พี่เขย
ซ-า-ต-า-น
จังหวัดเชียงใหม่
ตอนค่ำ ที่บ้านหลังใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่บนเนื้อที่หลายร้อยไร่ท่ามกลางไร่องุ่นซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดงานฉลองสมรสระหว่าง ‘เคนนี่’ หนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกันสุดหล่อล่ำ กับ ‘ดลญาร์’ สาวไทยแท้ใบหน้าสวยหวาน ได้ถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โต สมเกียรติและฐานะของเจ้าภาพซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นเศรษฐีคนหนึ่งของเชียงใหม่
‘พี่ญาร์ช่างเป็นผู้หญิงโชคดีที่สุดในโลก’
‘ดาริกา’ รำพึงเบาๆ กับตัวเอง หล่อนคือน้องสาวของเจ้าสาวที่กำลังยืนอยู่กับเจ้าบ่าวบนเวที
ดาริกาเป็นลูกติดมากับนาง ‘พรรณี’ เมียใหม่ของนาย ‘วุฒิ’ ซึ่งเป็นพ่อบังเกิดเกล้าของดลญาร์
น้องสาวทอดสายตามองขึ้นไปบนเวทีอย่างนึกอิจฉาในความโชคดีของพี่สาว ที่ได้หนุ่มลูกครึ่งฝรั่งสุดหล่อเหลาอย่างเคนนี่มาเป็นคู่ชีวิต
“เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวเจอกันยังไงครับ… ”
หลังจากคู่บ่าวสาวได้กล่าวขอบคุณแขกเหรื่อครู่สั้นๆ พิธีกรบนเวทีก็ยื่นไมค์ถามเมื่อได้โอกาส
“เราเดินชนกันที่หน้าห้องน้ำของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งครับ”
เคนนี่ตอบ ย้อนระลึกไปถึงวันแรกที่ได้เจอกับดลญาร์
“ว้าว… ใครชนใครก่อนคะ”
พิธีกรสาวร่างอวบ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของดลญาร์รีบยื่นไมค์ถามต่อ
“ญาร์เป็นคนชนพี่เคนน์ก่อนค่ะ”
เจ้าสาวตอบเขินๆ
“แหม… หล่อล่ำกล้ามแน่นขนาดนี้ก็น่าวิ่งชนอยู่หรอกค่ะ”
พิธีกรรีบกล่าว เรียกเสียงฮาลั่นไปทั้งงาน
สายตาของดาริกายังจ้องมองอยู่ที่คู่บ่าวสาวบนเวทีด้วยอาการร้อนผ่าวที่ขอบตา แม้ลึกๆ ในใจจะตื้นตันยินดีกับพี่สาวที่ได้ออกเรือน หากก็ยากเหลือเกินที่จะหักห้ามความริษยาที่ผุดวาบแทรกเข้ามาในความรู้สึกยินดี… ที่ดลญาร์ได้ออกเรือนไปกับเจ้าบ่าวสุดหล่ออย่างเคนนี่
บนเวทีที่เรืองไสวไปด้วยดวงไฟเล็กๆ กะพริบพราวเหมือนดวงดาวระยิบระยับ ที่ตรงกึ่งกลางของเวที สูงขึ้นไปจากเครื่องดนตรีตั้งรายเรียงไว้ในตำแหน่งที่พร้อมจะบรรเลง มีตัวอักษรคำว่า ‘เคนนี่’ และ ‘ดลญาร์’ ประดิดประดอยขึ้นจากโฟมสวยงาม ประดับเด่นอยู่กลางดงกุหลาบหลากสีสัน รองเอาไว้ด้วยม่านสีครีมหวานเป็นฉากหลัง
ครู่สั้นๆ ต่อมา
ถึงเวลาที่จะต้องกล่าวขอบคุณแขกเหรื่อผู้มาร่วมงานอย่างเป็นทางการ เจ้าบ่าวและเจ้าสาวลุกขึ้นจากเก้าอี้ คืนนี้เคนนี่ดูภูมิฐานอยู่ในชุดสูทสไตล์ไทยเรียบหรู ตัดเย็บด้วยผ้าไหมสีทองอร่าม
เคนนี่โอบเอวเจ้าสาวด้วยความรักใคร่ ก้าวช้าๆ ไปตามบันไดขั้นสั้นๆ ของเวที ขึ้นมายืนตระหง่านอยู่ท่ามกลางแสงไฟ พร้อมๆ กับว่าที่ภรรยา ขณะมืออีกข้างเอื้อมไปรับไมโครโฟนที่พิธีกรยื่นมาให้
ร่างสูงใหญ่เกินกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตร ขยับเข้ามาชิดร่างเอิบอิ่มของภรรยา กระชับไมโครโฟนในมือสองสามครั้ง เคาะเบาๆ ที่หัวไมโครโฟนคล้ายจะทดสอบเสียง สายตากราดมองไปยังดวงหน้าของผู้คนที่ปรากฏอยู่ในคลองสายตา พร้อมจะกล่าวขอบคุณแขกเหรื่อที่ให้เกียรติมาเป็นสักขีพยานในวันสำคัญของตนและภรรยา
เคนนี่ใช้เวลาเพียงสั้นๆ กล่าวขอบคุณแขกเหรื่อที่มาในงาน เสียงทุ้มกังวานของเจ้าบ่าวจบลงพร้อมๆ กับเสียงปรบมือดังลั่น คลอไปกับเสียงไชโยแสดงความยินดี ก่อนที่ผู้คนในงานจะยกแก้วขึ้นดื่มอวยชัยไปพร้อมๆ กับบ่าวสาวที่ยืนตระหง่านอยู่ภายใต้ซุ้มดอกไม้บนเวที
เมื่อไม่อาจทนต่อเสียงรบเร้าของบรรดาเพื่อนๆ ซึ่งมีทั้งรองผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลที่ช่วยกันคะยั้นคะยอเสียงดังลั่น ว่าอยากเห็นเจ้าบ่าวหอมแก้มเจ้าสาว
เคนนี่ก็ไม่ขัดศรัทธา เขาค้อมใบหน้าพรมจุมพิตแผ่วเบาที่แก้มนวลของเจ้าสาวทั้งซ้ายและขวา เรียกเสียงฮาลั่นด้วยความชอบใจ
‘อู้ว… ’
ดาริกาที่ยืนมองดูอย่างนึกอิจฉาเจ้าสาว รู้สึกสะท้านวาบที่แก้ม ราวกับโดนเจ้าบ่าวจูบเสียเอง
และในนาทีต่อมา เสียงเรียกร้องก็ดังลั่นขึ้นมาจากโต๊ะวีไอพีที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของเวทีอีกครั้ง ว่าอยากเห็นเจ้าสาวแสดงความรักต่อเจ้าบ่าวบ้าง ซึ่งดลญาร์ก็เขย่งปลายเท้าขึ้นจูบแก้มของเจ้าบ่าวอย่างไม่ขัดศรัทธา แม้จะออกอาการขัดเขินอยู่บ้าง
ไม่เพียงเท่านั้น แขกเหรื่อโต๊ะสำคัญซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเจ้าบ่าว ยังอยากได้ยินเสียงหวานๆ ของเจ้าสาวกล่าวถึงสามีในอนาคตของหล่อนอีกด้วย
ดลญาร์ออกอาการเกร็งๆ รู้สึกตื่นเต้น เพราะไม่เคยต้องขึ้นเวทีต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้มาก่อนเลยในชีวิต
“ที่รัก… ”
เคนนี่ส่งไมโครโฟนให้ดลญาร์ เอื้อมมือข้างหนึ่งมาจับมือหล่อน ยิ้มให้กำลังใจ เมื่อรับรู้ได้ถึงอาการประหม่าของเจ้าสาว
ดลญาร์รับไมโครโฟนมาถือเอาไว้ด้วยมือที่สั่นน้อยๆ มืออีกข้างหนึ่งของเจ้าบ่าวรุนหลังให้เจ้าสาวก้าวออกมาสู่แสงไฟและสายตาของผู้คนที่จับจ้องอย่างให้ความสำคัญ
เคนนี่มองเจ้าสาวด้วยสายตาภาคภูมิใจ ด้วยอยากอวดเพื่อนชายหลายคนที่กำลังมองมาอย่างนึกอิจฉา ว่าผู้หญิงที่อยู่ในชุดไทยประยุกต์เกาะอกสีชมพูหวาน โชว์ระบายระย้าตรงหว่างอกเย้ายวนคนนี้… กำลังจะเป็นภรรยาของเขาในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
หญิงสาวพยายามข่มความตื่นเต้นด้วยการสูดหายใจแรงลึก รู้สึกตื่นเต้นจนมีเหงื่อซึมอยู่ใต้ฝ่ามือ
“ญาร์ขอขอบคุณพี่เคนน์ค่ะ ที่มอบโอกาสสำคัญในชีวิตให้กับญาร์ โอกาสซึ่งผู้หญิงน้อยคนนักจะโชคดีอย่างญาร์… ขอบคุณค่ะ”
เจ้าสาวกล่าวเพียงสั้นๆ มือเรียวกระพุ่มไหว้ลงบนอกข้างหนึ่งของว่าที่สามี
คำพูดของพี่สาวที่ได้ยิน เหมือนเป็นการ ‘ตอกย้ำ’ ให้ดาริกาที่ยืนมองภาพบนเวทีอยู่ไม่ไกลด้วยสายตาริษยา รำพึงเบาๆ ในอกว่า ‘จริง… ใช่ว่าผู้หญิงทุกคนจะโชคดีอย่างพี่สาวคนนี้’