บทที่ 3 : ชนวนเหตุ 1

1155 Words
สามเดือนต่อมา “ยินดีต้อนรับนักศึกษาใหม่สู่รั้วมหาวิทยาลัยอย่างเต็มตัวครับ” อันเดรียกล่าวพร้อมยื่นช่อดอกไม้ซึ่งเป็นกุหลาบสีชมพูให้กับสาวน้อยที่วันนี้อยู่ในชุดนักศึกษาปีหนึ่ง สลัดภาพเด็กสาวมัธยมถักผมเปียมาเป็นรวบผมยาวสีดำขลับไว้ทางด้านหลังเป็นหางม้า ดูสวยใสตามแบบฉบับน้องใหม่ “ขอบคุณค่ะพี่อัน” วันใหม่เอ่ยขอบคุณขณะรับช่อดอกไม้มาถือไว้พร้อมสุดดมเข้าเต็มปอดด้วยท่าทางชื่นใจ “ขอให้สนุกกับการเรียนวันแรกนะ ไว้ถึงเที่ยงพี่จะมารับไปทานข้าว” “ค่ะ…บาย” สาวน้อยบอกก่อนจะโบกมือลา แต่ยังไม่ทันเดินจากไปก็ต้องขมวดคิ้วขึ้นเมื่อเสียงทุ้มเรียกทักไว้เสียก่อน “พี่ขออะไรหนูอย่างได้ไหม” “อะไรคะ?” “อย่าไปยิ้มแบบนี้ให้ใครนะ พี่หวง” สีหน้าและแววตาจริงจังของอันเดรียทำให้สาวน้อย ต้องกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ไม่ให้หลุดออกมา เพราะเกรงอีกฝ่ายจะเคืองเอา “หนูจะพยายามค่ะ” ตอบก่อนจะหันหลังเดินจากไปพร้อมร้อยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าอย่างไม่อาจห้ามมันได้ ณ ตึกคณะแพทย์ “เลิกยุ่งกับนาได้ไหมคะพล นาบอกแล้วไงคะว่าเราเลิกกันแล้ว ไม่เข้าใจหรือไง” นักศึกษาสาวในชุดเสื้อกาวน์สีขาวเรียบสะอาดตา ซึ่งแตกต่างจากใบหน้างามที่ยับยุ่งของเธอตอนนี้อย่างสิ้นเชิง “แต่ผมรักคุณนะนาริน” ชายหนุ่มที่มีนามว่าพลคุกเข่าอ้อนวอนพยายามคว้าขาเล็กไม่ยอมให้เธอเดินจากไป แต่หญิงสาวไม่ทนยืนให้อีกฝ่ายแตะต้องขาสวยๆของเธอจึงถอยห่างออกมา “แต่ฉันหมดรักคุณแล้ว เลิกยุ่งกับฉันสักที” พูดจบก็สะบัดตูดเดินหนีไม่สนอีกฝ่ายอีก เป็นจังหวะเดียวกับที่อันเดรียเดินออกจากห้องน้ำมาจ๊ะเอ๋พอดี “อ่าว…อันเดรีย” ใบหน้าหวานบึ้งตึงเมื่อกี้รีบปรับเปลี่ยนเป็นสีหน้ายิ้มหวานแทน เมื่อเจอหน้าคนที่เธอแอบชอบมานาน “ครับ” ชายหนุ่มเพียงพยักหน้าทักแล้วมองไปทางชายหนุ่มอีกคนที่นั่งร้องให้ฟูมฟายราวกับคนเสียสติ “เกิดอะไรขึ้นกับเธอสองคน” ใครๆในคณะต่างรู้ดีว่าทั้งสองคบหาดูใจเป็นแฟนกันมานานแล้วตั้งแต่สมัยอยู่ปีหนึ่ง จึงไม่แปลกที่ชายหนุ่มจะสงสัยว่าทั้งสองทะเลาะกันตามประสาคนรัก แต่เห็นสภาพของอีกฝ่ายตอนนี้เหมือนจะไม่ใช่การทะเลาะธรรมดาเสียแล้ว “เราเลิกกันแล้วค่ะอัน” นารินยักไหล่ตอบอย่างไม่ใส่ใจ พร้อมปรายตามองสภาพของคนรักเก่าด้วยหางตา “อาการหนักอยู่นะ ไม่คิดจะไปปลอบใจก่อนเหรอ” อันเดรียเอ่ยถาม แม้จะไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านแต่เห็นสภาพของเพื่อนร่วมรุ่นอาการหนักก็อดเห็นใจไม่ได้ “ไม่ดีกว่าค่ะ ยิ่งคุยก็ยิ่งไม่รู้เรื่อง ปล่อยไว้แบบนี้แหละดีแล้ว” หญิงสาวปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยก่อนจะหันมาทางอันเดรียพร้อมกับคว้าแขนอีกข้างของเขามาเกาะไว้อย่างถือวิสาสะ และดูเหมือนอันเดรียจะรู้ทัน “หวังว่าเธอจะไม่คิดทำท่าสนิทกับฉันเพื่อประชดแฟนเก่าเธอหรอกนะ” “ใครจะไปคิดแบบนั้นละคะอัน ไปกันเถอะค่ะ วันนี้เรามีแลป” เมื่อถูกฉุดดึงให้เดิน อันเดรียก็จำใจเดินตามหญิงสาวพลางคิดในใจว่าคนอกหักก็คงต้องใช้เวลาทำใจ หรืออยู่คนเดียวเงียบๆสักพัก ถึงแม้เขาจะไม่เคยอกหักมาก่อนก็เถอะ เพราะสำหรับเขาแล้วไม่ว่าจะคบกับผู้หญิงมากี่คน เขาก็เป็นฝ่ายบอกเลิกพวกหล่อนทุกราย “ปล่อยแขนผมได้แล้ว ผมต้องไปเปลี่ยนเสื้อกาวน์” ชายหนุ่มบอกเธอพร้อมกับแกะมือเล็กออกจากแขนของเขาเมื่อมาถึงหน้าห้องแลป ซึ่งเจ้าหล่อนก็ยอมปล่อยโดยดี แต่ก็มิวายเอ่ยขอ “อันเดรียคะ วันนี้ฉันขอทำแลปคู่กับคุณได้ไหมคะ” “เอาสิ ไม่มีปัญหา” ตอบอย่างไม่ใส่ใจเพราะสำหรับเขาแล้วไม่เคยมีปัญหากับคู่ทำแลป ไม่ว่าจะเป็นการทำแลปคู่หรือทำคนเดียวก็ได้ทั้งนั้น เพราะตำราที่เขาท่องมาจำได้แม้กระทั่งรายละเอียดเล็กน้อยเรียกได้ว่าเก็บทุกรายละเอียดโดยไม่จำเป็นต้องมีคู่ช่วยจำ “งั้นเดี๋ยวฉันขอไปเตรียมอุปกรณ์ก่อนนะคะ” หญิงสาวบอกด้วยท่าทางดีอกดีใจ เพราะนั่นเข้าทางเธอเลย ตลอดเวลาที่ทำแลปด้วยกันนารินคอยลอบมองชายหนุ่มเป็นระยะๆ จนแทบจะจำอะไรที่ท่องมาไม่ได้ พอลงมือจริงเธอก็ทำผิดบ้างถูกบ้างแต่อันเดรียก็ไม่ได้บ่นว่าอะไรแถมยังคอยแก้ความผิดพลาดให้ตลอด และดูเหมือนว่าตอนนี้เขาเริ่มจะหมดความอดทนเลยเอ่ยเตือนเธอ “ชีวิตคนสำคัญมากนะ ถ้ายังไม่พร้อมก็ออกไปก่อนก็ได้” คำตำหนิตรงๆอย่างไม่คิดอ้อมค้อมให้เสียเวลา ทำให้นารินรู้สึกหน้าชาวาบด้วยความอับอาย “ขอโทษค่ะ ฉันจะพยายามแก้ไขค่ะ” “ชดใช้โทษโดยการเลิกมองผมแล้วตั้งสติก็พอ” อันเดรียกล่าวขณะที่กำลังเพ่งเล็งมองร่างอาจารย์ใหญ่ที่ตัวเองลงมือผ่าโดยไม่เงยหน้ามองอีกฝ่าย ซึ่งประโยคของเขาบ่งบอกชัดว่าเขารู้ตัวมาตลอดว่าถูกแอบมอง หลังการทำแลปผ่าร่างอาจารย์ใหญ่เสร็จสิ้นลง นักศึกษาก็แยกย้ายกันออกจากห้อง ส่วนอันเดรียนั้นก็รีบเดินออกจากตึกเพราะนาฬิกาตอนนี้บ่งบอกว่าสิบเอ็ดโมงสี่สิบนาทีแล้ว และเที่ยงนั้นเขามีนัดทานข้าวกับสาวน้อยหวานใจ แต่ยังไม่ทันควบมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ออกจากตึก นารินที่วิ่งตามมาก็เรียกทักไว้เสียก่อน “เดี๋ยวก่อนค่ะอัน” “มีอะไรอีก” ชายหนุ่มหันมาถามหญิงสาวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด มองคนที่หายใจเหนื่อยหอบเพราะวิ่งตามเขามาไกลด้วยสายตาขุ่นๆ “เที่ยงนี้เราไปทานอาหารด้วยกันไหมคะ” “ผมมีนัดแล้ว ขอตัวก่อน” อันเดรียปฏิเสธอย่างไม่ลังเลพร้อมขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้อีกฝ่ายมองตามหน้าเหวอ คิดไม่ถึงว่าจะถูกปฏิเสธแบบนี้ แต่นั่นก็ไม่ทำให้หญิงสาวละความพยายาม เธอจะต้องรู้ให้ได้ว่าเขานัดกับใครเอาไว้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD