และถูกจุมพิตไล้จากปากเล็กลงมาหาซอกคอก็อดที่จะหวั่นไหวไม่ได้ จึงใช้ฝ่ามือเล็กของตนมาจับประคองใบหน้าของท่านอ๋องเจ็ดไว้และลืมตาขึ้นมาดูว่าท่านอ๋องเจ็ดนั้นให้การรักษากับตนอย่างไรกันแน่ แต่เมื่อลืมตาขึ้นมาดูแล้ว สิ่งแรกที่เสี่ยวชิงพบเข้ากลับเป็นใบหน้าที่ตกตะลึงเป็นอย่างมากของเสี่ยวลู่ จึงได้บอกกับคนตัวโตตรงหน้าไปว่า “ขอท่านอ๋องโปรดหยุดการรักษาให้หม่อมฉันก่อนได้หรือไม่เพคะ เสี่ยวลู่ดูคล้ายมีเรื่องจะกราบทูลท่านอ๋องเพคะ” เมื่ออ๋องเจ็ดได้ยินดังนั้น จึงหยุดจุมพิตซอกคอขาวของเสี่ยวชิงอย่างอ้อยอิ่ง พร้อมทั้งลุกขึ้นยืนและหันหน้ามาตรัสกับเสี่ยวลู่ว่า “เจ้าแอบลักลอบเข้ามาสอดแนมในห้องของเปิ่นหวางโดยไม่ให้สุ้มให้เสียงเช่นนี้ เกรงว่าวันนี้โทษหนักคงต้องตกใส่เจ้าเสียแล้วเสี่ยวลู่เอ๋ย” “ขอพระราชทานอภัยให้กระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง ที่กระหม่อมรีบร้อนเข้ามาเช่นนี้ เพราะมีเรื่องสำคัญจะกราบทูลให้ท่านอ๋องทรง