ตอนที่ 4
จินหมี่ที่เดินเข้ามาในร้าน เมื่อเห็นเพื่อนสาวคนสนิทอย่างน้ำหนาว และ ยูรุ่นพี่หนุ่มหล่อตาน้ำข้าวลูกครึ่งไทยอังกฤษ จึงโบกมือทักทาย ส่วนเฟิงเฮยที่เห็นว่ารุ่นพี่ของจินหมี่มองเมียตัวเองไม่วางตาทั้งที่เขาก็ยืนอยู่ จึงเปลี่ยนจากกุมมือเป็นโอบไหล่แทน
“อะไรเนี่ยเฟิง?”
“ไปที่โต๊ะกันเถอะจิน” เฟิงเฮยตีมึนไม่ตอบ จินหมี่ก็ไม่ได้อะไร เพียงแต่ส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอากับท่าทีหึงหวงของเฟิงเฮยเท่านั้น
“สวัสดีค่ะพี่เฟิงเฮย” น้ำหนาวยกมือขึ้นไหว้สามีของเพื่อนสนิทที่มีอายุมากกว่าตนอย่างรู้เกร็ง ๆ นิดหน่อย แม้ว่าสามีของเพื่อนจะเป็นกันเองกับเธอก็ตาม แต่ด้วยอายุที่น้อยกว่าและไม่เข้าขั้นสนิทสนมกันเธอจึงไม่ชิน
“ครับ” เฟิงเฮยตอบรับอย่างยิ้ม ๆ แล้วดึงหน้ากลับมาเรียบตึงตวัดสายตาเฉียบคมไปมองชายหนุ่มอีกคนที่นั่งอยู่ แสดงออกชัดเจนว่าไม่ชอบ “จินเอาอะไรครับ เฟิงไปสั่งให้”
“ชาไทยหวานน้อยค่ะ”
“ครับ”
“ไม่คิดว่าจะพกผัวมาด้วยนะยัยหมวย แถมยังใส่เสื้อคู่มาอีก~ กลัวคนไม่รู้หรือไงว่าเป็นอะไรกัน” น้ำหนาวว่าอย่างแซวไม่ได้จริงจังอะไร หลังจากเฟิงเฮยเดินไปสั่งเมนูที่เคาน์เตอร์
“ไม่ได้ตั้งใจพกมาหรอกแก ตาหล่อนั้นขอตามมาเอง”
“อวยผัวแล้วหนึ่งกุบ” น้ำหนาวเบ้ปากหมั่นไส้ แต่ฉุกคิดอะไรบางอย่างได้ จึงเลื่อนสายตาไปมองใบหน้าหล่อของรุ่นพี่หนุ่มที่กำลังยกกาแฟร้อนขึ้นจิบเพื่อดูปฏิกิริยา เพราะรู้ดีว่ารุ่นพี่หนุ่มคิดอย่างไรกับจินหมี่ แต่เจ้าของใบหน้าหล่อสไตล์ผู้ดีอังกฤษก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมาชัดเจน
“งานเป็นยังไงบ้างคะพี่ยู?” จินหมี่หันไปถามไถ่รุ่นพี่หนุ่ม เพราะเมื่อวันก่อนยูโทรมาปรึกษาเรื่องโครงสร้างคอนโด ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับเฟิงเฮยเดินกลับมาพอดี
“…” ยูเหล่ตามองชายหนุ่มที่ไม่ชอบหน้ากัน ซึ่งกำลังหย่อนสะโพกนั่งข้าง ๆ กั้นกลางระหว่างตน และ จินหมี่รุ่นน้องที่แอบรักมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยจนกระทั่งเธอแต่งงาน ตนก็ยังมีความรู้สึกดี ๆ ให้เธอเสมอและไม่คิดจะล้ำเส้น
“ผ่านฉลุย ขอบคุณนะจินถ้าไม่ได้เธอ พี่ก็คงแย่เหมือนกัน” เงียบไปไม่กี่อึดใจเดียวก็เอ่ยตอบคำถามที่จินหมี่ถาม
“ไม่เป็นไรค่ะ จินยินดี”
เฟิงเฮยถอนหายใจออกมาเสียงดัง เพราะไม่ชอบใจที่เมียตัวเองส่งยิ้มหวานให้ผู้ชายคนอื่น ทำให้คนในโต๊ะต่างหันไปมองเจ้าของใบหน้าถมึงทึงเป็นตาเดียว
“เป็นอะไรเฟิงถอนหายใจซะแรงเลย เกร็งใจเพื่อนจินบ้าง”
“เปล่า~” เฟิงเฮยกอดอกตอบเสียงสูงพลางเบนสายตามองไปทางอื่นทำไม่รู้ไม่ชี้ จินหมี่ถอนหายใจออกมาเบา ๆ พลางส่ายหน้าไปมาอย่างระอาเท่านั้น ซึ่งก็พอจะเดาสีหน้าเฟิงเอยออก
…
ใช้เวลาอยู่ในร้านคาเฟ่ได้ราว ๆ หนึ่งชั่วโมง เฟิงเฮยที่ได้แต่นั่งฟังบทสนทนาของสองสาว ก็ยกข้อมือที่สวมใส่นาฬิการาคาแพงขึ้นเพื่อดูเวลา เพราะรู้สึกเบื่อเป็นอย่างมาก พบว่าเข็มสั้นชี้เลขสองเข็มยาวชี้เลขสิบ แปลว่าอีกสิบนาทีจะเข้าบ่ายสามโมงเย็น
“จินกลับยัง?”
ประโยคคำถามของเฟิงเฮยทำให้จินหมี่ที่กำลังเม้ามอยส์กับเพื่อนสาวอย่างออกรสหยุดชะงัก ส่วนยูขอตัวกลับไปตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว
“อีกสิบนาทีเฟิง” จินหมี่ตอบแค่นั้นก็หันไปพูดคุยกับเพื่อนสาวต่อ เฟิงเฮยทำได้เพียงแต่ถอนหายใจออกมาหนัก ๆ เท่านั้นอย่างตามใจ และ ไม่สามารถรบเร้าให้คนรักกลับเดี๋ยวนั้นได้ เพราะเธอจะไม่กลับจนกว่าจะเม้ามอยส์กับเพื่อนสนิทจนหนำใจ
“…”
สามวันต่อมา
ปึก! ปึก! ปึก!
“อ๊า~ฟะ…เฟิงเบา ๆ อะ! จุก!” ร่างเล็กบนเตียงขนาดคิงไซซ์หน้าตาบิดเบ้เหยเกส่งเสียงประท้วงพลางใช้มือดันหน้าท้องที่เต็มไปด้วยลอนกล้าม หวังให้ร่างหนาตรงระดับสายตา ที่กำลังส่งตัวตนอันใหญ่ยักษ์ตอกอัดเข้าใส่รูรัก จังหวะหนักหน่วงและรุนแรง จนรู้สึกจุกท้องน้อยราวกับโดนต่อยท้อง ให้เบาแรงลง
“ทำไม่ได้จิน~” น้ำเสียงสั่นกระเส่าเอ่ย เอ็นใหญ่ถูกกายสาวที่ร้อนระอุ เพราะถูกใช้งานเป็นเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงตอดรัดถี่รัวไม่หยุด สร้างความรู้สึกดีเป็นอย่างมาก จนควบคุมจังหวะไม่ได้ มีแต่จะโหมแรงกายกระแทกกระทั้นให้หนำใจ
“…” จินหมี่ขยุ้มปลอกหมอนแน่น เพื่อระบายความรู้สึกที่ได้รับ ปล่อยให้ผู้เป็นสามีทารุณช่วงล่างต่อไปอย่างห้ามไม่ได้ แต่ถึงจะจุกแต่ก็เสียดเสียวถึงใจเช่นกัน
ปั่ก! ปั่ก! ปั่ก!
พับ!พับ!พับ!
“อ๊า ๆ อะ ๆ อ้า…เฟิง~” หน้าอกใหญ่เกินขนาดของจินหมี่กระเพื่อมไปพร้อมเรือนร่างที่พลิ้วไหว เมื่อถูกความเป็นชายอัดกระแทกเข้าใส่รูรักรัว ๆ จนเกิดเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังเคล้าไปกับเสียงครางหวาน ทำเอาเฟิงเฮยอดใจไม่ไหวโน้มตัวงับยอดปทุมถันที่ตั้งชูชัน
“อ้าอ่า~ ฟะ..เฟิงเสียวจัง…เฟิงอ๊า~”
“อื้ม~” เฟิงเฮยใช้ปลายลิ้นตวัดเลียยอดปทุมถันสลับกับดูดดุนอย่างดูดดื่ม มือหนาอีกข้างขย้ำเต้าอวบอั๋นนุ่มนิ่มราวกับฟองน้ำอย่างมันมือ จนเนื้อขาวปริปริ้นตามซอกนิ้ว ส่งผลให้ร่างเล็กใต้ร่างส่งเสียงครวญครางดังกว่าเดิมด้วยความเสียวซ่าน พลันแอ่นอกรับเรียวปากหนาตามอารมณ์ที่โหมกระพือ
จ๊วบ~
เฟิงเฮยผละเรียวปากออกจากยอดปทุมถันเลื่อนใบหน้าคมคายขึ้นไปประกบจูบกับจินหมี่โดยไม่สอดใส่ราวกับให้รางวัล แล้วดันตัวลุกขึ้นจับเอวคอดกิ่วมั่น
“ซี๊ด~รูจินยังแน่นเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนจริง ๆ เอามันฉิบ!” เพราะอย่างนี้ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ทำให้เขาติดใจ และ ไม่มีวันเบื่อหน่ายคือเมียรักคนนี้เท่านั้น
“พะ…พูดมาก” น้ำเสียงตะกุกตะกักเอ่ยว่าอย่างขวยเขินพลางกระเด้งสะโพกมนสู้กับแท่งร้อนอันใหญ่โอบอุ้มไปด้วยเส้นเอ็นความเป็นชายปูดนูนเป็นจังหวะ
“หึ วันนี้ทั้งวันจินไม่ได้ออกห้องแน่”
“คนหื่น~”
ปึก!
“อ๊ะ!” ใบหน้าจิ้มลิ้มบิดเบี้ยวครั้นถูกร่างหนากลั่นแกล้งอัดกระแทกเอ็นใหญ่เข้ามาในกายอย่างรุนแรงจนสุดลำโคน ส่งผลให้ปลายหัวเห็ดกระทุ้งถึงผนังมดลูกทำให้จุกอีกครั้ง
เพียะ!
จินหมี่ไม่รอช้าฟาดฝ่ามือหนักไปที่หน้าขาเฟิงเฮยทันทีทำเอาเจ้าตัวสะดุ้งเฮือก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่หยุดขยับสะโพก
“มือหนักอ่าจิน”
“สะ..สมน้ำหน้า”
“สมน้ำหน้าอย่างงั้นเหรอได้จิน คิดจะลองดีกับเฟิงใช่ไหม” เฟิงเฮยแกล้งใช้น้ำเสียงเข้ม แล้วโน้มตัวเข้าหาจินหมี่ขยับเอวสอบในจังหวะที่เร่าร้อนรุนแรงกว่าเดิมอย่างเป็นการปราบเมียรัก
“อ้า~คะ…คนบ้า เจ็บนะ!” จินหมี่จิกเล็บบนแผ่นหลังกว้างจนเกิดรอย เป็นการเอาคืน แต่ทว่าคนข้างบนกลับไม่สะทกสะท้านอะไรทั้งนั้น หนำซ้ำยังเร่งจังหวะเร็วกว่าเดิมจนเตียงนอนขยับ สร้างความรู้สึกมากมายปนเปกันไปหมด ทั้งเสียวทั้งเจ็บทั้งจุกจนต้องระบายด้วยการส่งเสียงครางดัง ๆ
“อ๊า~”
เฟิงเฮยดูดงับซอกคอขาวค่อนข้างแรงจนเกิดรอยคิสมาร์ก แต่ขณะเดียวกันสัมผัสได้ถึงแรงกระตุกถี่ ๆ ของรูรัก บ่งบอกว่าร่างเล็กใต้ล่างกำลังจะเสร็จในอีกไม่ช้า
“มะ..ไหวแล้วเฟิง”
“รอเฟิงก่อน อ๊า~” เฟิงเฮยเผลอหลุดครางเสียงออกมาอย่างสุดจะกั้น เพราะความเสียดเสียวที่ได้รับมากมาย ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นจับเอวคอดกิ่วมั่น
“อ้า ๆๆ อะ ๆ แรงอีกเฟิง~”
ปึก! ปึก! ปึก!
เฟิงเฮยจัดให้ตามคำขอ โหมแรงกายตอกอัดเอ็นใหญ่เข้าใส่รูรักที่ร้อนระอุอย่างบ้าคลั่ง จนปลดปล่อยห้วงอารมณ์สุดท้ายออกมาพร้อมกันในที่สุด
“อร๊ายยย/อ๊าสส”
-----------------------------