วันใหม่ลงจากรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่เมื่อรถจอดสนิทลง หลังจากที่ถอดหมวกกันน็อกส่งคืนเจ้าของแล้ว สาวน้อยก็เลิกคิ้วขึ้นสูงเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“พี่อันพาหนูมาที่ไหนคะเนี่ย นี่มันไม่ใช่บ้านหนูสักหน่อย”
“บ้านพี่เอง ดึกมากแล้วคืนนี้นอนนี่แล้วกัน ไว้พรุ่งนี้เช้าพี่จะไปส่ง"ชายหนุ่มบอกขณะที่เหวี่ยงขายาวๆลงจากมอเตอร์ไซค์คันใหญ่เตรียมตัวเดินเข้าบ้าน
“แต่…"สาวน้อยทำท่าลังเล และดูเหมือนเขาจะรู้ทันเลยชิงเอ่ยขึ้นมาก่อน
“ไม่ต้องห่วงว่าพี่จะทำอะไรมิดีมิร้ายหรอก บ้านนี้มีคุณยายอยู่ด้วย เดี๋ยวพี่จะให้คุณยายโทรเคลียร์กับแม่เราเอง เข้าบ้านได้แล้ว”
บอกเสร็จก็คว้าข้อมือเล็กจูงเข้าบ้านโดยไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ปฏิเสธอีก สาวน้อยเลยได้แต่เดินตามเงียบๆพลางกวาดสายตาสำรวจบ้านไม้หลังเล็กที่ภายในดูสะอาดตา ข้าวของถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ บ่งบอกถึงการดูแลเอาใจใส่ของเจ้าของบ้านเป็นอย่างดี
“พี่อันพาหนูมาบ้านดึกๆแบบนี้ แล้วคุณยายท่านจะไม่ว่าเอาเหรอคะ”
เสียงหวานเอ่ยถามด้วยความรู้สึกเกรงอกเกรงใจที่มารบกวนเวลาของท่านดึกๆแบบนี้ และยิ่งไม่เคยเจอหน้าก็ยิ่งรู้สึกกังวล เพราะไม่รู้ว่าคุณยายของเขาจะดุหรือเปล่า
“ไม่ว่าหรอก”
คำตอบสั้นๆ แต่พาให้อีกฝ่ายคิดไปไกล
‘สงสัยพาผู้หญิงเข้าบ้านตอนดึกๆบ่อยละสิท่า’
“พี่ไม่เคยพาสาวเข้าบ้าน หนูเป็นคนแรกและพี่ก็หวังว่าคุณยายจะเข้าใจ”
ดูเหมือนเขาจะรู้ทันความคิดของเธอไปเสียหมด แต่กระนั้นคำบอกเล่าของเขาก็ทำให้สาวน้อยรู้สึกตกใจและกังวลหนักกว่าเดิม
“ตายจริง…แล้วแบบนี้ถ้าคุณยายถามถึงความสัมพันธ์ของเรา หนูจะตอบท่านว่ายังไงละคะ”
วันใหม่ไม่อยากถูกมองไม่ดี เพราะเธอเป็นผู้หญิง มากับผู้ชายดึกๆแบบนี้เกรงว่าคุณยายท่านจะดุเอา แต่ชายหนุ่มกลับยักไหล่พลางเอ่ยอย่างหน้าตาเฉย
“ก็บอกไปสิ ว่าเป็นเด็กพี่”
“พี่อัน หนูไม่ได้ล้อเล่นนะ หนูซีเรียสจริงๆ”
“พี่ก็ซีเรียส เพราะตอนนี้พี่กำลังรออยู่ว่าหนูจะตอบตกลงเป็นแฟนกับพี่หรือเปล่า”
อันเดรียหยุดเดิน พร้อมหันมาเผชิญหน้าแล้วเอนหลังพิงผนังบ้านในท่าทางสบายๆ แต่ยังคงจับมือเธอไว้แน่นไม่ยอมปล่อย แม้จะเป็นประโยคที่หลุดออกมาจากปากง่ายๆ แต่น้ำเสียงบ่งบอกชัดว่าเขาไม่ได้พูดเล่น ทำเอาคนถูกขอเป็นแฟนดื้อๆ ถึงกับอ้าปากค้างทำอะไรไม่ถูกอยู่ครู่หนึ่ง
“แก้มแดงๆแบบนี้ สรุปตกลงหรือเปล่าคะ”
คำถามนุ่มๆพร้อมแววตาหวานเชื่อมทำให้คนถูกถามถึงกับเปลี่ยนอารมณ์ไม่ทัน
“พี่อัน…อย่าล้อเล่นกับหนูได้ไหมคะ”
“เคยเห็นพี่ล้อเล่นด้วยเหรอ?”
อันเดรียย้อนถามพร้อมเชยคางมนให้เงยขึ้นมาสบตาคู่คมของเขา และสายน้อยก็ได้เห็นความจริงใจในแววตาคมกริบนั้น ทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นรัวจนแทบจะทะลุออกมาจากอก
“แต่…เรายังรู้จักกันไม่นานนะคะ”
“ไม่นานแต่สนิทมากกว่าใคร หรือหนูจะปฏิเสธว่าไม่มีความรู้สึกดีๆกับพี่”
“พี่อัน! หลงตัวเอง”
สาวน้อยต่อว่าด้วยท่าทางเขินอายพร้อมเมินไปทางอื่นเพราะไม่อาจต้านทานเสน่ห์รุนแรงของหนุ่มนักศึกษาแพทย์เจ้าของใบหน้าหล่อใสนี้ได้ เขาพูดถูกเธอมีความรู้สึกดีให้เขาซึ่งความรู้สึกแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเพศตรงข้ามคนไหนมาก่อน
แต่มันจะเร็วไปไหมถ้าเธอจะไปบอกกับพ่อแม่ว่าเธอมีแฟนแล้วทั้งที่ยังไม่ได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่งเลยด้วยซ้ำ คิดแล้วก็พลอยทำให้รู้สึกกังวลและลังเลที่จะตกปากรับคำอีกฝ่าย
“ถ้ากลัวพ่อแม่ว่าก็หายห่วงเลย เพราะพี่แค่อยากปกป้องหนู ไม่ได้คิดจะล่วงเกินหนูก่อนเวลาอันควร แล้วพี่ก็จะไปคุยเรื่องนี้กับท่านทั้งสองอีกที”
รู้ความคิดเธอเสียจนหมดแบบนี้ เด็กสาวไร้เดียงสาผู้ไม่เคยมีประสบการณ์ความรักอย่างเธอจะปฏิเสธได้ยังไงกัน
“งั้นพี่อันก็ไปขอคุณพ่อคุณแม่ก่อนสิ แล้วหนูค่อยตอบ”
“โอเค ไม่มีปัญหา”
ชายหนุ่มเอ่ยพลางระบายยิ้มออกมาอย่างพอใจ มือใหญ่ยกขึ้นมาขยี้ผมสาวน้อยด้วยความเอ็นดู
‘ดูเอาเถอะเขินจนทำอะไรไม่ถูกแล้วยังมาต่อรองอีก’
“ตอนนี้คุณยายคงหลับไปแล้ว ไว้พรุ่งนี้ค่อยคุยกับท่านนะ หนูขึ้นไปนอนห้องพี่ก่อน อยู่ขวามือ ประตูไม่ได้ล็อก เดี๋ยวพี่จะนอนข้างล่าง ถ้ามีอะไรเรียกได้ตลอดเวลา”
“ค่ะพี่อัน”
วันใหม่รับคำอย่างว่าง่าย เพราะเธอไม่รู้จะพูดอะไรดีกว่าคำนี้แล้ว เกรงว่าหากอยู่ต่อหน้าเขานานกว่านี้เธอจะถูกหลอมละลายให้กลายเป็นจุณ
“กู๊ดไนท์ครับคนดี”
บอกก่อนที่จะเห็นแก้มขาวเนียนเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย เพราะน่ารักแบบนี้ไงเขาถึงชอบแกล้งเจ้าหล่อนบ่ายๆ เวลาเห็นเธอหน้าแดงๆแล้วรู้สึกสนุกอยากแกล้งเธอตลอดเวลา อันเดรียยืนพิงผนังมองร่างอรชรที่ก้าวขึ้นบันไดด้วยความเอ็นดู