คิระหยุดยืนหน้าห้องผู้จัดการฝ่ายขาย มือขวาจับไปที่ก้านโยกประตู ไม่มีอุปสรรคใด ๆ เธอไม่ได้ล็อกประตู ชายหนุ่มผู้อาจหาญผลักประตูเข้าไป พร้อมกับล็อกห้องให้เสร็จสรรพ
“คุณเข้ามาได้ยังไง” ปริมาเสียงดังใส่คนที่บังอาจเข้ามาในห้องโดยมิได้ขออนุญาต
“ห้องไม่ได้ล็อก” เขาตอบหน้าตาย เดินไปหยุดยืนข้างเก้าอี้หญิงสาว
เธอสูดลมหายใจลึก พยายามข่มความรู้สึก ก่อนเอ่ยออกไปด้วยเสียงต่ำ “มีธุระอะไร นี่มันเวลาพัก”
“ผมรู้ว่าเมื่อกี้คุณปริมเห็น” เขาเห็นตั้งแต่เธอดันประตูห้องเก็บสินค้าตัวอย่างในฝ่ายผลิตแล้ว แต่ด้วยอารมณ์ราคะที่ไม่อาจหยุดได้ เขาจึงบรรเลงเพลงรักโดยไม่ได้สนใจว่าเธอจะยืนมองอยู่หรือไม่
ใช่ ! เธอจำหน้าเขาได้ ผู้ชายที่ยืนเล่นหนังสดอยู่ที่ฝ่ายผลิต แม้จะมีเพียงแสงสลัว แต่ใบหน้าหล่อแบบนี้ใครกันจะจำไม่ได้ แล้วในเมื่อเขาเห็นเธอ ทำไมถึงยังทำต่อ “นายนี่หน้าด้านจริง ๆ เห็นฉันแล้วยังกล้าทำต่ออีกเหรอ”
“คุณนั่นแหละ คนกำลังเอากันอยู่ ทะเล่อทะล่าเปิดเข้ามาได้ยังไง” คำพูดตอบโต้ดูจะไม่ได้เกรงใจคนที่ตำแหน่งสูงกว่าเลยสักนิด
“ที่นี่มันที่บริษัท นายนั่นแหละมาทำบัดสี ไม่อายฟ้าอายดิน” ปริมาตะเบ็งเสียสู้
เขาเริ่มเห็นมุมความเป็นเด็กอยากเอาชนะของปริมา ซึ่งต่างจากภาพลักษณ์ผู้บริหารที่พยายามแสดงให้ทุกคนเห็น “ขนาดบัดสี คุณปริมยังยืนดูอยู่ตั้งนาน” และคนอย่างเขาก็ไม่เคยยอมแพ้ใคร แม้แต่เด็กของท่านประธานคนนี้ก็ตาม
คนได้ฟังนั่งหน้าดำหน้าแดง ทั้งโกรธทั้งอาย ไม่ผิดจากที่เขากล่าวหาเลย เธอยืนมองภาพร่วมรักอยู่นาน กว่าจะผละออกมา ตลอดจนเวลาเดินกลับมาที่ตึกก็ยังนึกถึงแต่ภาพพวกนั้น ถ้าเขาไม่เข้ามาขัดจังหวะ เธอก็ยังคงจินตนาการถึงเหตุการณ์นั้นอยู่
“ผมรู้ว่าคุณปริมก็อยาก” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาพร้อมลมอุ่นที่เป่าเข้าหูหญิงสาว สร้างความเสียวสยิวให้เธอ จนขนกายลุกชัน อารมณ์ที่ค้างอยู่เมื่อครู่เริ่มก่อเค้าขึ้นอีกครั้ง
“ผมช่วย สัญญาว่าจะไม่มีใครรู้ แม้แต่ท่านประธาน” เขาพูดช้า ๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปจับต้นขาขาวที่โผล่พ้นออกมาจากชายกระโปรงออกมา เธอสะดุ้งเล็กน้อย แต่ไม่ได้ขัดขืน มือหนาเริ่มลูบไล้เข้าไปใต้กระโปรง
“อื้อ อืม” หญิงสาวครางกระเส่าอยู่ในลำคอ ตาหลับพริ้ม ถ่างขาออกเล็กน้อยโดยอัตโนมัติ นึกไปถึงภาพท่อนเอ็นอวบใหญ่ตอนที่เขากำลังใส่อุปกรณ์ป้องกัน ภาพที่ชายหนุ่มเกี่ยวขาอีกฝ่ายแล้วกระหน่ำแทงดุ้นยักษ์เข้าออก เสียงเนื้อกระทบเนื้อ ผสานกับเสียงครวญครางของทั้งคู่แล้ว กลางกายก็สั่นระริก
คิระไล้ผิวขาวไปจนถึงดอกไม้งามที่บัดนี้เปียกชื้น กายสูงค่อย ๆ ย่อลง จนใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกับเก้าอี้ กระโปรงถูกถกรั้งขึ้นไปอยู่ลอนสะโพก กางเกงในลูกไม้เนื้อบางรูดหลุดออกไปทางปลายเท้า นิ้วเย็นสอดใส่เข้ารอยแยกสีชมพูระเรื่อ ภายในโพรงนุ่มนิ่มถูกแยงเข้าแยงออกซ้ายขวา จนเจ้าของร่างบิดสะโพกไปมา เสียงครางอู้อี้ในลำคอยังคงดังอย่างต่อเนื่อง
สองแขนแกร่งช้อนใต้ข้อพับขาขึ้นพาดไว้บนเท้าแขนของเก้าอี้ ทำให้เนินสามเหลี่ยมอวบอูมที่มีเพียงขนบางสีดำตัดกับผิวขาวตกแต่งเรียบร้อยเป็นรูปสามเหลี่ยมเด่นหราอยู่ตรงหน้า จมูกโด่งซุกไซ้ดอมดมไปทั่วทุกซอก สูดกลิ่นกายสาวสวยที่หอมรัญจวน แตกต่างจากหญิงที่เขาเพิ่งส่งเธอไปสวรรค์เมื่อครู่นี้
นิ้วเรียวยาวแยงเข้ารูอีกครั้ง หมุนควงไปทั่วโพรงนุ่ม ลิ้นหนาแลบเลียแคม ดูดติ่งเกสร รสหวานรวมกับกลิ่นหอมยั่วอารมณ์ ทำให้เขาเข้าใจแล้วว่าเหตุใด ท่านประธานถึงได้ติดใจผู้หญิงคนนี้ ถึงขั้นไม่เกรงใจภรรยาตีทะเบียน
“อื้อ แบบนั้นแหละ อ๊ะ โอ้ว อ้า” สะโพกกลมกลึงบิดเร่าไปมาตามความเสียว แต่ก็ขยับไม่ได้มาก เพราะชายหนุ่มจับล็อกไว้แน่น
“คิว ผมชื่อ คิว” ริมฝีปากผละออกจากดอกไม้งามตรงหน้า เพื่อบอกให้เธอเรียกชื่อ
“คิว อ้า อย่าหยุด” ปริมาขยุ้มผมกดหัวชายหนุ่มให้กลับมาใช้ลิ้นอีกครั้ง
เขาทั้งดูดทั้งเลีย นิ้วชี้นิ้วกลางงอเล็กน้อยคล้ายตะขอ ชักเข้าชักออกครูดผนังนุ่มหยุ่นระรัว จนรู้สึกถึงแรงตอดตุบตับภายในเขาก็เร่งจังหวะเร็วขึ้น
“อ๊ะ คิว เร็ว” นิ้วยาวจ้วงแทงอีกไม่กี่ครั้ง น้ำสีใสก็พุ่งเข้าปาก เขากลืนลงคออย่างไม่นึกรังเกียจ บางส่วนกระเซ็นเปรอะเลอะใบหน้า หญิงสาวจึงหยิบกระดาษทิชชู่บนโต๊ะส่งให้
“ใกล้บ่ายแล้ว นายรีบออกไปได้แล้ว” ปริมารีบบอกเขาหลังจากที่ดึงกระโปรงลงเรียบร้อยแล้ว ส่วนกางเกงในยังคงกองอยู่ที่พื้น
“สบายตัวแล้วรีบไล่เลยนะครับ” เขาพูดเสียงหยอกล้อเธอ แต่ไม่ได้คิดอะไรจริงจัง
“นายคงไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใครใช่ไหม” เมื่อสมอารมณ์หมายแล้ว ก็เริ่มกลัวว่าเขาจะเอาเรื่องนี้ไปคุยโม้กับคนอื่น ชื่อเสียงจะป่นปี้ก็คราวนี้ ไม่ควรปล่อยให้ราคะอยู่เหนือสติเลย
“ไม่หรอกครับ แต่คุณปริมยังติดผมอยู่นะ ผมทำให้จนเสร็จแล้ว แต่คุณปริมยังไม่ได้ทำให้ผม อ้อ ผมชื่อคิวนะครับ มีอะไรเรียกใช้ผมได้อีก แล้วก็... ผมเอาอันนี้ไว้เป็นมัดจำ” คิระชูกางเกงในลูกไม้ที่หยิบขึ้นมาจากพื้นให้เธอดู ก่อนจะดมเหมือนคนโรคจิต แล้วเปิดประตูเดินออกจากห้องไป
“ไอ้บ้า” ปริมาหยิบกล่องทิชชู่ขว้างไล่หลังคิระไป พอคิดย้อนหลังไปก็รู้สึกว่าตัวเองง่ายเหลือเกิน แค่เห็นเขาเอากับผู้หญิงคนอื่น ก็มีอารมณ์จนควบคุมตัวเองไม่ได้ จะว่าไป เวลาเพียงไม่ถึงสิบนาที เขาก็สามารถทำให้เธอสบายตัวได้เหมือนกัน
คิระเดินออกจากห้องผู้จัดการฝ่ายขายด้วยอารมณ์ดี มือขวาจับกางเกงในตัวจิ๋วยัดเข้ากระเป๋ากางเกงสแล็ค ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะทำอะไรเหมือนคนจิตวิปริต โชคดีที่พนักงานฝ่ายขายมักกลับมาทำงานช้า เขาจึงไม่ต้องหาเรื่องแก้ตัวให้ผิดศีลเพิ่มอีก แค่ข้อสามกาเม ก็แย่แล้ว ทว่าระหว่างที่เดินกลับห้องทำงาน เขาก็เจอเข้ากับผู้จัดการฝ่ายโฆษณา
“อ้าว คิว ทำไมวันนี้กลับมาก่อนบ่ายได้ล่ะ” ณชนกถามขึ้น
“ผมเอาอาหารมากินเองครับ ไม่ได้ออกไปข้างนอก” จานแรกกินแล้วยังไม่อิ่ม เพราะเริ่มไม่อร่อย ส่วนจานที่สองได้มาแต่ออเดิร์ฟ ทว่ารสชาติยังติดลิ้นอยู่ ต้องหาทางกลับมากินอีกครั้งอย่างแน่นอน
โดยปกติแล้ว คิระก็เหมือน ๆ กับพนักงานฝ่ายขาย คือมักจะกลับเข้ามาทำงานหลังจากบ่ายโมงไปแล้ว จึงไม่แปลกที่จะถูกถาม
“เย็นนี้ว่างไหม เจอกันที่เดิม” สายตาเจ้าของคำพูดมองจ้องเป็นเชิงถาม
แน่นอนว่าเย็นนี้เขายังไม่มีนัด แล้วอาหารกลางวันก็ยังไม่อิ่ม ยิ่งเจออาหารเรียกน้ำย่อยจากเด็กท่านประธานไปเมื่อกี้นี้อีก เขาไม่ลังเลเลยสักนิดที่จะตอบตกลงเธอไป
ณชนก สาวใหญ่วัยสี่สิบกลาง ๆ แต่ดูแลรูปร่างและใบหน้าตัวเองเป็นอย่างดี มองผ่าน ๆ ก็ไม่ต่างอะไรไปจากสาววัยสามสิบ นั่นเพราะเธอทั้งออกกำลังกายกระชับรูปร่าง ฉีดฟิลเลอร์ ร้อยไหม เพื่อให้ดูแล้วเหมาะกับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายโฆษณาที่จะต้องสวยตั้งแต่หัวจรดเท้า อันเป็นภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร แต่ถ้าให้เทียบกันแล้ว ระหว่างผู้จัดการฝ่ายขายและฝ่ายโฆษณา ดูว่าฝ่ายขายจะมีภาษีดีกว่า เพราะอายุยังน้อย และใบหน้าปราศจากมีดหมอ ต่างจากอีกฝ่าย ที่ทั้งตา จมูก ปาก ผ่านมือหมอมาแล้วทั้งสิ้น
และเมื่อพ้นจากณชนกแล้ว คิระเดินเลี้ยวเข้าห้องน้ำ ปิดประตูลงกลอนเรียบร้อย ล้วงเอากางเกงในลูกไม้ออกมาจากกระเป๋ากางเกงข้างขวาดูอีกครั้ง สัมผัสชื้นแฉะตรงเป้าเรียกร้องให้เขาต้องจรดจมูกสูดกลิ่นหอมอวลของน้ำยาปรับผ้านุ่มผสานกลิ่นน้ำหล่อลื่นของปริมา อันเป็นกลิ่นที่ยังติดอยู่ในฆานประสาทหรือประสาทรับรู้กลิ่น
‘หรือกูจะบ้าไปแล้ววะเนี่ย’ แก่นกายที่พยายามบังคับให้สงบลงหลังออกจากห้องผู้จัดการคนสวย บัดนี้เด้งผึงขึ้นมาอีกครั้ง ผ้าลูกไม้ตัวจิ๋วถูกสลับไปอยู่ที่มือซ้ายแต่ยังจรดอยู่ที่ปลายจมูก มือขวาปลดกระดุมกางเกง รูดลงเล็กน้อยพร้อมกับกางเกงชั้นใน ล้วงเอาท่อนเอ็นลำเขื่องออกมา รูดเข้ารูดออก พร้อมกับคำรามเสียงกระเส่าในลำคอ ทว่ามันก็เสียงดังพอที่จะทำให้คนข้างห้องได้ยิน หากมีใครสักคนอยู่ในนั้น
กลิ่นที่ได้สัมผัสตลอดยามรูดแท่งร้อนเข้าออก ช่วยให้คิระไปถึงจุดหมายได้เร็วขึ้น “อืม... ปริมา เธอต้องรับผิดชอบ” เขาครางออกมาเบา ๆ พร้อมกับเสียงสบถ หลังจากน้ำขาวขุ่นไหลทะลักเต็มมือ โชคดีที่เขาบังคับทิศทางให้พุ่งลงชักโครก ไม่เช่นนั้นคงได้กระจายเต็มกำแพง