ตอนที่6.ต้อนหมูเข้าเล้า

1506 Words
“ตกลงมีมั้ยเงิน” ชุติภาถอนใจ “ภาจะไปเอาเงินที่ไหนมาให้พี่ ครั้งที่แล้วยืมไปยังไม่คืนภาเลย” “ฉันก็ลืมไป ไอ้หน้าโง่คนใหม่ของเธอก็กำลังกร็อบเหมือนกันนี่นะ” กฤตินเยาะหยัน ชุติภาเม้มปาก ครั้งนี้เธอพลาดเอง พลาดที่ไม่สืบปูมหลังของ นวินให้ชัดๆ พอเล่นใหญ่ไปแล้วจะคิดถอนตัวตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว ยังไงซะนวินก็เป็นลูกชายคนเดียวของฉายรวี ต่อให้ต้องเทขายบริษัทของเขาทิ้ง เขาก็น่าจะเหลือทรัพย์สินไม่น้อย “อย่างน้อยเขาก็พอมีสมบัติให้ขาย ไม่เหมือนกับพี่หรอก” ชุติภาประชด ตั้งแต่พี่ชายเข้ามาบริหารบริษัท เขาผลาญสมบัติไปเกือบหมด หากเธอกลับมาช้ากว่านี้ คงไม่มีแม้แต่หลังคาคุ้มหัว “พ่อครับ แม่ครับ ผมมีนัดสำคัญเลี่ยงไม่ได้” เขตคามกระซิบบอกบิดา มารดา สายตาเขาไม่ได้ละไปจากวงหน้าน้องสาวเลย “ไปเถอะ ไม่ต้องห่วงทางนี้” คงเพราะความกังวลส่วนตัว เขตคามรู้สึกไม่อยากห่างจากน้องสาวเลย ช่วงนี้เขมิกาเปราะบางและต้องการคนใส่ใจอย่างใกล้ชิด “เอาที่ปรึกษากฎหมายไปด้วยนะ งานนี้น่าจะหินเอาเรื่อง” ทินภัทรเตือน บริษัทที่ว่าค่อนข้างมีชื่อเรื่องตุกติก สมัยที่คนรุ่นพ่อแม่บริหารโปร่งใสกว่านี้เยอะ ไม่คิดว่าคนรุ่นใหม่ที่เข้ามารับช่วงต่อจะมีนอกมีในให้วางใจไม่ลงเช่นนี้ “ครับพ่อ” เขตคามผ่อนลมหายใจ ความจริงเรื่องคู่ค้าคนใหม่นี่ เขาปัดทิ้งเลยก็ยังได้ แต่เพราะเขามีเรื่องที่ต้องการเข้าไปพัวพัน ความสัมพันธ์ที่ตั้งอยู่บนความซับซ้อนนี่เลยทำให้เขารู้สึกหนักหน่วงไม่น้อย “ไปบริษัทจิรวิน” รถยนต์ประจำตำแหน่งจอดรอที่หน้าโถงบ้าน มีพนักระดับผู้บริหารนั่งรออยู่สองท่าน กับทนายความที่ปรึกษาเรื่องกฎหมายของบริษัทด้วย “แน่ใจนะว่าการร่วมงานครั้งนี้กับจิรวินไม่มีปัญหา” ฉัตรธรที่เป็นทั้งเพื่อนและทนายความอดถามเพราะเป็นห่วงไม่ได้ “ที่สั่งไปนะ ได้ทำหรือเปล่า” เขตคามไม่ตอบปัญหา เขาถามคำถามที่เขาอยากรู้แทน “ทำแล้วถึงถามไง แน่ใจนะว่าจะไม่มีปัญหาในวันนี้” “มึงคิดว่าไงละฉัตร?” เขตคามถามพร้อมกับกดยิ้มมุมปาก เขากดปรับเบาะเอนตัวหลับตาพริ้ม “มันก็น่าคิดระหว่างวันนี้ซดแห้วกับผ่านฉลุย” ฉัตรธรนิ่งคิดแล้วก็ตอบตามความคิดตัวเอง “กูว่าเป็นอย่างหลัง คนละโมบแบบไอ้ติน มีหรือมันจะกล้าปฏิเสธ มันน่าจะรีบตะครุบไวไวสิไม่ว่า” เขตคามไม่ได้ดูถูก เท่าที่สืบประวัติมา คนอย่างกฤตินหากไม่มีต้นทุ่นที่พ่อแม่หาไว้ให้ ตำแหน่งใหญ่ๆ เช่นทุกวันนี้ เขาไม่มีทางตะกายไปถึง “เกลียดอะไรมันวะ?” ฉัตรธรยั้งปากไม่อยู่ สัญญาณบางอย่างบอกกับเขา การเซ็นต์สัญญาครั้งนี้มันมีเรื่องลับลมคมในบอกไม่ถูก “วันหลังจะเล่าให้ฟัง” เรื่องน่าอายนี้เปิดเผยให้คนนอกรู้ไม่ได้ แต่สำหรับฉัตรธรแล้ว เขาเป็นเพื่อนสนิทที่ผ่านบทพิสูจน์มาแล้ว ตอนที่6.ต้อนหมูเข้าเล้า “เชิญครับๆ” หากถลาเข้าไปอุ้มเขตคามได้ กฤตินคงจะไม่รอช้า เขาลงมารอคู่ค้าคนใหม่พักใหญ่ๆ แล้ว “ท่าทางสบายดีนะ” เขตคามเปรยลอยๆ จนกฤตินชะงัก “คุยธุระเลยดีกว่า คุณมีเวลาแค่ครึ่งชั่วโมงนะ” ฉัตรธรรีบเปลี่ยนเรื่อง เขาเดาได้ว่ากฤตินเองก็รู้สึกสะดุดใจ “พวกคุณยังติดต่อกันอยู่อีกเหรอ” กฤตินท้วง สมัยที่เป็นนักเรียนนอก สองคนนี่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้น ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นได้เลย ในเมื่อเป็นคนที่อยู่คนละระดับ นักเรียนยากจนใช้ทุนรัฐบาลไปเรียนอย่างฉัตรธร กับลูกชายเศีรษฐีอย่างเขตคาม “ผมทำงานให้กับคุณเขต” ฉัตรธรตอบเสียงสำรวม เขาเกลียดแววตาของกฤติน แววตาดูแคลนแบบที่ไม่คิดจะปิดนั่น “อ้อ...” กฤตินพยักหน้าหงึกหงัก เขตคามกดยิ้มมุมปาก “ทนายฝีมือดีอย่างคุณฉัตร ผมไม่เสียดายเลยสักนิดที่ฉกเขามาทำงานด้วยได้” “อืม...คงงั้น” กฤตินไหวไหล่ท่าทางผยอง เขตคามหลุบเปลือกตาลง เขามีแผนในใจอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นเขาไม่ลดตัวลงมาเจรจากับบริษัทที่เกือบอับปางลงแบบนี้หรอก “ฉัตรเอาสัญญาให้คุณตินเขาดูสิ” เขตคามหันไปขยิบตาให้ฉัตรธรแล้วก็หลุบเปลือกตาลงเหมือนเก่า เขากำลังทดสอบกฤตินอยู่ หากมันโง่นัก เขาก็ไม่รีรอที่จะเหยียบซ้ำ แต่ทว่า... มีใครบางคนปรากฏตัวขึ้นและปรามกฤตินไว้เสียก่อน “ขอโทษนะคะ ส่งสัญญานั่นมาเถอะค่ะ ภาจะเป็นคนตรวจทานเอง” ผู้หญิงสวยจัดแววตาเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม เขตคามปรือเปลือกตามอง เขากดยิ้มมุมปาก ทรงตัวนั่งตรงๆ “ไม่คิดจะแนะนำให้รู้จักกันเลยหรือไงวะติน?” แววตาของเขตคามเปลี่ยนไป ฉัตรธรถึงกับต้องก้มหน้าลงไม่อย่างนั้นเขาอาจกลั้นขำไว้ไม่อยู่ ท่าทางกรุ้มกริ่มนั่นดูยังไงก็เสแสร้ง “น้องสาวน่ะ จำยัยภาไม่ได้แล้วเหรอ” กฤตินเปรย แล้วก็ส่งเอกสารให้ชุติภา เธอหย่อนตัวนั่งข้างพี่ชาย ก้มหน้าสนใจเอกสารในมือ แสร้งทำเป็นไม่สนใจเขตคาม ทั้งที่ความจริงตรงกันข้าม ชุติภาเริ่มลังเล ผู้ชายตรงหน้าราศีความมั่งคั่งจับทั่วทั้งตัว แต่ท่าทางเขาก็ไม่น่าโอนอ่อนให้กับเธอง่ายๆ “กลับมาแล้วเหรอ ไหนว่าเรียนต่อป.เอกไง” เขตคามแสร้งชวนคุย ชุติภาเงยหน้ามอง “ภาต้องรีบกลับมา เพราะพี่ชายเหลวไหลค่ะ” “ยัยภา!!” กฤตินหันไปตะคอก “ล้อเล่นกันแรงนะ ผมกับน้องก็แบบนี้เหมือนกัน” เขตคามพูดแทรก ก่อนสถานการณ์จะเลวร้ายไปกว่านี้ “น้องสาว” ชุติภาพึมพำ เธอไม่เคยได้ยินข่าวของคนที่เขตคามพูดถึง ครอบครัวคัมภีรดารักสันโดษ คนที่มีข่าวคร่าวบ่อยๆ คงเป็นเขตคาม ส่วนคนอื่นๆ แทบไม่มีใครพูดถึง “น้องสาวผมชอบชีวิตเรียบง่าย ไม่ชอบสังคมวุ่นวายแบบทุกวันนี้หรอก” “อ้อเหรอคะ แต่ภาชอบใช้ชีวิตแบบนี้นะคะ ภาสนุกกับงาน ชอบให้มีรอยหยักในสมองเพิ่มขึ้น” “น้องผมเป็นแบบคุณก็ดีสิ ผมจะได้ไม่เหนื่อยคนเดียว” “น่าเห็นใจนะคะ งานเยอะ แต่ไม่มีคนช่วยสักคนเลย ไม่ลองหาคนรู้ใจสักคนไปช่วยละคะ” ชุติภาลองหยอดคำถาม เขตคามมองสบตา แววตาเขาไหวระริก “พยายามหาอยู่ครับ พอเจอคนที่ถูกใจ ก็ดันมีเจ้าของเสียแล้ว” ฉัตรธรกัดกระพุ้งแก้มจนตนเองสะดุ้ง เขาไม่ชินกับท่าทางกระหลิ่มกระเลี่ยของเพื่อนเช่นนี้เลย ท่าทางหาความจริงใจในคำพูดไม่ได้เลยแบบนี้ เห็นแล้วก็อดขำไม่ได้ “เท่าที่อ่านคร่าวๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรนะคะ” ชุติภาแสร้งเปลี่ยนเรื่องพูด เธอเลยพลาดบางอย่างที่ซ่อนไว้ในเนื้อสัญญา ฉัตรธรเม้มปาก ปรับอารมณ์ “ถ้าเช่นนั้น ก็ถือว่าคัมภีรดากับจิรวินจับมือร่วมธุรกิจกันแล้วนะครับ” “เซ็นต์เอกสารแล้วส่งมาให้ผมครับ ผมเหลือเวลาอีกแค่สิบนาที” เขตคามเร่ง เขาทรงตัวยืน “ต้องไปที่ไหนต่อวะฉัตร” “เหลือไปที่สมาคมการค้ากับธนาคารครับคุณเขต” หลังแกล้งเปิดตารางงานขึ้นมาดู ฉัตรธรก็เร่งตอบเสียงขึงขัง “เหนื่อยว่ะ เร็วๆ นี้น่าจะพิจารณาหาใครสักคนมาช่วยจริงจังสักที” เขตคามพูดพร้อมกับมองสบตาชุติภา แววตาเขาว่างเปล่า ไม่ได้รู้สึกอะไรกับหญิงตรงหน้าเลย เขาแค่กำลังเริ่มแผนการที่คิดไว้ในใจ ซึ่งชุติภากับกฤตินไม่มีวันได้รู้ “ไอ้หมอนั่นท่าทางจะชอบแกนะยัยภา” กฤตินเปรย เขตคามแสดงออกอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับความสนใจที่มีให้ชุติภามากเป็นพิเศษ “เท่าที่พี่รู้จักเขามา เขาเคยมีท่าทีแบบนี้บ้างมั้ยคะ?” ชุติภาถามกลับ เริ่มคิดหนักกับเรื่องราวในอนาคต “เหอะ!! ฉันไม่เคยเห็นมันแสดงท่าทางแบบนี้กับใครเลย สมัยเรียนมันหยิ่งจะตาย” กฤตินตอบ การเข้าถึงเขตคามไม่ใช่เรื่องง่าย เขาไม่ได้หยิ่งขนาดที่พูดให้น้องสาวฟังหรอก แต่สังคมของเขตคามเป็นเขาที่เข้าไม่ถึง รอบตัวหมอนั่นมีแต่เด็กเรียน ซึ่งไม่ถูกกับคนที่ใช้มันสมองเป็นส่วนน้อยอย่างเขา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD