“พี่สี่” ในที่สุดอ๋องเจ็ดจงไท่หยางก็เป็นฝ่ายทนไม่ไหวเอ่ยขึ้นมาก่อนว่า “พี่สี่คิดว่าจะทำเช่นไรต่อไปดีหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
“ข้าว่าจะออกราชโองการให้คนที่เกิดวันที่แปดเดือนขึ้นแปดค่ำ ปีทู่เหนียนให้แต่งงานกับเจ้าไปเลยอย่างไรเล่า เจ้าจะได้หายจากอาการปวดหัวเสียที” ฮ่องเต้จงไท่หยวนตรัสขึ้น
“พี่สี่ หากคนที่เกิดวันที่แปดเดือนแปดขึ้นแปดค่ำปีทู่เหนียนมีกันมากมายเป็นร้อยเป็นพันคนข้าจะมิได้แต่งกับพวกนางทั้งหมดหรอกหรือพ่ะย่ะค่ะ?” อ๋องเจ็ดจงไท่หยางเอ่ยขึ้นอย่างใช้ความคิด
“จริงของเจ้านะน้องเจ็ด ถ้าเช่นนั้นใยเจ้าไม่ลองเสนอวิธีดี ๆ มาให้ข้าพิจารณาดูบ้างเล่า”
“ข้าว่าน่าจะให้พวกนางมารวมตัวกันที่วังหลวงด้วยการทำงานอะไรสักอย่างบังหน้า แล้วข้าค่อยแอบเฝ้ามองดูพวกนางแต่ละคนว่าคนใดที่อยู่ใกล้ชิดกันกับข้าแล้วทำให้อาการปวดหัวของข้าลดลงครึ่งหนึ่ง คนนั้นน่าจะเป็นหวางเฟยของข้าที่ไต้ซือเมี่ยวซ่านให้คำพยากรณ์มาเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะพี่สี่”
“วิธีของเจ้านับว่าใช้ได้เลยทีเดียว แล้วเจ้าจะไม่กลับไปปกครองเมืองซีอันต่อหรอกรึน้องเจ็ด?”
“ให้น้องแปดไปปกครองเมืองซีอันแทนข้าชั่วคราวก็ได้นี่นาพี่สี่เพราะข้าจำเป็นต้องอยู่ตามหาหวางเฟยของข้าอย่างไรกันเล่าพ่ะย่ะค่ะ” อ๋องเจ็ดจงไท่หยางตอบพร้อมกับทำหน้าเศร้า
“ทีอย่างนี้เจ้าอยากจะมีหวางเฟยแล้วเช่นนั้นรึ ก่อนหน้านี้เจ้ายังบอกกับข้าว่ายังไม่พบเจอคนที่รู้ใจอยู่เลย”ฮ่องเต้จงไท่หยวนตรัสขึ้นยิ้ม ๆ
“พี่สี่ล่ะก็ ข้าก็อยากหายจากอาการปวดหัวนี่พ่ะย่ะค่ะ”
“เอาละ ถ้าเช่นนั้นข้าจะออกราชโองการให้ผู้ที่เกิดวันที่แปดเดือนแปดขึ้นแปดค่ำปีทู่เหนียน (รับเฉพาะหญิงสาวผู้ที่ยังไม่ได้แต่งงานและยังเป็นสาวบริสุทธิ์อายุไม่เกินยี่สิบปีเพียงเท่านั้น) เข้ามารายงานตัวในวังหลวงเพื่อทำหน้าที่ต่าง ๆ ในวังหลวงเป็นระยะเวลาสักครึ่งปีก็แล้วกันนะ”
ฮ่องเต้จงไท่หยวนตรัสขึ้น
“หากมีคนถามว่าทำไมถึงต้องเลือกเฉพาะเจาะจงแค่หญิงสาวที่เกิดวันเดือนปีนี้เท่านั้นเล่าพ่ะย่ะค่ะ พี่สี่จะตอบไปว่าอย่างไร?” อ๋องเจ็ดจงไท่หยาง กล่าวถามลองเชิง
“ข้าก็จะตอบไปว่านี่เป็นลิขิตของสวรรค์ เมื่อทุกคนทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้าจะมีของรางวัลตอบแทนให้อย่างงามเช่นไรกันเล่า”
“ทรงพระปรีชายิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ” อ๋องเจ็ดจงไท่หยางพูดขึ้นพร้อมกับยกมือขึ้นคำนับ
เช้าวันรุ่งขึ้น.....
องค์ฮ่องเต้จึงออกราชโองการให้คนที่เกิดวันที่แปดเดือนแปดขึ้นแปดค่ำปีทู่เหนียนเข้ามารายงานตัวที่วังหลวงภายในอีกสามวันข้างหน้าไม่เกินยามซื่อ (เวลา 09.00น.) หากผู้ใดขัดขืนราชโองการผู้นั้นมีโทษถึงตายประหารเก้าชั่วโคตรโดยไม่มีข้อยกเว้นขันทีต่างนำราชโองการแจ้งไปทั่วทั้งเมืองหลวงไม่เว้นแม้แต่จวนขุนนาง จนสร้างความสงสัยให้เกิดขึ้นไปทั่ว
โดยเฉพาะสกุลเซี่ยที่ดันมีบุตรีที่มีความงามเป็นเลิศดั่งโฉมสะคราญล่มเมือง ซึ่งในอีกหกเดือนข้างหน้านี้นางจะถึงวัยปักปิ่นออก