะหนูนิด!” ตะคอกใส่เธอด้วยความโกรธ
“ไม่ต้องมาตะคอกใส่นิดนะคะ!” เธอเสียงดังกลับไปบ้าง
เสียงของเธอทำให้เขารู้สึกตัวและระงับอารมณ์ลงได้ “พี่ขอโทษ แต่นิดกำลังเข้าใจผิดนะ พี่ไม่เคยนอกใจแก้วเลยสักครั้ง พี่สาบานได้”
“นิดก็ไม่ได้บอกว่าพี่รามนอกใจพี่แก้ว แต่นิดกำลังตำหนิการกระทำของพี่รามต่างหาก ทำไมพี่รามต้องทนทำตัวเป็นสุภาพบุรุษกับผู้หญิงหิวเนื้อพวกนั้นด้วย แค่ทำตามความรู้สึกของตัวเองทำไม่ได้เหรอคะ”
“ไม่ได้ เพราะพวกเขาคือลูกค้าของบริษัท”
“ถ้าลูกค้าสำคัญกว่าครอบครัว พี่รามก็ยกน้องกายให้นิดเถอะค่ะ นิดจะเอาหลานไปเลี้ยงเอง พี่รามจะได้มีอิสระ ไปไหนมาไหนกับลูกค้าคนสำคัญของพี่รามได้เต็มที่”
“อย่ามาพรากลูกไปจากพี่นะหนูนิด ให้ตายพี่ก็ไม่ยอมหรอก” ลูกชายคือของขวัญแห่งความรักระหว่างเขากับภรรยาที่จากไป จะมาขอกันง่ายๆ แบบนี้ได้อย่างไร
“ถ้าอย่างนั้นพี่รามก็ควรปรับปรุงตัวเสียใหม่นะคะ ไม่ใช่อะไรก็ยอมแบบนี้”
“พี่จะแต่งงานใหม่” ไม่รู้ทำไม อยู่ๆ เขาก็อยากพูดเรื่องนี้กับเธอ “พี่จะหาแม่ให้น้องกาย ถ้าพี่แต่งงานทุกอย่างมันก็คงจะดีขึ้นมาบ้าง”
“พี่รามจะแต่งงานได้ก็ต่อเมื่อนิดอนุญาตเท่านั้น เพราะนิดไม่เชื่อใจผู้หญิงที่จะมาเป็นแม่เลี้ยงให้หลานนิดง่ายๆ หรอกค่ะ”
“พี่จะแต่ง หนูนิดจะทำอะไรพี่ได้”
“นิดไม่ยอม! ได้ยินไหมว่าไม่ยอม!” ขึ้นเสียงใส่เขาพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มไหลออกมา “ให้ตายนิดก็ไม่ยอม นิดจะขัดขวางให้ถึงที่สุด ไม่เชื่อก็คอยดู”
“กลัวเหรอหนูนิด”
“นิดยอมรับค่ะว่ากลัว น้องกายเป็นหลานคนเดียวของนิดนะคะพี่ราม”
“รักหลานมากขนาดนั้นเลยเหรอ”
“หลานของนิดทั้งคน ถ้านิดไม่รักนิดไม่ทนเป็นไม้กันหมาอยู่แบบนี้หรอก นิดกลับไปใช้ชีวิตวัยรุ่นของนิดกับเพื่อนๆ ไม่ดีกว่าเหรอคะ”
“ถ้ารักหลานก็ปกป้องหลานสิ”
“นิดก็ทำอยู่นี่ไงคะ”
“ไม่ใช่ด้วยวิธีนี้”