Chapter.4

1154 Words
“ฟู่ว..” ร่างกำยำยืนพักเท้าสะเอวปล่อยเม็ดเหงื่อไหลตามกรอบหน้าและเต็มแผ่นหลังจนเสื้อยืดเปียกโชก ใบหน้าเข้มเครียดเงยขึ้นมองบ้านไม้ขนาดเล็กยกพื้นขึ้นสูง ย่องเข้าไปพร้อมปืนสั้นในมือเพื่อเตรียมป้องกันตัวเผื่อข้างในมีเหตุอันตราย “แม่งเอ๊ย!” เสียงทุ้มเผลอสบถหยาบ เมื่อเจอภาพตรงหน้าซึ่งทำเขาสะเทือนใจไม่น้อย หล่อนนอนหมดสติกลางบ้านพื้นซีเมนต์ขัดมัน ส่วนหนูน้อยเอเดนยังคงนอนดื่มนมแม่อยู่ ถ้าเขาไม่ขึ้นมาดู จะเกิดอะไรขึ้น แล้วสามีที่ว่านั่นไปอยู่ไหน! เสียงหนูน้อยร้องอ้อแอ้ทักทายเขาอย่างอารมณ์ดีเมื่อดื่มนมจนอิ่มแปล้และคายอดถันออกจากปาก น้ำนมไหลย้อยออกมาจากเต้าเธอไม่หยุด “หือ!” ฟรังค์โกรีบเก็บปืนเข้าที่ ยกมือขึ้นปิดตาไว้ รีบเดินหาผ้าห่มมาคลุมหน้าอกให้เธอโดยไว เขาเดินสอดส่องหาสามีเธอจนทั่วบ้านก็ไม่พบ พบเพียงร่องรอยการรื้อค้นสิ่งของจนกระจัดกระจาย เดินออกไปบริเวณด้านหลังบ้านเป็นระเบียงไม้ไผ่ยื่นออกไปชมวิวแมกไม้และหมู่นกเกาะบนกิ่งไม้ร้องดังแซงแซ่ ก้มมองลงด้านล่างเกลื่อนไปด้วยขวดเหล้าเปล่าที่โยนทิ้งกระจัดกระจายแกมเศษก้นบุหรี่และซองทับถมกันไว้ หากที่นี่ได้รับการดูแลปัดกวาดและทำความสะอาดอย่างดี คงเป็นบ้านไม้ที่น่าอยู่มาก มาเฟียหนุ่มยืนสูบบุหรี่นอกระเบียงเพื่อตั้งหลักก่อนจะจัดการช่วยเหลือเธอและลูก ควันเทาลอยคลุ้งจนหมดมวน จะโยนทิ้งรวมเป็นหนึ่งในร้อยๆชิ้นที่เกลื่อนด้านล่างก็กระไรอยู่จึงเอื้อมมือเด็ดใบไม้ขนาดเท่าฝ่ามือห่อก้นบุหรี่และยัดเข้ากระเป๋ากางเกง เสียงร้องไห้ของเอเดนดังลั่นบ้านจนเขาต้องรีบสาวเท้าเข้าไปดู “ฟู่วว เอาไงดีวะเนี่ย” มาเฟียหนุ่มตัดสินใจอุ้มทารกน้อยออกจากอกแม่ และกลั้นลมหายใจจนหน้าแดงก่ำจนวางลงนอนเปลจึงได้ยืดตัวตรงพ่นลมหายใจเจือกลิ่นบุหรี่ออกมา “ชู่ว ไม่เอาไม่ร้องนะเอเดน” แต่ดูเหมือนว่าทารกน้อยจะไม่ชอบเสียงเขาสักเท่าไหร่ ยิ่งกล่อมเอเดนยิ่งตะเบงเสียงแข่ง “อื้อ .. เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกที ไกวเปลกล่อมเค้าแทนฉันด้วยนะ วันนี้ฉันไม่ไหวจริงๆ” เธอวานสามีเสียงเบาพลางพลิกกายนอนหงายดึงผ้าห่มขึ้นมาจนถึงคางเพราะหนาวจนตัวสั่น เธอไม่รู้ว่าชายคนนั้นไม่ใช่สามี ด้วยสถานที่ ความคุ้นชิน กลิ่นแวดล้อมที่คุ้นเคย และหัวใจปรารถนาจนสั่งการสมองว่าเป็นเขา สามีที่อาศัยอยู่กับเธอมาโดยตลอด ตลอดระยะเวลาห้าเดือนที่มีเอเดน เธอเลี้ยงลูกเองคนเดียวทุกอย่างไม่เคยได้รับการเอาใจใส่จากสามี เพราะเข้าใจว่าเขาอาจจะเหนื่อยกับงานที่ร้านซ่อมรถโดยแม่สามีเป็นคนจัดการลงทุนให้ทั้งหมด โจว์อาร์เรียนจบวิชาสาขาช่างยนต์ในเมืองไทยและพบกับเธอที่เรียนอยู่สถาบันเดียวกัน ทั้งสองคบกันเพียงปีเศษก็ต้องแต่งงานกันแบบเรียบง่ายและเธอซึ่งเป็นคนไทยแท้ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลมาอยู่กับสามีแม้มารดาที่เมืองไทยไม่ค่อยชอบลูกเขยคนนี้สักเท่าไหร่ ก็คงจะห้ามไม่ได้เพราะรู้ว่าลูกสาวรัก ชีวิตคู่ที่ลุ่มๆดอนๆทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการถูกดูหมิ่นเหยียดหยามจากฝั่งครอบครัวสามี เพราะเธอมีฐานะยากจนกว่าพวกเขา จนโจว์อาร์ตัดสินใจพาเธอมาอาศัยอยู่บนเขากันตามลำพังเพื่อตัดรำคาญ จะได้ไม่ต้องคอยรับฟังถ้อยคำต่างๆนาๆจากมารดาที่จงใจจะถากถางซารีนอยู่ตลอด และคำตัดพ้อของอีกฝั่งที่เข้าหูมาแทบทุกวัน แม้จะมีเอเดนเข้ามาเติมเต็มใช่ว่าโจว์อาร์จะเปลี่ยน ยังคงชอบดื่มเหล้าเมามายกับเพื่อนและกลับดึกแทบทุกวันโดยอ้างว่าอยากผ่อนคลายจากการทำงานหนัก เธอต้องคอยระแวดระวังอันตรายเพียงลำพังกลางป่าเขา หวังให้สามีเป็นที่พึ่งเวลาหวาดกลัว หากคืนไหนไฟดับ หรือคืนที่ฝนเทกระหน่ำก็ต้องพึ่งตนเอง เพราะเวลากลับมาโจว์อาร์จะทิ้งตัวนอนหลับไม่รู้เรื่อง วงจรชีวิตเธอก็ยังเจอแบบเดิมๆซ้ำๆ คงเข้มแข็งเกินไปจนเขาคิดว่าเธอสามารถอยู่ได้จึงขาดการเอาใจใส่และความห่วงใยจากสามี แต่วันนี้เธอกำลังถูกปรนนิบัติ ชักอยากจะป่วยแบบนี้ทุกวันเสียแล้วสิ “ขอบคุณนะ..” ฟรังค์โก เมแกน ยอมทำตามอย่างเงียบเชียบ ใบหน้าหล่อเข้มบิดเบี้ยวขณะถอดผ้าอ้อมให้ “หืม? ที่แท้ก็เป็นไอ้ตัวแสบน้อยนี่นา” เมื่อทราบว่าเด็กน้อยหน้าตาแป้นแล้นน่ารักเป็นทารกเพศชาย มือใหญ่ตบก้นนิ่มเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว หน้าตาบูดเบี้ยวเปลี่ยนเป็นยิ้มแฉ่งไกวเปลตามที่เธอสั่ง ไม่นานเสียงร้องก็ค่อยๆเบาแผ่วลง และหลับปุ๋ยไปในที่สุด “ฝันดีนะเจ้าหนูน้อย” เมื่อกล่อมเอเดนสำเร็จ ภารกิจต่อไปคือเธอ “เห้อ..” .. เขายืนเท้าสะเอวมองร่างบางนอนหมดสติอย่างคิดหนัก ก่อนทรุดนั่งลงข้างๆเอื้อมมือไปแตะหน้าผาก เธอไม่สบาย ตัวร้อนมาก ค้นหายาสามัญประจำบ้านก็ไม่พบ เจอเพียงตู้ไม้ขนาดกะทัดรัดติดบนผนังบ้าน แต่สภาพว่างเปล่าเหลือเพียงร่องรอยเม็ดยาหล่นลงพื้นน่าจะมีคนเก็บไปแล้วเผื่อได้ใช้ในช่วงเหตุการณ์เช่นนี้ หากพาเธอเดินลงเขาไปตอนนี้คงจะไม่ไหว กว่าจะกล่อมตัวแสบหลับได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ฉะนั้น ระหว่างรอให้เอเดนนอนเต็มตื่น เขาต้องช่วยให้อาการไข้เธอทุเลา จะได้มีแรงเดินลงเขาได้ “ซารีน ซารีน... ฉันจะเช็ดตัวให้เธอ” เขย่าร่างบางอย่างเบามือ “อื้ม..” เมื่อได้รับอนุญาต ร่างใหญ่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ฝ่ามือถูกันไปมากวาดสายตามองหาภาชนะต่างๆ “อ่าห์ เอาล่ะ ผ้า น้ำ ภาชนะ” เมื่อผ้าชุบน้ำหมาดวางทาบจากหลังมือลากไปถึงต้นแขน พลันขนลุกซู่ไปทั้งร่าง “อื้อ เช็ดเบาๆ ..หนาว” เขาตั้งใจเช็ดเพียงแขน ลำคอ และหน้า ไม่ควรถือวิสาสะไปล่วงล้ำบริเวณใต้ร่มผ้าเด็ดขาด! “จุๆๆ เจ็บจัง” เธอนิ่วหน้าส่งเสียงครางโอดโอยจนคนฟังทำหน้าเหลอหลา ..เป็นอะไรอีกล่ะเนี่ย อย่าบอกเชียวว่าให้เช็ดทั้งตัว “อื้อ นมคัดเต้า” “....!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD