หลังจากที่เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นในช่วงเช้ามิลินดาก็จัดการพาเด็กหนุ่มพร้อมด้วยลูกชายของตัวเองบึ่งมาถึงโรงพยาบาล โชคดีที่นอกจากบาดแผลฉกรรจ์ที่มือซ้าย ส่วนอื่นในร่างกายของมิณทร์ก็ไม่ได้แตกหักตรงไหน
เพราะแบบนั้นเธอจึงได้เบาใจว่าคงคุยกับอีกฝ่ายได้ไม่ยาก และผลมันก็เป็นอย่างที่คิดเพราะหลังจากที่มิณทร์ทำแผลเสร็จเรียบร้อยเขาก็เป็นคนบอกกับเธอเองว่าไม่ต้องเป็นห่วง เขาจะไม่แจ้งความเอาเรื่องลูกขายของเธอแต่อย่างใด
เพราะแบบนั้น ทันทีที่รู้ว่าเด็กหนุ่มต้องนอนพักดูอาการที่โรงพยาบาลอีกสองสามวัน มิลินดาจึงได้ออกมามาจัดการเรื่องห้องพิเศษเพื่อชดเชยให้อีกฝ่ายได้พักอย่างสุขสบายที่สุด แม้ว่าเจ้าลูกชายจะคัดค้านแต่เธอก็ยังไม่เปลี่ยนความตั้งใจ
และเมื่อจัดการเรื่องนั้นเสร็จเรียบร้อยโมนาน้องสาวของเธอก็เดินทางมาถึงอย่างพอดิบพอดี หญิงสาวจึงขอให้น้องช่วยเป็นธุระเรื่องค่าใช้จ่ายให้ก่อน
ส่วนตัวเธอนั้นเร่งพาลูกชายมาเอ่ยคำขอโทษกับมิณทร์ในเรื่องที่ตัวเองทำผิด มันไม่ใช่แค่ว่าเธอกลัวเขาจะเปลี่ยนใจกลับมาแจ้งความ แต่มันคือการสอนลูกไปอีกทางว่าการหุนหันพลันแล่นจนคนอื่นต้องเดือดร้อนมันผิด
อีกประการก็คือเธอที่ต้องการจะคุยกับอีกฝ่ายให้เข้าใจตรงกัน
ไอ้เรื่องขอบคุณเขาที่ไม่เอาเรื่องลูกชายเธอน่ะแน่นอนว่ามันต้องคุยอยู่แล้ว แต่เรื่องสำคัญกว่าคืออายุของเขา มิลินดาเพิ่งมารู้ว่ามิณทร์อายุน้อยกว่าตัวเองเป็นสิบปีก็ตอนที่อีกฝ่ายต้องทำประวัติผู้ป่วย
มิณทร์เพิ่งจะอายุยี่สิบเอ็ดย่างยี่สิบสองปีเท่านั้น เขายังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยและยังไม่ขึ้นปีสุดท้ายด้วยซ้ำ เรียกได้ว่าเกือบรุ่นลูกเพราะอายุห่างจากเร็กซ์ลูกชายเธอแค่ห้าปี
เธอต้องคุยกับเขาให้จบในวันนี้เพื่อไม่ให้มันยืดเยื้อ เมื่อตอนช่วงเช้ามิณทร์เข้ามาขอช่องทางการติดต่อของเธอไป ซ้ำยังบอกว่าอยากทำความรู้จักกันมาขึ้น นอกจากนั้นก็ยังบอกอีกด้วยว่าหากเธอชอบเขาอยู่บ้างก็อยากจะเจอกันอีก
อยากทำอะไรมากกว่าการมาเจอและมีอะไรกันแบบนี้ ที่แย่ที่สุดก็คือเธอตอบรับไปแล้วนั่นแหละ การจะต้องมากลืนน้ำลายตัวเองแน่นอนว่ามันยากเย็น แต่เธอก็คงทำอย่างที่บอกเขาต่อไม่ได้ในเมื่ออายุของเราห่างกันมากขนาดนี้
หากเขาอายุสักยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดก็ยังพอว่า คนอื่นอาจไม่แคร์แต่เธอแคร์ แคร์ทั้งสายตาของลูกสายตาของคนอื่น ไหนจะพ่อแม่ของเขาอีก ยิ่งคิดว่ามิณทร์แก่กว่าลูกชายของเธอไม่กี่ปีก็ยิ่งรู้สึกว่าเราไม่ควรเจอกันในแง่นั้น
"พี่มีอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ" มิณทร์เอ่ยถามหลังจากที่ทั้งเพื่อนของเขาทั้งสองคน ทั้งลูกชายและน้องสาวของเธอถูกขอให้ออกไปจากห้องแล้ว ดวงตาคมมองหญิงสาวที่มีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างสงสัย
เขาเหมือนจะพอรู้ว่าเธอกำลังกังวลเรื่องอะไร เพราะต่อให้จะยืนยันไปแล้วว่าจะไม่เอาเรื่องแน่นอน และจะรับการเยียวยาเป็นค่ารักษาพยาบาลตลอดการรักษา แต่มันมีเรื่องที่น่าจะช็อคเธอมากกว่าการที่เขาโดนลูกชายเธอกระทืบจนต้องเข้าโรงพยาบาล
เธอน่าจะรู้เรื่องอายุของเขาแล้ว
มิณทร์ไม่ลืมหรอกว่าตัวเองเพิ่งบอกวันเดือนปีเกิดกับพยาบาลตอนทำประวัติคนไข้ไป พี่มิลินกับลูกชายเธอก็ยังยืนอยู่ตรงนั้น หากคิดเลขเร็วๆ หน่อยก็รู้อายุได้ไม่ยากแล้ว เพราะไอ้เด็กนั่นมันก็คงอายุน้อยกว่าเขาไม่เกินห้าหกปี
"พี่อยากจะขอโทษเธออีกครั้งน่ะค่ะ สำหรับเรื่องที่ลูกพี่ทำ มันเป็นความผิดของพี่เองที่ไม่ได้บอกเขาตั้งแต่เมือคืน ถึงได้มีเรื่องเข้าใจผิดกันขนาดนี้"
“ผมรับคำขอโทษครับ ลูกพี่คงเป็นห่วงพี่จริงๆ นะครับถึงได้ทำแบบนั้น” และแม้ว่าจะต้องมาเจ็บตัวจนเลือดตกยางออก ทว่ามิณทร์ก็ยังไม่ได้แปลกใจที่ลูกชายของพี่มิลินทำแบบนั้น
เพราะหากเป็นเขามาเจอผู้ชายแปลกหน้าในห้องแม่ก็คงทำเหมือนกัน อาจจะถามมากกว่าสักหน่อยเพราะตั้งแต่เด็กมาเขาไม่ใช่คนหุนหันพลันแล่นอะไร ไม่เหมือนไอ้เด็กนั่นที่เข้ามาก็พร้อมประเคนตีน
“แล้วก็…พี่รู้นะว่าเป็นคนตกปากรับคำกับเธอไปว่าเราจะได้มาเจอกันอีก แต่ตอนนี้คิดว่าเราไม่ควรทำแบบนั้นแล้วค่ะ พี่แก่เกินไปสำหรับเธอแถมมีลูกแล้วด้วย”
แน่นอนว่าสิ่งเขาเดาเอาไว้มันไม่มีอะไรเกินจริงไปเลยสักนิด พี่มิลินคิดมากเรื่องอายุของเขาจริงๆ นี่ถ้าเธอรู้ว่าเขายังเรียนตั้งแต่เมื่อคืนเรื่องของเราก็คงไม่เกิดขึ้น
รู้ว่าคิดแบบนี้มันผิด แต่มิณทร์ก็ยังดีใจอยู่ดีที่เลือกจะมาบอกตอนเช้า เพราะหากบอกไปตอนนั้นโอกาสของเขาคงเป็นศูนย์
ใช่ว่าเขาจะยอมรับการปฏิเสธไม่ได้ หากการปฏิเสธของเธอมันมาจากการที่เขาหน้าตาน่าเกลียด นิสัยงอแงงี่เง่า ทำอะไรให้เธอรู้สึกไม่ดีไม่ปลอดภัย หรือกระทั่งเราไม่เข้ากันตรงไหน
เหตุผลพวกนั้นเขายอมรับได้อยู่แล้ว อาจจะมีขอโอกาสแก้ตัวสักหน่อยแต่ท้ายสุดเขายอมรับได้แน่ๆ อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เรื่องที่แก้ไม่ได้อย่างการมาเกิดหลังเธอไปสิบปี หน้าว่ายังศัลกรรมดูแลตัวเองได้ แต่เรื่องอายุเขาจะทำยังไงให้ตัวเองเกิดเร็วกว่านี้?
มันน่าเสียดายที่เราสองคนเข้ากันมากๆ แต่ยังไม่ทันทำความรู้จักกัน ยังไม่ได้รู้นิสัยใจคอก็กลับต้องโดนตัดสิทธิ์เพราะเด็กกว่า
“ผมรู้เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ พี่กีต้าร์บอกตั้งแต่ก่อนเราคุยกันแล้วว่าพี่มีลูก”
“ถ้ารู้แล้วทำไมถึงไม่บอกพี่บ้าง ถ้าพี่รู้ว่าเธอยังเรียนอยู่พี่คงไม่…” มิลินดาหยุดพูดในตอนที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังใจร้ายเกินไป เธอมองใบหน้าที่เศร้าหมองลงของเด็กหนุ่มอย่างรู้สึกผิดที่ไปทำร้ายจิตใจเขา
“เมื่อคืนผมไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลยครับ แค่คิดว่าตัวเองชอบพี่มาก พอรู้ว่าพี่ไม่มีใครก็เลยขอให้พี่กีต้าร์แนะนำให้ พอมาห้องพี่แล้วผมก็ไม่ได้คิดจะปิดบังนะครับ แค่ลืมคิดไปว่าพี่อาจจะซีเรียสเพราะยังไงผมบรรลุนิติภาวะแล้ว ไม่ทำพี่เดือดร้อนแน่นอน”
” เรื่องนั้นพี่รู้ พี่รู้ว่าเธอไม่แคร์ รู้ว่าบรรลุนิติภาวะแล้ว แต่ยังไงเธอก็ยังเด็กมากอยู่ดีนะคะ พี่ไม่ได้บอกว่ามิณทร์ไม่ดีนะ แต่พี่…รู้สึกตะขิดตะขวงใจเพราะเธออายุมากกว่าลูกชายพี่แค่ห้าปีเอง”
“…พี่อย่าเกลียดผมได้ไหม”