ตัวณภัทรตอนนี้เริ่มรู้สึกรำคาญดุจลดามากขึ้นทุกขณะ ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาเขาจะมีผู้หญิงเคียงข้างอยู่เสมอ แต่ก็เลือกที่จะมีความสัมพันธ์เป็นคนๆ ไป ดุจลดาคงไม่ทราบว่าบริษัทของณธกร มีเขาเป็นหุ้นส่วนอยู่ด้วยครึ่งหนึ่ง ดังนั้นจึงไม่เคยแม้แต่จะคิดยุ่งเกี่ยวกับดุจลดาในทางชู้สาว เพราะอาจจะทำให้มีผลเสียถึงเรื่องงานไปด้วย
“ไอ้ดนย์ เวลามึงไปไหนมาไหนก็ยังมีสาวๆ ตามกรี๊ดเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ แสดงว่าความดังมึงยังไม่ตก” ณภัทรหันไปพูดกระเซ้าเพื่อนเพื่อข่มอารมณ์ตนเองให้เย็นลง
“มึงอย่ามาทำเป็นพูดดีไปไอ้แพท ถ้ากูเดินกับมึงสองคนก็ไม่มีใครมองกูหรอกเพราะมัวแต่มองมึง” ณดนย์พูดยิ้มๆ “เวลากูเดินคนเดียวก็ให้สาวๆ กรี๊ดกูบ้างเหอะ ไม่งั้นกูโคตรเสียความมั่นใจเลยว่ะ” พูดจบก็หรี่ตามองเพื่อนอย่างแปลกใจ “แล้ววันนี้สาวๆ ของมึงหายไปไหนหมด”
“คำตอบสั้นๆ ตอนนี้กูเบื่อผู้หญิงทุกคนและห้ามถามกูเรื่องนี้อีก”
คำพูดตรงๆ ของณภัทรทำให้ดุจลดาใจแป้ว เธอหลงรักชายหนุ่มคนนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเห็น แต่เธอยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอก
“เป็นไปได้เหรอวะไอ้คาสโนว่าที่มักถูกผู้หญิงตามล่าอย่างมึงจะมีความรู้สึกแบบนี้ด้วย กูไม่อยากจะเชื่อ” ณดนย์พลางมองเพื่อนอย่างกังขา
ดาราหนุ่มไม่ได้รู้สึกอิจฉาเพื่อนเลยแม้แต่น้อยที่เวลาไปไหนด้วยกัน แล้วผู้หญิงมักแสดงความสนใจในตัวเพื่อนมากกว่าตัวเขา ที่เป็นดารานายแบบอันดับต้นๆ ของเมืองไทยเสียอีก
“ใครจะเป็นข่าวกับผู้หญิงทุกวันเหมือนมึงล่ะ”
ณดนย์มักจะเป็นข่าวกับเพื่อนดาราด้วยกันบ้างสาวนอกวงการบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของสังคมโลกมายา ที่ถ้าใครยังมีข่าวออกมาแสดงว่ายังไม่ถูกลืม
“เป็นข่าวมันถือเป็นเรื่องปกติของดาราอย่างกู แต่มึงถึงไม่มีข่าวกูก็ไม่เคยเห็นมึงขาดผู้หญิงสักที” เพราะแม้แต่นางเอกที่เคยร่วมแสดงละครกับเขาบางคนก็เคยเป็นคู่นอนของผู้เป็นเพื่อน
หลังจากได้ต่อปากต่อคำกับเพื่อนสนิทก็ทำให้อารมณ์ของณภัทรดีขึ้น ชายหนุ่มนั่งจิบไหมไทยด้วยความรื่นรมย์ผิดกับก่อนหน้านี้เหมือนเป็นคนละคน ส่วนณธกรนั่งคุยกับดุจลดาที่ดุไม่ค่อยมีสมาธินัก เพราะมัวแต่มองมายังณภัทรเป็นระยะ
“เออ...ไอ้แพท เมื่อไหร่มึงจะยอมใจอ่อนกลับเข้าบ้านเสียที กูกับไอ้ป๊อปแวะไปทีไรแม่กับย่าถามถึงมึงทุกครั้ง กูไม่อยากโกหกยิ่งเห็นแม่มึงร้องไห้กูยิ่งรู้สึกแย่”
จู่ๆ ดาราหนุ่มก็พูดโพล่งเรื่องนี้ขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกแบบนั้นจริงๆ เพราะนับตั้งแต่ผู้เป็นเพื่อนกลับมาจากเมืองนอกอีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมกลับเข้าบ้านเสียที แม้ว่าเขาและณธกรจะพากันอ้อนวอนเพื่อให้เจ้าตัวยอมใจอ่อน เพราะเห็นว่าเวลาก็ผ่านล่วงเลยมาหลายปี สมควรจะลืมเรื่องเก่าๆ ได้แล้วแต่เพื่อนของเขาคนนี้ก็ใจแข็งนัก
“แม้แต่พ่อมึงกูก็รู้ว่าท่านคิดถึงมึงเพียงแต่ไม่พูดออกมาเท่านั้น” ที่ณดนย์พูดออกมาแบบนี้เพราะเขากับณธกรมักจะแวะไปบ้านของผู้เป็นเพื่อนเสมอเมื่อมีเวลาว่าง
“กูเห็นด้วยกับไอ้ดนย์ ถามจริงๆ เหอะ มึงยังไม่หายโกรธพ่อมึงอีกเหรอ มึงเองก็คิดถึงท่าน ไม่งั้นมึงไม่ให้พวกกูไปคอยดูแลหรอกไอ้แพท” ณธกรเอ่ยอย่างอ่อนใจในการเป็นคนปากกับใจไม่ตรงกันของเพื่อน
““ไอ้ป๊อปมันแวะไปดูแลน้องสาวแทนมึงด้วย ไอ้แพท”
ณดนย์อดพูดกระเซ้าณธกรไม่ได้เพราะช่วงหลังรู้มาว่า อีกฝ่ายแอบไปเยี่ยมครอบครัวของณภัทรโดยที่ไม่ได้ชวนเขาไปด้วย คงเพราะมีสิ่งจูงใจคือน้องสาวของผู้เป็นเพื่อนไม่ใช่ใครที่ไหน
“ไอ้ดนย์ มึงนี่พูดมากจริงๆ กูแค่ไปเป็นธุระพาน้องไปโน่นมานี่ด้วยเท่านั้น” ณธกรพูดพลางก็อดหน้าแดงไม่ได้ที่ถูกแซ็วเรื่องนี้ก่อนจะหันไปทางณภัทร “น้องแพรวเองก็บ่นคิดถึงมึงทุกครั้งที่เจอกูนะไอ้แพท”
ณภัทรนั่งจิบไหมไทยไปเรื่อยๆ หูก็ฟังเพื่อนทั้งสองพูดถึงเรื่องตัวเองและครอบครัว ใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึกใช่ว่าเขาจะไม่คิดถึง แต่เขาเองรู้สึกผิดทุกครั้งเมื่อนึกถึงเรื่องเก่าๆ คงต้องรอให้ความรุ้สึกเหล่านี้เบาบางลงสักหน่อย เขาสัญญาว่าจะกลับไปหาพวกท่านแน่นอน
“กูขอเวลาอีกสักพัก ขอบใจมึงสองคนมากที่คอยดูแลครอบครัวกูเป็นอย่างดี”
ณดนย์กับณธกรนั้นอยู่เคียงข้างเขาเสมอ เพราะหลังจากตัวเขาเดินไปเมืองนอกครั้งนั้นได้ไม่กี่วันก็ติดต่อกลับมายังทั้งสองคน และเวลาทั้งสองไปเรียนต่อปริญญาโทก็พักอยู่กับเขาที่บ้านนั่นเอง
“มึงอย่าปล่อยให้เวลามันเนิ่นนานเกินไปนะไอ้แพท” ณดนย์ย้ำกับเพื่อนอีกครั้ง
“เออ” ณภัทรตอบสั้นๆ ทว่าหนักแน่นในน้ำเสียง
หลังจากนั้นอีกไม่นานทั้งหมดก็แยกย้ายกันกลับ เพราะที่ผับนี้ยิ่งดึกคนยิ่งเยอะ และส่วนมากเป็นคนดังเกือบทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นพวกดารานักร้องที่มักมารวมตัวกันที่นี่ ตัวณดนย์เองก็เป็นคนมีชื่อเสียง เดี๋ยวคนนั้นแวะมาทักทายคนนี้แวะมาคุยด้วย ทำให้ณภัทรยิ่งรู้สึกรำคาญอย่างบอกไม่ถูก โดยเฉพาะดุจลดายิ่งดึกยิ่งทำตัวน่าเบื่อหน่าย