เมื่อภาวัตเดินกลับเข้ามาภายในตัวร้านก็พบว่าหนูน้อยแพรวากำลังนั่งพูดคุยกับพนักงานในร้านที่ได้ยินมาว่าชื่อน้ำค้าง ชายหนุ่มมองไปยังเด็กหญิงร่างอวบอย่างพินิจจึงมั่นใจว่าใบหน้าของแพรวามีความคล้ายตนอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่อยากคิดเข้าข้างตนเองมากเกินไป เพราะเขากับพริมพิกามีความสัมพันธ์กันเพียงแค่ครั้งเดียว หากจะแจ็กพอตตั้งแต่ครั้งแรกก็คงจะเป็นไปได้ยาก
“จีบครูพริมเสร็จหรือยังคะคุณพี่ชาย” ริษาเอ่ยทักขึ้นเมื่อร่างสูงสมาร์ตเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ
“จีบเจิบอะไร แค่ไปคุยด้วยเฉยๆ” คนถูกจับผิดรีบแก้ตัวทันที
“จ้า ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่อย่าลืมนะคะว่าครูพริมมีครอบครัวแล้ว พี่ภีมอย่าไปยุ่งกับคนมีครอบครัวแล้วสิ” คนเป็นน้องพูดขึ้นเพื่อเตือน จริงอยู่ว่า เธออยากให้พี่ชายเป็นฝั่งเป็นฝาสักที แต่ก็ไม่อยากให้เขาต้องทำผิดศีลธรรม
“สามีของพริม เขาเสียไปแล้ว” ภาวัตพูดขึ้นมาเพื่อยืนยันเจตนาของตนเองให้น้องสาวรู้ว่าเขาไม่คิดที่จะแย่งผู้หญิงของใครแน่นอน
“นั่นแน่ แล้วบอกว่าไม่สนใจ พอรู้ว่าสามีเขาเสียแล้วก็แอบมีความหวังใช่ไหมล่ะ” ริษาอดแซวไม่ได้ เมื่อมองเห็นว่าอีกฝ่ายเอาแต่ทำตัวเลิ่กลั่ก
“เออน่า” เขาไม่ตอบ ได้แต่มองไปยังแพรวาด้วยความสงสัย
จังหวะนั้นก็มีชายหนุ่มแต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงสแล็กส์สีดำ ถือดอกไม้ช่อโตพร้อมถุงบางอย่างเดินเข้ามาภายในร้าน ด้วยความสูงที่น่าจะราวๆ หนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตรทำให้ผู้คนในร้านรวมถึงสองพี่น้องต้องหันไปมอง ภาวัตยอมรับว่าขนาดเขาเป็นผู้ชายด้วยกันยังรู้สึกว่าคนคนนี้ดูดีมากทีเดียว
“ลุงปกรณ์ขา สวัสดีค่ะ” แพรวารีบวิ่งมาหาชายหนุ่มที่ชื่อ ‘ปกรณ์’ ด้วยความสนิทสนม
“สวัสดีจ้ะแพรวา นี่ลุงเอาคริสปี้โดนัทมาฝากด้วยนะ”
ปกรณ์ยื่นขนมให้เด็กน้อยพร้อมกับลูบศีรษะด้วยความเอ็นดู แน่นอนว่าการกระทำทั้งหมดอยู่ในสายตาของภาวัต
“ขอบคุณค่ะ วันนี้ หนูกินขนมของพี่ๆ นักเรียนคุณแม่เยอะมากเลย แต่หนูก็เก็บท้องไว้กินขนมของลุงปกรณ์ด้วย” เด็กหญิงพูดอย่างเอาอกเอาใจ จนปกรณ์อดหัวเราะด้วยความเอ็นดูไม่ได้
“ว้าว ลุงดีใจจังเลยครับคนเก่ง ว่าแต่แม่พริมของหนูอยู่ไหนจ๊ะ?” เขาพูดพลางกวาดสายตามองหาพริมพิกาทั่วร้าน แต่กลับไม่พบหญิงสาว
“คุณพริมอยู่หลังร้านค่ะคุณปกรณ์” น้ำค้างเป็นคนตอบขึ้น
“อ๋อ ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมขอตัวไปหาคุณพริมก่อนนะ” ปกรณ์พูดพร้อมกับส่งยิ้มให้น้ำค้างและแพรวาด้วยท่าทีเป็นกันเอง ซึ่งก็ดูคุ้นเคยกับคนที่นี่เสียจนคนที่ยืนมองอยู่รู้สึกไม่ชอบขึ้นมาเฉยๆ
“หนูไปด้วยค่ะ” พูดจบ หนูน้อยร่างอวบก็รีบวิ่งตามไปติดๆ ท่าทางสนิทสนมกัน
และการกระทำของแม่หนูแพรวาตัวอวบๆ นั่นก็ทำให้ภาวัตใจเต้นแรงขึ้นมาทันที ทำไมเขาไม่ชอบไอ้หมอนั่นเลย เขามั่นใจว่าผู้ชายที่ชื่อ ‘ปกรณ์’ ต้องมีความพิเศษกับพริมพิกาและลูกสาวอย่างแน่นอน
“เพิ่งรู้นะครับว่า ที่ร้านของคุณพริมนอกจากจะเปิดเป็นร้านอาหาร เป็นโรงเรียนสอนทำอาหาร แล้วยังเป็นร้านขายดอกไม้อีก” ไม่ปล่อยให้ตัวเองสงสัยนาน ร่างสูงสมาร์ตรีบเดินไปหาน้ำค้างทันที
“อุ๊ย ไม่ใช่หรอกค่ะ จริงๆ แล้วคุณปกรณ์ก็เป็นนักเรียนของครูพริมนี่แหละค่ะ” น้ำค้างพูดขึ้น แต่แววตาดูเป็นประกายเสียจนภาวัตดูออกว่าปกรณ์คงไม่ใช่นักเรียนธรรมดาแน่ๆ
“งั้นเหรอครับ ดูท่าทางแล้ว เขาไม่น่าจะสนใจเรื่องทำอาหารเท่าไรนะ”
ถ้าบอกว่าไอ้หมอนี่ชอบเทรดหุ้นคงไม่แปลก แต่มาเรียนทำอาหารจะไม่ให้สงสัยได้อย่างไร แน่นอนว่า ภาวัตยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้รู้ความจริงเกี่ยวกับพริมพิกา ใครจะว่าเป็นพวกชอบสอดรู้สอดเห็นก็ยอม
“จริงค่ะ ว่าก็ว่าเถอะค่ะ น้ำค้างว่าคุณปกรณ์มาจีบครูพริมมากกว่า นี่ขนาดวันนี้ไม่มีเรียนนะคะ ยังแวะมาเลย เอาดอกไม้มาให้อีก ซื้อขนมมาให้หนูแพรวาไม่เคยขาด เอาใจลูกสาวแบบนี้ ดูก็รู้ค่ะว่าจีบครูพริม” เด็กสาวพูดด้วยความมั่นอกมั่นใจ เพราะจริงอย่างที่ภาวัตพูด ว่าคนอย่างปกรณ์ดูท่าทางไม่น่าสนใจเรื่องทำอาหาร แท้จริงแล้ว จุดประสงค์ฝ่ายนั้นคงมาเพื่อจีบครูสอนทำอาหารเสียมากกว่า
“แล้วครูพริมเขาสนใจไหมล่ะ” ภาวัตเอ่ยถามด้วยความไม่ชอบใจนัก
“น้ำค้างก็ไม่แน่ใจหรอกค่ะ แต่จะว่าไปก็ดีนะคะ ครูพริมจะได้ไม่ต้องเหนื่อย เลี้ยงน้องแพรวาคนเดียวแถมร้านก็ต้องดูแลคนเดียว ไหนจะสอนนักเรียนอีก ตั้งแต่รู้จักครูพริมมาก็ไม่เคยเห็นเธอมีแฟนเลยค่ะ ถ้าตกลงคบกับคุณปกรณ์ก็จะมีคนดีๆ คอยดูแล เป็นแบบนั้นก็คงจะดี ครูพริมลำบากมามากแล้วค่ะ”
น้ำค้างอดชื่นชมในความขยันและสู้ของครูสาวไม่ได้ แม้จะตัวคนเดียวไร้สามีแต่พริมพิกาก็สู้ไม่ถอย ยอมทำงานหนักเพื่ออนาคตที่ดีของแพรวา
“งั้นเหรอ แล้วไม่มีใครเคยเห็นสามีของครูพริมที่เสียชีวิตไปแล้วเลยเหรอ?” ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย เพราะอย่างน้อยน้ำค้างอาจจะรู้เรื่องราวก็เป็นได้
“อะแฮ่ม สนใจเรื่องครูพริมจังเลยนะคะ” ริษาอดไม่ได้จึงเดินตามพี่ชายมาพูดคุยกับน้ำค้าง
“อย่าขัดน่า” ภาวัตพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าน้องสาวตัวดีไม่เลิกแซวสักที
“ไม่มีใครเคยเห็นหรอกค่ะ อีกอย่าง น้ำค้างก็ไม่กล้าถามด้วย กลัวว่าจะเป็นเรื่องสะเทือนใจครูพริมน่ะค่ะ” เด็กสาวพูดพร้อมทำหน้าเจื่อนๆ ทันที
“งั้นเหรอ…อืม ขอบคุณมากนะครับ ไว้ยังไงเรื่องเรียนตกลงตามนี้ เดี๋ยวผมจะให้ยายน้องสาวตัวแสบมาเริ่มเรียนตั้งแต่พรุ่งนี้เลย” พูดพร้อมหันไปมองที่ริษา
“พรุ่งนี้เลยเหรอคะ?” ริษาตกใจทันที เพราะคิดว่าตนเองจะได้มีเวลาเที่ยวต่ออีกนิด
“ใช่” ตอบน้องแล้วหันไปหาคนที่สนทนาด้วยก่อนหน้า “ฝากด้วยนะครับน้ำค้าง”
ภาวัตพูดจบเท่านั้นก็จูงมือน้องสาวออกจากร้านไปทันที