Ep.3 : เธอคนนั้น

2225 Words
ฟ้าใส Say:: [ อ๊าาาาาาา ที่รัก จันทร์ฉายขา เบาๆหน่อยสิคะ ] เออ พวกคุณนั้นแหละต้องเบา ๆ ทั้งคู่เลย ฉันพยายามจะข่มตานอนให้หลับ แต่เสียงโหยหวนของหญิงสาว มันทำเอาฉันข่มตาไม่หลับเลยสักกะวินาที [ โอ้ยยยย เสียวค่ะ ซี๊ดดดดดดด จันทร์ฉายขาาาาาา ] ห้องที่นี่มีเป็นสิบ ทำไมถึงต้องมาเลือกห้องข้าง ๆ ฉันแบบนี้ด้วยนะ โอ้ยยยยย!!!! [ แรงอีกค่ะ แรงอีก ] กึก กึก กึก ๆ ๆ เสียงของแข็งที่กระแทกกับผนังห้องของฉัน รัวยาว จนฉันแทบจะข่มตาลงไม่ได้เลย ฉันเลยตัดสินใจเดินไปนอนห้องอื่นที่ห่างออกไป เพราะถ้าไปหาเรื่อง ก็กลัวลูกน้องหน้าห้องพวกนั้น ฉันไปเองดีกว่า คนอะไรนิสัยใช้ไม่ได้ ฉันอยู่ที่นี่มาเดือนหนึ่งแล้ว ยังไม่เคยเจอข้อดีสักนิด มั่วผู้หญิง ใครจะไปอยากยุ่งด้วย ตั้งแต่อยู่นี่มา 5 คนแล้ว ผลัดเปลี่ยนแวะเวียนมาไม่ขาด อี๋ !!!! สกปรก ฉันเดินไปห้องสุดทาง เพราะคิดว่าจะไม่ได้ยินเสียงครวญครางของหญิงสาว ที่ร้องออกมาอย่างสุขสม เฮ้อ จะได้นอนสักที เขาจะรู้ไหมว่าฉันมีงานที่ต้องทำอีกเยอะแยะในวันพรุ่งนี้ เช้าวันรุ่นขึ้น.... “แฟนคุณจะรับข้าวด้วยไหม” “นั่งขนาดนี้แล้ว ตักสิยะ” แต่พอฉันตักข้าวให้เขาเสร็จจะไปตักให้ผู้หญิงคนนั้นต่อ เขากลับดึงแขนของฉันไว้ “ไม่ต้อง!!! ให้ตักเอง เธอตักให้ฉันคนเดียวก็พอแล้ว ใครอยากกินก็ให้ตักเอง!!!” สายตาดุ ๆ ที่มองมา ทำให้ฉันต้องถือโถขาวไปวางไว้ที่หน้าผู้หญิงคนนั้น สายตาของผู้หญิงคนนั้นมองฉันเหมือนกับจะกินเลือด กินเนื้อฉัน จะโกรธ ก็โกรธผู้ชายของคุณสิ มาโกรธฉันทำไม ฉันยังไม่ได้ทำอะไรคุณเลยนะ “โต มึงไปส่ง เอแคร์ด้วย เขาอยู่ที่นี่แล้วตักข้าวเองไม่ได้” ฉันหัวเราะกับพี่ต่อเบาๆ เพราะตอนนี้ผู้หญิงที่ชื่อเอแคร์นั่นหน้าเสียไปเลย ฉันไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงพวกนั้นหลงใหลอะไรคุณคุณจันทร์ฉาย แต่สำหรับฉันแล้ว คุณเป็นผู้ชายที่โคตรแย่ “ไปค่ะพี่ต่อ ฉันขอติดรถไปที่รีสอร์ตหน่อยค่ะ” ฉันยิ้มให้พี่ต่อที่กำลังขำเบา ๆ ไม่หยุด “อื้ม...” “ไม่ต้อง กูไปเอง กูจะไปตรวจงาน” “ไม่ต้องก็ได้นะคะ ฉันเกรงใจ คุณมีแขก” ฉันหลบสายตาหญิงสาว ที่ตอนนี้เหมือนจะฆ่าฉันให้ได้ยังไงอย่างงั้น “ไม่ได้ยินรึไง เอแคร์กำลังจะกลับ” “ค่ะ” พอเราไปถึงรีสอร์ต ตอนนี้มีแขกมากมายกำลังมาเช็คเอ้าท์ และแขกอีกหลายคนที่รอเช็คอิน รวมถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่ที่โซฟา พอเราเดินเข้ามาในรีสอร์ทเธอก็โผลกอดชายหนุ่มที่เดินอยู่ข้างฉัน “ผู้หญิงคนนี้คือ...” “ผู้จัดการคนใหม่” แล้วเธอก็หันมามองฉัน ตั้งแต่หัวจดเท้า ก่อนจะหัวเราะออกมาเบา ๆ ทำไมฉันมีแปลกรึไง อีกตาคุณจันทร์ฉาย มีหญิงในสต๊อกกี่คนเนี่ย แต่คนนี้สวยแฮะ แถมดูเป็นผู้ดีมากกว่าที่เคยเจอ “มีใจให้คุณจันทร์ฉายบ้างรึยังจ้ะ” รอยยิ้มหวานของเธอทำเอาฉันกลัว “ไม่คะ ฉันไม่ชอบคนแบบ เอ่อออ แบบนี้แน่นอน คุณสบายใจได้ค่ะ ฉันขอตัวไปทำงานดีกว่าค่ะ" แต่พอฉันจะไปกลับถูกมือใหญ่ ๆ คว้าเอาไว้ “แบบนี้ มันแบบไหน” “ฉันช่วยคุณอยู่นะ ปล่อยยยย!!! อายแขกเขาไหมห๊ะ” ฉันสะบัดมือของเขาออก ก่อนจะตรงเข้าห้องทำงานไปเลย Moon Say....... “จะกลับมาไหม” “ไม่เอาอะ แกเป็นแบบนี้จะให้กลับมายังไง ลูกฉัน สามีฉัน จะต้องมาเสี่ยง ไม่ไหวนะ แต่วันนี้ที่มาเพราะเป็นห่วงแกนั่นแหละ แต่ตอนนี้คงไม่ต้องห่วงแล้วมั้ง” “พี่อย่ามาตลกได้ไหม ยัยนั่นก็แค่เด็กกะโปโลที่ อายุ 25 แล้ว ไม่เห็นจะโตสักนิด ไม่เซ็กซี่ ไม่มีอะไรเลย” “25 แล้วจริงดิ นึกว่า 18 ยังนึกอยู่แม่ส่งคุกมาให้น้องรึเปล่า” ผมมองพี่สาวที่หัวเราะคิกคัก กับเรื่องที่ผมต้องเจอตอนนี้ แม้ตอนนี้เธอจะไม่ดื้อกับผมแล้วแต่ก็ไม่ได้เชื่อฟังอยู่ดี “ฉันไปดูผลงานตลอด 1 เดือนที่ผ่านมาของเธอก่อน พี่ก็ตามสบายก็แล้วกัน” ผมตรงไปที่ห้องทำงานที่ตอนนี้กลายเป็นของเธอไปแล้ว กระดาษโน๊ตมากมายถูกแปะเอาไว้เต็มโต๊ะ ยอมรับว่าช่วงนี้มีแขกมาพักเยอะขึ้น แต่ไม่นึกว่าเธอจะพยายามขนาดนี้ เธอลุกให้ผมนั่งลงที่โต๊ะทำงาน แล้วก็อธิบายในสิ่งที่เธอกำลังทำ “ไหนผลประกอบการ” แฟ้มสีดำ ถูกส่งมาถึงผม ผมมองดูความเปลี่ยนแปลง ในระหว่างที่เธอย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ ว้าว เธอเก่ง ผมมองหน้าคนที่ตอนนี้ยืนสงบเสงี่ยม ทั้งที่ปกติยุกยิกตลอด แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือเธอพยายามมาก ดูจากกระดาษโน๊ตมากมายที่แปะเอาไว้บนโต๊ะ แบบนี้ค่อยคุ้มค่าจ้างหน่อย “คุณจันทร์ฉายขา คือฉันอยากขอหยุดพรุ่งนี้ได้ไหมคะ ไม่ได้จะไปไหนนะคะ แต่อยู่ที่นี่มา 1 เดือน ยังไม่เคยดูไร่ที่นี่ทั่ว ๆ เลย ฉันอยากจะขอวันหยุดสัก 1 วัน เพื่อสำรวจที่นี่ จะได้แนะนำแขกถูก ได้ไหมคะ” คุณจันทร์ฉายขา งั้นเหรอ หึ ผมกระตุกยิ้มมุมปาก ออกมาน้อย ๆ “เอาสิ” “ให้พี่ต่อพาเที่ยวได้ไหมคะ พอดีอยู่ที่นี่ฉันสนิทแค่กับพี่ต่อ สัญญาค่ะว่าจะรบกวนเวลาไม่นาน” ทำไมต้องเป็นไอ้ต่อวะ แล้วไม่สนิทกับฉันงั้นเหรอ “เออ ตามใจ” “ขอบคุณค่ะ” สีหน้าที่ดีใจของเธอมันกลับทำผมหงุดหงิด เมื่อเช้าก็ทีนึงแล้ว นี่ยังจะขอให้ไอ้ต่อพาไปอีก ผู้หญิงอะไร แรด !!! วันถัดมา..... ผมให้ต่อมันขับจักรยานพาเธอดูในจุดต่าง ๆ แล้วทำทุกอย่างให้เสร็จก่อนเที่ยง แล้วไปเจอกันที่คอกม้า อยากจะตามไปดูก็ไม่ได้เพราะติดยัยพี่สาวตัวดี ที่มาเป็นหูตาแทนแม่ ผมเลยแต่ควบม้าตัวโปรดไปรอบ ๆ พื้นที่ แต่ถึงอย่างงั้น ความหงุดหงิดในใจก็ไม่ได้หายไป จนจักรยานของยัยเปี๊ยกมาจอดที่คอกม้า ผมเลยควบเจ้าปีเตอร์พุ่งเข้าหาเธอ จนเธอล้มหงายลงไปกับพื้น แต่เธอกลับไม่ได้โกรธผมซะงั้น อะไรของยัยนี่ “ขอจับได้ไหมคะ ตัวใหญ่จังเลย” จะจับเจ้าปีเตอร์เหรอ ผมมองสายตาวิ้งค์ ๆ ที่เธอมองเจ้าปีเตอร์ เธอเคยมองผมแบบนี้ตอนที่เธอทำแผล ผมสลัดความคิดในหัวออก ผมกำลังต้องการอะไรจากเธอเนี่ย แม้เธอจะอยากจับแต่ก็ยังกล้า ๆ กลัว ๆ ไม่ยอมแตะสักที ผมเลยลงจากม้า แล้วจับมือเธอมาลูบแผงคอของเจ้าปีเตอร์เบา ๆ “ม้ามันรู้นะ ว่าเรากำลังกลัว มันก็จะหวั่นไปกลับเราด้วย” “น่ารักจังเลย กอดได้ไหมคะ” “ต้องให้มันชินกลิ่นมากกว่านี้ก่อน มาทุกวันสิ ถ้ามาฉันจะไปรับ ปกติฉันชอบอยู่ที่นี่” “ได้เหรอคะ คุณอนุญาตให้มาได้เหรอ” ต้องดีใจขนาดนั้นเลยเหรอ ยัยผู้หญิงประหลาด “สอนฉันขี่ด้วยได้ไหมคะ” “เอาสิ อยากลองขึ้นมานั่งไหม” คนตัวเล็กรีบพยักหน้าอย่างไว ผมเลยขึ้นไปนั่งอานม้าก่อน แล้วช่วยดึงคนตัวเล็กขึ้นมานั่งด้านหน้าผม สำรวจความเรียบร้อยว่าเธอนั่งดีไหม ก่อนจะเริ่มควบไปข้างหน้า ควบเจ้าปีเตอร์ช้า ๆ ไปในสนามหญ้าขนาดใหญ่ ตัวเธอหอมจัง มันไม่ใช่กลิ่นน้ำหอม แต่มันเป็นกลิ่นที่มาจากตัวเธอ “มองหน้าฉันทำไม” “ขอโทษค่ะ” ยอมรับออกมาซะงั้น นึกจะตอบปฏิเสธซะอีก ผมควบเจ้าปีเตอร์ออกจากสนามหญ้า แล้วควบออกไปตามทางของไร่ “ไปไหนมาแล้วบ้าง” “จะพาฉันเที่ยวเหรอคะ ฉันไปดูไร่มาแล้วค่ะ ไปดูโรงเก็บไวน์มาแล้ว ไปดูสวนองุ่นมาแล้ว” เกือบครบทุกที่แล้วนิ งั้นไปจุดชมวิวแล้วค่อย กลับละกัน ผมควบม้าไปตามทางที่จะขึ้นไปจุดชมวิว ที่ต้องผ่านต้นพญาเสือโคร่งสองข้างทาง ที่ออกดอกสีชมพูสวยสะกดตา “สวยจังเลยค่ะ สวยมาก ๆ เลย” ผมมองคนตัวเล็กที่ดูจะตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่เห็นอยู่ตอนนี้ ตื่นเต้นขนาดนี้เป็นเด็กรึไง พอไปถึงจุดชมวิวผมเลยผูกเจ้าปีเตอร์ไว้กับต้นไม้ แล้วพาเธอมามาที่จุดชมวิว “ที่นี่กว้างจังเลย ไอ้สีขาว ๆ นั่นอะไรคะ ไม่เคยเห็น” “บ้านฉัน” “อ๋อ ที่คุณห้ามเข้าไปใช่ไหม โอเคฉันจะได้จำไว้ ว่ามันเป็นที่ต้องห้าม” ยัยนี่เคยมองโลกในแง่ร้ายบ้างไหมเนี่ย คิดว่าโลกนี้เป็นทุ่งลาเวนเดอร์เหรอ ผมมองเด็กที่ชี้นู่นนี่ให้ผมดู เธอลืมไปแล้วรึไงว่าที่นี่ผมอยู่มาตั้งแต่เกิดนะ “รู้ไหมคนที่มาที่นี่รักจะสมหวัง ฉันไม่รู้ว่าจริงไหม แต่คนรอบตัวฉันสมหวังหมดทุกคน เอาไปเป็นจุดขายการท่องเที่ยวได้ไหม” “ได้สิคะ เราจะดึงดูดคู่รักได้เยอะเลย ฉันจะเอาไปลงเพจนะคะ” เธอหันมายิ้มให้ผม ยิ้มเก่งจังเลยนะเธอเนี่ย แล้วผมก็พาเธอกลับมาที่คอกม้า เพื่อเอาเจ้าปีเตอร์มาเก็บ ก่อนจะปล่อยให้เธอปั่นจักรยานกลับเอง “ไงต่อ คนนี้ผ่านไหม” “ครับคุณลูน่า ผมไม่แน่ใจ แต่ดูนายน่าจะสนใจไม่น้อย ไม่งั้นคงปล้ำไปแล้ว เหมือนคนอื่น” ลูกน้องคนสนิทรายงานหญิงสาวที่มองน้องชายตัวเองขับรถออกไป แล้วปล่อยให้หญิงสาวตัวเล็กปั่นจักรยานตาม “น่ารักดีนะ แม่นี่ช่างสรรหา ตอนนี้ไอ้นั่น มันยังอยู่ไหม” “อยู่ครับ นายไม่ให้มันตาย ล่ามเอาไว้ในกระท่อมท้ายป่า” “หวังว่าความรัก จะทำให้คนกลายเป็นคนที่ดีขึ้นจริง ๆ” หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา Fahsai Say........ วันนี้ผู้หญิงคนที่เจอที่รีสอร์ทเข้ามานั่งกินข้าวด้วยที่บ้านใหญ่ ซึ่งคนในบ้านดูดีใจมากที่ได้เจอเธอ อาจจะเป็นตัวจริงของคุณจันทร์ฉายสินะ “มูน ทำไมให้คุณผู้จัดการกินข้าวกับเรา” เรียกว่ามูนงั้นเหรอ แล้วก็ดูว่าเขาจะไม่โกรธสักนิด “ไม่ได้ยินที่ยัยจุ้นนี่สั่งเหรอ มานั่งกินสิ” “ขอบคุณค่ะ” ฉันนั่งลงที่เก้าอี้แล้วป้าแจงก็ตักข้าวให้พร้อมรอยยิ้ม ไม่ชินเลยที่มานั่งกินข้าวด้วยกันแบบนี้ ว่าแต่ผู้หญิงคนนี้สวยจังเลย ฉันเลยก้มนั่งกินข้าวเงียบ ๆ “จะนอนที่ไหน เรือนเล็กไหม หรือที่นี่” “กลับบ้านอะ ทำไมคิดถึงเหรอ” “ตลกรึไง ไม่มีเธอฉันสบายหูจะตาย เรื่องอะไรต้องคิดถึงความวุ่นวายแบบเธอด้วย” ฉันก้มหน้าก้มตากินข้าว พรางฟังบทสนทนาที่ลอยมาเข้าหูเอง แม้จะไม่อยากฟัง เพราะมันเสียมารยาทที่จะฟังคนอื่นคุยกันแบบนี้ ยอมให้นอนเรือนเล็กแบบนี้ คงเป็นแฟนตัวจริงสินะ โอเคจะได้จัดลำดับความสัมพันธ์ของเจ้านายได้ถูก แล้วแฟนเขารู้รึเปล่า ว่าแฟนตัวเองกิ๊กเยอะมาก “ทำไมอิ่มไว กับข้าวไม่อร่อยรึไง” คำถามที่ทำให้ผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงข้าม มองมาที่ฉันแล้วส่งยิ้มให้ จะตอบว่ายังไงดี “อิ่มแล้วค่ะ ช่วงนี้ไดเอท” “ในตัวแทบจะไม่มีอะไรอยู่แล้ว ยังจะไดเอท” คุณหัดเกรงใจแฟนคุณหน่อยได้ไหม ฉันไม่อยากเป็นต้นเหตุที่ทำให้พวกคุณทะเลาะกันหรอกนะ ฉันรีบลุกขึ้นเก็บจานทันที เพราะเขาจะได้ไม่ต้องถามอะไรฉันอีก ฉันเสียมารยาทรึเปล่า แต่ถ้าเขาให้ความสนใจฉันมันจะทำให้แฟนตัวจริงเขาไม่พอใจ เหมือนประเด็นเมื่อเช้า อีกด้าน “พี่ดูยัยซื่อบื่อนั่นสิ คิดว่าพี่เป็นผู้หญิงของฉัน ขนลุกตายชัก” “เป็นคนที่รู้งานดีออก ฉันเริ่มชักชอบแล้วสิ” “อย่ามาคิดอะไรแผลง ๆ อย่ามาสร้างความวุ่นวายให้ฉัน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD