ตอนที่ 5
ซางเหลี่ยง กรุป
“เชิญครับคนสวย” เฟิงเฮยรีบลงจากรถไปเปิดประตูให้เมียรัก พร้อมกับผายมือเชิญด้วยท่าทางและน้ำเสียงขี้เล่น แล้วยื่นมือไปตรงหน้าเพื่อรับเมียรักพลางขยิบตาให้อย่างทะเล้น
“ขอบคุณค่ะสุดหล่อ” จินหมี่ก็เล่นด้วยขยิบตาส่งคืนแล้วฉีกยิ้มสดใสจนตาหยีน่ารัก ก่อนจะวางมือเล็กบนฝ่ามือใหญ่ แล้วก้าวขาลงจากรถพร้อมกับกระเป๋าแบรนด์เนมราคาแพงในมืออีกข้าง
“เดี๋ยวก่อน”
เฟิงเฮยที่กำลังก้าวขาเดินแต่ต้องหยุดชะงัก เมื่อเสียงของเมียรักเอ่ยรั้งไว้ซะก่อน “มีอะไรเหรอจิน?”
“มีผมหงอกด้วยเหรอเนี่ยสุดหล่อของจิน” จินหมี่ยื่นมือไปจัดระเบียงผมบริเวณหน้าม้าให้สามีอีกครั้ง เพื่อความเรียบร้อย โดยมีสายตาของเฟิงเฮยจ้องมองใบหน้าน่ารักแววตาเปล่งประกายเต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดูอย่างไม่วางตา
“ดึงทิ้งได้เลยนะ”
“แน่ใจเหรอเยอะมากเลยนะ”
“จริงดิ!” เจ้าของใบหน้าหล่อมีท่าทีตกใจ รีบโน้มตัวส่องตัวเองในกระจกมองข้างรถทันที “เส้นเดียวเองจิน หรอกเฟิงอะ”
“…” เฟิงเฮยมุ่ยหน้าทำท่าเง้างอนพลางดึงผมขาวกลางศีรษะทิ้งทันที
“แย่เล่นนิดเดียวเองงอนเหรอ?”
“ง้อเลยนะ”
“ประชุมเสร็จค่อยง้อได้ไหมล่ะ” จินหมี่ส่งสายตายั่วยวนพลางลากนิ้วเรียวตามแผงอกแกร่งลงมาถึงหน้าท้องอันแข็ง ที่เต็มไปด้วยหมัดกล้ามแน่น ๆ สร้างรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ประดับบนใบหน้าหล่อในทันที เข้าใจความหมายที่เมียรักกำลังสื่อ
“พูดแล้วนะที่รัก”
“ฮึ เข้าบริษัทได้แล้ว” จินหมี่เปลี่ยนประเด็นพลางควงแขนล่ำ
“หึ” เฟิงเฮยส่งเสียงในลำคอเบา ๆ พร้อมทั้งส่ายหน้าไปมาอย่างเอ็นดู จากนั้นจึงพากันเดินเข้าบริษัท
“…” เหล่าบรรดาพนักงานต่างหยุดเดิน แล้วโค้งศีรษะทำความเคารพประธานหนุ่มสุดหล่อ เจ้าของใบหน้าเรียบเฉยอยู่ในชุดสูทสีน้ำเงินกึ่งทางการ รองเท้าสีดำหนังราคาแพง เดินควงคู่มาพร้อมภรรยาสาวสุดน่ารัก เจ้าของรอยยิ้มสดใส เธอสวมใส่ชุดเสื้อเกาะอกสายเดี่ยวสีเขียวอ่อน คุมทับด้วยเสื้อแขนยาวสีชมพู คู่กับกระโปรงสีเดียวกับเสื้อสายเดี่ยวยาวเลยเข่าอย่างคุมโทนสไตล์ลูกคุณหนู
“หวัดดีจ้ะ” จินหมี่ตอบรับเหล่าบรรดาพนักงานจนกระทั่งเดินไปถึงลิฟต์ตัวใหญ่สำหรับประธานบริษัทอย่างเป็นกันเองไม่ถือตัว ออกแถวซุกซนขี้เล่นหน่อย ๆ อีกทั้งเธอยังเป็นที่รักของเหล่าพนักงาน จินหมี่จิตใจดีมีน้ำใจเข้าถึงง่าย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครกล้าล้ำเส้นและปีนเกลียว
“ซื้ออะไรเลี้ยงพนักงานดีน้า~” ระหว่างอยู่ในลิฟต์จินหมี่ทำสีหน้าครุ่นคิดพลางจิ้มปลายนิ้วลงบนปลายคางย้ำ ๆ เฟิงเฮยกระตุกยิ้มมองเมียรักอย่างเอ็นดูและภูมิใจที่มีภรรยาน่ารักอย่างจินหมี่ เธอเข้าบริษัททีไรมักซื้อของว่างเลี้ยงพนักงานทุกครั้ง
“เครื่องดื่มเย็นกับขนมหวานเหมือนเดิมแล้วกัน กินอะไรหวาน ๆ น่าจะช่วยคลายเครียดให้พนักงานได้บ้าง ว่าไหม?”
“อือ เดี๋ยวเฟิงให้เลขาจัดการให้”
“ยัยเลขาคนเดิมสินะ” จินหมี่ว่าพลางมุ่ยหน้าและปล่อยมือออกจากท่อนแขนล่ำของสามี
“ไม่มีอะไรในกอไผ่แล้วแน่นอนครับ เฟิงได้เลขาคนใหม่เมื่อไหร่ สัญญาว่าจะให้ออกทันที” เฟิงเฮยรีบอธิบายด้วยน้ำเสียงหนักแน่นทันที เพราะเลขาสาวคือผู้หญิงในสต๊อกอีกคน แต่ทว่าหลังจากรับปากกับจินหมี่ เขาก็เคลียร์ทุกอย่างไม่นัดเจอกับผู้หญิงคนไหนอีก ที่ยังเก็บเลขาสาวไว้เนื่องจากเธอทำงานเก่ง และ หาเลขาคนใหม่ที่มีคุณสมบัติตามที่ต้องการยังไม่ได้
“อย่าให้ความเชื่อใจหมดลงอีกครั้งล่ะ คราวนี้จินไปจริง ๆ แน่” จินหมี่ชี้นิ้วอย่างคาดโทษ ทำเอาเฟิงเฮยใจกระตุก พยักหน้าหงึก ๆ รับอย่างเชื่อฟัง เป็นจังหวะที่ประตูลิฟต์เปิดออกพอดี
ติ้ง~
จินหมี่เดินนำออกไปก่อนอย่างเง้างอน เฟิงเฮยหน้าหงอยเดินตามหลังเมียรักไปอย่างเงียบ ๆ ไม่กล้าพูดอะไรอีก
#สองชั่วโมงต่อมา
“หน้าเฟิงตอนเครียดเท่ชะมัด ฮึ ๆ ” จินหมี่พูดไปยิ้มไป สายตายังไม่ละไปจากหน้าจอไอแพดในมือ บนหน้าจอสี่เหลี่ยมเป็นภาพวาดใบหน้าหล่อ ๆ ของสามียามเคร่งขรึม เธอเป็นคนลงมือวาดด้วยตัวเองค่าเวลาระหว่างรอสามีประชุม เรียวขาสวยก้าวเดินบนรองเท้าผ้าใบสีขาวเข้าห้องทำงาน โดยเฟิงเฮยเป็นฝ่ายเปิดประตูอำนวยความสะดวกให้อย่างเอาใจ
“ก็คนมันหล่ออะครับช่วยไม่ได้”
“จิ๊~” จินหมี่เอี้ยวหน้าไปจิ๊ปากใส่เฟิงเฮยอย่างหมั่นไส้ เฟิงเฮยไหวไหล่ทำไม่รู้ไม่ชี้
หมับ!
“เฟิง!” เฟิงเฮยโผเข้าสวมกอดจินหมี่จากด้านหลังแน่นทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะทำงาน โดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัวเกือบทำไอแพดร่วงหลุดมือ
“ประชุมเสร็จแล้วมาให้เฟิงง้อซะดี ๆ”
พรึ่บ!
“อ๊ะ!...อื้อ!” เฟิงเฮยไม่รอช้าหมุนตัวจินหมี่หันหน้าเข้าหาพลางดันแผ่นหลังเล็กติดกับขอบโต๊ะทำงาน ริมฝีปากอวบอิ่มเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงก่ำน่าจูบเสียจนอดใจไม่ไหว โน้มใบหน้าคมคายบดจูบอย่างเอาแต่ใจ
จ๊วบ~ จ๊วบ~
เสียงรัวน้ำลายดังออกมาจากชายหนุ่มและหญิงสาวที่กำลังบดจูบกันอย่างนัวเนีย
“อื้อ~” จินหมี่หลุดครางเสียงอื้ออึงในลำคอด้วยความเสียว เคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบที่คุ้นเคย จนไม่รู้ตัวว่าชุดเดรสถูกร่างหนาดึงลงมาอยู่ใต้ราวนมเมื่อไหร่ ก่อนที่เต้าใหญ่จะถูกมือหนาบีบขย้ำสลับกับใช้นิ้วแกร่งบีบขยี้ยอดปทุมถันถี่ ๆ จนแข็งเป็นไต ส่งผลให้ท้องน้อยรู้สึกวาบหวาม ทำเอาน้ำรักผุดซึมออกจากรูสวยโดยอัตโนมัติ ตามธรรมชาติครั้นถูกเล้าโลม แพตตี้ตัวจิ๋วจึงเปียกแฉะ
จ๊วบ~เฟิงเฮยถอนจูบอย่างอ้อยอิ่งโน้มใบหน้าคมคายซุกไซร้ซอกคอขาวทันที
“ยะ…อย่าทำรอยนะ…อ้า~” น้ำเสียงสั่นกระเส่าเอ่ยดักทาง แต่ทันไม่ขาดคำเรียวปากหนาก็ดูดงับค่อนข้างรุนแรงจนเกิดรอยแดง
“บะ…บอกว่ายะ..”
พรึ่บ!
ถ้วยคำทักท้วงถูกกลืนลงท้องไปทันที เมื่อร่างหนาอุ้มขึ้นนั่งบนโต๊ะทำงาน ก่อนที่เรียวปากหนาจะดูดงับยอดปทุมถันจนเปียกชุ่มน้ำลาย
“อ๊า~” จินหมี่สะดุ้งตัวโหยงพลางส่งเสียงครางดังขึ้นกว่าเดิม เมื่อยอดปทุมถันถูกปลายลิ้นสากตวัดเลียรัว ๆ ส่วนตรงกลางความเป็นสาวใต้แพตตี้ตัวจิ๋ว ก็ถูกนิ้วแกร่งบดขยี้ปุ่มเสียวหนัก ๆ กระตุ้นอารมณ์ปรารถนาให้พลุ่งพล่านไปทั่วร่างคูณสิบ จนเธอต้องยกมือขึ้นปิดปาก เพราะกลัวเสียงเล็ดลอดดังออกไปด้านนอก มืออีกข้างขยุ้มผมดำขมับของร่างหนาไว้ เพื่อระบายอารมณ์กระสันที่ได้รับ
เฟิงเฮยผละใบหน้าออกจากเต้าอวบอั๋นเกินขนาด ใช้นิ้วเกี่ยวแพตตี้ตัวจิ๋วสีดำลายลูกไม้ออกจากกลีบสาว ปล่อยให้ร่วงหล่นลงพื้นห้อง ก่อนจะปลดเข็มขัดหนังราคาแพง ในขณะที่จินหมี่หอบหายใจหนัก ๆ ด้วยแรงราคะ รูรักขมิบเข้าหากันถี่ ๆ บ่งบอกถึงความต้องการที่มีมากล้น
“บะ..บอกว่าอย่าทำรอยไง”
“รอยเดียวเองครับ” น้ำเสียงเร่งรีบเอ่ยออก มือหนารูดซิปกางเกงควักเอาเอ็นใหญ่ที่ปวดหนึบออกมาผงาดแก่สายตาภรรยาสาว
จินหมี่กัดปากล่างเบา ๆ เมื่อเห็นแท่งร้อนที่โอบอุ้มด้วยเส้นเอ็นความเป็นชาย เผลอรอบกลืนน้ำลายลงท้องอึกหนึ่ง ขนาดมันใหญ่มาก แม้จะถูกมันทารุณแทบทุกอาทิตย์ แต่เธอก็ไม่เคยชินเสียที
“จะเอามังกรใหญ่เข้าไปท่องเที่ยวในสวนสนุกแล้วนะครับ” เจ้าของน้ำเสียงทะเล้นขยิบตาให้คนรักหนึ่งทีอย่างเย้าแหย่
“เปรียบเทียบซะ เกือบหมดอารมณ์”
“หึ” สิ้นสุดเสียง เฟิงเฮยโน้มตัวเข้าหาจินหมี่แล้วประกบจูบกันอีกครั้ง เรียวแขนเล็กตวัดลำคอแกร่งกร้านตามความเคยชิน
กึก!
ใบหน้าน่ารักบิดเบ้ครั้นรูสาวถูกแท่งร้อนล่วงล้ำเข้ามา ก่อนที่จะถูกกระแทกเข้ามาจนสุดลำโคน ความใหญ่โตภายในกายสาวเริ่มขยายขึ้นเรื่อย ๆ จนรู้สึกอึดอัด
“แน่นจังครับ” เฟิงเฮยผละเรียวปากออกจากจินหมี่ กระซิบข้างใบหูน้ำเสียงแหบพร่า “ครางออกมาดัง ๆ เลยนะ ไม่มีใครอยู่ข้างนอกแล้วก็ไม่มีใครกล้าขึ้นมาแน่นอน”
ปึก! ปึก! ปึก!
“อ่า~” สิ้นสุดเสียงร่างหนาก็ขยับเอวสอบอย่างไม่รีรอ ทำเอาร่างเล็กครางเสียงออกมาเดี๋ยวนั้นด้วยความเสียดเสียว เมื่อแท่งร้อนในกายกระแทกถูกจุดกระสันถี่ ๆ จนต้องอ้าขาให้กว้างจนสุด เพื่อให้ร่างหนาขยับกายได้ถนัด
“สะ…เสียว อ๊า~เฟิง อ่า~”
“ชอบที่จินครางชื่อเฟิงจัง ทั้งเร้าอารมณ์ทั้งเซ็กซี่”
ปรั่ก! ปรั่ก! ปรั่ก!
ครืงงงง!
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังเคล้าไปกับเสียงครางหวานของร่างเล็ก และ เสียงขาโต๊ะเสียดสีไปกับพื้นห้องตามแรงจังหวะหยาบโลนของคนสองคน สิ่งของที่ยังวางอยู่บนโต๊ะทำงานหล่นลงพื้นไปทีละอย่าง
“อื้ออ่า~เฟิงงง” จินหมี่ถูกเฟิงเฮยกระแทกกระทั้นเอ็นใหญ่ยักษ์เข้ามาในกายรัว ๆ จนสติกระเจิดกระเจิง ครางเรียกชื่อคนรักเสียงดังอย่างลืมอายพลางจิกเกร็งเล็บบนแผ่นหลังกว้างระบายอารมณ์กระสันเสียวที่ได้รับจากร่างหนา
“ซี๊ด~” เฟิงเฮยซูดเสียงออกมาอย่างสุดจะกลั้นด้วยความเสียวซ่านถึงใจไม่ต่างจากจินหมี่ เมื่อเอ็นใหญ่ถูกกายสาวด้านในตอดรัดถี่รัวจนแทบเสร็จเดี๋ยวนั้น
“เฟิง~”
“ครับที่รัก” เฟิงเฮยตอกอัดมังกรใหญ่เข้าใส่ร่องสาวที่กำลังดูกลืนมังกรใหญ่อย่างรู้งาน จังหวะกระแทกกระทั้นทั้งเร็ว ทั้งแรง และ หนักหน่วง ทำเอาจินหมี่ทั้งร้องทั้งครางฟังแทบไม่ได้ศัพท์
“…” ไม่นานทั้งคู่ก็ปลดปล่อยห้วงอารมณ์สุดท้ายออกมาพร้อมกัน
“ขอกินน้ำหวานจินหน่อยแล้วกัน” เฟิงเฮยไม่ว่าเปล่ายกเรียวขาสวยขึ้นตั้งฉากบนโต๊ะทำงานที่กว้าง พอให้ทำอะไรได้สะดวก โดยที่จินหมี่ไม่ทันได้ตั้งตัวและยังไม่หายเหนื่อย
“ไม่เอาเฟิง มันสกปรก”
แผล็บ แผล็บ แผล็บ
“อ้า~เฟิง” ประโยคห้ามปรามของเธอไม่ได้ผล เมื่อใบหน้าคมคายซุกเข้ากลางหว่างขาทันที แล้วใช้ปลายลิ้นสากตวัดเลียไปตามร่องสาวที่ฉ่ำแฉะไปด้วยน้ำรักที่เพิ่งปลดปล่อยออกมา ทำเอาทั้งร่างสั่นสะท้านด้วยความเสียวซ่านอีกครั้ง มือบางทั้งสองข้างจับกดศีรษะของคนใต้ร่างโดยไม่รู้ตัว
-----------------------------