“หายดีแล้วเหรอไลลา แกหยุดไปสองวันรู้ไหมพวกฉันเหง๊าเหงา”
“แหม เชื่อตายล่ะ พวกแกเนี่ยนะเหงา ฉันเห็นยังลงไอจีอวดรูปไปเที่ยวกันอยู่เลย”
“แฮะๆๆ ก็เหงาเวลาแกไม่อยู่ไง นี่ๆๆ คืนนี้มีปาร์ตี้ที่บ้านอาร์ตี้นะ อาร์ตี้บอกว่าให้พวกฉันลากแกไปด้วยให้ได้ ไปเถอะนะๆๆๆไลลานะ แกก็รู้ว่าอาร์ตี้มันคิดยังไงกับแก ถ้าแกไปด้วยรับรองงานนี้สนุกแน่”
“ฉันขอดูก่อนละกัน”
“อะไร แกไม่เคยพูดแบบนี้มาก่อนเลยนะ อย่างแกต้อง จัดไป! อย่างนี้สิ หรือว่ายังป่วยอยู่”
“ป่วยอะไรล่ะ มันต้องขออนุญาตพี่ชายมันรึเปล่า...ใช่ไหมที่แกเล่าให้ฟังว่าพ่อของแกให้มาควบคุมแกแทนอ่ะ”
“ห๊า!! อย่างไลลานี่นะต้องขออนุญาต ขนาดพ่อไลลามันยังไม่เคยขอเลย แล้วทำไมต้องขอล่ะ แค่พี่ชาย แถมไม่ใช่พี่ชายแท้ๆสักหน่อย”
“เออ หรือว่าแกกลัววะ”
“ใครกลัว ฉันนี่นะกลัว หึ! ไลลาผู้ไม่เคยกลัวใครเว้ย! ไปก็ไป ที่ไหนกี่โมงบอกมาเลย”
“เลิกเรียนบินเลย โอเคไหม”
“มันต้องอย่างนี้ถึงจะใช่ไลลาคนเดิม”
การสนทนาของเด็กสาวกลุ่มใหญ่จบลงเพียงเท่านั้น เมื่อได้ยินเสียงเพลงเตือนให้เข้าห้องเรียนในคาบบ่าย พอตกเย็น พวกเด็กสาวต่างพากันรวมกลุ่มแต่งหน้าแต่งตาเพื่อไปงานวันเกิดเพื่อนชายร่วมชั้น ก่อนจะพากันเปลี่ยนชุดที่พกติดตัวกันมา นอกจากไลลาที่ต้องใส่ชุดนักเรียนไป ซึ่งเธอก็ไม่ได้ซีเรียส เมื่อเอาเนคไทออกแล้วปล่อยผมสยายลงมา แค่นี้ก็ดูไม่ออกแล้วว่าเธอใส่ชุดนักเรียน ด้วยอะไรๆที่เติบโตเกินกว่าวัยของตัวเอง ทำให้นอกจากหน้าตากับรูปร่างแล้ว ส่วนอื่นแทบไม่เหมือนเด็กเลยสักนิด
พอเสร็จเรียบร้อย เด็กสาวก็พากันไปขึ้นรถที่พากันเตรียมมา ด้วยทุกคนต่างก็เป็นลูกเศรษฐีมีตังเลยมีรถขับมาเรียนกันแทบทุกคนทั้งๆที่ยังไม่มีใบขับขี่
“เลขาของแกนี่เด็ดจริงๆ ให้เดาเธอคงไม่ใช่เลขาทั่วไปละสิท่า”
ทางด้านจาคอปพอเดินเข้ามาในห้องทำงาน ลูวิส เพื่อนสนิทของเขาที่พึ่งกลับมาจากต่างประเทศเอ่ยถามขึ้น เพราะรู้ว่าเลขาของจาคอปมีตำแหน่งพิเศษพ่วงอยู่แน่นอน ดูจากสีหน้าท่าทางก็รู้แล้ว
“มีอะไรวะถ่อมาถึงนี่”
“ได้ยินว่าแกไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กเหรอ ฮ่าฮ่าฮ่า หน้าอย่างแกเนี่ยนะเป็นพี่เลี้ยงเด็ก”
“หุบปากไปเลย เธอไม่ใช่เด็กแล้ว แล้วแกกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“อาทิตย์ก่อน”
จาคอปบอกขึ้นพร้อมกับเดินไปนั่งลงที่โต๊ะทำงาน ส่วนลูวิสนั้นเป็นเพื่อนสนิทของจาคอปที่ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ แต่ก็ย้ายกลับมาอยู่ที่ไทยเมื่ออาทิตย์ก่อน
“เหรอวะ แล้วใครกันที่แกต้องไปดูแล”
“น้องสาว ชื่อไลลา นี่คุณพ่อไม่ได้บอกแกรึไงล่ะ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า แกนี่มันรู้ดี ว่าแต่...ไลลาเหรอ? คงไม่ใช่ไลลาเน็ตไอดอลชื่อดังหรอกนะ”
ลูวิสเอ่ยขึ้นอย่างหยอกล้อ เพราะไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง
“เธอไม่ใช่คนดัง ว่าแต่มานี่มีธุระอะไร”
“แค่จะชวนแกออกไปกินข้าว ไปเถอะฉันหิวแล้ว”
จาคอปบอกขึ้น เพราะรู้ดีว่าลูวิสต้องมีเรื่องบางอย่างถึงมาหาเขาที่นี่ จากนั้นสองหนุ่มก็มาถึงร้านอาหารที่ค่อนข้างสงบและเป็นส่วนตัว
“ฉันเลิกกับพิมพ์แล้ว”
“.............”
จาคอปเงยหน้าขึ้นมองหน้าเพื่อนสนิทนิ่ง ส่วนลูวิสจากที่ยิ้มแย้มกลับนิ่งงันไปในทันที
“เกิดอะไรขึ้น”
จาคอปถามออกมา เพราะกว่าที่ลูวิสกับพิมพาผู้เป็นภรรยาจะได้รักและแต่งงานกันมันต้องผ่านอะไรมาบ้าง
“เธอขอจบความสัมพันธ์เพราะพึ่งรู้ตัวว่า...ไม่ได้รักฉันแล้ว...ฮ่าฮ่าฮ่า มันตลกสิ้นดีว่าไหม แต่งงานกันเกือบสามปีพึ่งมาบอกว่าไม่ได้รักฉัน ฮ่าฮ่าฮ่า...”
ลูวิสแค่นหัวเราะออกมาทั้งๆที่ใจเจ็บเจียนตาย ทีแรกเขาว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับจาคอป เพราะไม่อยากให้ใครมาสงสารตนเองแต่ก็ทำไม่ได้เมื่ออยากระบายให้ใครสักคนฟัง
“แกโอเครึเปล่า?”
“อืม ตอนนี้โอเคแล้ว ทำใจอยู่เป็นเดือน แต่ก็นะ คนไม่ได้รักจะไปเสียดายทำไม”
จาคอปจ้องมองหน้าเพื่อนอย่างเห็นใจและเข้าใจ
“เย็นนี้ว่างไหม ไปดื่มกัน”
“เอาไว้วันหลังได้ไหม เย็นนี้ฉันต้องไปรับน้องสาวที่โรงเรียน”
“ดูห่วงน้องเป็นพิเศษนะแก ฉันชักอยากรู้จักน้องสาวแกแล้วสิ เอาไว้แนะนำให้ฉันรู้จักบ้างนะเว้ย!”
“เออๆ”
จาคอปตกลงส่งๆออกไป เพราะตอนนี้เพื่อนของเขาคงเสียใจอยู่ ไม่อยากพูดอะไรให้ไม่สบายใจ จากนั้นสองหนุ่มก็นั่งคุยกันต่ออีกหลายชั่วโมงเนื่องจากไม่ได้เจอกันเกือบสี่ปีหลังจากที่ลูวิสย้ายไปต่างประเทศ
“ว่าไงนะ! ทำไมไม่พากลับบ้าน! เฮ้อ โอเคเฝ้าไว้ให้ดีอย่าให้ไปต่อที่ไหน เดี๋ยวฉันจะรีบไป”
เสียงจาคอปตะโกนถามออกไปตามสาย เมื่อการ์ดของไลลาโทรมาแจ้งเขาว่าไม่ต้องมารับเธอเพราะเธอกำลังจะไปปาร์ตี้งานวันเกิดเพื่อน ทำเอาจาคอปหมดอารมณ์ทำงานทันที
“เด็กดื้อเอ้ย! จะเที่ยวให้ได้เลยใช่ไหม”
“เด็ก? เด็กที่ไหนคะ หรือว่าคุณเลี้ยงเด็กคะจาคอป”
เสียงนิราภาที่เดินเข้ามาทันได้ยินเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะเธอไม่เคยรู้เลยว่าเขามีเด็กต้องรับผิดชอบ
“เปล่า น้องสาวน่ะ เดี๋ยวผมจะกลับก่อนนะ คุณมีอะไรด่วนอีกรึเปล่า”
จาคอปที่หมดอารมณ์ทำงานหันไปถามนิราภา ทำเอาเลขาสาวถึงกับรีบคิดทันที เพราะหลายวันแล้วที่เขามีท่าทีแปลกๆ รีบกลับบ้านเหมือนทีใครรออยู่อย่างนั้น
“มีค่ะ เดี๋ยวนิออกไปเอามาให้ รอแปปนึงนะคะ”
หญิงสาวบอกออกมาก่อนจะรีบเดินออกจากห้องทำงานของจาคอปไป โดยไม่รู้เลยว่าเขาแค่ถามไปอย่างนั้นเองแต่ดันมีจริงๆซะงั้น ชายหนุ่มถึงกับถอนหายใจเพื่อให้ใจเย็นลงกว่านี้เมื่อต้องทำงานต่ออีกนิด ก่อนจะไปลากตัวไลลากลับบ้าน เพราะรู้ดีว่าพวกการ์ดไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ ได้แต่คอยดูแลความปลอดภัยกันอยู่ห่างๆเท่านั้นเอง
ส่วนนิราภา พอเดินออกมา เธอกลับเอาแต่ยืนคิดถึงความเปลี่ยนแปลงของจาคอป หลังๆมานี้เขากลับบ้านเร็ว แถมยังแทบไม่เรียกเธอไปบำเรอเหมือนแต่ก่อนอีกยิ่งทำให้เธอสงสัย
“เขาไม่เคยมีน้องสาวนี่ หรือว่ามี...ไม่ๆๆเขาเป็นลูกชายคนเดียว”
ยิ่งคิดเธอยิ่งสับสน และกว่าจะหางานมาอ้างว่าเป็นงานด่วนได้ก็กินเวลาเกือบชั่วโมง แถมนิราภายังคอยยืดเวลาของเขาออกไปอีก กว่าจะได้เดินออกจากบริษัทก็เกือบสองทุ่มครึ่ง
“ยังอยู่ที่เดิมรึเปล่า อืม ฉันกำลังจะไป เฝ้าเอาไว้ให้ดี”
จาคอปโทรถามการ์ดอีกครั้ง ก่อนจะรีบเดินไปที่รถแล้วขับออกไปโดยมีนิราภาสะกดรอยตามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“คุณหนูยังอยู่ในบ้านครับ”
“อืม พวกนายไปพักเถอะ เดี๋ยวฉันจัดการทางนี้เอง”
“แต่ว่า...”
“ฉันจัดการเอง”
จาคอปหันมาย้ำกับการ์ดที่คอยดูแลไลลาด้วยสีหน้าจริงจัง แค่รู้ว่าเธอมาปาร์ตี้ขี้เมาแบบนี้เขาก็โมโหแทบแย่แล้ว เขาไม่อยากโมโหที่การ์ดมาขัดคำสั่งเขาเพิ่มอีก ส่วนพวกการ์ดยอมเดินกลับขึ้นรถแต่ก็ไม่วายหันกลับไปมองในบ้านหลังใหญ่อย่างเป็นกังวล เพราะปกติแล้วพวกเขาต้องดูแลจนกว่าไลลาจะเดินเข้าบ้านนั่นแหละงานจึงจะจบลงจริงๆ
ส่วนจาคอป เขามองเข้าไปในบ้านหลังโตอย่างพยายามคิดว่าจะไปลากตัวไลลาออกมายังไงไม่ให้ดูน่าเกลียดดี ก่อนจะคิดได้เขาเลยเดินเข้าไปด้านทันที โดยมีนิราภาที่พึ่งมาถึงมองตามอย่างนึกแปลกใจมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่สามารถเดินตามเข้าไปในบ้านนั้นได้แต่ยืนมองอยู่นอกรั้วบ้านแทน
“อ่าว สวัสดีค่ะ มาหาใครคะ หรือว่ามาร่วมงานวันเกิดคุณหนู”
“อ้อ เปล่าครับ พอดีผมเป็นผู้...เอ่อ...พี่ชายของไลลาน่ะครับ มารับเธอกลับบ้าน”
“อ้อ คุณหนูไลลาเหรอคะ โน่นค่ะ อยู่ตรงโน่นกับคุณหนูอาร์ตี้ค่ะ นั่นไงคะเห็นไหม ที่เต้นอยู่นั่นค่ะ”
แม่บ้านที่คอยดูแลความสะดวกและความสะอาดของงานเอ่ยขึ้นพร้อมกับชี้ไปที่เด็กสาว ที่ทุกคนในบ้านหลังนี้ต่างรู้จักกันดีว่าอาร์ตี้นั้นแอบชอบอย่างหัวปักหัวปำ
“ให้โอกาสคุณหนูของป้าบ้างนะคะ อย่าใจร้ายกับเธอนักเลยนะคะ เธอชอบของเธอมานานแล้ว”
“อะไรนะครับ ผมไม่เข้าใจ”
“อิอิอิ ก็คุณหนูอาร์ตี้น่ะสิคะ แอบชอบคุณหนูไลลามาตั้งนานแล้ว ชอบแบบหัวปักหัวปำเลยด้วย”
พอได้รู้เรื่องที่อาร์ตี้แอบชอบไลลา พลันความหึงหวงก็วิ่งพล่านไปทั้งร่างใหญ่อย่างห้ามไม่อยู่ สองมือกำแน่นอย่างระงับความโกรธเอาไว้ ก่อนจะเดินเลี่ยงคุณแม่บ้านออกมา
“ฮู้วววว ใจเย็นๆจาคอป”
ชายหนุ่มเป่าลมออกมาอย่างระงับอารมณ์ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา และภาพตรงหน้าก็ทำให้ทุกอย่างที่เขาพยายามทำทั้งหมดมลายหายไปทันที
ไลลาที่โดนล้อมรอบไปด้วยกลุ่มเพื่อน กำลังโยกย้ายส่ายสะโพกอย่างเมามันส์ ทุกคนต่างเชียร์ให้เธอเต้นให้สุดเหวี่ยงโดยมีเด็กผู้ชายอีกคนคอยยืนเป็นเสาให้เธอเกาะเต้นแบบยั่วยวน และเธอก็ทำมันอย่างที่ทุกคนต้องการ เมื่อเหล้าในกายกำลังครอบงำสติสัมปชัญญะทั้งหมดของเธอไปเรื่อยๆ
“เฮ้ย!! นี่แกทำอะไรวะ! ปล่อยไลลาเดี๋ยวนี้เลยนะ แล้วแกเป็นใคร!”
เสียงอาร์ตี้ดังขึ้นเมื่ออยู่ดีๆก็มีผู้ชายที่ไหนไม่รู้เดินเข้ามาจับแขนของไลลาแล้วลากเธอออกจากวงเต้นไป จนพวกเพื่อนๆต่างสับสนงงงวยกันไปหมดไม่เว้นแม้แต่เจ้าของร่างที่โดยลากออกมา
“พี่จาคอปเหรอ?...มาทำอะไรที่นี่คะ ปล่อยไลลาก่อน กำลังสนุกเลย”
“ไลลา! กลับบ้านกับพี่เดี๋ยวนี้”
“ไม่เอา ไลลายังไม่อยากกลับ”
ไลลากับจาคอปกำลังโต้เถียงกันอยู่ พวกเพื่อนๆที่ดูท่าทางแปลกๆของสองคนรีบวิ่งกรูกันเข้ามา
“ไลลา นี่ใครอ่ะแก”
“ใช่ ทำไมต้องมาลากแกออกมาอย่างนี้ด้วย”
“ใช่ มันเป็นใคร”
“เออ ใครวะ”
เพื่อนๆต่างยิงคำถามกันอย่างรัวเร็ว ก่อนที่ไลลาจะหันไปมองแล้วบอกขึ้น
“พี่จาคอป พี่ชายฉันเอง”
“อ้อ พี่ชาย เอ่อ สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ”
“ไลลามีพี่ชายด้วยเหรอ”
“อืม ลูกพี่ลูกน้องน่ะ...ไลลาขอสนุกต่ออีกหน่อยนะคะพี่จาคอป อีกแค่นิดเดียว”
ไลลาอบอกเพื่อนๆก่อนจะหันไปหาจาคอปด้วยสายตาอ้อนวอนอีกครั้ง
“ถ้าจะอยู่ก็เชิญ”
ผิดคาด เมื่อจาคอปไม่ห้าม แต่เขาพูดเสร็จก็เดินหันหลังกลับออกไปทันทีทำเอาไลลาถึงกับสร่างเมา เมื่อทั้งชีวิตเธอไม่เคยรู้สึกกลัวแบบนี้มาก่อนเลย เพราะเธอไม่เคยคิดสนใจความรู้สึกใคร แต่พอเป็นจาคอปเธอกลับกลัวว่าเขาจะโกรธหรือไม่พอใจเธอ
“ไลลา!....”
เสียงอาร์ตี้ตะโกนเรียกชื่อเด็กสาวเสียงดัง แต่ไลลาไม่ได้สนใจแม้กระทั่งจะหันกลับมามอง เมื่อจาคอปที่โกรธเธออยู่กำลังเดินจะพ้นรั้วบ้านของอาร์ตี้อยู่แล้ว
“พี่จาคอป! ไลลาขอโทษ”
ไลลาที่วิ่งมาจนทันรีบจับแขนของจาคอปเอาไว้แน่นเพราะกลัวว่าเขาจะเดินหนี
“ขอโทษทำไม ทำอะไรผิดอย่างงั้นเหรอ”
จาคอปหันมามองด้วยสายตาเรียบนิ่งพร้อมกับเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเฉยชาไม่แพ้ใบหน้าของเขาเลยสักนิด
“ไม่รู้...แต่ไลลารู้ว่าพี่จาคอปไม่พอใจไลลา...ไลลากลับบ้านก็ได้ค่ะ ถ้าพี่จาคอปไม่ชอบให้อยู่ที่นี่”
ไลลาเดินเข้าไปโอบกอดร่างใหญ่เอาไว้แน่น เธอไม่อยากให้เขาโกรธจนห่างหายจากเธอไป เหมือนกับที่บิดาชอบหายตัวไปนานๆถึงจะกลับบ้านที เธอไม่อยากให้เขาเป็นอย่างนั้น
“แน่ใจว่าจะไม่งอแง ถ้าอยากกลับเข้าไปพี่ก็ไม่ห้ามนะ”
“ไม่เอา ไลลาจะกลับบ้านกับพี่จาคอป”
เสียงออดอ้อนพร้อมกับทำตากลมโตให้ดูน่ารัก เพื่อให้เขาหายโกรธเธอ ทำเอาจาคอปที่มองอยู่ถึงกับใจอ่อนยวบ ก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับคนตัวเล็ก
“เรายังเด็กอยู่ ทำไมต้องมาดื่มแถมยังไอ้ท่าเต้นเกินเด็กนั่นอีก ไปหัดมาจากไหน มันน่าจริงๆน่าตีให้ก้นลายจริงๆ”
“กล้าตีไลลาเหรอคะ”
“กล้าสิ มากกว่าตีก็ทำมาแล้ว บอกกี่ครั้งแล้วนี่ว่าเด็กดื้อต้องโดนลงโทษ”
“ไลลาอยากโดนลงโทษหนักๆ...ตีไม่กลัว แต่กลัวไม่เจ็บ...”
“ฮึ่ม!!!!! เรานี่มันจริงๆเลย”
สุกท้ายจาคอปก็แพ้ทางเด็กดื้ออีกจนได้ เมื่อพูดคุยกันเสร็จทั้งสองก็เดินกอดแขนกันกลับไปที่รถที่จอดเอาไว้หน้าบ้าน
“ไม่ยอม...นิไม่ยอม นั่งเด็กนั่นมันเป็นใคร...”
นิราภาที่ยืนดูตั้งแต่จาคอปเดินเข้าไปจนเขาเดินออกมา และจนกระทั่งตอนนี้เขาเดินกลับไปที่รถพร้อมเด็กสาว เธอแน่ใจว่าสองคนนั้นมีความสัมพันธ์มากเกินกว่าญาติหรือพี่น้องแน่นอน หญิงสาวที่ไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่ยืนดึงทึ้งใบไม้แถวนั้นจนมันขาดแหว่งแทบไม่เหลือชิ้นดี เมื่อตอนนี้เริ่มรู้แล้วว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนไป เพราะเขามีคู่นอนคนใหม่ที่ไม่ใช่เธอนี่เอง