น้อยคนนักที่จะได้เจออุบัติรักอย่างที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวคู่นี้เดินชนกันที่หน้าห้องน้ำในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง… แล้วจากนั้นดลญาร์ก็ได้กลายเป็นเจ้าสาวของเทพบุตรสุดหล่ออย่างเคนนี่
‘เมื่อไรนะ… จะถึงทีของเราบ้าง’
ดาริกาพึมพำอยู่ในใจ นึกถามกามเทพว่าทำไมเนื้อคู่ของหล่อนยังไม่ปรากฏตัวสักที
อีกหนึ่งปีต่อมา
ณ ไร่องุ่นในจังหวัดเชียงใหม่
“ยัยดาว… ปิดเทอมแล้วใช่ไหม”
‘ดลญาร์’ กรอกเสียงไปหาน้องสาวที่อยู่ปลายสาย เพราะอยากให้ ‘ดาริกา’ มาพักอยู่ด้วยกันที่ไร่องุ่นของหล่อนกับเคนนี่ผู้เป็นสามี ในระหว่างปิดเทอม ตอนนี้ดาริกาอาศัยอยู่กับนายวุฒิและนางพรรณีที่กรุงเทพฯ
“อยากไปมากค่ะพี่ญาร์… แต่ช่วงนี้ดาวจะต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาลัยฯ ค่ะ… ”
ดาริกากล่าว หล่อนมักจะเรียกชื่อพี่สาวสั้นๆ ว่า ‘ญาร์’ เช่นเดียวกับดลญาร์ที่เรียกชื่อของดาริกาว่า ‘ดาว’ จนติดปาก
“ก็เอาหนังสือมาอ่านที่ไร่สิจ๊ะ… ไม่เห็นจะยาก ที่นี่เงียบสงบมาก บรรยากาศดี๊ดี… เหมาะมากกับการมาอ่านหนังสือเตรียมสอบ”
ดลญาร์อยากเจอน้องสาว แม้ว่าดาริกาจะเป็นเพียงน้องสาวต่างสายเลือด แต่ดลญาร์ก็รักและห่วงใยดาริกาไม่ต่างจากน้องสาวในไส้
“หูย… ดาวอยากไปมากค่ะ งั้นจะลองขอคุณพ่อดูนะคะ… ถ้าคุณพ่ออนุญาตดาวอยากจะไปอยู่กับพี่ญาร์สักอาทิตย์นึง”
น้องสาวรีบตอบกลับมายังต้นสายด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ รู้ว่าที่ไร่องุ่นในเชียงใหม่บรรยากาศดีจริงๆ ก็เพราะเคยไปร่วมงานแต่งดลญาร์มาแล้วเมื่อปีก่อน
“แล้วแอดมิชชั่นที่จะถึงนี้… ดาวเลือกคณะอะไรจ๊ะ”
“มนุษย์อิ๊งค่ะพี่ญาร์”
ดาริกาหมายถึงคณะมนุษยศาสตร์ภาษาอังกฤษของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของภาคเหนือ เพราะว่าตอนนี้หล่อนเพิ่งเรียนจบชั้นมัธยมปลายมาหมาดๆ เดือนหน้าที่จะถึงนี้หล่อนจะต้องสอบแอดมิชชั่น
“ดีเลยจ้ะ… ถ้าดาวมาเดี๋ยวพี่เคนน์สามีพี่จะช่วยติวภาษาอังกฤษให้… พี่เคนน์เก่งภาษามากจ้ะ”
ดลญาร์กล่าว ‘เคน’ ที่ถูกเอ่ยถึงก็คือ ‘เคนนี่’ หนุ่มใหญ่ลูกครึ่งไทย-อเมริกันวัยสามสิบแปดปี สามีของหล่อนที่แต่งงานกันได้ปีกว่า
เมื่อก่อนเคนนี่เคยเป็นครูอยู่อเมริกา ก่อนจะลาออกเพราะความเบื่อหน่าย จึงตัดสินใจย้ายภูมิลำเนามาตั้งรกรากอยู่ที่เมืองไทย จากนั้นเคนนี่ก็ได้เจอกับดลญาร์แล้วแต่งงานกัน ผันตัวจากชีวิตครูมาเป็นชาวไร่จนทุกวันนี้
เคนนี่มีทั้งไร่องุ่นและกาแฟบนเนื้อที่หลายร้อยไร่ในจังหวัดเชียงใหม่
นอกจากเคนนี่จะเป็นเจ้าของไร่องุ่นและไร่กาแฟ เขายังมีรีสอร์ตอยู่ในอำเภอแม่แจ่มของจังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย มรดกที่ได้รับมาจากบิดาชาวอเมริกัน ทำให้ฐานะของเคนนี่จัดว่าร่ำรวยเข้าขั้นเศรษฐีคนหนึ่งของเมืองเหนือ
“ฝากขอบคุณพี่เคนน์ล่วงหน้านะคะพี่ญาร์”
ดาริกากล่าว วาบหนึ่งในความคิด… หล่อนอดนึกถึงใบหน้าหล่อเข้มของพี่เขยคนนั้นขึ้นมาไม่ได้ นึกทีไรก็ใจระทวย ผู้ชายอะไรช่างหล่อเหลามีเสน่ห์เหลือเกิน
พูดคุยกันต่อมาอีกสองสามคำ ดาริกาก็ตัดสายสนทนา รีบเข้าไปขออนุญาตบิดากับมารดาที่กำลังนั่งดูทีวีกันอยู่ในห้องรับแขก
“คุณลุงคะ… คุณแม่คะ… ดาวขออนุญาตไปเที่ยวหาพี่ญาร์ที่เชียงใหม่ได้ไหมคะ… คุณลุงจะอนุญาตไหมคะ”
ดาริกาทำเสียงอ้อน รู้ว่าควรประจบใคร รีบเข้าไปนั่งใกล้นายวุฒิผู้เป็นบิดา เขาเอื้อมมือมาลูบศีรษะของหล่อนด้วยความรักใคร่
“ได้สิ… ว่าแต่หนูจะไปกี่วัน”
นายวุฒิมองหน้าคนตัวเล็ก แม้ว่าดาริกาเป็นเพียงลูกติดมากับนางพรรณีซึ่งเป็นเมียใหม่ แต่นายวุฒิก็ให้ความรักกับดาริกาไม่ต่างจากลูกในไส้คนหนึ่ง
“อาทิตย์นึงค่ะคุณลุง”
หญิงสาวตอบ นางพรรณีที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ได้ยินเข้าก็รีบแทรก
“ไปอยู่โน่นก็อย่าทำตัวดื้อให้พี่ญาร์ปวดหัวนะจ๊ะยัยดาว”
“ค่ะคุณแม่… ”
ดาริกาดีใจจนออกนอกหน้า
“เดี๋ยวลุงจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินให้… ฝากความคิดถึงไปให้ยัยญาร์ด้วยนะ บอกว่าอีกสองเดือนพ่อจะไปเยี่ยมลูกเขย”
“ค่ะ… ขอบคุณค่ะคุณลุง”
ดาริการีบยกมือไหว้ หัวใจลิงโลดขึ้นมาทันที เมื่อรู้ว่าจะได้ไปเที่ยวที่ไร่องุ่นของพี่สาว
ที่เชียงใหม่อากาศดีมาก ดาริกายังจำได้เพราะว่าเคยไปมาแล้วเมื่อตอนงานแต่งดลญาร์
ในเวลาต่อมา
ตอนค่ำของคืนก่อนหน้าที่ดาริกาจะเดินทางไปเชียงใหม่ หลังจากเตรียมเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นลงกระเป๋าเดินทางลายคิตตี้แคทสีชมพูใบใหญ่จนครบ
ทว่าขณะที่กำลังจะรูดซิปปิดกระเป๋าอยู่แล้วเชียว จู่ๆ ก็พลันฉุกคิดขึ้นได้ว่านางพรรณีผู้เป็นมารดาบอกว่ามีเมคอัฟกันแดดจากอเมริกายี่ห้อหนึ่งใช้ดีมาก หล่อนเพิ่งซื้อมาสองหลอด เผื่อให้ดาริกาไปใช้ที่เชียงใหม่หนึ่งหลอด แม้ว่าที่นั่นอากาศจะดีมาก หากก็แดดแรงจนต้องห่วงผิวพรรณตามประสาผู้หญิง
‘คุณแม่คงหลับแล้ว’
ดวงตาคมเหลือบมองนาฬิกาแขวนข้างฝาผนัง ตอนนี้ห้าทุ่มกว่าๆ ไม่แน่ใจว่ามารดาหลับแล้วหรือยัง
ตอนแรกดาริกากลัวว่าจะไปรบกวนเวลานอนของผู้ใหญ่ แต่อีกใจก็กลัวว่าตอนเช้าจะลืม จึงตัดสินใจเดินออกมาจากห้องนอนของตัวเอง ก้าวตรงไปยังห้องนอนของมารดา ทว่าไม่มีใครอยู่ในห้อง
‘ดึกป่านนี้แล้ว… แม่กับคุณลุงไปไหน?’
ดาริกาสงสัย รถก็ยังจอดอยู่ในโรงจอดรถนี่นา ครั้นเมื่อชะโงกมองออกไปยังสระว่ายน้ำที่หลังบ้าน ก็เห็นริ้วคลื่นสีครามในสระน้ำ กำลังกระเพื่อมพลิ้วเป็นลอนตามแรงแหวกว่าย แสดงว่ามีคนกำลังเล่นน้ำ
ซึ่งก็จริงอย่างที่คิด ลุงวุฒิกับแม่ของหล่อนกำลังว่ายน้ำ คลอเคลียกันอยู่ในสระราวกับหนุ่มสาว
ดาริกานอนรออยู่ในห้องนานสองนาน แต่คนในสระว่ายน้ำก็ไม่กลับขึ้นมาเสียที ทำให้หล่อนต้องลงมาดูที่สระ และได้พบกับเหตุการณ์ที่ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าจะได้เห็น