บทที่ 2 ตามนาง EP.2

1735 Words
ห้องชุดกว้างขวางภายในคอนโดมิเนียมสุดหรูหราริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งดูจากสถานที่แล้วคงจะเหมาะสำหรับคนมีเงินเท่านั้นจึงสามารถพักอาศัยอยู่ได้ ร่างสูงของณภัทรสวมเสื้อคลุมสีขาวตัวเดียว นั่งดูทีวีจอยักษ์ภายในห้องส่วนตัวเงียบๆ ปกติยามค่ำคืนชายหนุ่มไม่เคยเหงาอยู่เพียงเดียวดายเช่นเวลานี้ ข้างกายมักมีหญิงสาวคนใดคนหนึ่งอยู่เคียงข้างเสมอ ซึ่งใครคนนั้นมักจะเป็นดาราสาวสวย ที่ต่อหน้าสื่อมวลชนทำตัวเรียบร้อยน่ารัก มักจะบอกว่าไปไหนมาไหนกับคุณแม่ตลอด แต่ต่อหน้าเขานั้นทั้งร้อนแรงทั้งเร่าร้อนอย่างที่ใครอาจคาดไม่ถึง นางแบบดังที่ว่าเย่อหยิ่งวางตัวสวยเริ่ดขนาดไหน ทว่าเวลาอยู่กับเขายอมทำทุกอย่างตามที่เขาต้องการ ซึ่งบางครั้งณภัทรเองก็อดสมเพชผู้หญิงพวกนี้ไม่ได้ รู้ทั้งรู้ว่าคนรักและหวงแหนความโสดเช่นเขาไม่เคยคิดจริงจังกับใคร แต่พวกผู้หญิงเหล่านั้นก็ยังหลงเข้ามาในวังวนพิศวาสของเขา ณภัทรรู้ว่าความคิดของตัวเองนั้นช่างหลงตัวเองเสียเหลือเกิน แต่จะว่าไปมันก็ไม่เกินไปจากความเป็นจริงสักเท่าไรนัก ทว่าวลานี้... คนหลงตัวเองเช่นเขากลับรู้สึกเบื่อหน่ายผู้หญิงที่เคยเกี่ยวข้องทุกคน อย่างที่ตัวเองก็อธิบายไม่ถูกว่าทำไมรู้สึกเช่นนั้น ไม่อยากจะเห็นหน้าใครคนไหนทั้งสิ้น ยกเว้นคนเดียวเท่านั้นที่พบหน้าเพียงแค่ครั้งแรก แต่กลับให้ความรู้สึกถึงแรงดึงดูดจากตัวเธอ ที่ชายหนุ่มเองก็บอกไม่ได้ว่ามันคืออะไร แค่...คิดว่าถ้าผู้หญิงในอ้อมกอดเป็นเธอคนนั้น และคอยมาเอาอกเอาใจเคล้าเคลียเหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ และตามใจเวลาอยากรักเจ้าหล่อนขึ้นมาโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จะสุขจนล้นเพียงไหนหนอ ณภัทรคิดอย่างครึ้มอกครึ้มใจและคงคิดไปเตลิดไกลมากกว่านี้ ถ้าไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเสียก่อน และคนที่โทร.เข้าบ้านเขาได้มีแค่คนเดียวเท่านั้น ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแด๊ดหรือมิสเตอร์คริสโตเฟอร์ แมคคินเลย์ มหาเศรษฐีชาวสหรัฐอเมริกาเจ้าของบริษัทเรือเดินสมุทร บิดาบุญธรรมของเขานั่นเอง ชายหนุ่มจึงยกหูโทรศัพท์ขึ้นพูดพร้อมด้วยใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม “สวัสดีครับแด๊ด” “ว่าไงไอ้ลูกชาย ทำไมไม่โทร.หาแด๊ดบ้าง” “ผมกำลังคิดว่าจะโทร.หาอยู่พอดีแต่แด๊ดโทร.มาเสียก่อนครับ” เสียงหัวเราะชอบใจดังมาก่อนตามสาย “แด๊ดโทร.มาหาเพราะคิดถึง จะบอกไม่ต้องโอนเงินมาแล้ว ถ้าโอนมาอีกแด๊ดจะโกรธแพทมากๆ” บิดาบุญธรรมที่รักเขามากพูดขู่จนคนถูกขู่อดหัวเราะไม่ได้ แต่ไม่ได้ตอบออกไปว่าจะยังโอนต่อไปหรือไม่โอน ซึ่งสาเหตุของการโอนนั้นมีที่มาที่ไป เพราะหลังจากณภัทรเรียนจบปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยอายุเพียงแค่ยี่สิบสองปีเท่านั้น ชายหนุ่มก็ช่วยงานบิดาบุญธรรมอยู่หลายปีเพื่อเรียนรู้ในตัว ครั้นเก็บเกี่ยวประสบการณ์จนคิดว่านาจะแข็งแกร่งพอ ตัวเขาก็ปรึกษาว่าอยากจะทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่เมืองไทยดูบ้าง ซึ่งอีกฝ่ายก็เห็นดีด้วยเพราะแอบเตรียมหาสถานที่ให้ผู้เป็นบุตรชายบุญธรรมไว้แล้วนั่นเอง เมื่อณภัทรเดินทางมาเมืองไทย มิสเตอร์คริสโตเฟอร์ก็ส่งคนที่ไว้วางใจได้ให้มาเป็นที่ปรึกษา พร้อมแนะนำกลยุทธ์ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ และที่สำคัญมอบเงินลงทุนมาก้อนใหญ่ ซึ่งปัจจุบันณภัทรก็พยายามทยอยส่งคืนอีกฝ่ายเรื่อยๆ เนื่องจากไม่อยากรบกวนมากไปกว่านี้ “แพทมีเวลาว่างก็บินมาหาแด๊ดกับมัมบ้างนะ รายนั้นบ่นคิดถึงลูกชายอยู่ทุกวัน” “ครับ ผมขอเคลียร์งานก่อนแล้วผมจะรีบบินไปหา ฝากหอมแก้มมัมด้วยนะครับ” “โอเค ถ้ายังไม่บินมาหาก็โทร.หาแด๊ดกับมัมบ้างนะลูก” “ครับแด๊ด” หลังจากวางสายจากบิดาบุญธรรม ชายหนุ่มก็อดคิดถึงตอนที่เขาพบกับบิดาบุญธรรมเป็นครั้งแรกไม่ได้ เมื่อ 14 ปีก่อน ขณะนั้นณภัทรอายุยังไม่เต็มสิบสี่ปี เกิดทะเลาะกับบิดาอย่างรุนแรง ต่อจากนั้นก็ผลุนผลันออกจากบ้านมาโดยไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาเลย นอกจากเงินในกระเป๋าที่มีอยู่เพียงไม่กี่ร้อยเท่านั้น นั่งรถเมล์ไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ครั้นลงจากรถก็ไปนั่งที่ป้ายรถเมล์ต่ออย่างไม่รู้จะไปทางไหนดี แล้วก็พบชายชาวต่างชาติถูกแทงที่กลางหลังจนจนบาดเจ็บสาหัส ซึ่งพวกคนร้ายคงนำมาทิ้งไว้ที่ป้ายรถเมล์แห่งนี้ เพราะป้ายดังกล่าวไม่ค่อยมีคนสัญจรผ่านไปมามากนัก อีกทั้งยังค่อนข้างมืดอีกด้วย ตอนที่ณภัทรพบชาวต่างชาติคนนั้นยังพอมีสติหลงเหลืออยู่บ้าง จึงบอกให้ช่วยพาไปส่งโรงพยาบาลให้หน่อย หลังจากบอกเสร็จ คงด้วยความอ่อนเพลียจากการเสียเลือดที่ไหลออกมามากก็สลบไปทันที แม้จะตกใจแต่ณภัทรก็ยังมีสติ จึงเรียกแท็กซี่ให้ช่วยพาไปส่งยังโรงพยาบาลใกล้ๆ ซึ่งคนขับแท๊กซี่ผู้มีน้ำใจประเสริฐผู้นั้น นอกจากจะช่วยพาส่งโรงพยาบาลโดยไม่อิดออดแล้วยังไม่เก็บเงินค่าโดยสารอีก ณภัทรสัญญากับตัวเองว่าในอนาคตเขาจะตามหาชายหนุ่มผู้นั้นให้เจอ วันนั้นเขาจึงขอชื่อ-นามสกุล ชายดังกล่าวไว้และเก็บไว้เป็นอย่างดี ซึ่งไม่รู้ว่าอะไรที่ดลใจทำให้เด็กชายณภัทรในตอนนั้น นั่งรออยู่หน้าห้องฉุกเฉินด้วยความกระวนกระวายใจ พร้อมกับนึกภาวนาขอให้ชายที่บาดเจ็บปลอดภัยไปด้วย จนพยาบาลเดินมาบอกว่าชายชาวต่างชาติที่บาดเจ็บนั้นปลอดภัยดีแล้ว แต่ถ้ามาช้ากว่านี้อาจถึงตายได้ พยาบาลคนนั้นยังเอามือลูบหัวเขาด้วยความเอ็นดู ชมเขาว่าทำตัวเป็นพลเมืองดีได้อย่าน่าชมเชย และบอกว่าชายคนนั้นอยากพบเขา ตอนนั้นณภัทรนึกขอบคุณเพื่อนสนิทสองคน ที่ชวนเขาให้ไปเรียนพิเศษวิชาภาษาอังกฤษในวันหยุด ทำให้สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้รู้เรื่องพอสมควร ชาวต่างชาติคนนั้นบอกเขาว่าชื่อ มิสเตอร์คริสโตเฟอร์ แมคคินเลย์ เป็นชาวอเมริกันที่เข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทย และถูกคนร้าย 3 คนรุมทำร้ายพร้อมชิงกระเป๋าไปในขณะที่เดินอยู่ริมถนน และพามายังป้ายรถเมล์เพื่ออำพรางคดี พร้อมกับบอกว่าณภัทรเป็นผู้มีบุญคุณ เพราะถ้าไม่ถูกพามาส่งโรงพยาบาลป่านนี้คงถึงแก่ชีวิตไปแล้ว มิสเตอร์คริสโตเฟอร์บอกว่ารู้สึกถูกชะตากับณภัทรมาก เขาคงยังไม่ถึงที่ตายพระเจ้าจึงดลบันดาลให้มาเจอกันก็เป็นได้ และถามเขาว่าทำไมถึงไปนั่งคนเดียวในที่มืดๆ แบบนั้น ณภัทรจึงเล่าเรื่องความเป็นมาทั้งหมดแม้กระทั่งเรื่องที่ทะเลาะกับบิดาให้ฟัง มิสเตอร์คริสโตเฟอร์ฟังเขาเล่าจนจบก็พูดชี้แนะว่า บิดาของเขาคงไม่ได้ตั้งใจที่ทำแบบนั้นอาจทำไปด้วยแรงอารมณ์ แต่ถ้าณภัทรอยากเริ่มชีวิตใหม่ เป็นคนใหม่ที่พร้อมจะกลับมาอย่างทระนงองอาจก็ตามเขาไปอเมริกาแล้วกัน เพราะมีกำหนดจะกลับภายในอีกสามวันข้างหน้า ถ้าตกลงจะได้ติดต่อสถานทูตเพื่อจัดการเรื่องของณภัทรไปเลยจะได้ไม่เกิดปัญหาขึ้นมาในภายหลัง ณภัทรในตอนนั้นทั้งไม่มีที่ไปและคิดอะไรยังไม่ออก แต่จะให้บากหน้ากลับไปบ้านไม่มีทางที่เขาจะทำแบบนั้นแน่นอน ด้วยแรงทิฐิที่เกิดขึ้นเมื่อตัดสินใจเด็ดขาดจึงตอบตกลงทันที เพราะท่าทางชาวต่างชาติคนนี้คงไม่น่าใช่ฝรั่งธรรมดาแน่นอน ดูเป็นคนที่มีอำนาจจากกระแสบางอย่างที่สื่อออกมา อย่างไรก็ตามเขาก็คิดว่าขอไปตามเอาดาบหน้าก็แล้วกัน หลังออกจากโรงพยาบาลมิสเตอร์คริสโตเฟอร์ ก็พาเขาไปจัดการเรื่องเอกสารทั้งหมดที่สถานทูต พร้อมทั้งไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจเรื่องถูกทำร้ายร่างกายและโดนชิงทรัพย์ หลังจากนั้นก็พาเขาบินไปอเมริกาในอีกสองวันต่อมา “นายครับ” เสียงของคมศักดิ์ปลุกให้ณภัทรสะดุ้งตื่นจากภวังค์ความคิดทันทีพลางยกมือขึ้นนวดหว่างคิ้วไปมา “มีอะไรหรือเปล่า” “โทรศัพท์จากคุณป๊อปครับ” คนสนิทบอกเขาเห็นผู้เป็นเจ้านายนั่งอยู่ท่านี้เป็นเวลานานแล้ว คงกำลังคิดถึงเรื่องเก่าๆ อย่างแน่นอน เพราะสังเกตเห็นเหมือนผู้เป็นนายจะร้องไห้ด้วยจากดวงตาแดงเรื่อทั้งคู่ “เออ... ขอบใจ” ณภัทรรับโทรศัพท์มือถือจากคนสนิทก่อนจะส่งเสียงทักทายณธกรผู้เป็นเพื่อนไปตามสาย “ไอ้ป๊อป โทร.มาทำไมวะ” ณธกรเป็นหนึ่งในสองเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้นที่ยังคบหากันมาจนถึงทุกวันนี้ เจ้าตัวทำงานเป็นสถาปนิกเปิดบริษัทรับออกแบบบ้านตกแต่งภายใน ซึ่งบ้านทุกหลังในโครงการของณภัทรก็เป็นฝีมือออกแบบของเพื่อนสนิททั้งสิ้น “ไอ้แพท กูจะโทร.หามึงไม่ได้เลยหรือไง ต้องเป็นสาวๆ โทร.มาหรือไงวะถึงจะรับสาย” เสียงของเพื่อนด่ามาตามสาย “ใครบอกล่ะ มึงรู้ไหมว่าตอนนี้กูเบื่อผู้หญิงชิบหาย” ณภัทรบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงเน้นย้ำตรงคำว่าเบื่อว่ารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ แต่ยกเว้นคนเดียว เขาบอกตัวเองในใจ “เป็นไปได้ไงวะ เพลย์บอยอย่างมึงจะเบื่อผู้หญิง ผีอะไรเข้าสิงวะ” คนถูกเรียกว่าเพลย์บอยอยากจะบอกเพื่อนไปเหลือเกินว่าไม่ใช่ผีหรอก แต่เป็นนางฟ้าคนสวยที่ชื่อไหมต่างหาก เขาอยากได้ผู้หญิงคนนี้เหลือเกิน พอคิดถึงว่าถ้าใต้ร่างของเขาคือเธอผู้นั้น เพียงแค่คิดก็เกิดอาการร้อนผ่าวไปหมดทั้งตัวแล้ว เหตุใดเห็นเธอแค่ครั้งเดียวเท่านั้นถึงได้เอามาเพ้อมากขนาดนี้ ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD